คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : วันแรกของการย้ายบ้านและเรื่องลึกลับ
วันนี้เป็นวันแรกที่ฉันต้องย้ายบ้านมาอยู่ต่างจังหวัด ซึ่งมันเป็นจังหวะเดียวกับปิดเทอมพอดี
ฉันนั่งดีดกีต้าร์ตัวโปรด อยู่หลังบ้าน พร้อมๆ กับฝนที่ตกพรำๆ พูดแล้วก็บรรยากาศดีชะมัดเลย
“วันนี้แม้จะเป็นเพียงเพื่อนก็ไม่สำคัญ...” ฉันนั่งร้องเพลงนี้อยู่คนเดียว พ่อกับแม่ไม่อยู่บ้าน จริงๆ มันก็เหงาเหมือนกันนะ...
“นี่เธอ...” มีเสียงหนึ่งทักฉัน ฉันหันไปทางเสียงนั้นทันที
มีชายหนุ่มอายุน่าจะห่างฉันประมาณสองปี หน้าตาดี กำลังยิ้มให้ฉันอยู่ข้างรั้วบ้าน นี่ฉันจะมีเพื่อนบ้านหล่อขนาดนี้เลยเหรอเนี้ย...
“เธอเพิ่งย้ายบ้านมาใหม่ละสิ...” เสียงหล่อเป็นบ้าเลย...
ฉันพยักหน้ารับ...แต่เขาก็ยังยืนอยู่ที่เดิม อยู่ที่รั้วในเขตบ้านของเขา
“ฉันชื่อแซม อยู่ข้างๆ บ้านเธอนี่แหละ แล้วเธอล่ะ ชื่อรัย”
“ชื่อเรย์” ฉันตอบสั้นๆ
“ฉันเข้าไปได้มั้ย”
เอาไงดีล่ะ ไม่เคยรู้จักกันด้วยสิ แต่ดูๆ แล้ว เขาก็ไม่น่าจะมีอันตรายอะไรนะ คนเราดูที่หน้าตาได้ที่ไหนล่ะ ถ้าเกิดเขาปล้ำฉันขึ้นมาล่ะ...
“ไม่ไว้ใจหรอ...ฉันสัญญาว่าจะไม่ทำอะไรเกินเลย...นะ...นะ”
ก็ได้ เข้าก็เข้า...ฉันพยักหน้า...
แล้วไอ้คนที่ชื่อแซมก็ปีนรั้วเข้ามา ฉันเขยิบที่ให้เขานั่ง
“เธอเล่นกีต้าร์เป็นด้วยหรอ” ก็เห็นมั้ยล่ะ เล่นไม่เป็นละมั้ง
“อืมม์”
“เธอย้ายมาจากที่ไหนล่ะ”
“กรุงเทพ”
“นี่เธอไม่คิดจะพูดอะไรกับฉันเลยเหรอ”
“ก็ฉันไม่รู้จะพูดอะไรนี่”
เขายิ้มเล็กน้อย รอยยิ้มนั้นดูดีมากเลยนะ ถึงจะยิ้มแบบไม่เต็มที่แต่ฉันก็รู้ว่าเขายิ้มแบบเอ็นดูมากกว่า แล้วเขาก็ยิ้มอย่างเป็นมิตรด้วย
“ที่นี่มีที่เที่ยวเยอะเลยนะ ไว้ว่างๆ ฉันจะพาไปเที่ยว”
“จริงหรอ ฉันอยากไปจัง”
“แฮะๆ แล้วเธอย้ายโรงเรียนด้วยหรือเปล่า”
“อืมม์ ย้ายมาที่โรงเรียนบูริน บูริน”
“ว้า แย่จัง ฉันเรียนอยู่ที่โรงเรียนโปโป”
แล้วเราก็คุยกันหลายเรื่อง ฉันก็รู้รายละเอียดเกี่ยวกับแซมหลายเรื่องนะ แซมเรียนอยู่ม.5 อายุห่างฉันแค่ปีเดียว แล้วก็เป็นมือกีต้าร์ของโรงเรียนเลยแหละ คงจะเล่นเก่งมากๆ
เราคุยกันนานพอสมควรแล้วแซมก็ขอตัวกลับก่อน
“อืมม์ นี่ก็เย็นแล้ว ฉันกลับก่อนนะ ถ้ามีอะไรก็เรียกฉันได้”
“ขอบใจนะ”
ฉันรู้สึกว่ามีเพื่อนที่ดีกับฉันมากๆ คนนึงแล้วหละ แล้วก็...หล่อด้วย ขาวสูง โปร่ง รูปร่างดี หน้าตาดี คงจะต้องมีสาวๆ แห่กันมากรี๊ดบ้างหละ
ว่าแต่พ่อกับแม่ทำไมยังไม่กลับอีกนะ...
