คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Whistle : prologue
วงจรชีวิตของสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์มันจะมีอะไรนักหนา
เรียน ทำงาน กิน เที่ยว นอน อาจจะเพิ่มเซ็กซ์ไปด้วยอีกอย่าง
วนลูปไปมาราวกับหน้าปัดนาฬิกาที่หมุนอยู่แบบนั้นทุกวันๆจะเปลี่ยนก็เพียงแค่วันเวลา
ชีวิตของแบมแบมก็เหมือนกันไม่มีอะไรน่าสนใจเลยสักนิด
เป็นชีวิตที่น่าเบื่อของนักศึกษาปีสองของมหาวิทยาลัยJ เขาไม่ใช่นักเรียนแลกเปลี่ยนแต่ย้ายตามพ่อมาอยู่ที่นี่เมื่อห้าปีที่แล้ว
พ่อของเขาเป็นท่านทูตแต่ตอนนี้ย้ายกลับไปประจำประเทศไทยแล้ว
มีแต่เขาที่ยังหลงใหลในเมืองแห่งแสงสีและความทันสมัย
การใช้ชีวิตแบบไม่มีครอบครัวคอยบงการมันดีมาก
ทำอะไรก็ได้ตามอิสระเพราะแบบนั้นทุกคืนเลยมีสาวๆมากหน้าหลายตาที่ถูกหิ้วขึ้นมาบนห้อง
อิสระที่กลายเป็นความเหงาจนบางทีก็ไม่อาจจะอยู่คนเดียวในบางค่ำคืนได้
ความเหงาสำหรับแบมแบมมันน่ากลัว
ยิ่งตอนที่มันคืบคลานเข้ามาในยามค่ำคืนยิ่งทวีความเหงาเข้าไปอีก
แบมแบมเกลียดความเหงามันทำให้เจ้าตัวคิดถึงแม่ที่เสียไปตั้งแต่ยังเด็ก
ความอบอุ่นจากอ้อมกอดอุ่นๆเหมือนมันกำลังจะเลือนหายไปในไม่ช้า
ถึงมันไม่ควรเอาข้ออ้างที่แม่ตายมาทำตัวเสเพลแบบนี้แต่ให้ทำไงล่ะในเมื่อเขาก้าวผ่านความรู้สึกสูญเสียไปไม่ได้จริงๆ
“แบมวันนี้ไม่เห็นมึงจะสนใจผู้หญิงคนไหนเลย” คำถามที่ทำให้เจ้าของชื่อแค่ยักไหล่แล้วยิ้มมุมปากให้เพื่อนที่นั่งอยู่ตรงข้ามกัน
“ไร้น้ำยาแล้วมั้ง”
“ปากดีว่ะแจฮยอนน้ำยากูยังมีอีกเยอะ มึงมากกว่าได้ข่าวว่าตามจีบพี่ยูตะนานแล้วไม่ติดสักที”
แบมแบมลูบคางตัวเองพลางจ้องมองเพื่อนตัวสูงที่นั่งทำหน้าบอกบุญไม่รับเมื่อถูกจี้ใจดำ
“สงสัยจะไร้น้ำยาของจริง”
“ความเชื่อใจมันต้องใช้เวลาเว้ย คนนี้กูก็จริงจังด้วย”
ทุกคนเลยโห่เสียงดังกับประโยคนั้นของจองแจฮยอนไม่เว้นแม้แต่แบมแบม
ใครมันจะไปเชื่อกันในเมื่อกลุ่มพวกเขาขึ้นชื่อเรื่องความเจ้าชู้ตัวพ่อ สร้างความสัมพันธ์แบบวันไนท์สแตนท์เป็นว่าเล่น
แถมผู้หญิงในมหาลัยไม่น้อยเลยที่เคยมีความสัมพันธ์กับคนในกลุ่ม
เอาดีๆบางทีก็เป็นผู้ชายเสียด้วยซ้ำ แม้แต่แบมแบมยังเคยลองถึงเขาจะดูผอมไปบ้างแต่มันก็ไม่ใช่อุปสรรคในการที่จะทำเรื่องอย่างว่ากับผู้ชายสักคน
ค่ำคืนนี้แบมแบมรู้สึกตัวเองเมานิดหน่อยแต่ก็ยังพอขับรถกลับคอนโดไหว
ทำแบบนี้ถ้าพ่อรู้เขาคงโดนบ่นหูชา พ่อคงไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน
เพลงโปรดดังไปทั่วรถนิ้วเรียวเคาะพวงมาลัยตามจังหวะขณะที่รถกำลังติดไฟแดง
เลขกำลังนับถอยหลังไปเรื่อยๆ
ปากอิ่มร้องเพลงตามเบาๆยิ้มขึ้นมาเฉยๆเมื่อมันเล่นถึงท่อนฮุก
ไฟแดงกำลังจะสิ้นสุดและเลขสีแดงตรงหน้ากลายเป็นสีเขียว
รถสีดำมุกออกตัวอย่างเร็วและในจังหวะเดียวกันรถของใครสักคนก็ฝ่าไฟแดงมา
โครม!
