ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Haikyuu!!] Hello,Police - Kuroo x OC -

    ลำดับตอนที่ #1 : Hello || 01

    • อัปเดตล่าสุด 4 พ.ค. 63




                ดวงตาสีตะกั่วมองลูกบอลสีน้ำเงินเหลืองที่กำลังลอยกลางอากาศ ยกแขนขึ้นเหนือหัวรอให้ลูกกระทบลงฝ่ามือก่อนจะส่งให้ผู้เป็นกัปตันทีมพ่วงตำแหน่งเอซตบลูกได้อย่างพอดี เสียงลูกบอลกระทบพื้นดังไปทั่วโรงยิม หันมามองฝ่ามือทั้งสองข้างของตัวเองที่เพิ่งส่งลูกไปให้ตัวตบอย่างแม่นยำ กัปตันทีมเดินเข้ามาแท็กมือก่อนจะเอ่ยชมเหมือนทุกครั้งจนกระทั่งเสียงนกหวีดดังขึ้นเป็นสัญญาณว่าหมดเวลาการแข่งขัน


                เหนื่อยหน่อยนะมานากะหันไปมองคนที่ยื่นขวดน้ำมาให้ก็เห็นเป็นเด็กสาวเรือนผมสีเหลืองทองรวบเป็นหางม้า นัยน์ตาสีไวโอเล็ตเป็นประกายจ้องมาที่เธอพร้อมฉีกยิ้มให้


                อ่า...ขอบใจนะมานากะรับน้ำมาจากอีกฝ่ายก่อนจะใช้ผ้าขนหนูซับเหงื่อตามใบหน้าสลับกับดื่มน้ำดับกระหาย


                ลูกเซ็ตของเธอเนี่ยมันสุดยอดจริงๆเลยนะ เข้ามือฉันพอดีเป๊ะเลย


                แต่ถ้าเธอตบไม่ได้มันจะไปมีความหมายอะไรล่ะ อากาเนะ


                คนเป็นกัปตันหัวเราะเบาๆให้เพื่อนสนิทของตนเอง เอาเถอะ เซ็ตเตอร์คนนี้เป็นคนที่ไม่คิดว่าตัวเองเก่งมาแต่ไหนแต่ไรแล้วนี่ถึงจะเป็นดาวเด่นแถมยังอยู่ในระดับต้นๆของเซ็ตเตอร์ม.ต้นระดับประเทศด้วย แต่เพราะคิดว่าตัวเองไม่เก่งนี่แหละเลยน่ากลัวเพราะมันทำให้ได้ทักษะและพัฒนาการใหม่ๆตลอดเวลายังไงล่ะ


                เลิกคิ้วอย่างสงสัยว่าคนข้างตัวหัวเราะอะไร มานากะไม่สามารถเดาความคิดของเธอคนนี้ออกจริงๆไม่สิทุกคนในชมรมเลยก็ว่าได้ ภายใต้ดวงตาและรอยยิ้มนั่นไม่รู้เลยว่ากำลังคิดอะไรอยู่แม้กระทั่งตอนแข่งก็ตามเหมือนกับว่าเธอกำลังคุมทุกคนในสนามแต่ก็ปล่อยให้ทุกคนเล่นอย่างอิสระแต่การเล่นอย่างอิสระนั่นก็อยู่ภายใต้การควบคุมอีกทีไม่ให้ออกนอกลู่นอกทาง เหมือนกับจงใจให้มันเป็นอย่างนี้


                แต่ว่านะได้แชมป์ระดับประเทศมาแล้วตั้งสามสมัย การสอบก็จบไปแล้วด้วยทำไมยังมาซ้อมอยู่อีกล่ะ


                เธอเองก็เหมือนกันไม่ใช่รึไง


                เอนหลังพิงผนังแล้วกอดอกมองสมาชิกชมรมที่กำลังซ้อมอยู่ในสนาม มานากะก็อยากถามตัวเองเหมือนกันว่ามาเล่นทำไมทั้งๆที่ควรเอาเวลาไปเตรียมอ่านหนังสือสอบเข้ามัธยมปลายไม่ก็เตรียมตัวสำหรับวันปัจฉิมที่จะมาถึงในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ เอาเถอะ ถือว่ามาผ่อนคลายก่อนจบก็แล้วกัน แล้วก็ได้มาเล่นกับเพื่อนสนิทเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะแยกย้ายไปตามทางตัวเอง


                นิชิโนะซัง!


                หืม?”


                อึ๋ย!รุ่นน้องปีหนึ่งสะดุ้งโหยงเมื่อเห็นสายตาคมแสนน่ากลัวของรุ่นพี่ที่เธอเรียก


                มองยังไงก็ไม่ชินสักที


                อย่าไปมองรุ่นน้องอย่างนั้นสิมานากะ


                ฉันก็มองปกตินี่


                ให้ตายสิ ทำไมมีแต่คนกลัวเธอกันนะ กะอีแค่มองแบบธรรมดานี่มันน่ากลัวขนาดนั้นเลยหรือไง?