“กลับมาแล้วเรย์ พ่อซื้อขนมมาฝากด้วย”
ฉันวิ่งไปรับหน้าพ่อทันทีที่ได้ยินเสียงนี้ ที่วิ่งไปนี้ไม่ใช่อะไรหรอก วิ่งไปหาขนมมากกว่า อิๆๆๆ
“แล้วแม่ล่ะคะ”
“อยู่ในรถอ่ะ”
ฉันวิ่งไปหาแม่แล้วก็กอดแม่ทีนึง หอมแก้มทีนึง
“ไป เข้าบ้านเถอะลูก เดี๋ยวโดนน้ำค้างจะไม่สบายเอา”
ฉันเดิมตามอย่างว่าง่าย พอเข้าบ้านได้ฉันก็ทำการกินขนมที่พ่อซื้อมาฝากจนเกลี้ยง จริงๆ ฉันเป็นคนที่ตะกละมาก แต่กินเท่าไรก็ไม่อ้วน ไม่รู้ทำไม คงเป็นเพราะว่าคนมันจะหุ่นดีมั้ง
“รีมล่ะเรย์ ยังไม่กลับอีกหรอ”
“ค่ะ เห็นบอกว่าจะไปหาเพื่อนก่อนค่ะ”
พี่รีม เป็นพี่ชายของฉันเอง หน้าตาก็ดี แต่นิสัยเสีย ชอบแกล้งฉันอยู่บ่อยๆ อันที่จริง ฉันเป็นคนแกล้งพี่รีมมากกว่า อิๆๆ
“รู้จักเพื่อนบ้านมั้งหรือยังลูก”
“อ๋อ เอ่อ...รู้จักคนนึงแล้วค่ะ เค้าเป็นรุ่นพี่ เรย์ปีนึง อยู่บ้านหลังนี้” แล้วก็ชี้ไปที่บ้านแซม
“ดีแล้วลูก เราต้องมาอยู่ที่นี่ก็ควรรู้จักคนเยอะๆ”
ฉันยิ้มรับ
“พรุ่งนี้เปิดเทอมแล้วนี่ลูก เตรียมอะไรหรือยังล่ะ” แม่ผู้แสนดีของฉันถาม
“เรียบร้อยแล้วค่ะ”
เย็นวันนั้นเรานั่งกินข้าวพร้อมกันสามพ่อแม่ลูก โดยที่พี่รีมขอไปค้างบ้านเพื่อน พวกเราคุยกันหลายเรื่องเลยแหละ
เมื่อกินข้าวเสร็จ ฉันก็รีบเข้านอนทันที เพื่อที่พรุ่งนี้จะต้องไปเจอกับเพื่อนใหม่ที่โรงเรียนใหม่ เขาจะมีนิสัยอย่างไงกันนะ จะชิงดีชิงเด่นเหมือนในกรุงเทพหรือเปล่า
น่าเสียดายจังที่ไม่ได้เรียนอยู่ที่เดียวกับแซม มันเหมือนขาดเพื่อนไปคนนึง ทั้งๆ ที่เพิ่งจะรู้จักกันเมื่อวานนี้เอง
แต่ชั่งเหอะ นอนดีกว่า พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน
แล้วหนังตาของฉันก็เริ่มปิดลงๆ แต่ก็ต้องลืมขึ้นเพราะว่า เสียงไอ้หมาเจ้ากรรมมันเจือกหอน แล้วบ้านฉันก็อยู่ใกล้วัดซะด้วย
เสียงหมาหอนบวกกับลมพัดฉิวๆ จนผ้าม่านที่หน้าต่างห้องปลิวว่อน ลืมปิดหน้าต่างอีกแล้วหรอเนี่ย ฉันว่าฉันปิดแล้วนะ
เอาไงดี นอนไม่หลับแน่เลย หลับสิหลับ ฉันไม่กล้าหันไปมองที่หน้าต่างแล้วก็ข่มตาหลับไม่ลงด้วย อย่ามาเลยนะ ฮือๆๆๆ
ฉันพยายามข่มตาให้หลับจนถึงรุ่งเช้า มีเสียงนกร้องทักทายกัน ที่นี่เป็นธรรมชาติดีแฮะ เช้านี้รู้สึกง่วงจัง คงเป็นเพราะเมื่อคืนนี้นอนไม่หลับ
ฉันลุกขึ้นเก็บที่นอนแล้วก็เดินมาที่หน้าต่างเพื่อที่จะปิดมัน แต่...หน้าต่างมันปิดอยู่ ทำไมเมื่อคืนนี้ลมถึงพัดได้ล่ะ หรือว่า...
