คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : หัวขโมยวายร้าย
“โครม”
พอรู้ตัวอีกทีฉันก็กองอยู่ที่พื้นซะแล้ว O_O (ฉันไม่ได้ล้มเองนะมีคนมาชนฉัน) ทำาาา...ไมมม ฉันขยับตัวไม่ได้เลย T_T อุ้ย ! ว้ายยยยย... ก็คนที่ชนฉันนอนทับตัวฉันอยู่น่ะสิ
ฉันพยายามดิ้นและผลักเขาออก แต่มันก็ไม่เป็นผล เพราะเขาตัวหนักมากแถม
ตัวใหญ่มาก (ทำไมนะคนที่ beautiful อย่างฉันต้องโชคร้ายหรือซวยอย่างนี้ด้วยนะ ตกลงประโยคแรกเรื่องเดียวกันมั๊ยเนี่ย)
“นี่นาย ๆ ๆ ๆ . . .” ฉันเขย่าตัวเขาที่นอนทับฉันอยู่ แต่เขาก็ไม่ยอมขยับตัวสักนิด หรือว่าเขาจะ ะ ะ ะ ะ จะ . . . ตาาาาาย ฉันเริ่มเขย่าตัวเขาแรงขึ้น O_O
“นายอย่าตายนะ T_T ฉันไม่ได้ฆ่านายนะ นายวิ่งมาชนฉันเอง” Ù_ Ù ฉันเริ่มเขย่าตัวเขาแรงขึ้นอีกด้วยความตกใจ
“ยัยบ้า ! . . . เธอน่ะสิตาย” เย้ ๆ ๆ ๆ Ù_ Ù เขาพูดแล้ว เขาไม่ตายแล้ว ดีใจจัง แต่คำพูดนั้นฟังดูแปลกๆ นะ ใช่เลย !!! คำพูดคำนั้นมันกระทบฉันอย่างแรง
“นี่ตาบ้า มาว่าฉันได้ยังไงงงงงง นายมาชนฉันนาาาาาาาน้า . . .” ฉันผลักตาบ้านั้นออกจากตัวฉัน ครั้งนี้ได้ผลตาบ้านั้นยอมลุกขึ้นจากตัวฉัน
อุ้ย !!! O_O ตายว้ายกรี๊ด อยากกรี๊ดให้โลกระเบิด ตาคนนี้หล่อเป็นบ้า ยิ่งดูยิ่งหล่อยิ่งมองยิ่งน่ารัก แต่สายตาทำไมเย็นชาจัง แต่ก็ไม่ทำให้ความหล่อลดลงเลยแม้แต่น้อย (ต่อมบ้าผู้ชายของนักเขียนเริ่มกำเริบ)
“นี่ยัยเตี้ย. . . เธอมองหน้าฉันทำไม” หลังจากประโยคนี้จบลงด้วยคำพูดของผู้ชายหน้าตาดีคนนึ่ง ความรู้สึกผิด ชอบ ชั่ว ดี มองฉันก็กลับมาเริ่มทำงานอีกครั้ง
มาว่าฉันเตี้ยได้ไง ฉันสูง 167 cm. เชียวนะ ไอ้ตาต่ำเอ้ย!! ฉันทนไม่ไหวแล้ว ถึงฉันจะสวยความอดทนก็มีขีดจำกัดนะจะบอกให้ (ไม่พ้นเรื่องชมตัวเอง)
“ตาบ้า นายมาชนฉันเองนะ จะขอโทษซักคำก็ไม่มี แถมมาว่าฉันเตี้ยอีก เป็นบ้าไปแล้วหรือยังไง หรือว่าปัญญาอ่อน ฉันจะได้ไม่ถือสา”
ฉันใช้พลังเสียงแปดหลอดของฉันตะโกนด้วยความดังซัก 8 ล้านเดซิเบลได้มั้ง (ที่จริงมันไม่ได้ดังขนาดนั้นฉันเวอร์ไปเอง และไม่ต้องอายใครเพราะที่นี้คือที่จอดรถห้างสรรสินค้าชั้นใต้ดิน)