ความปวดร้าวแล่นมาที่หัว
แบมแบมพยายามมองภาพตรงหน้าแต่มันดูเลือนๆแถมตอนนี้เขายังรู้สึกถึงกลิ่นของคาวเลือดคละคลุ้งจนอยากอาเจียน
มือพยายามแกะเข็มขัดนิรภัยออกแต่ไม่เป็นผล
หูได้ยินเสียงหวอของรถพยาบาลก่อนภาพทุกอย่างจะกลายเป็นสีดำ
##
ในชีวิตของมนุษย์มันไม่มีความยุติธรรมอะไรที่แท้จริงเลยสักนิด
เชื่อจริงๆหรอว่าทำดีแล้วมันจะได้ดี เอาจริงๆก็ไม่มีทางหรอก
ชีวิตมันไม่ได้เหมือนในหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่ตีกันโครมๆแล้วสุดท้ายจะกลายเป็นพระเอก
ไม่มีรอยขีดข่วนสักนิดขนาดว่าโดนเหวี่ยงไปกระแทกผนัง ตัดภาพมาที่ชีวิตจริงสิ
หมัดหนักๆที่ปะทะเข้าข้างแก้มเจ็บจนชาหนึบไปหมด
กลิ่นเลือดที่คละคลุ้งอยู่ในปากนี่อีก ยังไม่นับรอยช้ำม่วงใต้ร่มผ้า คิมยูคยอมไม่มีวันเชื่อเด็ดขาดว่าโลกนี้มีความยุติธรรม
ดวงตาสีเข้มพยายามจ้องมองหน้าของเพื่อนร่วมคณะที่จ้องมองตัวเขาเองเช่นกันแต่พวกนั้นคงมองเขาด้วยความสมเพช
แขนสองข้างถูกขึงด้วยเพื่อนร่วมคณะที่ไม่ได้สนิทเลยสักนิดก่อนใครสักคนจะตบข้างแก้มขาวเบาๆ
“วันนี้มึงไม่ยอมทำรายงานส่งอาจารย์ให้กู”
น้ำเสียงติดจะฉุนนิดๆจนยูคยอมไม่อยากคิดว่าต่อจากนี้คนตรงหน้าจะทำอะไรเขา
มือสากบีบแก้มที่ชาหนึบจนเจ็บไปหมด
ดวงตาสีเข้มที่ยูคยอมเกลียดสะท้อนเงาตัวเขาเองในตอนนี้ ตัวเขาที่อ่อนแอ ไม่สู้คน
“เพราะฉะนั้นวันนี้กูจะให้มึงได้รับบทเรียนที่สาสม”
ยูคยอมพยายามเปล่งเสียงแหบแห้งแม้มันแทบจะไม่มีเสียงออกมาเลยก็ตาม
“ยะ อย่า”
“แล้วต่อไปติ๋มๆอย่างมึงจะได้รู้ว่าเล่นอยู่กับใคร”
ร่างผอมแต่สูงโปร่งถูกลากเข้าไปในรถที่ถูกแต่งไว้อย่างสวย
เสียงเครื่องยนต์ดังกระหึ่มพอๆกับเสียงเชียร์ของผู้ชมรอบๆ ยูคยอมหูอื้อไปหมด
เสียงตะโกนโหวกเหวกโวยวายน่ารำคาญ ตาคมปิดลงไม่อยากมองภาพข้างหน้า
ปรี๊ด!