ไม่ๆๆๆๆๆ...ฉันพยายาม ไม่คิดเรื่องพวกนี้ แล้วลงมาอาบน้ำแต่งตัว
จริงๆ ฉันไม่ต้องตื่นเช้าก็ได้ เพราะที่นี่ รถไม่ติดเหมือนในกรุงเทพ แต่ฉันคงติดนิสัยตื่นเช้ามาแล้วหละ
ฉันแต่งตัวเสร็จแล้วเตรียมลงมากินข้าวเช้าไปโรงเรียน แต่ยังไม่ทันได้ลงมา แซมก็เรียกฉัน
“เรย์” ฉันเดินไปที่หน้าต่างแล้วเปิดม่านออก
“หวัดดี แซม”
“หลับสบายมั้ย เมื่อคืนนี้” จะให้ตอบอย่างไงอ่ะ แบบว่า...มัน...
“ก็สบายดีนะ”
แล้วฉันก็เดินลงมาข้างล่าง...
“ว่าไงลูก หลับสบายมั้ย เมื่อคืน” พ่อทักฉันเหมือนเคย
“ก็ดีค่ะ”
วันนี้ทำไมมีแต่คนถามอย่างงี้นะ จะบอกว่าเจอผี ก็ไม่ใช่ จะบอกว่ากลัวผีก็ไม่เชิง มีหวัง ที่บ้านฉันต้องว่าฉันว่าโรคจิตแหงๆ
“อ้าว ไอ้น้องรัก วันนี้แต่งตัวน่ารักดีแฮะ” ไอ้พี่รีมทักฉันอย่างกวนๆ แต่วันนี้ฉันคงไม่มีอารมณ์เล่นด้วยหรอกนะ ก็เมื่อคืนไม่ได้นอนทั้งคืน มีหวัง วันนี้ต้องนั่งหลับแหงๆ
ฉันนั่งลงกินข้าวเช้ากับครอบครัวสองสามคำ แล้วเผลอหลับไปแป๊บนึง
“เรย์ ไปกันเถอะ เดี๋ยวสาย”
ฉันสะดุ้งตื่นเล็กน้อย
“เป็นไรไปลูก นอนไม่หลับหรอเมื่อคืน”
“ค่ะ”
“เห็นทีลูกต้องไปกับพี่รีมนะ เพราะที่ทำงานพ่อกับแม่ไปคนละทางกับลูก”
“ค่ะพ่อ”
ฉันหันมามองที่ไอ้พี่จอมกวนแวบนึง พอเห็นมันกำลังแลบลิ้นใส่ฉัน ฉันก็รีบหันกลับ
พี่รีมเรียนอยู่ที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง ใกล้ๆ กับโรงเรียนฉัน ฉันกับพี่รีมขี่รถมอเตอร์ไซด์ไปโรงเรียนด้วยกัน โดยที่ฉันเป็นคนซ้อน
เราคงต้องมาอย่างงี้ทุกวันแหละนะ
พอมาถึงหน้าโรงเรียนฉัน
“ถ้าใครแกล้งก็โทรหาพี่ได้ตลอดนะ” พี่ชายที่แสนดีของฉัน
“ค่ะ พี่ชาย”
“เอาละ พี่ไปก่อนนะ ตอนเย็นมาคอยพี่ตรงนี้แล้วกัน”
ฉันเดินเข้าโรงเรียน พอลับตาแล้วพี่รีมก็ขับรถออกไป มีพี่ดีก็อย่างนี้แหละนะ เสียอย่างเดียวก็คือ ชอบชวนฉันทะเลาะนี่แหละ
ว่าแต่เราต้องเรียนห้องไหนล่ะเนี่ย...นั่นไงบอร์ดของโรงเรียน
ฉันเดินไปที่บอร์ด แล้วเริ่มดูตั้งแต่ชื่อแรกว่าฉันจะได้อยู่ห้องอะไร ฉันเป็นนักเรียนสายวิทย์นะ นั่นไงเจอแล้วอยู่ห้องสอง 4/2
แล้วมันอยู่ไหนล่ะ...โรงเรียนนี้มันก็ใหญ่เหมือนกันนะเนี่ย
ฉันเดินลัดเลาะมาตามตึกต่างๆ แล้วบังเอิญไปเห็นกลุ่มนักเรียนวัยรุ่น น่าจะอยู่ม.6 ยืนสุมๆ อยู่กันเป็นกลุ่ม เหมือนกับกำลังจะมุงดูอะไรบางอย่าง
“พี่คะ พอจะรู้มั้ยคะว่าห้อง4/2 มันอยู่ไหน”
ทั้งกลุ่มหันมามองที่ฉัน ให้ตายสิ กลุ่มนี้หน้าตาดีทุกคนเลย แต่...
