ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    you can't shut me up, darling — haikyuu!! fanfic

    ลำดับตอนที่ #1 : prologue : to summarize it

    • อัปเดตล่าสุด 12 พ.ค. 64


    TB
      

     prologue 

    _______
     

    นี่ อามิจัง


              เพลงป๊อปร็อคที่เปิดอยู่นั้นเสียงดัง ทว่าเสียงของเขา ซึ่งเป็นเพียงไม่กี่สิ่งที่ทำให้เธอละความสนใจจากหน้าจอแล็ปท็อปได้ ก็ชัดเจนเพียงพอสำหรับเธอแล้ว


              “เรื่องที่ฉันเกริ่นไปเมื่อกี้น่ะ...


              กุชิเก็น อามิเลิกคิ้ว หมุนเก้าอี้ของตนเองมามองกับคนที่ถือวิสาสะนั่งบนเตียงควีนไซส์ของเธอ ก่อนที่ริมฝีปากหยักบางคู่นั้นก็หลุดยิ้มออกมา เมื่อสบเข้ากับดวงตาคู่สวยของเขา


              “นี่ตั้งใจจะมาเพื่อถามเรื่องแฟนเก่าฉันจริงๆ?


              เห... ถามไม่ได้หรอกเหรอ? ทั้งๆที่เราสนิทกันมากแท้ๆ... น่าน้อยใจนะเนี่ย” เขากล่าว น้ำเสียงยียวนนั่นคงเรียกบาทาได้จากเพื่อนสนิทจริงๆของตนเอง แต่สำหรับเธอ มันก็ไม่ต่างกับตัวกระตุ้นเสียงหัวเราะดีๆหรอก


              ถ้าให้สารภาพตามตรง เธอไม่ยักจำได้ว่าตนเองเริ่มมีนิสัยชอบขำเวลาเห็นอะไรแบบนี้ตั้งแต่ตอนไหน


             แต่เอาเป็นว่ามันคงจะไม่หายง่ายๆก็แล้วกัน...


              “ขอร้องเถอะโทรุจัง อิวาอิสึมิร้องไห้ดีใจแล้วนะ”


              เขาแลบลิ้นขี้เล่น และนั่นทำให้หญิงสาวหยิบหมอนอิงที่วางอยู่บนตักโยนใส่เขา


              “แล้วทีปกติไม่เห็นเคยถาม


             ถึงโออิคาวะ โทรุจะรับมันได้ก็ตามทีเถอะ...


             แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญอยู่แล้ว


              เพราะต่อให้มันอัดเข้าหน้าจังๆ ก็ใช่ว่าความนุ่มนิ่มของมันจะไปทำปฏิกิริยากับจริตจะก้านอันน่าหมั่นไส้ของเขาเสียหน่อย


              ไว้มันทำได้ตอนไหน เธอค่อยส่งลิงก์สั่งซื้อไปให้อิวาอิสึมิ ฮาจิเมะก็แล้วกัน— เขาคงได้ใช้ประโยชน์จากมันมากกว่าเธอเยอะ


              อืม นั่นน่ะสินะ...


    เขายิ้ม


    อาจจะเป็นเพราะว่าฉันอยากรู้เรื่องของอามิจังมากกว่านี้ก็ได้ล่ะมั้ง


    ทุกอย่างมันคล้ายกับซีรี่ส์ที่เพื่อนเธอชอบเปิดดู...


              หืม? ชอบฉันเหรอ?


    ประโยคหวานหยดย้อยที่อาจแฝงความหมายมากมายไว้ในนั้น...


    แววตาที่ฉายผ่านดวงตาคู่สวยนั้น...