                คือว่าช่วยบอกวิธีการเซ็ตให้หน่อยได้มั้ยคะรุ่นน้องรีบกลับเข้าเรื่องแล้วพูดจุดประสงค์ของตัวเอง


                นัยน์ตาสีตะกั่วมองรุ่นน้องของตนอย่างไม่เชื่อสายตา ถ้าขอร้องให้สอนแบบนี้นั่นก็แสดงว่าเธอได้รับความเคารพนับถือแล้วน่ะสิ แต่ว่าให้สอนเรื่องการเซ็ตอย่างนั้นเหรอเอาจริงๆมานากะก็สอนใครไม่เป็นด้วยสิ


                อืม นั่นสินะ ก็แค่เซ็ตไปให้ตัวตบแล้วก็ใส่ความเชื่อมั่นลงไปว่าจะต้องตบได้แน่ๆ ก็แค่นั้นแหละ


                แค่นั้นเหรอคะ


                อืม แค่นั้นแหละ


                อย่างนั้นมันก็เหมือนทำตามสัญชาตญาณหรือเปล่าคะ ถึงจะไม่เข้าใจแต่ก็ขอบคุณมากนะคะก้มหัวให้ตนก่อนจะวิ่งออกไปรวมกับคนอื่น


                ให้ตายสิเธอนี่นะ บอกว่าเชื่อใจตัวตบแต่ก็เซ็ตลูกเข้ามือฉันแบบพอดีเลยไม่ใช่หรือไงสองมือเท้าเอวแล้วหัวเราะเบาๆ เมื่อไหร่จะยอมรับว่าตัวเองเก่งสักที


                ยังมีคนที่เก่งกว่าฉันอีกตั้งเยอะ อีกอย่างฉันก็ไม่คิดจะเล่นวอลเล่ย์ต่อด้วย


                มานากะหย่อนกายลงนั่งกับพื้นก่อนจะจ้องไปยังเหล่ารุ่นน้องปีหนึ่งปีสองที่กำลังซ้อมกันอยู่ เธอยอมรับว่าชอบวอลเลย์บอลมากแต่ก็ไม่มีความคิดที่จะเล่นไปเรื่อยๆจนถึงขั้นติดเยาวชนทีมชาติอะไรนั่นหรอกนะ แต่ถ้าเป็นคุณกัปตันก็ไม่แน่นะเพราะหล่อนก็ติดท็อปห้าระดับประเทศเหมือนกัน ถ้าแม่คุณไปเข้าโรงเรียนดังๆด้านวอลเลย์บอลที่ไหนสักที่ก็อาจจะไต่เต้าไปถึงติดเยาวชนทีมชาติก็ได้


                หกโมงครึ่งถึงเวลาเลิกซ้อมของชมรมกีฬาทุกชมรมแล้ว มานากะหยิบเสื้อฮู้ดสีน้ำเงินเข้มขึ้นมาสวมก่อนจะหยิบกระเป๋าขึ้นมาสะพายเป็นอย่างสุดท้าย ถ้าดูเวลาในตอนนี้ก็น่าจะยังทันเวลาอยู่ ให้ตายสิ จะจบม.ต้นอยู่แล้วยังมีเรื่องให้น่าปวดหัวอยู่อีกนะ


                ฮัลโหล ว่าไง


                [อยู่ไหน ทำอะไรอยู่]


                อยู่โรงเรียน กำลังจะกลับบ้าน แต่ว่าอยู่คนละจังหวัดจะถามทำไมเนี่ยเดินหาที่นั่งคุยโทรศัพท์ก่อนจะมาหยุดอยู่ที่ม้านั่งใต้ต้นไม้ใหญ่ใกล้ๆกับโรงยิม


                [แค่เหงาๆ]


                คิดถึงก็บอกมาเถอะ


                [เหอะ ใครจะไปคิดถึงเธอกัน]


                คุยกับคนปลายสายไปได้สักพักก็กดวางสาย ปากแข็งไม่เปลี่ยนเลย พลันเห็นกัปตันทีมยืนอยู่ข้างๆก่อนจะส่งยิ้มกรุ้มกริ่มมาให้


                คุยกับแฟนเหรอ


                บ้า ไม่ใช่สักหน่อย ว่าแต่คนนั้นเถอะแฟนเธอรึเปล่าชี้ไปที่ผู้ชายร่างสูงโปร่งซึ่งยืนอยู่ไม่ไกลนัก อากาเนะที่หันไปมองถึงกับหลุดหัวเราะออกมาไม่แปลกหรอกที่จะคิดอย่างนั้นน่ะ ก็ไปรับไปส่งด้วยตลอดนี่นะ