พอฉันพูดจบนายไร้มารยาทนั่นก็จ้องหน้าฉันด้วยใบหน้าอันหล่อเหล่า แต่ฉันก็รู้นะว่าฉันเป็นผู้หญิงที่หน้าตาดีคนหนึ่ง ก็ไม่เห็นต้องมองเหมือนจะฆ่าฉันเลยนี่นา ฉันกลัวนะ
“อุ๊ย! อู่
อี ... อ่า ... อู้ ”
ทำไมฉันรู้สึกแปลกๆ แบบนี้นะ ว้ายยยย ... ย พระเจ้าช่วย กล้วยแขก o_O ตาบ้านั้น
จูจุ๊บ! ฉ้าน จูบแรกของฉ้านนนนน มา ... มะ ... ไมมมม่จริงงงน้าาาา First kiss ของฉ้านนน ทำไมซาดิสต์อย่างนี้ หยุดจูบฉันซะทีสิไอ้บ้า
“ชุบ” เขาถอนปากออกจากปากฉัน
“ยัยเตี้ยเธอไม่เคยล่ะสิ แต่ฉันก็ชอบนะ ถือว่านี่แทนคำขอโทษก็แล้วกันนะ”
ไอ้คนบ้าเอ้ย !!! มีที่ไหนขอโทษกันแบบนี้คิดว่าตัวเองน่าจูบตายล่ะ ผู้หญิงทุกคนถึงอยากจูบกับนาย
“ไอ้บ้า . . . ไอ้ลามก . . . ไอ้หื่น . . . ไอ้โรคจิต ใครเค้าขอโทษกันแบบนี้” ฉันพูดออกไปในขณะที่ตาคนนั้นกำลังเดินออกไป
“หรือว่าเธอไม่ชอบ” เขาพูดและก็ยิ้มที่มุมปากเล็กน้อยแล้วก็หันหน้ากลับไป
ส่วนฉันก็อึ้ง!!! ทึ้ง!!! สิคะ เพราะมันแทงใจฉันอย่างจังๆๆ เลยสิค่ะ และแล้ว
. . . ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีก็กลับมาอีกครั้ง ไม่นะแมงปอเธออย่าใจอ่อนเพราะความหล่อสิ ความคิดของฉันก็เปลี่ยนเป็นแค้นนน . . . > - < ฉันแค้นไอ้หน้าหล่อ (ที่ฉันเองก็ไม่รู้จัก) =_=!” ตาบ้าเอ้ยยยย . . . กล้าดียังไงมาขโมย first kiss ของฉ้านนะ . . . อย่าให้เจอนะนายตายแน่ รู้จักฉันน้อยไปซะแล้ว ถ้าเจอนะฉันจะสั่งสอนให้นายไม่กล้าทำแบบนี้อีกไปจนตาย พอคิดแล้วก็เจ็บใจ แต่ถ้าจะให้ดีที่สุดอย่าได้เจอกันอีกเลย พอถึงตอนนั้นฉันอาจไม่กล้ามองหน้านายได้เลย เพราะฉันคงไม่หน้าด้านบอกใครว่าที่ฉันโกรธตานี่เพราะขโมย first kiss ฉัน คิดแล้วเรื่องมันเศร้า
¯ อู่ อู่ อ่า อ่า อา อา อ่า อ่า ¯
เพลงแดจังกึมเป็นเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ฉันเอง
ฉันหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋ามาดูว่าใครโทรมา
ฉัน . . . > “ว่าไงจ๊ะบี”
บี . . . > “นี่แมงปอแกจะมามั๊ยฉันรอแกนานแล้วนะ” ปลายสายคือยัยบีเพื่อนฉันเอง
ฉัน . . . > “เดี๋ยวฉันไป ตอนนี้ฉันอยู่ที่ที่จอดรถแล้วรอแป๊ปหนึ่งน้าเพื่อนรัก” ฉันใช้เสียงที่ไพเราะที่สุดเท่าที่เคยพูดมา เพราะเดี๋ยวยัยบีโมโหฆ่าฉันตายทางโทรศัพท์แน่