    สีหน้าที่ดูเอาแน่เอานอนไม่ได้ ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องล้อเล่น ชวนให้ใจรู้สึกว้าวุ่น


             ที่สุดเลยล่ะ


              ดวงตาสีฟ้าคู่นั้นจดจ้องใบหน้าเขา สีหน้านั้นเรียบนิ่ง อามิไม่ส่งเสียงใดๆ เธอปล่อยให้รอบข้างมีเพียงแต่เสียงดนตรีป๊อปร็อคที่ตนเองเปิดอยู่... และโทรุก็ทำแบบนั้นเช่นเดียวกัน


              มือบางค่อยๆขยับ เลื่อนออกจากบริเวณที่พักแขนของเก้าอี้ไปยังมุมมุมหนึ่ง


              โทษทีนะโทรุ ขออีกรอบได้ไหม? ฉันเตรียมอัดแล้ว


             แล้วหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมา


              อามิ!!”


              เธอหัวเราะลั่น เมื่อเขาแผดเสียงใส่— มันเป็นเหมือนทุกครั้งที่ประโยคหวานเลี่ยนนั่นไม่เคยทำให้เธอเสียอาการได้


              อามิไม่ใช่คนที่ชอบอะไรหวานๆ และทุกครั้งที่เขาพยายามแกล้งเธอโดยการพูดอะไรแบบนี้ มันก็มีความคิดอยากจะทำลายบรรยากาศที่เขาคิดว่าตนเองกำลังควบคุมอยู่ตลอด— การแกล้งคนแพรวพราวน่าหมั่นไส้มันอาจจะเป็นเป้าหมายชีวิตอีกอย่างหนึ่งของเธอ


             ขอโทษด้วยนะ แต่ว่าโทรุเล่นวอลเลย์บอลเก่งกว่าเล่นกับใจเธอเยอะเลยล่ะ


              อิวาอิสึมิเวลาโดนก็คงจะได้ฟาดเขาไปสักทีสองทีด้วยแหละ— ตามประสาคนในตำแหน่งเพื่อนควบกับเจ้ากรรมนายเวรของพ่อเซตเตอร์ของเซโจคนนี้ร่วมกับตัวเธอน่ะ


              เธอวางสมาร์ทโฟนลง ณ ที่เดิม


    จุดประสงค์ของการหยิบมันขึ้นมาตั้งแต่แรกก็เพื่อทำให้โทรุขมวดคิ้วเท่านั้น แอพพลิเคชั่นบันทึกเสียงอะไรนั่นก็ไม่ได้เตรียมพร้อมไว้หรอก แค่ปลดล็อกหน้าจอเธอยังไม่ได้ทำเลย


              แต่จังหวะมันซิทคอมใช้ได้... เธอล่ะชอบความสร้างสรรค์ในหลายๆสถานการณ์ของตนเองเสียจริง


              เอาตรงๆก็เฉยๆ ตอนคบก็ต่างคนต่างได้ผลประโยชน์ พอเลิกกันก็ไม่ได้รู้สึกเศร้าอะไรทั้งคู่ อามิเอ่ยเปลี่ยนประเด็น วกกลับเข้าสู่เรื่องแฟนเก่าของเธอที่เพิ่งจะเลิกกันได้ประมาณ วันก่อน


             และใช่ มันไม่ได้มีความรู้สึกเศร้าอะไรนัก


             โทรุจังก็น่าจะรู้ดี... ฉันทุ่มเทกับการเต้นมากกว่าในเรื่องอื่น และทุกครั้งที่คบกับใครก็จะถูกบอกเลิกในเรื่องเดียวๆกันเสมอ— ฉันไม่มีเวลา


              เธอไหวไหล่


              และฉันก็บอกทุกคนตั้งแต่ก่อนจะคบแล้ว ทั้งเรื่องเวลาและเรื่องที่ฉันให้ความสำคัญกับอย่างอื่นมากกว่า... มันไม่ใช่ว่าฉันไม่เคยชอบพวกเขา ความจริงแล้วฉันชอบ ชอบทุกคนเลย