                ไม่ใช่สักหน่อย แค่เพื่อนๆโบกมือปัดเชิงปฏิเสธ แล้ววันนี้มีไปไหนต่อมั้ย ว่าจะชวนไปกินไอศกรีมตรงร้านเปิดใหม่สักหน่อย


                วันนี้มีนัดน่ะ แต่น่าจะเป็นนัดสุดท้ายก่อนจบจากนั้นคงไม่มีอะไรต่อแล้ว


                เด็กสาวเรือนผมสีเหลืองทองร้องอ๋อคล้ายเข้าใจว่า นัดที่เซ็ตเตอร์คนนี้ว่านั่นคืออะไร นึกสงสัยอยู่ในใจว่าเพื่อนคนนี้จะมีวันพักผ่อนและใช้ชีวิตแบบปกติกับคนอื่นเขามั้ยเนี่ย เพราะตั้งแต่ที่หล่อนรู้จักเธอตอนปีสองก็ไม่ค่อยได้ไปไหนมาไหนหลังเลิกชมรมด้วยกันเท่าไหร่ แถมช่วงเสาร์อาทิตย์นานๆทีก็จะได้ออกไปข้างนอกด้วยกันแต่ส่วนใหญ่เพราะนัดที่ว่านี่แหละถึงไม่ค่อยได้ไปน่


                มานากะโบกมือลากัปตันทีมหน้าประตูโรงเรียนก่อนจะหันหลังแล้วแยกไปอีกทาง เดินมาบริเวณย่านการค้าซึ่งอยู่ห่างจากบ้านตัวเองพอสมควรคนแถบนี้ไม่ค่อยพลุกพล่านมากนักเพราะอยู่แถบชานเมือง ดวงตาสีตะกั่วมองเวลาบนหน้าจอโทรศัพท์จากก้าวเดินธรรมดาก็เริ่มกลายเป็นวิ่งจนมาหยุดอยู่ที่ตรอกแคบๆตรอกหนึ่งซึ่งไม่น่าใช่ที่ที่เด็กสาวอย่างเธอควรจะมานัก


                ภายในตรอกมีแก๊งสวมเครื่องแบบมัธยมปลายของโรงเรียนไหนสักแห่งซึ่งมานากะไม่ได้สนใจมากนักซึ่งมีอยู่ราวสี่ถึงห้าคน ชายหัวตั้งคนหนึ่งลุกขึ้นมาคาดว่าน่าจะเป็นหัวหน้าแก๊งด้านหลังมีเด็กหนุ่มสวมเครื่องแบบโรงเรียนเดียวกันกับเธอ สีหน้าของเด็กหนุ่มไม่สู้ดีนักแถมยังดูเกรงกลัวเธออีก ใบหน้ามีแต่รอยช้ำและแผ่นแก้ปวดแปะอยู่เต็มหน้า


                กล้ามากนะที่เล่นน้องชายฉันซะเละขนาดนี้


                น้องชาย?


                เธอก็ไม่ใช่พวกที่จำหน้าคนเก่งซะด้วยสิ เอาเป็นว่าตามน้ำไปก่อนก็แล้วกัน


                ไอ้คนที่ท้าสู้กับฉันแล้วแพ้ราบคาบน่ะฉันไม่อยากใส่ใจหรอกใช่ป่ะวะ?


                หนอย! งั้นมาตัดสินกัน ถ้าเธอแพ้ต้องคุกเข่าขอโทษน้องชายฉัน!


                งั้นที่เธอคิดก็น่าจะถูกล่ะนะ


                ไร้สาระจริง คุกเข่าขอโทษเนี่ยนะ ทั้งที่ตัวเองเป็นคนมาท้าก่อนแท้ๆ


                มานากะถอนหายใจออกมาก่อนจะถอดกระเป๋าแล้วเอาวางไว้ด้านข้าง ถกแขนเสื้อทั้งสองขึ้นเพื่อให้สะดวกต่อการทำสิ่งที่จะถึงนี้ ไกล่เกลี่ยไม่เคยจะได้หรอกพวกนี้ ก็เอาเถอะ ไหนๆก็นัดสุดท้ายแล้วขอเต็มที่หน่อยก็แล้วกัน


                แล้วถ้าฉันชนะล่ะ?”


                ไม่มีทะ---


                ถ้าฉันชนะล่ะดวงตาสีตะกั่ววาววับจนน่ากลัวทำเอาใบหน้าของเขาถอดสี กลืนก้อนเข็งๆที่กระจุกอยู่ตรงลำคออย่างยากลำบาก


                แค่ผู้หญิงคนเดียวทำไมมันกดดันอย่างนี้วะ


                ว่าไง ถ้าฉันชนะนายจะต้องขอโทษฉัน เอามั้ย


                ตะ...ตกลง แต่ว่ามันจะไม่มีทางเป็นงั้นแน่---อั่ก!!!


