คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : >-ตอนที่ 1-
"ยัยเฉิ่มมาแล้ว!! ดูดู๊ ดูสิ ไม่รู้เป้นพี่น้องกับพีทสุดหล่ออพวกเราได้ไง"
"ใช่ๆพีทก็ออกจะหล่อ เท่ห์ สมบูรณ์แบบแทบจะทุกอย่าง แต่ยัยน้องมันนี้สิ รับไม่ได้เลยจริงๆ"
นี้เป็นเสียงซุบซิบนินทาที่ฉันได้ยินระหว่างเดินมา ร.ร. กับพี่ชายมาตลอด 3 ปี จนกระทั่งฉันขึ้นมัธยมปีที่ 4 ฉันก็ยังคงได้ยินอีก ไม่รุ้มันจะขยันนินทาชาวบ้านชาวช่องเค้าไปทำไม เฮ้อ..เสียงนินทาอ่ะนะก็ไม่ได้มาจากใครหรอกก็แค่พวกนังปลิงที่เที่ยวเกาะหนุ่มหน้าตาดีไปวันๆก็เท่านั้นเอง แล้วอีกอย่างเหตุผลที่มันนินทาก็ไร้สาระสิ้นดี!!ก็ทำไมน่ะเหรอ กะอีแค่ฉันสาวน้อยผู้มีนามว่า แพม ใส่แว่นตา(หนาเตอะ) สวมกระโปรงค่อนข้างจะยาว(มาก) หอบหนังสือมา ร.ร. ซึ่งมีแต่เล่ม(โคตร)หนา แล้วดันมาเกิดเป็นน้องสาวเพียงคนเดียวของผู้ชายที่มีนามว่า พีท เด็กหนุ่มที่ทั้งน่าตาดี เรียนดี กีฬาเด่น เป็นหนุ่มฮอตอันดับต้นๆของ ร.ร. เซเรน่า ที่ฉันเรียนอยู่ ฉันเลยพลอยเป็นที่จับตามองไปด้วยน่ะสิ เซง
"แพมได้ยินคำนินทาพวกนี้ทุกวัน แพมไม่รำคาญบางเหรอ"
"ไม่รำคาญหรอกค่ะ ถ้าพี่พีทรำคาญนะไปเดินไกลเลยไปไม่งั้นก็เอาสำลียัดหูมา ร.ร. ก็ได้"
ฉันตอบพี่พีทกลับไปอย่างกวนอวัยวะเบื้องล่าง(สุด) ก่อนที่จะยักไหล่แล้วทำหน้าตาอย่างไม่แคร์
"กวนนักนะ พี่ว่าถ้าแพมเปลี่ยนแปลงตัวเองนิดหน่อย อย่างเช่นถอดแว่นตาออก ใส่กระโปรงให้สั้นขึ้น แล้วก็.."
"พอเลยๆไม่ต้องมายุ่งกับเรื่องของแพมเลยนะ แพมอ่ะเป็นตัวของแพมดีที่สุดแล้ว พี่ไม่ต้องมาเปลี่ยนหรอกค่ะ"
ฉันรีบพูดตัดบทก็ที่พี่ชายตัวแสบมันจะคิดอะไรไปเกินเลยมากกว่านั้น แต่พี่พีทก็ยังไม่เลิกทำหน้าตาครุ่นคิดสักทีไม่รู้คิดอะไรนักหนา จนคิ้วอานะจะขมวดกันเป็นโบว์อยู่แล้ว
"พี่อ่ะ เลิกคิดสักทีเถอะคิ้วมันจะขมวดกันเป็นโบว์อยู่แล้วนะค่ะ ฮ่าๆ แล้วก็มาร.ร.อ่ะก็ต้องตั้งใจเรียนสิ ไม่ใช่มาเที่ยวเกาะผู้ชายแบบนังปลิงพวกนั้น แล้วอีกอย่างนะถ้าเกิดเปลี่ยนขึ้นมาแล้วแพมมีแฟนคลับติดตรึมอยางพี่ล่ะ ไม่เอาหรอก แค่คิดก็ขนลุกแล้ว บรื้อ.."
ฉันลูบแขนตัวเองไปมา ทำให้พี่ชายตัวดีของฉันที่อยู่มาดคุณชายช่างคิดหันมามองนิดหน่อยก่อนจะยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ที่มุมปาก แล้วเอื้อมมือมาขยี้หัวฉันไปมาเหมือนเด็กๆ(ง่า..ผมเสียทรงหมดเลย ชิ)ก่อนที่จะโน้มหน้ามาใกล้ๆแล้วพูดขึ้นว่า..
"ฮั่นแหน อย่าว่าพี่ไม่รู้น้า ว่าทำไมน้องสาวคนเดียวของพี่ถึงไม่อยากเปลี่ยนแปลงตัวเอง แล้วก็ไม่อยากมีแฟนคลับ.."