              “แต่มันไม่มากพอ?” เขาเอ่ยแทรก


              และนั่นทำให้อามิระบายรอยยิ้มออกมาอีกครั้งหนึ่ง


              บอกแล้วว่าโทรุจังน่าจะรู้ดี... เรามันก็เป็นประเภทที่ยึดความฝันและสิ่งที่รักเป็นอันดับหนึ่งทั้งคู่เลยนี่


              เพราะฉันเก่งด้วยต่างหาก สำหรับอามิจังนะ แค่มองปราดเดียวก็ทะลุปรุโปร่งแล้ว


              เธอหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ


              แต่เห็นอามิจังไม่เป็นอะไรก็ดีแล้วแหละ ถ้าเศร้าก็โทรเรียกฉันได้นะ จะวิ่งมาให้ซบอกโดยเร็วเลย” เขาส่งวิ้งค์ให้เธอ ก่อนจะสะพายกระเป๋าที่ตนเองวางไว้ข้างกาย


              กลับบ้านดีๆนะโทรุจัง กลับไปแล้วก็ช่วยนอนให้เต็มอิ่มด้วย ไม่งั้นฉันฟ้องอิวาอิสึมิแน่


              “โธ่ อามิจังล่ะก็...


              “ก็เป็นห่วงกันทั้งคู่ไหมล่ะ? อย่าคิดว่าคนเขาดูไม่ออกนะ เวลาฝืนตนเองเนี่ย” เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ก่อนจะลุกขึ้นไปหยิบน้ำขวดหนึ่งออกมาจากตู้เย็นเล็กในห้อง


              เพราะว่ามันถูกจัดวางไว้ใกล้เตียงนอนมากกว่าโต๊ะทำงาน จึงหย่อนตัวลงนั่งบนเตียง เคียงข้างเขาทันทีที่ปิดประตูตู้เย็น


              เธอยื่นของในมือให้กับเขา


              ของฟรี ไม่ได้เปิดที ไม่มีเหตุผลอะไรให้ปฏิเสธ นอกเสียจากว่าจะไม่ต้องการจริงๆ


              “หืม?”


              โออิคาวะ โทรุเลิกคิ้ว บนใบหน้าของเขายังคงมีรอยยิ้มยียวนอันเป็นเอกลักษณ์นั่นอยู่


              หรือจะเอาไปเททิ้งที่โคนต้นไม้ก็ได้นะ วันนี้หม่าม๊าบอกว่าจะกลับบ้านช้า ฉันเลยกะจะรดน้ำต้นไม้แทน


              มันอาจจะฟังดูแปลก แต่ว่านั่นหาใช่การประชดประชัน


              เธอเป็นคนแบบนี้— บางทีก็พูดเรื่องไม่เป็นเรื่องออกมาได้หน้าตาเฉย บางทีคิดอะไรเพลินๆคนเดียวก็ไม่ได้ อยากจะเอ่ยออกมาให้คนรอบข้างรับรู้


             และจะหุบปากก็ต่อเมื่อตนเองต้องการเท่านั้น


             ขวดน้ำเย็นๆในมือถูกเขาหยิบไป และในเวลาไม่นานนัก ส่วนหนึ่งของมันก็ถูกดื่มโดยคนเดียวกัน


              ดูเหมือนว่าอามิจังคงจะต้องใช้สายยางรดต้นซัลเวียของคุณน้าเหมือนเดิมแล้วล่ะ” เขาเอ่ย


              ก่อนจะลุกขึ้นจากเตียง และกล่าวลาเธอ


              จะพยายามไม่นอนดึกก็แล้วกัน เจอกันพรุ่งนี้นะอามิจัง


              แล้วก็กลับบ้านไป พร้อมกับขวดน้ำที่เธอให้...