    ผัวะ!!


                มือบางรับหมัดของคนตรงหน้าก่อนจะยกขาขวาเตะเข้าไปบริเวณสีข้างอีกฝ่ายเต็มแรง ลูกน้องที่อยู่ด้านหลังไม่รอช้ารีบวิ่งมาเอาคืนทันที เมื่อเห็นดังนั้นก็หมุนตัวแล้วใช้ขาอีกข้างถีบไปที่ท้องจนกระเด็นชนกำแพงตึก เบี่ยงหลบหมัดขวาของชายอีกคนอย่างไวจากนั้นก็แทงเข่าไปที่ท้องแล้วผลักเจ้าตัวไปทับกับหัวหน้าแก๊ง เพราะแสงที่มีเพียงน้อยนิดในตรอกหมัดของใครสักคนพุ่งเข้ามากระทบกับใบหน้าโดยที่มานากะไม่ทันตั้งตัว แต่เธอไม่รอช้ายกแขนซ้ายป้องกันแล้วใช้หมัดขวาสวนไปที่อีกฝ่ายโดยทันที


                ใช้ลิ้นแตะบริเวณมุมปากก็รับรู้ได้ถึงความเค็มของเลือดที่ไหลออกมา ยกหลังมือขึ้นมาเช็ดอย่างลวกๆก่อนจะปรายตามองกลุ่มชายที่กองอยู่บนพื้น หัวหน้าแก๊งใช้มือพิงกำแพงเพื่อดันตัวเองขึ้นมา ส่วนอีกข้างกุมบริเวณสีข้างของตัวเอง ใบหน้าบิดเพราะความเจ็บปวดก่อนจะพุ่งมาหาเธอด้วยความเดือดดาล มือต่อยสะเปะสะปะเพราะความโกรธจัดแต่ก็โดนใบหน้าเธออยู่รอบหนึ่ง ปัดมืออีกฝ่ายออกแล้วหมุนตัวไปด้านหลังแล้วใช้ขาเตะไปที่หลังของอีกฝ่าย


                แค่กๆ! อ๊าก!มานากะย่อตัวลงก่อนจะจิกหัวอีกฝ่ายให้เงยหน้าขึ้นมามองเธอ ดวงตาของเขามีแต่ความหวาดกลัวแต่ว่าก็ยังมีความต้องการที่จะสู้อยู่ เด็กสาวเหยียดยิ้มแล้วเปลี่ยนมาจับคอเสื้อเขายกขึ้นพร้อมกระหน่ำชกไปที่หน้าของเขา


                มีฝีมือแค่นี้เองเหรอ มาทำให้ฉันสนุกกว่านี้หน่อยสิ

     




                ในที่สุดก็ปิดเทอมสักที~”


                โฮ่...ดูดีใจจังนะยามาโมะโตะคำพูดของคนเป็นกัปตันถึงกับทำเอาเขาสะดุ้ง คุโรโอะหันไปมองลูกทีมหัวโมฮอคย้อมทองของตน คิดว่าปิดเทอมจะได้ลั้ลลาหรือไง


                ก...ก็ปิดเทอมจะได้มีเวลาซ้อมมากขึ้นไงครับยิ้มเก้อก่อนจะเบนสายตาไปทางอื่น ก็คิดว่าจะได้อยู่อย่างสบายๆแท้ๆ ชิลๆไปส่องสาวอะไรแบบนี้


                บอกไว้ก่อนนะถ้าจะใช้เวลาปิดเทอมไปกับการส่องสาวก็หยุดเอาไว้ตรงนั้นแหละยาคุพูดดักทางรุ่นน้องของตน ทำไมรุ่นพี่มันรู้ทุกอย่างที่เขาคิดเลยวะเนี่ย!


                ฉันเห็นนายติดอยู่ด่านนี้ตั้งนานแล้ว ยังเคลียร์ไม่ได้อีกเหรอ?”


                คุโรโอะก้มมองเพื่อนสนิทของตนที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาเล่นเกมอยู่ โคซึเมะ เคนมะเพียงพยักหน้าตอบเพื่อนของตนเท่านั้นจนกระทั่งบนหน้าจอขึ้นคำว่าGame Over เจ้าตัวจึงถอนหายใจก่อนจะเงยหน้าขึ้นมา เห็นคิ้วของอีกคนขมวดเข้าหากันก็อดหัวเราะไม่ได้จนเคนมะหันมามองเขาถึงจะเงียบไปจากนั้นเด็กหนุ่มก็กดเริ่มเกมใหม่แล้วสนใจกับการตีบอสต่อ


                รู้สึกว่าฮารุโคของพวกม.ต้นเพิ่งจะจบไปใช่ไหมครับ?”