บี . . . > “sorry . . เสียใจนะเพื่อน love เพราะตอนนี้หนังฉายแล้ว ฉันมาเข้าห้องน้ำก็เลยโทรหาแกเพราะกลัวแกจะรู้สึกผิด” ช่างเป็นเพื่อนที่น่ายกย่องจริงๆ
ฉัน . . . > “แล้วแกดูคนเดียวได้หรือไง” ฉันถามเพราะยัยบีไม่เคยดูหนังคนเดียวมาก่อนเลย
บี . . . > “ไม่ต้องเป็นห่วง ฉันโทรเรียกตั้มมาดูเป็นเพื่อนแล้ว ที่แกผิดนัด
ฉันอภัยให้นะ ไม่ต้องคิดมาก เออ แค่นี้ก่อนนะเดียวตั้มรอนาน บ๊าย บาย”
“ตูด ตูด ตูด ตูด”
แล้วตกลงฉันผิดหรือแกผิดกันแน่ ฉันละงงจริงๆ แต่เพื่อนนะเพื่อนเห็นแฟนดีกว่าฉันได้ยังไง คิดแล้วอยากจะฆ่ามันตายจริงๆ เลย เบื่อๆ เซ็งๆ จะทำยังไงดีถึงจะลืมเรื่องนายหน้าหล่อได้นะ
อุ้ย! ลืมไป ขอแนะนำตัวหน่อยนะค่ะ ฉันชื่อ น.ส. จันทร์จรินทร์ ภาสโรราช หรือ แมลงปอ อายุ 17 ปี เรียนอยู่เกรด 11 หรือ ม.5 ค่ะ เข้าเรื่องต่อ
ฉันจะทำอะไรดีน้าแฟนก็ไม่มีอย่างกับคนอื่นๆ “เอ้ย” ฉันถอนลมหายใจเพียงลำพัง ความจริงไม่ใช่เพราะฉันไม่สวยหรอกนาที่ไม่มีแฟน ความสวยของฉันระดับ popular 1 ใน 10 ขวัญใจ นร.ชายตั้งแต่ ม.1 แล้ว เพียงแต่ฉันยังไม่เจอคนที่ใช่เท่านั้นเอง ด้วยเหตุนี้สาวสวยอย่างฉันจึงไร้ชายที่พึงเชย
นี่ฉันลืมไปได้ไงเนี่ย ฉันยังมีเพื่อนร่วมอุดมการณ์อีก 5 คนแน่ะ ใช้แล้วยัยพวกนั้นไปร้องคาราโอเกะกันนี่หว่า แต่ยัยเล็กกลับบ้านกับพี่ลูกพีชสุดหล่อของฉันไปแล้ว ฉันไม่น่าฉันตัดสินใจไปดูหนัง(ฟรี) กับยัยบีเลย (คิดแล้ว!!!!!... มันเศร้า....) พอนึกออกฉันก็กดเบอร์โทรหาคนที่คิดว่ารับโทรศัพท์เร็วที่สุดก็คือ ยัยแต๋มนั่นเอง
“เสียแรงที่รัก เสียแรงที่ไว้ใจ ไม่นึกว่าจะทำได้ลงคอ” เสียงรอสายยัยแต๋ม
แต๋ม . . . > “Holle ปอมีไรหร๋อจ่ะ” ยัยแต๋มทำเสียกระแดะที่ปลายสายสนทนา
ฉัน . . . > “แต๋ม ตอนนี้ แกอยู่ที่ไหนอ่ะ ” ฉันถามกลับไป
แต๋ม . . . > “อยู่คาราโอเกะไง มีไร” ยัยแต๋มพูดจริงจังขึ้นสงสัยฟังน้ำเสียงฉันออก
ฉัน . . . > “ฉันไปหาพวกแกนะ”
แต๋ม . . . > “ตอนนี้คาราโอเกะหมดเวลาแล้วเจอกันที่ KFC ดีกว่านะ”
ฉัน . . . > “ Ok งั้นเดี๋ยวเจอกัน” “ตูด ๆ ตูด ๆ”
พอวางโทรศัพท์ฉันก็รีบบึ่งไปหาสหายทั้ง 4 คนของฉันทันที