"ปะ..ป่าวไม่มีอะไรสักหน่อย"
ฉันได้แต่ตอบเสียงตะกุกตะกักแล้วก็รู้สึกว่า หน้าจะเริ่มๆร้อนๆยังไงไม่รู้ ว้าย..นี้ฉันเป็นอะไรกันเนี่ย มันไม่มีอะไรสักหน่อยฉันต้องไม่เขิน เมื่อพี่ชายเห็นภาพที่ฉันอายหน้าแดงยังกับลูกตำลึงสุก ก็หัวเราะออกมาอย่างไม่อายสายตาประชาชีเลยสักนิด ฉันล่ะอยากจะเอากำปันตั้นหน้าตาหล่อๆขอพี่พีทซะจริงๆแต่ดันมีสวรรค์มาโปรดมันซะก่อนก็เลยไม่โดน ฮึ่ม..
"อ่ะ นั้นแพมนี้ ทางนี้จ้าแพมทางนี้"
เสียงหวานๆใสๆของสาวน้อยพี่มีนามว่า ตาล เธอเป็นเพื่อนสนิทของฉัน ที่มีรูปร่างหน้าตาออกจะหมวย แต่น่ารักมาก มีผมที่ยาวหยิกเป็นลอนสลวยไปจนถึงกลางหลัง เธอมีนิสัยที่ค่อนข้างจะเรียบร้อยน่ารัก จึงมีแฟนคลับติดตรึมเชียวล่ะ
"นั้นไงๆเพื่อเรียกแล้วไปสิ แพม"
"ฮึ ฝากไว้ก่อนเถอะพี่พีท ระวังตัวไว้ก็แล้วกัน"
พี่พีททำหน้าตาว่ามันน่ากลัวมาก มันช่างดูแล้วน่าหมั้นไส้จริงๆ ฉันก็ได้แต่แยกเขี้ยวใส่แล้ววิ่งไปหาตาลที่นั่งรออยู่ใต้ต้นไม้ทันที แต่ฉันยังไม่ทันที่จะวิ่งไปถึงต้นไม้เสียงๆหนึ่งก็ดังขึ้น
"แหมๆพี่แกหน้าจะมาทางนี้ด้วยนะแพม น่าเสียดายจัง"
โม สาวน้อยน่าตาน่ารัก ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของฉันอีกคนนึง เธอมีผมสีดำขลับซึ่งถูกซอยสั้นประบ่า พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเสียดายอย่างสุดๆ
"แกอ่ะ น้อยๆหน่อยยัยโมนั้นมันพี่ชายฉันนะ แกอ่ะหัดทำตัวเป็นเหมือนพวกนังปลิงแฟนคลับที่เที่ยวเกาะหนุ่มหน้าตาดีๆไปวันๆตั้งแต่เมื่อไหร่ย่ะ"
"แหม แพมก็.."
ยัยโมก็ได้แต่ตอบฉันเสียงอ่อย นี้ฉันด่าแรงเกินไปรึปล่าวเนี่ย วันนี้รู้สึกหงุดหงิดยังไงไม่รู้ให้ตายสิ
"ว่าแต่ทำไมวันนี้รู้สึกเหมือนแพม หงุดหงิดยังไงไม่รู้สิ ไปทำอะไรมาเหรอ"
โอ้..ทำไมตาลผู้น่ารัก ถึงฉลาดหลักแหลมได้ถึงเพียงนี้ ดูออกด้วยว่าเพื่อนรักคนนี้ หงุดหงิดใจ ฉันรักแกที่สุดเลยตาล(มันบ้าไปแล้ว)
"ก็ไม่ได้เป็นไรหรอก ถูกพี่ชายกวน แล้วก็ถุกนินทาอย่างเช่นทุกวัน"
"งั้นแกก็เปลี่ยนแปลงตัวเองซะใหม่ดิ จะได้ไม่ได้ยินไอ้เสียงบ้าพวกนั้น อีกอย่างนะ ตัวแกเองตอนถอดแว่นก็ออกจะหน้ารักจะตาย ทำไมไม่เปลียนแปลงตัวซะล่ะ ว่าไง แกเห็นด้วยกับฉันมั๊ยตาล"
โมที่หายจากอาการซึมเศร้าเมื่อกี้ หันมาออกความอย่างยืดยาว แล้วยังจะหันไปหาแนวร่วมกับตาล เอาเข้าไป
"จริงด้วยๆแพมออกจะน่ารักนะ ถ้าแพมเปลี่ยนแปลงตัวเองไม่ใช่แค่จะสวยขึ้นนะ ยังจะได้ไม่ต้องเก็กเป็นเจ้าหญิงมาดน้ำแข็งด้วย"