                อ่า...ดูเหมือนว่าทีมหญิงโรงเรียนนั้นจะได้แชมป์อีกแล้วนะยาคุว่าต่อจากยามาโมโตะ


                สามปีซ้อนเลยนี่ แต่ก็ถือว่าสมกับตำแหน่งล่ะนะโดยเฉพาะตัวตบน่ะเห็นว่าตอนนี้ขึ้นมาอันดับสี่ด้วยนี่คุโรโอะเว้นจังหวะก่อนจะว่าต่อ


                แต่คนที่เล่นตำแหน่งเซ็ตเตอร์คนนั้นก็เล่นได้สุดยอดเลยนะ เซ็ตได้อย่างแม่นยำแถมยังสลับตำแหน่งกับตัวตบได้เร็วด้วย


                เห...นายดูสนใจเซ็ตเตอร์คนนั้นมากเลยนะยาคุหันมาส่งยิ้มกรุ้มกริ่มให้คุโรโอะ คนที่ถูกกล่าวหาถึงกับสะดุงแล้วตวัดสายตาคาดโทษมาให้คนตัวเล็กสุดในกลุ่ม


                หุบปากไปเลยนายน่ะ!


                โทระ! จะไปไหน!


                เฮะ!? เมื่อกี้เหมือนมีคนเรียกผมนะ!ยามาโมโตะหันซ้ายขวามองหาต้นตอของเสียง เป็นเสียงผู้หญิงด้วย


                ผู้หญิงเข้าหาสักคนยังไม่มี แล้วจะมีใครมาเรียกนายกันล่ะยามาโมโตะ


                ยาคุซัง!


                กลอกตาอย่างเบื่อหน่ายเมื่อต้องฟังยามาโมโตะเถียงกับยาคุ สักพักก็ได้ยินเสียงเรียกโทระอีกรอบหนึ่งซึ่งดูเหมือนจะมาจากบริเวณย่านการค้าแห่งนี้ ไม่นานก็หาต้นตอของเสียงเจอเป็นหญิงวัยกลางคนที่วิ่งออกมาอุ้มเจ้าแมวที่คาดว่าน่าจะชื่อโทระกลับเข้าไปในร้าน


                ดูเหมือนเขาจะไม่ได้เรียกนายนะยามาโมโตะเคนมะเงยหน้าขึ้นมาแล้วชี้ไปที่คุณป้าคนนั้น จากนั้นทั้งกลุ่มก็ระเบิดหัวเราะใส่ยามาโมโตะเพราะไม่ใช่สาวน้อยน่ารักตามที่เจ้าตัวได้หวังเอาไว้


                เดินไปสักพักก็ได้ยินเสียงโวยวายจากหญิงวัยกลางคนคนนั้นอีกจนกระทั่งเห็นแมวสีทมิฬวิ่งออกมาจากร้านโดยมีหญิงคนนั้นยืนวิ่งออกมาก่อนจะหยุดหอบอยู่ด้านหน้าร้าน กลุ่มของพวกเขาที่เห็นแต่ต้นก็เดินมาหยุดอยู่ข้างหญิงวัยกลางคน


                มีอะไรให้ช่วยมั้ยครับ


                พ่อหนุ่ม...ช่วยจับเจ้าโทระให้ป้าที…”หญิงวัยกลางคนชี้ไปยังเจ้าแมวนามว่าโทระซึ่งดันไปพ้องกับชื่อจริงของยามาโมโตะ


                ได้เลยครับ! ไปเร็วพวกเรา!


                วิ่งอีกแล้วเคนมะว่าด้วยเสียงยานคาง


                คิดซะว่าเป็นการซ้อมก็ได้คุโรโอะตอบพลางหิ้วคอเสื้อเพื่อนสนิทตามไปด้วย จะให้ทิ้งอยู่คนเดียวไว้กับคุณป้าคนนั้นก็กะไรอยู่ถึงแม้ว่าเคนมะจะไม่ค่อยได้สนใจอะไรเท่าไหร่ก็เถอะ


                คึกคักแบบที่กัปตันบอกหน่อยสิเคนมะ!