ฉันก็มาถึง KFC ฉันเริ่มมองหาเพื่อนทั้ง 4 ของฉัน และแล้วก็เจอที่โต๊ะมุมสุดติดกับกระจกร้าน ผู้หญิง 4 คนในชุดสีขาวเนคไทสีเทากระโปรงสีเทาในสภาพถอด
เสื้อกั๊กด้านนอกออกเสื้อออกนอกกระโปรง ซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหนเลยนอกจากเพื่อนทั้ง 4 ของฉันอันได้แก่ ยัยฟ้า ยัยน้ำหวาน ยัยแต๋ม และยัยเนย ขาดก็แต่ยัยบีที่ตอนนี้กำลัง
ดูหนังกับเพื่อนสนิท และก็ยัยเล็กที่กลับบ้านกับพี่สนิทไปแล้ว
ว่าแล้วฉันก็เดินไปยังโต๊ะพวกนั้นทันที
“นั่งสิแมงปอ” ยัยน้ำหวานบอกให้ฉันนั่งลงข้างๆ เมื่อฉันมาถึงในขณะที่อีก 3 คนนั่นกำลังกินไก่นุ่มกันอย่างเมามันอาจจะเรียกว่า ยัด ก็ยังได้
“ไหนแกบอกว่าจะไปดูหนังกับยัยบีไง” ยัยน้ำหวานถามฉันเพราะมียัยน้ำหวานที่ปากว่างอยู่คนเดียว เพราะไม่ได้กินอย่างกับสัตว์เลื้อยคลานลิ้น 2 แฉกที่ชอบกินไก่เหมือนเพื่อนอีก 3 ตัว(บ่งบอก)ของชั้น
“ก็ฉันไปช้าไอ้บีก็เลยโทรเรียกตั้มมาดูเป็นเพื่อน” ฉันตอบแบบเบื่อๆ
“แล้วแกไม่กินอะไรหน่อยหรือไง” ยัยเนยพูดขณะที่ไก่กำลังเต็มปากอยู่
“ไม่อ่ะ !!!”
จะให้ฉันกินอะไรลงได้ยังไง ฉันพึ่งโดนไอ้โรคจิตหน้าหล่อขโมย First kiss ของฉันไปน้าาาาาา... แล้วฉันจะท้องมั้ยเนี่ย ฉันคงไม่ท้องเพราะโดนจูบหรอกนะ พอนึกได้ก็ไม่หายแค้น แต่ก็ยังดีที่ไอ้หื่นที่ขโมยจูบแรกฉันไม่ได้หน้าตาอัปลักษณ์มาก แต่จะว่าไปนายนั่นก็หล่อมากเลยนะ (คิดบ้าอยู่ได้เรา)
ผมสีดำเงาที่ดูยุ้งๆ เหมือนไม่ได้หวี จมูกปากเข้ากับรูปหน้าได้อย่างกับสามารถจัดเองได้ สูงก็คงประมาณ 180 กว่าได้มั๊ง คิดแล้วก็เสียดายหน้าตา ถ้าไม่ติดที่นิสัยเสียนะ ฉันคงยอมสละโสดในรอบ 2000 ปีของฉันแล้ว ทำไมพระเจ้าไม่ยุติธรรมเลยนะและทำไมต้องสร้างเรื่องเลวร้ายให้เกิดขึ้นกับชีวิตฉันด้วยนะ
แล้วไก่ที่อยู่บนโต๊ะก็หมดลง พร้อมกับยัย 4 คนนั้นกำลังนั่งจ้องฉันอยู่
“พวกแกจ่องหน้าฉันทำไม” ฉันพูดขึ้นก่อนที่หน้าฉันจะสึกหร๋อเสียก่อน
“ปอแกเป็นอะไรไปวะ” ยัยฟ้าเดินมาโอบไหล่ฉัน
“ไม่มีอะไรหรอก แค่ฉันคิดอะไรเพลินๆ ไปน่ะ” จะให้ฉันบอกว่าโดนขโมย First kiss ไปหรือไง ก็ฉันอายนิ่