“น้องครับ ว่างมากนักหรอ ไม่รู้หรือไงว่าพวกพี่เป็นใคร”
อะไรวะ เราถามเนี่ยผิดด้วยเหรอ...
“ไม่รู้หรอกค่ะ ว่าพวกพี่เป็นใครอ่ะ”
“ยัยนี่ท่าทางจะท้าทายเราว่ะ เฮ้ย...พวกเรา...จัดการ” ไอ้หน้าหล่อนี่เริ่มสั่งลูกน้องอันธพาล
เห็นทีเราต้องงัดคารเต้มาใช้ซะแล้ว
ฉันเริ่มจัดการไอ้พวกนี้อย่างคล่องแคล่ว แน่นอน ว่าพวกมันต้องเจ็บตัวแน่ ไอ้หัวหน้ามันคงเห็นท่าไม่ดีก็เลยสั่งลูกน้องถอยกลับ
พอพวกมันไปกันหมดแล้ว ฉันเห็นผู้ชายคนหนึ่งกำลังนอบซมอยู่ ท่าทางจะบาดเจ็บด้วย ดูๆ แล้วไม่น่าจะเป็นพวกนั้น แต่ถึงอย่างไร ฉันก็ยังไม่ไว้ใจอยู่ดี
ฉันเดินเข้าไปใกล้ๆ อย่างระมัดระวัง
เขาเงยหน้าขึ้น ใบหน้าของเขาตอนนี้มีแต่แผลฟกช้ำ เลือดกำเดาที่กำลังไหลเป็นทาง แล้วแผลที่ศีรษะด้วย ฉันรีบวิ่งเข้าไปช่วยเขาทันที
“อย่า...เดี๋ยวคุณจะเดือดร้อน” อะไร...ฉันมาช่วยนายนะ
“แต่คุณเจ็บอยู่นะ”
“ผมไม่เจ็บแล้ว คุณไปเถอะ”
“นี่คุณ ฉันไม่สนใจอะไรทั้งนั้นแหละนะ คุณเจ็บอยู่ เพราะฉะนั้น คุณต้องไปทำแผล”
ฉันประคองเขาลุกขึ้น สงสัยจะเป็นพวกกลุ่มอันธพาลพวกนั้นที่ทำร้ายเขา พวกนี้นี่เกิดมารกโลกจริงๆ เลย แต่ยังไงๆ ฉันก็ยังจำหน้าพวกมันได้แม่นทุกคน
ฉันพาเขาไปที่ห้องพยาบาลโดยเขาเป็นคนบอกทาง ฉันทำแผลให้เขาเสร็จ ดูๆ แล้ว เขาหน้าตาดีมากเลย เข้าขั้นว่าหล่อมากทีเดียว หน้าตาดีแบบว่าเป็นดาราได้เลยแหละ
“คุณไม่น่ามาช่วยผมเลย เดี๋ยวคุณจะเดือดร้อน”
“ทำไมล่ะ เดือดร้อนเรื่องอะไร”
“พวกนั้น...”