                ถ้าคึกคักแบบนายแล้วไม่มีสาวมาชอบฉันก็ไม่เอาด้วยหรอกนะ


                ยามาโมโตะหันไปเขม่นใส่เคนมะซึ่งแต่ละคนก็ได้แต่ส่ายหัวเพราะเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่จะเกิดอะไรแบบนี้ระหว่างพวกเขา


                สมาชิกทีมวอลเลย์บอลเนโกมะกำลังวิ่งไล่จับแมวท่ามกลางย่านการค้า แต่ดูท่าว่าเจ้าแมวจะรู้ทันเลยวิ่งเข้าซอยต่างๆจนคุโรโอะต้องสั่งให้สมาชิกในทีมวิ่งไปดักอีกทางเผื่อเจ้าแมวจะออกไปทางนั้น แต่ถึงแม้จะวิ่งไปดักได้แต่มันก็ดันกระโดดเหยียบหน้ายามาโมโตะแล้ววิ่งต่อไป คุโรโอะและเคนมะวิ่งตามมาสมทบกับเจ้าตัวจากนั้นก็ตามมาด้วยยาคุวิ่งมาด้วยสภาพเหนื่อยหอบไม่ต่างกัน


                ให้ตายสิ ทำไมแมววิ่งเร็วขนาดนี้เนี่ย!ยาคุบ่นออกมา


                ฉันยังพอมีแรงเหลืออยู่เดี๋ยวจะตามไปเอง พวกนายไปรอกับคุณป้าเลยก็ได้


                จะดีเหรอครับคุโรโอะซัง


                ให้คุโระไปเถอะยามาโมโตะ พวกเราเหนื่อยแล้วก็เหลือแค่คุโระนั่นแหละที่ยังมีแรงอยู่เคนมะกระตุกชายเสื้อของยามาโมโตะ


                นายแทบไม่ได้ออกแรงวิ่งด้วยซ้ำเคนมะเมินคำพูดของยามาโมโตะแล้วลุกขึ้นยืนเตรียมเดินออกไป


                งั้นตกลงตามนี้ก็แล้วกันนะ


    ภายในตรอก


                ร่างใหญ่ของชายมัธยมปลายลอยกระแทกกำแพงตึกด้วยฝีมือของเด็กสาววัยมัธยมต้นเพียงคนเดียว เนื้อตัวของมานากะเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำโดยเฉพาะบริเวณใบหน้า หล่อนเบี่ยงหลบหมัดของอีกฝ่ายที่พุ่งเข้ามาแล้วใช้กำปั้นชกเข้าไปที่ท้องเต็มแรงจนล้มลงไป สักพักร่างของหัวหน้าแก๊งที่นั่งพิงผนังก็ลุกขึ้นพุ่งตรงมาที่เธอโดยมันทันได้ตั้งตัวทำให้หล่อนพลาดท่าโดนอีกฝ่ายล็อกคอ มือเล็กตีที่แขนเต็มแรงใบหน้าเหยเกเนื่องจากเริ่มขาดอากาศหายใจแล้วใช้ศอกกระทุ้งจนอีกฝ่ายเริ่มคลายแล้วถีบเข้าที่ท้องจนเขาล้มลงไป


                มือเรียวลูบคอตัวเองแล้วมองไปรอบๆเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครลุกขึ้นมาได้อีก เด็กสาวนั่งลงทับกล่องไม้ริมกำแพงพักเหนื่อย นิ้วโป้งแตะเบาๆบริเวณมุมปากก็มีของเหลวสีแดงติดบริเวณปลายนิ้วมาด้วย


                ให้ตายสิ โดนม๊าจัดชุดใหญ่แน่ถอนหายใจอย่างปลงๆเมื่อรู้ตัวว่าหลังจากนี้ต้องเจอกับอะไร


                เมื่อคิดได้ดังนั้นก็ลุกขึ้นหยิบกระเป๋าขึ้นมาสะพายพาดบ่า ยกมือตัวเองขึ้นมาดูก็เห็นว่ามีรอยช้ำอยู่แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก หลังจากฟังแม่บ่นเสร็จค่อยไปทำแผลต่อก็แล้วกัน


    เมี้ยว~


                แมว?”


                ดวงเนตรสีตะกั่วมองไปที่ต้นตอของเสียงก็พบเจ้าเหมียวสีทมิฬอยู่ตรงหน้า มันเดินเข้ามาคลอเคลียบริเวณขาของหล่อนพลางครางอย่างสบายอารมณ์ มานากะย่อตัวลงอุ้มเจ้าแมวขึ้นมาก่อนจะสังเกตเห็นปลอกคอสีแดงของมัน


                หนีเจ้าของมารึไง นิสัยไม่ดีเลยนะเจ้าเหมียววางแมวไว้บนตักแล้วใช้นิ้วเกาคางของมัน เท้าเล็กๆตะปบเข้าที่นิ้วจากนั้นก็ใช้เขี้ยวเล็กของมันงับที่นิ้วเป็นเชิงหยอกเล่น


                อย่ากัดสิมันเจ็บนะรู้มั้ยหัวเราะออกมาเบาๆเมื่อเห็นว่ามันดูสนุกกับการขบนิ้วของเธอ


                เอาล่ะไปหาเจ้าของของแกกัน


                โทระ!