“ฉันไม่เชื่อฉันรู้จักแกมานาน ฉันรู้ว่าแก่เป็นคนยังไง มันไม่ใช่นิสัยแกเลย” ยัยเนยพูดและพยายามมองตาฉันเพื่อค้นหาอะไรบางอย่าง แต่ฉันก็หลบสายตาคู่นั้นของมัน
“ใช่ ใช่ ใช่” ยัยน้ำหวาน ยัยฟ้า ยัยแต๋ม พูดเป็นเชิงเห็นด้วยกับยัยเนย
พวกแกจะรู้มั้ยว่าพวกแกทำแบบนี้ฉันรู้สึกผิด เพราะความจริงถ้าพวกแกได้ฟังพวกแกจะต้องล้อฉันจนกว่าฉันจะไม่สะทกสะท้านกับคำพูดของพวกแกแน่เลย
“โอ้ยไม่มีอะไรหรอกน่า มันไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร แต่ถ้าฉันทำใจได้แล้วจะบอก” ฉันพูดขึ้นก่อนที่บรรยากาศมันจะแย่ไปกว่านี้
“ไม่มีอะไร แล้วทำไมแกถึงเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ หรือว่าแกกก . . ก จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกิน 7 วัน อยากกินอะไรบอกนะจะทำบุญไปให้” ยัยแต๋มพูดเปลี่ยนบรรยากาศ แต่หารู้ไม่ว่านั้นอาจทำให้ฉันสามารถฆ่ามันได้
“โถแมงปอมีอะไรก็บอกเพื่อนสิ จะได้ช่วยกันแก้ปัญหา หรือว่าแกพึ่งรู้ตัวว่าไม่ใช่ลูกที่แท้จริงของพ่อกับแม่แก” ยัยแต๋มก็ยังไม่หยุดกวนอวัยวะเบื้องล่างฉันอีกคน
“แมงปออย่าเก็บไว้คนเดียวสิ ถ้าอึดอัดก็บอกเพื่อนพวกเราสัญญาว่าจะช่วย
แมงปอ และอยู่เคียงข้างแมงปอเสมอนะ” นี่เป็นคำพูดที่ออกจากปากน้ำหวานที่ฉันไม่เคยได้ยินคำพูดอันอ่อนโยนขนาดนี้มาก่อน กินยาผิดหรือเปล่าเนี่ย
แต่พอเห็นสีหน้าอ้อนวอนของยัย 4 คนนั้นแล้วก็อดไม่ได้
“พวกแกอยากรู้กันนักใช่มั้ย” พอฉันพูด ยัย 4 คนนั่นก็พยักหน้างึกๆ ๆ
เป็นเชิงอยากรู้ พวกมันคงคิดว่าที่ทำน่ารักสินะ ที่จริงมันอุบาตมากนะจะบอกให้ (พวกมันไม่ได้คิดอะไรหรอกฉันคิดเองเพราะมันน่ารักจริงๆ เพียงแค่ฉันอิจฉาเท่านั้น) แล้วฉันก็เริ่มบรรเลงเรื่องราวทันที “ฉันยืนอยู่ที่จอดรถชั้นใต้ดิน แล้วก็มีผู้ชายมาจากไหนก็ไม่รู้วิ่งมาชนฉัน จนฉันกองอยู่บนพื้น โดยที่ไอ้ผู้ชายคนนั้นทับตัวฉันอยู่ แล้วอยู่ดีๆ นะ
ไอ้คนนั้นก็หาว่าฉันปัญญาอ่อน ไม่ขอโทษฉันด้วยนะ ฉันก็เลยต่อยเข้าไปทีหนึ่ง แล้ว
ผู้ชายคนนั้นก็สลบไป ฉันเศร้าเพราะฉันคิดว่าฉันทำเกินไปนะสิ” เป็นไงถึงพริกถึงขิง
กันมั้ย ขอโทษนะเพื่อนๆ ไม่อยากโกหกเพียงแต่บางอย่างก็ไม่เป็นเรื่องที่น่ายินดีถ้าพวกแกรู้เข้า เพราะฉันอาจต้องอับอายไปจนวันตาย ในวิธีการประจานเพื่อนของเพื่อนรัก