เสียงนกหวีดดังขึ้น
รถทะยานออกไปไวจนนั่งแทบไม่ติดเบาะ
เลี้ยวหักโค้งจนล้อเสียดสีกับถนนเสียงดังเอี๊ยดอ๊าด มือใหญ่จับเข็ดขัดนิรภัยแน่น
เสียงหัวเราะของคนขับกำลังเยาะเย้ยความขลาดของเขา คืนที่เงียบสงบในเมืองที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย
รถวิ่งฝ่าไฟแดงไปหลายจุดอย่างไม่กลัวกฎหมาย
“ปล่อยผมลงเถอะครับแล้วผมสัญญาว่าจะไม่บอกใคร”
คำขอถูกตอบด้วยความเร็วที่มากกว่าเดิม
ยูคยอมยังไม่อยากตายตอนนี้แม้โลกนี้มันจะห่วยบรม
ไม่ว่ายังไงก็ยังมีอะไรอีกมากมายที่อยากทำ
เขาเพิ่งอยู่ปีสองยังไม่ทันจะได้ทำงานที่ชอบ แม้กระทั่งได้เดตหรือคบกับผู้หญิงสักคน
ดวงตาสีเข้มพยายามเปิดเพื่อมองภาพตรงหน้า
ไฟเขียวที่ไม่ถึงสามวิก็จะกลับมาเป็นสีแดงอีกครั้ง
หัวใจเต้นตุบๆเหมือนมันจะหลุดออกมา
“เฮ้ย! ระวัง”
โครม!
ร่างกายชาดิกแถมยังขยับไม่ได้ ยูคยอมเกือบสติแตกถ้าไม่เห็นร่างของคนขับรถที่นอนจมกองเลือดอยู่ไม่ไกล
กระจกหน้ารถทะลุจากแรงกระแทก คิดดูสิว่าคนไม่คาดเข็มขัดอย่างหมอนั่นจะไปเหลืออะไร
ในใจได้แต่ภาวนาให้รถพยาบาลมาถึงเร็วๆ
เพราะตอนนี้ความเจ็บปวดเริ่มทวีขึ้นเรื่อยๆจนทนแทบไม่ไหว ทั้งแผลเก่า แผลใหม่ นัยน์ตาสีเข้มปิดลงเสียงลมหายใจค่อยๆผ่อนลงช้าๆ
ทุกอย่างอาจจะเป็นความฝัน เปลือกตาปิดสนิทพร้อมกับสติที่ดับวูบไป
“มีคนเจ็บอยู่ในนี้อีกคน”
tbc.
สวัสดีค่ะนักเขียนคนเดิมเพิ่มเติมคืออะไรไม่รู้
ใครสังเกตมั่งคะว่าน้องแบมในฟิคเรื่องนี้ออกแนวเผ็ชๆหน่อย
555
ส่วนเจ้าคยอมก็จะติ๋มๆหน่อย
นั่นแหละค่ะพล็อตหลัก ยังไงก็ขอฝากแม่ๆยูคแบมทุกคนไว้ด้วยนะคะ
ถ้าชอบก็เฟบแล้วก็คอมเม้นท์ให้ด้วย
หรือจะสกรีมได้ที่แท็กในทวิต #สลับยูคแบม
เป็นกำลังใจด้วยนะคะ ขอบคุณมากๆค่ะ
เลาเอง <3
ความคิดเห็น