              อามิมองประตูห้องตนเองปิดลง ภายในหัวเธอกรอถ้อยคำก่อนหน้านั้นซ้ำไปซ้ำมา และสุดท้ายก็ได้ผลสรุปว่า มันไม่เท่เอาเสียเลย


             แต่เธอก็ใช่ว่าจะชอบอะไรเท่ๆเสมอไปหรอก


             มือเอื้อมไปเปิดตู้เย็นอีกครั้งหนึ่ง เธอหยิบขวดน้ำออกมาดื่ม ก่อนจะเดินกลับไปนั่งที่เก้าอี้ตรงโต๊ะทำงานของตนเองเหมือนเดิม


              และในตอนนั้นเองที่โปรแกรมแชทบนหน้าจอแล็ปท็อปเธอเด้งขึ้นมา


              เพราะว่าล็อกอินในนี้ไว้ชั่วคราว มันจึงขึ้นแจ้งเตือนเฉกเช่นเดียวกับบนหน้าจอสมาร์ทโฟนที่ปิดเสียงไว้ของเธอ


              เธอกดเข้าไปดูหน้าห้องแชททั้งหมดของตนเอง— มี ข้อความจากเพื่อนต่างโรงเรียนที่คิดว่าคงจะตอบทีหลัง 1 ข้อความจากแม่ ซึ่งน่าจะเป็นเรื่องข้าวเย็นที่เธอต้องทำกินเอง และข้อความล่าสุดที่เพิ่งถูกส่งมา...


             จากคนที่เพิ่งจะถูกพูดถึงเมื่อไม่กี่นาทีก่อนเสียด้วยสิ


             มันไม่มีเหตุผลอะไรให้เธอไม่กดไปตอบข้อความแม่คุณเธอ ในเมื่อมันขึ้นให้อ่านอย่างชัดเจนว่า ถามอะไรหน่อยได้มั๊ย? ถ้ามันไม่เป็นการรบกวนน่ะ


              อามิยิ้ม


              แล้วจึงกดเข้าไปพิมพ์ตอบ


             ว่ามาก่อน ตอบได้หรือไม่ได้ก็ค่อยดูอีกที


             ทุกความสัมพันธ์ในเชิงโรแมนติกของเธอ เริ่มต้นด้วย การสนองความต้องการของตนเอง


              ต้องการกอดใครสักคน ต้องการจูบใครสักคน แต่แค่ในบางเวลาเท่านั้น... และนั่นก็เป็นสิ่งที่เธอบอกกับพวกเขาตั้งแต่แรก


              เธอไม่ได้มีเวลาให้กับใครตลอด และนั่นอาจเป็นอุปสรรคของความสัมพันธ์ที่มั่นคง


              เธอมีคลาสเรียนเต้น มีการฝึกซ้อม มีกิจกรรมที่ตนเองทุ่มเทกับมัน— และส่วนที่เหลือก็ถูกพูดในบทสนทนาก่อนหน้ากับโทรุไปแล้ว


              เพราะว่าไม่ยึดติดมาก จึงไม่ได้เศร้าเสียขนาดนั้น ทั้งเธอและพวกเขาทุกคน


              สุดท้ายแล้ว เมื่อมันจบลงก็กลับมาเป็นเพื่อนห่างๆของคนและกันเหมือนเดิม


             chiisa : ขอโทษด้วย ถ้ามันฟังดูหยาบคายไปหน่อย ฉันไม่รู้จะใช้คำอย่างไรดี


              บางทีรูปแบบของความสัมพันธ์แบบนี้ อาจจะไม่ต่างกับ Friends with Benefits เลย


              Benefits ในที่นี้ก็คือความอบอุ่นทางใจที่เราสร้างให้กันและกัน...


    มันหาได้เทียบเท่ากับความรัก ทว่าก็สามารถเรียกว่า ความชอบพอ ได้


              และไม่— เธอไม่ได้มีปมชีวิตหรืออะไรทำนองนั้นหรอก


              คนเราก็มีทั้งที่อยากคบหาดูใจกับใครสักคนในระยะยาวและในระยะเวลาเพียงชั่วคราวนี่นา...


             chiisa : ไม่คิดจะมีความสัมพันธ์ที่มั่นคงบ้างเหรอประมาณว่า คบกันแบบยืนยาวและจริงจังน่ะ


             เธออ่านข้อความดังกล่าวซ้ำไปซ้ำมาประมาณ 4-5 รอบได้ ถึงค่อยสรรหาถ้อยคำที่เหมาะสมที่สุดในการพิมพ์ตอบกลับไป— เธอไม่อยากจะพิมพ์ถ้อยคำยืดเยื้อ และบทสนทนาที่สั้น กระชับ เข้าใจง่าย คงเป็นสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการ


             นั่นน่ะสินะ...


