ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เนมฟาฮาร์ (The story of Namfahr)

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ ตำนานและปฐมบทแห่งสงคราม

    • อัปเดตล่าสุด 21 เม.ย. 49


         นานมาแล้วในดินแดนที่กว้างใหญ่นามว่า เนมฟาฮาร์ ที่ประกอบไปด้วยอาณาจักที่ยิ่งใหญ่ทั้ง 6 อันได้แก่ นาราเชีย โฟโรเนียร์ เฟอกัลดาส เฮเพซัส เมอคิวรัส นัสเฟอร์เนียร์

         ในช่วง 500 ปี หลังการก่อตั้งในยุคที่ผู้คนต่างพากันหวาดกลัว ต่ออำนาจของกองทัพแห่งความมืดที่นำโดยจอมปีศาจอัสดาร์ค ได้ก่อให้เกิดความเดือดร้อนและหายนะไปทั่วอาณาจักรทั้ง 6 และเพื่อหยุดการกระทำนี้พรายกลุ่มหนึ่งทำการสร้างอาวุธขึ้นมาอย่างลับๆภายในสถานที่ศักดิ์สิทธ์แห่งหนึ่ง โดยนำเอาอัญมณีจากอาณาจักรทั้ง 6 ผสานเข้ากับอาวุธศักดิ์สิทธ์และหนังสืออีกหนึ่งเล่ม ได้มีการคัดเลือกตัวแทนจากเหล่านักรบและผู้นำอาณาจักรต่างๆ เพื่อเป็นผู้นำกองทัพเข้าสู่สมรภูมิ

    …และในที่สุดวันนั้นก็มาถึง

         ครืนนนน…

          ในสนามรบที่โหมกระหน่ำไปด้วยหายฝน กองกำลังของฝ่ายที่เรียกตัวว่าแสงสว่างและความมืดมาประจันหน้ากัน เหล่านักรบและทหารของทั้งสองภายกระชับอาวุธที่อยู่ในมือเตรียมพร้อมจะพลีชีพหากผู้นำของตนสั่ง

         เปรี้ยงง…

          และเหมือนเป็นสัญญาณสายฟ้าฟาดลงมา กองทัพทั้งสองเขาโรมรันกันในทันที

         เหล่าตัวแทนทั้ง 6 ดึงอาวุธออกมาเข้าฟาดฟันกับเหล่าอสูรที่อยู่ตรงหน้า และด้วยความช่วยเหลือของทหารกลุ่มหนึ่งได้ช่วยเปิดทางให้ ไม่นานนักเวลาที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง เมื่อเหล่าผู้กล้าประจันหน้ากับจอมปีศาจ

        ชานอัศวินคนแรกผู้ใช้ดาบวิ่งตรงเข้าหาร่างของจอมปีศาจ แต่ก็เหมือนมีแรงบางอย่างต้านเขาออกมา

    อัศวินคนแรกผู้ใช้ดาบวิ่งตรงเข้าหาร่างของจอมปีศาจ แต่ก็เหมือนมีแรงบางอย่างต้านเขาออกมา

         ย้ากก…

         คราวนี้เขารวบรวมกำลังเขาสู้อีกโดยมีราซานนักดาบอีกคนเข้าช่วย แต่เหมือนกับพลังของดาบจะไม่ระคายผิวของจอมปีศาจเลยแม้แต่น้อย

         หลังจากอัสดาร์กที่อยู่นิ่งมานานก็เริ่มตอบโต้บ้าง เขาดึงดาบออกจากฝัก และตวัดมันไปยังร่างของอัศวินทั้งสอง เพียงเซียวอึดใจที่ร่างของชานและราซานบังเกิดรอยแผลขนาดใหญ่ขึ้น

        เชสสาวน้อยนักเวทของกลุ่มเมื่อเห็นดังนั้นก็ปราดเข้าไปช่วยทั้งสองคน โดยที่มีเซร่าซ์เอลฟ์หนุ่มรูปงามคอยยิ่งธนูคุมกันให้

    สาวน้อยนักเวทของกลุ่มเมื่อเห็นดังนั้นก็ปราดเข้าไปช่วยทั้งสองคน โดยที่มีเซร่าซ์เอลฟ์หนุ่มรูปงามคอยยิ่งธนูคุมกันให้

         “ข้าว่าท่าจะไม่ดีแน่ถ้าขืนยังยืดเยื้ออยู่อย่างนี้ รีบจบๆมันไปเลยดีกว่า” กิมม่าคนแคระพูด ซึ่งวิลผู้ถือหนังสือก็เห็นด้วย

        เมื่อทุกคนไม่เห็นทางที่จะเอาชนะได้โดยลำพังจึงรวมพลังทั้งหมดเข้าด้วยกัน

        เรียว ออฟ ไลฟ์

         ลำแสงสีขาวขนาดใหญ่พุ่งตรงไปที่ร่างของอัสดาร์ก ซึ่งใช้ดาบไนท์แมร์กันไว้

         ไม่นานนักดาบก็เริ่มที่จะร้าว ในขณะที่กำลังจะทำได้สำเร็จได้มีผู้ยื่นมือเข้าช่วยและพาอัสดาร์คหลบหนีไป แต่พลังที่พวกเขาทั้ง 6 ใช้ไปใช่จะสูญเปล่า เพราะมันได้ทำให้พวกเขาได้พลังเวทของอัสดาร์คมาส่วนหนึ่ง ทุกคนจึงพร้อมใจกันผนึกพลังทั้งหมดลงไปในศิลาเลือด

         สงครามที่ยาวนานก็ได้สิ้นสุดลง แต่หลังจากการต่อสู้ในครั้งนั้น อาวุธทั้ง 6 กลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย และมีหลายคนเชื่อกันว่า มันได้ถูกเก็บซ่อนไว้ในที่ๆเหล่าบริวารแห่งความมืดเข้าไม่ถึง

         ไม่นานนักมันก็ถูกลืมเลือนไปพร้อมกับการเวลา…

    _____________________________

    100 ปีหลังการเกิดมหาสงคราม….

         ข้าแต่ท่านเทพลูซิเฟอร์ผู้ยืนยง ด้วยฤทธาอำนาจแห่งท่าน โปรดประทานพลังหลุดสายลมที่พัดผ่าน หยุดสายน้ำที่เชี่ยวกาจ หยุดกาลเวลาที่เปลี่ยนผัน ดลบัลดาลให้เหล่าทวยเทพและสรรพสัตว์ต่างหลับไหล เปิดทางให้ข้าทำภารกิจของท่านด้วยเถิด

         สิ้นเสียง ทุกสิ่งทุกอย่างพลันหยุดนิ่งความมืดเริ่มคืบคลานเข้ามายังมหานครแห่งทวยเทพนาราเชีย โดยที่ไม่มีใครรู้ชายผู้หนึ่งได้เข้าไปยังหอคอยศักดิ์สิทธิ์

        เมื่อกาลเวลากลับมาเป็นปรกติศิลาเลือดที่ผนึกอำนาจของจอมปีศาจก็หายสาบสูญไป… หามีผู้ใดที่จะหยุดการคืนชีพของเขา อัสดาร์ค จอมปีศาจผู้ยิ่งใหญ่ได้ได้

         แต่ยังมีอีกหนทางหนึ่งนั้นก็ คือ ต้องตามหาอาวุธทั้ง 6 ให้เจอและนำมาต่อกรกับภัยพิบัติที่กำลังจะเกิด

         และนี่คือปฐมบทของสงครามที่กำลังก่อตัวขึ้น…

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×