“ไอ้คนนั้นเป็นใครวะ” ยัยฟ้าพูดและทำสีหน้าโกรธเคือง
“แกจะทำอะไร” ยัยน้ำหวานถามเพราะยัยฟ้าไม่เคยโกรธใครขนาดนี้
“ฉันจะไปบอกมันว่าพูดได้ถูกใจฉันมากๆ” ฉันไม่น่ามองแกในแง่ดีเลยจริงจริ้ง งงง.. พวกเราห้าคนถกเถียงเรื่องนี้อยู่นานแต่เรื่องที่คุยส่วนมากจะสรรเสริญไอ้บ้านั้นมากกว่า และก็แยกย้ายกันกลับบ้าน
“เอ้ย! ถึงบ้านซะที”
“คุณแมงปอค่ะ ท่านบอกว่าจะกลับดึกค่ะ” แม่บ้านเก่าแก่เอ่ยบอกฉันขณะที่ฉันกำลังจะเดินเข้าบ้าน
“ทราบแล้วค่ะ แม่โทรมาบอกหนูแล้ว” แล้วฉันก็เดินขึ้นห้องของฉันทันที ฉันอาบน้ำทำธุระส่วนตัวทันที พออาบน้ำทำธุระส่วนตัวเสร็จฉันก็เหลือบไปเห็นนาฬิกาตอนนี้ 3 ทุ่มกว่าแล้วฉันจึงเดินไปหยิบหนังสือการ์ตูนเล่มใหม่ที่พึ่งยืมยัยแต๋มมาออกจากกระเป๋า กระโดดขึ้นเตียงนอนอ่านหนังสือการ์ตูน
“ฟู่ . . . ฟู่ . . . ฟู่ . . . ฟี่” เสียงอะไรแปลกๆ ดังมาจากห้องน้ำ หรือว่าฉันจะลืม
ปิดน้ำก็ไม่น่าใช่ เราปิดแล้วนี่
“ฟู่ . . . ฟู่ . . . ฟู่” มันดังมาอีกแล้วหรือว่าบ้านเราจะมีผะ . . ผะ! ผี แต่ฉันก็ไม่เคยเจอผีซักที ตั้งแต่อยู่ห้องนี้มา คงไม่มีอะไรมาก น้ำอาจรั่วก็ได้ ฉันจึงกระดืบ ๆ ๆ ลงจากเตียงเดินไปยังห้องน้ำ
ฉันเอาหูแนบกับประตู้ห้องน้ำ แต่ก็ไม่มีเสียงอะไรตอบรับกลับมาเลย สงสัยฉันจะหูฝาด แต่ฉันก็เปิดประตูเพื่อความแน่ใจซะก่อน ฉันเปิดประตูทันที
“วะวะวะ . . . วะ” ฉันเอามือปิดปากตัวเองที่เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 20 cm ของฉันก่อนที่ไอ้ตัวที่อยู่ตรงหน้าฉันมันจะตกใจกินเข้าไป ฉันกลัว . . ว ว กลัวจนขา
ทั้งสองข้างของฉันกระดิกไม่ได้เลย
“ฟู่ ฟู่ ฟู่ ” เจ้าอนาคอนด้าตัวมหึมากำลังแผ่แม่เบี้ยอยู่ตรงหน้าฉัน
อนาคอนด้ายักษ์หุบแม่เบี้ยลงเลื่อยมาหาฉันที่ยืนแข็งเป็นหิน จะวิ่งหนีก็วิ่งไม่ได้เพราะแข็งทื่อทั้งตัวแล้ว
เจ้างูบ้านั่นมันเรื้อยมารัดตัวฉันพันรอบๆ ตัว แล้วมันก็จกหัวฉัน ช่วยด้วย ๆ ๆ ฉันไม่อยากตายยยย
“แมงปอ แมงปอ แมงปอ”
“เย้ ๆ ๆ ๆ ในที่สุดก็มีคนมาช่วยฉันแล้ว”
“ช่วยด้วย ช่วยด้วย ช่วยด้วยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย. . .”