             ก็คงไม่ใช่ในเร็วๆนี้


             เธอรู้ดีว่าสิ่งสำคัญลำดับหนึ่งของตนเองคืออะไร และเธอเองก็รู้... ว่าตนเองไม่พร้อมสำหรับการสละเวลาในส่วนนั้นให้กับใครก็ตาม


    อย่างน้อยก็ในตอนนี้


             chiisa : อ๋อ


              จนกว่าเธอจะมั่นใจ...


              จนกว่าเธอจะพร้อมกับความสัมพันธ์ในรูปแบบนั้น...


              เธอจะไม่มีวันทำตามความรู้สึกเห็นแก่ตัวของตนเองเด็ดขาด


              กุชิเก็น อามิอาจจะเป็นมนุษย์ที่วันๆเอาแต่เต้น สนใจแค่สิ่งที่ตนคิดว่าสำคัญ และยกความฝันของตนเองไว้เหนือสิ่งอื่นใด...


              แต่เธอไม่ใช่คนใจร้าย


             และเธอไม่อยากเป็นคนใจร้าย


             เมื่อบทสนทนากับคุณแฟนเก่าจบลง เธอก็ปิดหน้าต่างย่อยนั่น— หน้าห้องแชททั้งหมดปรากฏขึ้นอีกครั้งหนึ่ง


    ในตอนนั้นเองที่สายตาเธอสบกับข้อความประหลาดที่ค่อนข้างมั่นใจว่าตนเองเป็นคนส่งอย่างแน่นอน


             โทษที ฉันคงเมาน้ำส้ม จะให้ unsend ทั้งหมดก็คงไม่ไหว ทำลืมๆไปนะ


             เลขเวลาที่ปรากฏขึ้นข้างๆนั้นเล่นเอาเธอส่ายหน้าอย่างเอือมระอาออกมา


             ‘02:30’


              นึกว่าตนเองทักไปหาเขาในฝันเสียอีก... แถมจำไม่ได้ด้วยว่าพิมพ์บ่นไปกี่สิบหัวข้อ กี่ร้อยข้อความ


             มิน่าล่ะ โทรุถึงได้ถามเรื่องที่ปกติไม่ถามออกมา


             แต่ก็ช่างเถอะ จะจดจำมันไว้ในฐานะของ หนึ่งในสาเหตุที่ไม่ควรนอนดึก ก็แล้วกัน...


              สายตาเลื่อนมองไปยังเวลาที่ปรากฏอยู่ริมหน้าจอ อามิปิดโปรแกรมลง


              เหมือนว่าวันนี้จะเผลอพักนานไปหน่อย...


    เมื่อรู้ตัวแล้วก็ลุกขึ้นเดินออกจากห้องนอนของตนเอง แล้วตรงไปยังห้องซ้อมเต้นตามกิจวัตรทันที


              เธอยังไม่เข้าถึงอารมณ์ของเพลงล่าสุดเท่าที่ควร— และในคลาสถัดไป มันจะไม่เป็นเช่นนั้น


              ในยามที่ร่างกายขยับไปตามท่วงทำนอง เธอก็ระลึกได้อีกครั้งหนึ่ง


             ว่าสิ่งที่ตนเองกำลังทุ่มเทนั้นสำคัญไฉน...