ตาลออกความเห็นอย่างออกรสออกชาติ สนับสนุนสิ่งที่ยัยโมเสนอ จนไม่เห็นเงาหัวฉันเลยพวกนนี้หนิ ฉันจึงรีบบอกออกไปก่อนที่มันจะคุยกันซะจนลืมไปแล้วว่าฉันนั่งอยุ่ตรงนั้น
"พวกแก 2 คนอ่ะ พอเลยฉันไม่คิดอยากจะเปลี่ยนแปลงตัวเองหรอกรู้มั๊ย เป็นอย่างนี้อ่ะดีแล้วแหละ ฉันจะได้ตั้งใจเรียนด้วย มา ร.ร. น่ะมาเรียนรุ้ป่าว"
"จ้าๆแม่คู้น ขยันเรียน อย่าลืมซื้อคานทองไว้รอล่ะ เพื่อโตขึ้นแล้วยังเป็นแบบนี้จะได้มีที่พักพิงไง ฮ่าๆ"
ว่าแล้วยัยโมก็ระเบิดเสียงหัวเราะยกใหญ่ เอาเข้าไปๆ ส่วนยัยตาลอาเหรอก็ได้แต่นั่งอมยิ้มน้อยๆไม่รู้จะรักษากิริยามารยาทไปถึงเมื่อไหร่ ให้ตายสิ ฉันก็ได้แต่ส่ายหัวไปมาอย่าเอือมระอา ไม่รู้คบกับพวกมันมาได้ไงตั้งเกือบ 10 ปี เฮ้อ..อ่ะจะว่าไปอีตาขี้เก็กกะเจ้ามาดน้ำแข็งนั้นไปไหนหว่า
"เออ ยัยโม ไอ้อีตาขี้เก็กกับคุณชายมาดน้ำแข็งของยัยตาลไปไหนซะล่ะทำไมไม่เห็น"
เมื่อฉันถามจบฉันก็มองซ้ายมองขวา ยืดคอจนจะกลายเป็นยีราฟอยู่แล้วก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงา ปกติมันก็จะมาปวนเปียนแถวนี้นี้หว่า..หายหัวไปไหนซะแล้วละ ยัยโมหันมามองหน้า ฉันก่อนที่จะหลุดหัวเราะออกมานิดหน่อยจากที่มันเลิกหัวเราะเรื่องคานทองของฉันไปแล้ว!! ส่วนด้าตาลอานะ หน้าแดงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วน่ะสิ ก็เพราะว่าคุณชายมาดน้ำแข็งที่ฉันพูดถึงน่ะ ก็คือ แฟนของมันไง คบกันมาตั้งแต่ ป.4 จนยัน ม.4 แล้วมันยังไม่มีท่าทีว่าจะเลิกกันเลย(คบกันยืดจริงๆ)
“อ่อ ไอ้บ้าสองคนนั้นอาเหรอ พอพูดถึงก็เดินมานู้นแล้วไง ตายยากจริงเลยน๊า”
ยัยโมพูดไปก็พลางชี้นิ้วไปทางที่มีชายหนุ่มหน้าตาดีสองคนซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของฉันอีกเหมือนกันกำลังเดินมา พร้อมกับกลุ่มพวกนังปลิงที่เกาะกันมาเป็นแถว แต่พอยัยพวกนั้นเห็นหน้าฉันก็ค่อยๆพากันทยอยไปกันจนหมด แหม..อะไรกัน ฉันไม่ใช่ยักษ์จะจับพวกแกกินสักหน่อย ฮึ่ม ทำเป็นกลัวกันไปได้
“แหม กำลังถามหาฉันอยู่เหรออ ไม่เจอกันแค่เนี่ย คิดถึงฉันแล้วรึไงแพม”
นายตัวแสบผู้มีนามว่า ทีม ผู้ที่รักษาดวงหน้าคมคาย กับรอยยิ้มอบอุ่นที่เปรียบดั่งดวงอาทิตย์นั้นไว้ หันมาถามฉันพร้อมกับส่งยิ้มน้อยๆมาให้
“ใครจะไปคิดถึงแกฮะ พูดออกมาได้ หลงตัวเองชะมัด”
ฉันตอบออกไปอย่างอารมณ์เสียนิดๆให้ตายเถอะ ใครจะไปคิดถึงนายกันล่ะ
“อารายกัน เมื่อกี้ฉันยังเห็น ใครก็ไม่รู้ยืดคอมองหาฉันจนคอน่ะจะยืดกลายเป็นยีราฟอยู่แล้วล่ะสิ หึหึ”
“บ้า ใครกันใครมองหานายกัน จะบ้าเหรอ”