“พวกนั้นทำไม”
“เอ่อ...เขาเป็นพวกนักเลงประจำโรงเรียนเลย เขาสั่งไว้ว่าถ้าใครเป็นเพื่อนกับผมหรือมาช่วยผม เขาจะจัดการให้เรียบ”
“ฉันไม่กลัวหรอก”
“แต่คุณต้องระวังตัวไว้นะ”
“อืมม์” ฉันยิ้มรับ
“คุณคงจะเป็นนักเรียนใหม่ละสิ ผมถึงไม่เคยเห็นหน้า”
“ใช่ ฉันอยู่ห้อง 4/2 แต่หาห้องไม่เจออ่ะ”
“เดี๋ยวผมไปส่งนะ”
ฉันกับเขาเดินมาด้วยกัน ระหว่างทางก็คุยกันหลายเรื่อง
“ผมชื่อเต๋าแล้วคุณล่ะ”
“ชื่อเรย์...เราเป็นเพื่อนกันนะ”
“อย่าเลย ผมไม่อยากให้คุณเดือดร้อน”
“ทำไมล่ะ นายไม่อยากเป็นเพื่อนกับฉันหรอ”
“เปล่าครับ เอ่อ...”
“เอาเป็นว่าฉันเป็นเพื่อนกับนาย”
เต๋ายิ้มรับอย่างยินดี เขาเดินมาส่งฉันที่ห้องแล้วเดินกลับไป
ฉันเดินเข้าห้องอย่างเรียบๆ ทำไมมีแต่คนมองฉันอย่างงั้นล่ะ คงเป็นเพราะฉันเป็นเด็กใหม่ละมั้ง...
“เธอคงเป็นเด็กใหม่ละสินะ”เด็กผู้หญิงคนหนึ่งทักฉันอย่างเป็นมิตร
“อืมม์”
“เธอชื่ออะไรหรอ ฉันชื่อเปิ้ลนะ”
“ฉันชื่อเรย์”
แล้วเราก็คุยกันหลายเรื่อง เท่าที่รู้มานะ เปิ้ลเป็นคนที่น่าคบมากทีเดียว นิสัยดีชอบช่วยเหลือเพื่อน แล้วก็เป็นคนที่รักเพื่อนมากด้วย
“ว่าแต่เมื่อกี้ เธอเดินคุยกับใครมาหรอ”
“ก็...เต๋าน่ะ เพิ่งรู้จักกันเมื่อกี้นี้เอง เค้าบาดเจ็บก็เลยพาเค้าไปห้องพยาบาลแล้วก็ทำแผลให้”
“แต่ฉันเห็นเธอเดินคุยคนเดียวมาตลอดทางเลยนะ”
“ฉันเนี่ยนะ...”
“ใช่ ฉันเห็นตั้งแต่ที่เธอเดินเหมือนจะพยุงใครสักคนไปที่ไหนสักแห่งแล้ว แต่ฉันไม่คิดว่าจะเป็นเธอ”
เอาแล้วสิ...มันอะไรกัน นี่เธอจะบอกว่าฉันเจอผีงั้นหรอ ไม่ใช่หรอกมั้ง ฉันจะคุยกับผีได้ไงล่ะ แล้วฉันจะเห็นผีได้ไง ไม่ๆๆๆๆ...
“ว่าแต่...เธอเดินมากับใครกันแน่ล่ะ” เปิ้ลยังคงถามฉันต่อ
“ฉันเดินมากับคนที่ชื่อเต๋าจริงๆ นะ”
“เต๋าหรอ...”
“เราลงไปข้างล่างกันเถอะ”
ฉันตัดบทก่อนที่เปิ้ลจะเซ้าซี้ฉันไปมากกว่านี้... เปิ้ลเดินตามฉันมาอย่างว่าง่าย เราเดินมาที่โต๊ะตัวหนึ่งที่อยู่บริเวณสนามหญ้า
ฉันไม่อยากจะคิดเลยว่า เปิ้ลจะไม่เห็นเต๋า หรือเปิ้ลจะอำฉันเล่นนะ แต่ดูๆ แล้วสีหน้าเปิ้ลดูจริงจังมากเลย
แต่คนทั้งคนจะมองไม่เห็นเลยหรือ...
“เธอย้ายมาจากโรงเรียนอะไรหรอ”
“โรงเรียนโปเรโปเลอ่ะ”
“เธอเป็นอะไรหรือเปล่า หน้าซีดจัง”
“อ๋อ ฉันไม่ค่อยสบายอ่ะ ไม่เป็นไรหรอก”
แล้วเราก็มานั่งเล่นที่โต๊ะตัวนี้จนถึงเวลาเข้าแถว ตอนเข้าแถวฉันพยายามมองหาเต๋า แต่ก็ไม่เจอ แม้จะเดินไปหาที่แถวแล้ว ก็ยังหาไม่เจอ รวมทั้งไอ้พวกอันธพาลพวกนั้นด้วย
หรือว่าพวกมันจะเล่นงานเต๋านะ...
ความคิดเห็น