    และเพราะเหตุใด จึงได้หลงรักมัน

     


    _ _ _ _

    สารภาพบาปนะคะ ตอนแรกกะจะรอให้ถึงตามที่บอก แต่จู่ๆมู้ดมันก็มาแบบงงๆค่ะ
    ก็เลยงอกบทนำออกมาแล้วในท้ายที่สุด-- เวลคั่มอามิจังค่ะ! *ปรบมือ*
    แต่ก็นั่นแหละค่ะ เวลาอัพก็คงไม่แน่นอน เพราะว่าตามที่แพลนไว้ก็คือคงไม่ถึงไวๆ (เครสเป็นคนแต่งช้า-- แค่ก)

    อาจจะมีความ OOC หน่อยนะคะ แต่เครสจะพยายามจับคาร์ของทุกตัวละครให้ได้ค่ะ
    ไม่ได้เดบิวต์ฟิคในด้อมใหม่มานานแล้ว พอทำสักครั้งก็แอบเกร็งเพราะกลัว OOC มากเกินไปนี่แหละค่ะ แง55555

    เป็นบทนำที่ไม่ค่อยบอกแพชชั่นอามิสักเท่าไหร่ แต่ก็นะ นี่มันแค่บทนำ ใส่ข้อมูลล้นก็คงจะไม่ได้
    แล้วก็ไม่รู้ว่าสเกลอักขระในเรื่องนี้หลังจากบทนำคือจะยาวเท่าเรื่องอื่นรึเปล่าด้วย
    ไม่มั่นใจเหมือนกันนะคะ เยอะที่สุดที่เคยเขียนก็น่าจะประมาณ 20,000+ อักขระค่ะ
    ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะเครสเป็นสายเขียนแบบเน้นรายละเอียดด้วยแหละค่ะ มันก็เปลืองอักขระกว่าคนอื่น(ไม่)นิด

    ในเรื่องก็ตามสไตล์เครสเหมือนเดิมนะคะ ในช่วงแรกๆจะเน้นที่ตัวออริก่อน เพื่อให้ทุกคนชินกับคาร์และนิสัยของอามิ
    แล้วหลังจากนั้นก็ค่อยไปที่ฟามรักของเรื่องค่ะ-- ซึ่งเรื่องนี้เนี่ย อาจจะไม่ได้หวานมากนะคะ ขอบอกไว้ก่อนเลย
    และเรื่องนี้ก็ไม่มีดราม่าค่ะ มีมากสุดก็แค่เรื่องของความรู้สึกและเรื่องอื่นๆของตลค.ที่จะต้องปรับๆไปทีละนิด อาจจะทำใจตุ้บไปบางช่วงสั้นๆ
    เครสคิดว่าการลงเอยของคนสองคนที่มีลักษณะแบบนี้มันคงไม่ง่ายหรอก พี่โอยของเราก็มีวอลเลย์ อามิก็มีการเต้น
    คีย์เวิร์ดเรื่องนี้ก็มี dreams and goals และ feelings อยู่แล้วด้วย
    แต่ว่าโมเม้นต์มีกรุบกริบอย่างแน่นอนค่ะ ส่วนการลงเอยนี่ก็ต้องรอหน่อย

    และขอบอกอีกเรื่องไว้ตรงนี้ด้วยค่ะ; อามิเป็นไบเซ็กชวล (Bisexual) นะคะ มีรสนิยมชอบทั้ง ชาย หญิง และเพศ non-binary ค่ะ
    เผื่อใครสงสัยจากชื่อไอดีคุณแฟนเก่า

    เอาจริงๆคือแอบไม่พอใจในการบรรยายตัวเองเล็กน้อย เพราะว่าอามิเป็นประเภทที่คิดไปเรื่อย ต้องพยายามบรรยายไปให้ข้ามมู้ดไปมาด้วย
    แต่ปกติก็ไม่ค่อยพอใจกับการบรรยายของตัวเองอยู่แล้วล่ะค่ะ ส่วนใหญ่จะชอบปม ไม่ก็สตอรี่มากกว่า
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×