                ก้าวขาออกมาจากตรอกก็ได้ยินเสียงของชายคนหนึ่งดังขึ้น ท่าทางของเขาดูร้อนรนเหมือนกำลังตามหาอะไรบางอย่าง สวมเครื่องแบบที่เธอไม่ค่อยคุ้นเคยเดาว่าน่าจะเป็นรุ่นพี่มัธยมปลาย เด็กหนุ่มหันซ้ายขวาก่อนจะมาหยุดอยู่ที่เธอสลับกับมองเจ้าเหมียวในอ้อมแขน


                คงจะเป็นเจ้าของสินะ


                แฮ่กๆ...ให้ตายสิมาอยู่นี่เองเขานั่งอยู่ตรงราวกั้นเหล็กเพื่อพักเหนื่อยด้านข้างเธอ


                โทระ? แมวตัวนี้เป็นของคุณใช่มั้ยคะ?”มานากะถาม


                ไม่ใช่หรอก มันเป็นแมวของคุณป้าคนหนึ่งแต่เจ้านี่ดันหนีออกมาก็เลยโดนวานให้ช่วยน่ะเด็กสาวพยักหน้ารับรู้ ว่าแต่คุณเจอมันได้ยังไง?”


                มันวิ่งเข้ามาในตรอกจากนั้นก็คลอเคลียหนูสักพัก พอเห็นปลอกคอก็คิดว่าคงมีเจ้าของเลยกะว่าจะเอาไปคืนน่ะค่ะ


                ยังไงก็ขอบใจมากนะ---เฮ้ย!คุโรโอะเงยหน้าขึ้นมาก็ต้องตกใจเมื่อเห็นสภาพของเด็กสาววัยมัธยมต้นที่เสื้อผ้ายับยู่ยี่และเนื้อตัวมีแต่รอยช้ำ


                คุณไปโดนอะไรมาเนี่ย! ทำไมถึงบาดเจ็บอย่างนี้มือหนาจับใบหน้าของอีกฝ่ายหันซ้ายขวาเพื่อสำรวจบาดแผล ก่อนจะต้องตกใจเมื่อเห็นสภาพด้านในตรอกที่มีร่างของชายราวสี่ถึงห้าคนหมอบกับพื้น


                อย่าบอกนะว่าพวกนั้น…”เด็กสาวพยักหน้าเป็นคำตอบ แจ้งตำรวจมั้ย


                ไม่ต้องหรอกค่ะ ถึงแจ้งไปยังไงซะตำรวจก็คิดว่าเป็นแค่การทะเลาะวิวาทของเด็กม.ปลาย อย่างมากก็คงโดนตักเตือนจากนั้นก็เอาไปบอกพวกผู้ปกครองนั่นแหละมือเล็กคว้าหมับเข้าที่ข้อมือของเด็กหนุ่มซึ่งกำลังล้วงโทรศัพท์ออกจากกระเป๋ากางเกง


                เอาแมวของคุณไปคืนเจ้าของแล้วลืมเรื่องที่เจอกับหนูเถอะค่ะ ลาล่ะนะคะยื่นเจ้าเหมียวไปให้คุโรโอะแล้วก้มหัวลงบอกลา ไม่ทันที่จะเดินไปไกลก็โดนคว้าเข้าที่ข้อมือเสียก่อน


                เดี๋ยว


                “?”


                คุณต้องไปทำแผลก่อนคำพูดของเขาทำให้เธอขมวดคิ้ว


                ไม่---


                ไม่ต้องปฏิเสธ ผมไม่ยอมปล่อยให้เด็กผู้หญิงมีแผลเต็มตัวแบบนี้เดินกลับบ้านคนเดียวหรอกนะ


                กลายเป็นเรื่องยุ่งยากขึ้นมาซะแล้วสิ


                มือใหญ่กอบกุมมือเล็กให้เดินตามหลังโดยที่มืออีกข้างของเขาอุ้มเจ้าโทระติดมาด้วย ขายังคงก้าวต่อไปหยุดโดยระหว่างทางไม่มีใครเปิดบทสนทนาออกมาเลย มานากะได้แต่ก้มมองสองเท้าซ้ายขวาสลับกันเดินอยู่บนทางเท้า ในหัวก็นึกแปลกใจในตัวของชายตรงหน้าว่าทั้งที่ไม่รู้จักกันแท้ๆแต่ทำไมถึงได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเธอกันล่ะ? จะปล่อยเบลอก็ยังได้เพราะอย่างไรเสียก็ไม่ใช่ธุระของเขาด้วยซ้ำเพราะคนปกติมักจะไม่เอาตัวเองไปยุ่งกับเรื่องที่ไม่ควรจะยุ่งและปล่อยผ่านไป