“โป๊กกก !!! O_O ” เสียงดังฟังชัด
“โอ้ยยยย . . . ? ? ? ”
ฉันค่อยๆ ลืมตา เริ่มตื่นจากภวังค์ความฝันอันน่ากลัว และแสนสะอิดสะเอียนของฉัน และภาพที่ปรากฎบนหน้าของฉันตอนนี้ โอ้พระเจ้าช่วยนางยักษ์ผีเสื้อสมุทร (จากเรื่องพระอภัยมณี) ฉันใช้มือทั้งสองข้างขยี้ตาตัวเอง ซึ่งแท้จริงแล้วนางยักษ์ผีเสื้อสมุทรกลายร่างเป็นแม่ของฉันเรียบร้อยแล้ว ตกลงฉันลูกคนหรือลูกยักษ์กันแน่วะเนี่ย
“โอ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย . . . ”
“หนูเจ็บนะ”
ฉันพูดพลางเอามือลูบๆ คลำๆ ส่วนที่โดนฝ่ามืออรหันต์ ของหญิงสาวที่ได้ชื่อว่าเป็นแม่บังเกิดเกล้า แต่อาจจะไม่ใช่ฝ่ามือแท้จริงอาจเป็นกำปั้น ช่างเถอะอะไรก็ไม่สนใจแล้วรู้เพียงว่าเจ็บเป็นบ้าเลยตอนนี้ รู้สึกว่า ดวงดาว ดวงเดือน ดวงตะวัน กำลัง โคจรรอบหัวฉันอยู่ แต่อะไรก็ไม่ทำให้รู้สึกอยากตายยิ่งกว่าประโยคนี้ของแม่
“ก็ลูกบอกให้แม่ช่วย แม่ก็ช่วยลูกแล้วไง”
โอ้พระผู้เป็นเจ้าถ้าแบบนี้เรียกว่าช่วย คดีทำร้ายร่างกายก็คงไม่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ ตอนนี้บอกได้คำเดียวว่า(อย่างตายยยย . . .)
“ถ้าแบบนี้นะช่วย ได้โปรดฆ่าหนูตายซะดีกว่า” แม่จะรู้สึกสะท้านสักนิดมั้ยนะกับคำประชดประแชกแดกดันของฉัน
“จะเรียกอะไรแม่ไม่สนใจ ถ้าไม่ทำแบบนี้เมื่อไหร่ลูกจะตื่นซะทีล่ะ”
ตอนนี้นางยักษ์ผีเสื้อสมุทรได้กลายมาเป็นปอบผีฟ้าที่กำลังหิวโซเรียบร้อยแล้ว และสายตาของแม่ก็ยังกับคุณยายวรนาฎ ที่ไม่ได้กินตับไตไส้พุงมาเป็นเวลาสิบชาติได้ สงสัยฉันต้องสืบทอดทายาทอสูรจากแม่ อุ้ยยย!!!! คิดแล้วสยอง
“ว่าแต่คุณยายวรนาฎมีอะไรให้ทาสผู้จงรักภักดีคนนี้รับใช้หรือคะ อิฉันจะยอมตายถวายชีวิตเจ้าค่ะ” ฉันยังคงประชดแม่ถึงแม้แม่กำลังจะฆ่าฉันอยู่ก็ตาม ฉันช่างกล้าหาญอะไรเยี่ยงนี้นะ
“อย่ามากวนประสาทแม่นะ !! แม่มีงานให้ลูกทำแน่ ไปตามพี่ชายแกกลับบ้านและลากมันกลับมาด้วย”
แม่พูดพร้อมกับวางแผนที่บนโต๊ะข้างๆ เตียงฉัน แถมทำหน้าจองเวรจองกรรมกับฉันอีก เวรกรรมอะไรของฉันเนี่ย ไอ้พี่บ้านั่นหายหน้าไปเป็นเดือนจนแม่ต้องจ้าง
นักสืบตามตัว เล-ว โค-ตร จริงๆไอ้พี่บ้า
“อ้อ! กลับมาก่อนแม่จะกลับมาจากที่ทำงานด้วย มิฉะนั้นค่าขนมแกลด 50% แน่”
“ปัง” แม่พูดจบก็เดินออกไป แถมปิดประตูซะดัง ทำไม่แม่ใจร้ายกับฉันนักนะ เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวอะไรกับฉันเลย แต่ประโยคหลังนี่สิมันช่างมีอิทธิพลอะไรกับฉันขนานนี้นะ ทำไมนะหน้าตาอันน่าร๊ากกกก.. ของฉันไม่ทำให้แม่อ่อนโยนกับฉันบ้างนะ
ไอ้พี่ปั้นก็อีกคน ถ้าเจอนะแกตายแน่ ฉันจะฆ่าแกแล้วสับแยกร่างส่งให้แม่ วันหยุดสุดสวรรค์ของฉ้านนะ . . . พระเจ้าใจร้าย
ความคิดเห็น