ฉันทำเป็นไม่รู้ ไม่ชี้ แต่ที่จริงอ่ะรู้สึกว่าหน้าตัวเอง ร้อนๆยังไงไม่รู้สิ ทีมมองมาที่ฉันแล้วก็หัวเราะออกมากับท่าทีร้อนตัวของฉัน ก่อนที่กำลังจะอ้าปากพูดต่อ แต่ก็มีเสียงเย็นยะเยือกของใครบางคนขัดขึ้นมาก่อน
“พวกนายสองคนน่ะ ถ้าไม่กัดกันสักวันคงจะไม่ตายหรอกใช่มั๊ย”
เสียงที่ฉันฟังแล้วชวนหนาวๆร้อนๆนี้ ดังมากจากคุณชายมาดน้ำแข็งผู้มีนามว่า ช็อป ซึ่งเป็นผู้ที่รักษาดวงหน้าไร้อารมณ์และไร้ความรู้สึก ช็อปมีปัญหาทางด้านสายตาจึงต้องใส่แว่น(แต่ถึงจะใส่แว่นอ่ะ แต่ก็ดูดีมากเลยล่ะ ไม่เห็นเหมือนฉันอ่ะ)
“นายไม่ต้องมาพูดเลยช็อป ไปหาตาลนู้นเลยไป”
ช็อปยักไหล่หน่อยนึงก่อนจะเดินไปคุยกันอย่างกระนุงกระนิงกับตาล แหม..สวีทหวานกันซะจริงๆฉันชัดอิจฉาแหะ เฮ้อ.. นายทีมจากที่มันเงียบอยู่นานก็พูดขึ้นมาว่า
“ฉันไปคุยกะพวกเพื่อนๆทางนู้นดีกว่า เอ๋?หรือว่าเธอไม่อยากให้ฉันไปว่าไงแพม”
“ฮึ รีบๆไปเลย เหม็นขี้หน้าย่ะ”
“แหม ใจร้ายจริง อ่าไปก็ได้ ถ้าคิดถึงฉันก็เรียกนะ ฮ่าๆ”
“ใครจะไปคิดถึงนาย ฝันไปเหอะ”
ฉันหันไปแลบลิ้นใส่ทีม แล้วก็จัดการคว้าก้อนหินแถวนั้นปาใส่ แต่นายตัวแสบนั้นก็หลบได้แถมยังจะมาท่าทางล้อเลียนหน้าหมั่นไส้อีก คนอะไรกวนตีนชะมัด
“นี้ๆถามจริงเหอะ แกอ่ะชอบไอ้ทีมมันจริงเหรอแพม”
ยัยโมเขยิบมากระซิบฉันใกล้ๆ ทำให้ตาลที่เลิกคุยกะช็อปไปแล้วหันมาฟังอย่างสนอก สนใจ พร้อมกับพยักหน้าเป็นเชิงเห็นด้วยกับโมก็จะพูดว่า
“มันก็จริงอย่างที่โมว่านะแพม ฉันดูยังไงๆก็ไม่เหมือนว่าแกอ่ะ ชอบทีมมันสักนิดเลยนะ เห็นกัดกันได้ทุกวัน”
ฉันก้มหน้าลงนิดหน่อย ก่อนที่จะกันไปตอบคำถามของเพื่อนรักทั้งสองคนของฉัน
“ชอบสิ ฉันชอบมันมาก ชอบมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ตั้งแต่เป็นเพื่อนสมัยเด็กกัน เล่นด้วยกัน จนตอนนี้มันจะเปลี่ยนเป็นคำว่ารักได้แล้วล่ะมั้ง แต่ถึงยังไงๆนายตัวแสบนั้นก็คงไม่หันมาสนใจผู้หญิงเฉิ่มๆอย่างฉันหรอก ฉันก็ได้แค่แอบมองเท่านั้นแหละ”
“แพม..”
ฉันได้แต่ส่งรอยยิ้มเศร้าๆไปให้เพื่อนรักสองคนของฉัน ก่อนที่ทั้งสองของจะเข้ามากอดฉัน แล้วให้กำลังใจฉันต่างๆนาๆฉันขอบใจพวกแกสองคนจริงๆนะ ฉันหันหน้าไปมองทีมเพื่อนสมัยเด็กของฉัน อย่างฉันน่ะก็คงได้แค่แอบมองพระอาทิตย์ที่เจิดจ้าอย่างนายอยู่ตรงนี้เท่านั้นแหละ..ทีม
------------------------------------------------------------------
นี้ก็เพิ่งจะแต่งเป็นเรื่องแรกอานะค่ะ มันยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลย >_< ก็ช่วยเมนต์ช่วยโหวต ติตเตียนกันบางนะค่ะ ขอบคุณค่ะ ^--^
ความคิดเห็น