                น่าแปลกจริง


                สักพักก็เดินมายังใจกลางย่านการค้าซึ่งประดับไปด้วยแสงไฟจากร้านรวงต่างๆ คนวัยทำงานที่เพิ่งเลิกงานก็มานั่งก๊งเหล้าตามร้านอิซากายะสังสรรค์กันเฮฮาจนเสียงดังออกมานอกร้านซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ เด็กหนุ่มเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าร้านขายของชำซึ่งมีเด็กมัธยมปลายยืนอยู่หน้าร้านดูจากเครื่องแบบแล้วน่าจะเป็นเพื่อนของเขาล่ะมั้ง


                จับได้แล้วเหรอ


                อืม เล่นเอาซะเหนื่อยเลยคุโรโอะหัวเราะเบาๆแล้วยื่นแมวให้เจ้าของ


                แล้ววิ่งไปถึงไหนล่ะครับ


                เกือบออกย่านการค้าเลยล่ะเด็กหนุ่มหันไปตอบคำถามของยามาโมโตะ


                ฉันว่าแค่ไปตามแมวนะแต่นายไปฉุดใครมาด้วยงั้นเหรอคำพูดของยาคุทำให้ทุกคนหันมามองเด็กสาวที่อยู่ด้านหลังของคุโรโอะ มานากะหลบอยู่ด้านหลังจึงทำให้พวกเขามองไม่ชัดแต่ก็พอจะรู้ว่าน่าจะเป็นเด็กมัธยมต้น


                เอ๊ะ! เอ่อ....


                ลูกมีพ่อมีแม่นะคุโระ


                ไม่คิดเลยว่ากัปตัน…”


                ไม่ใช่เฟ้ย! พอดีเห็นเขาดูเดือดร้อนก็เลยช่วยมาเท่านั้นเองน่ะ!คุโรโอะรีบแก้ตัวให้ตัวเอง เจ้าพวกนี้คงจะคิดว่าเขาไปดักฉุดเธอมาล่ะสินะ


                นี่ จริงอย่างที่หมอนี่บอกหรือเปล่ายาคุชะโงกมองเธอที่หลบอยู่ด้านหลังของคุโรโอะแต่ว่ามานากะก็ไม่ได้ตอบอะไรออกไป


                และนั่นทำให้พวกเขาตีโพยตีพายไปเองว่าคุโรโอะ เท็ตสึโร่นั้นได้ใช้กำลังข่มขู่ให้สาวน้อยคนนี้ไม่ยอมปริปากพูดเป็นแน่


                ให้ตายสิฉันไม่คิดเลยว่านายจะใช้กำลังประทุษร้ายแบบนี้น่ะ!


                อย่ามากล่าวหากันซี้ซั้วแบบนี้นะเว้ย หลักฐานล่ะหลักฐาน!


                ก็หลักฐานคือที่เธอไม่ยอมตอบไง ต้องใช่แน่ๆ!ยาคุและคุโรโอะยังคงเถียงกันต่อไปไม่หยุดซึ่งก็สร้างความรำคาญใจให้แก่เธอไม่น้อย เคนมะก็ได้แต่ทำหน้าปลงๆราวกับว่ามันกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว


                ฉันขี้เกียจเถียงกับนายแล้ว เคนมะนายจะไปกับฉันมั้ย?”เด็กหนุ่มตัดบทสนทนาอย่างรำคาญก่อนจะหันมาหาเพื่อนสนิทของตน


                เคนมะส่ายหัวให้เป็นคำตอบเพราะตอนนี้เขาเหนื่อยสะสมจากการฝึกซ้อมและวิ่งไล่จับแมวจนแทบอยากจะกลับบ้านล้มลงบนเตียงนอนไม่ไหวแล้ว คุโรโอะที่เห็นท่าทางของเคนมะก็ไม่ได้แปลกใจเท่าไหร่เพราะตัวของเขาก็ไม่ใช่คนที่ชอบออกแรงมากอยู่แล้ว เด็กหนุ่มจึงเอ่ยลาเพื่อนๆก่อนจะมุ่งไปยังเส้นทางคนละกับที่เพื่อนของเขากลับบ้าน


                ไปครับ ไปทำแผลกัน

     







    TALK

    ตอนแรกมาแล้วค่ะไม่รู้ว่าทุกคนจะโอเคกันมั้ยนะคะ นี่ค่ะฉากเปิดตัวมาในสภาพเละๆอย่างนี้นี่แหละค่ะแต่น้องก็ยังทำตัวชิวได้อยู่อีกนะ ถ้าหากใครสนใจอ่านประวัติของน้องจะอยู่หน้าหลักนะคะหรือจะคลิกตรงนี้เลยก็ได้ Manaka คิดเห็นอย่างไรก็คอมเมนต์กันได้เลยนะคะ ทางนี้คงต้องย้อนไปดูไฮคิวอีกสักสามสี่รอบให้จำเนื้อเรื่องได้แม่นๆก่อนนะคะ55555 ดูแลสุขภาพกันด้วยนะคะ รักรี้ดทุกคนค่ะ



    T
    B
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×