คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : เริ่มเรื่อง
รักสุดเสียว กับนายเฮี้ยวสุดซ่า
“ปี้นๆๆๆๆ”
เสียงแตรรถที่ดังมาเป็นระยะๆ มีคนมากมายบนท้องถนน ฉันก็เป็นคนหนึ่งในนั้น ฉันกำลังเดินอย่างหมดเรี่ยวแรง หมดความหวังแต่แล้ว ก็มีบางสิ่งที่ทำให้ฉันสะดุ้งขึ้น
“ ปิ้นๆๆ ระวัง ระวัง หลบไปหลบไป เฮ๊ย!”
“ว้าย” ปึ่ง ครอก ครอก ครอก ร่างของฉันกระเด็นไปไกลเกือบสิบไมล์ ฉันเหมือนไร้ความรุ้สึก ไม่มีแรงที่จะลุก ขึ้นมาแม้แต่ยันแขนกับพื้นก็ไม่มี ฉันพยายามตะเกียกตะกายเพื่อที่จะลุกจากพื้น แต่ไม่ทันไรก็มีมือมือหนึ่งยื่นเพื่อที่จะมาช่วยฉัน
“ยื่นมือมาสิ ฉันจะช่วย “ฉันมองตามเสียง ชายแปลกหน้าสวมหมวกกันน๊อค มือข้างที่เขายื่นให้ฉันที่นิ้ว เขาสวมแหวนรูปพระจันทร์เสี้ยว ฉันไม่มีแม้แรงที่จะยื่นมือให้เขา ทันใดนั้นเขาก็นั่งลงอุ้มฉันพร้อมกระซิบที่ข้างหูฉันว่า “ผมเป็นผู้พิทักษ์ของ”ฉันไม่ทันได้มองหน้าเขาให้ชัด ก็เหมือนมีอะไรที่นิ่มๆเบากดทับลงที่ปากเบา ทันใดนั้นฉันก็รู้สึกว่าร่างกายของฉันเบาหวิว จนไม่มีแรงใดมาดึงดูดไว้ เหมือนตัวฉันไม่มีแรงโน้มดึงดูดไว้เลย โอ้ย! ฉันเป็นอะไรไปแล้วหรือเนี่ย
.....................................................................
“โย โย ตื่นได้แล้วลูก นอนฝันหวานอยู่ได้ วันนี้ลูกต้องย้ายไปเรียนโรงเรียนโรงเรียนในเมืองนะ”
“หรอคะแม่ หนูลืมไปเลย ขอเวลาครึ่งชั่วโมงเดี๋ยวหนูตามลงไปคะ”
“จ๊ะ เดี๋ยวตามลงไปเลยนะ”
“คะ คะ เดี๋ยวตามลงไป”
ฉันลืมไปเลยว่าวันนี้ฉันต้องย้ายไปเรียนโรงเรียนในเมือง เพราะพ่อกับแม่บอกว่าต้องย้ายไปทำงานต่างประเทศสักพักหนึ่ง เพราะธุรกิจที่พ่อกำลังทำไปได้สวยทำให้ต้องไปขยายสาขาไปต่างประเทศ จึงทำให้พวกเราต้องย้ายไปอยู่กับป้าในตัวเมือง พ่อกลัวว่าฉันและพี่จะลำบาก จึงจะนำฉันกับพี่ไปฝากไว้กับป้าก่อน แล้ววันนี้เราต้องย้ายไปอยู่กับป้ากัน
ฉันรีบอาบน้ำแต่งตัวให้สวยเช้ง รีบเอาข้าวของที่เตรียมไว้ลงไปข้างล่างเพราะกลัวพ่อรอนาน
“ลงมาแล้วหรอ ปะไปกัน “พ่อพูดพร้อมกับเดินมาช่วยฉันถือข้าวของสัมภาระเพื่อไปเก็บในรถ
“แล้วพี่ยิมละคะ” ฉันถามพ่อเพราะฉันยังไม่เห็นหน้าของพี่ชายสุดหล่อตัวดีของฉันตั้งแต่ฉันเดินลงมา
“มารออยู่ในรถนานแล้วล่ะลูก “
“ฮะ จริงหรอคะ” ฉันรีบวิ่งไปดูที่รถปรากฏว่าพ่อพูดเรื่องจริง ฉันไม่อยากจะเชื่อ ไหนพี่บอกว่าไม่อยากไปแล้ว แต่แล้วไหงมานั่งรอก่อนฉันอีก
“มาแล้วหรอน้องสาวสุดที่รักของพี่ ให้พี่รอนานเลยนะ”
“ไหนพี่บอกไม่อยากไปแล้วทำไมมานั่งรอฉันก่อนฉันละ”
“เออพอดีเพื่อนพี่เขาบอกว่า ที่นู้นมีผู้หญิงสวยๆแต่งตัวเปรี้ยวๆเต็มหมดเลยพี่ก็เลยตอบตกลงพ่อไป”
“ที่แท้ก็แค่เรื่องผู้หญิง ทำให้พี่ตอบตกลงทันทีเลยนะ”
“เออ คงงั้นแหละ”
ฉันสนทนากับพี่สักพัก พ่อก็ออกมาและเราก็พร้อมที่จะเดินทางกัน ฉันร่ำลาแม่ ไม่นานพ่อก็ขับรถออกมาจากบ้าน ฉันหันหลังมองกลับไปที่ประตูรั้วบ้าน แม่เฝ้าอยู่ ฉันมองจนลับสายตาพร้อมกับน้ำตาที่รินไหลเมื่อจากแม่ไป เพราะฉันไม่เคยจากแม่ไปนานขนาดนี้ และไม่รู้ว่าเมื่อไหร่พวกเราจะได้พบกันอีก ฉันเผลอหลับไป
“ ปิ้นๆๆ ระวัง ระวัง หลบไปหลบไป เฮ๊ย!”
“ว้าย” ปึ่ง
“ช่วยด้วย ช่วยด้วย ช่วยด้วย”
“โย โย วาโย”
“คะ อะไรคะ” ฉันเหงื่อแตกพลั่ก มองไปที่พี่ที่กำลังจะตีฉัน พร้อมกับตั้งคำถาม
“เป็นไรหรือเปล่าลูก”พ่อถามพร้อมกับหยุดรถรอสัญญาณไฟ
“คงฝันร้ายตามเคยละครับ น้องคนนี้ไปไหนไม่ได้ทุกทีเลย เวลาฝันทำให้คนอื่นตกใจอยู่เรื่อย”
ฉันไม่ตอบอะไรเอาแต่นั่งนิ่งคิดถึงเรื่องที่ฝันเมื่อคืน ไม่มีอะไรทำให้ฉันจำได้ดีเท่าเรื่องแหวนรูปพระจันทร์เสี้ยวนี่อีกแล้ว นี่ไม่ใช่ฝันครั้งแรกแต่มันเป็นครั้งที่สอง และครั้งที่สองของวันนี้ด้วย นายคือใครกัน นายบอกว่าเป็นผู้พิทักษ์ของฉัน นายเป็นใครกันแน่ นายแหวนรูปพระจันทร์เสี้ยว
...........................................................................................
พ่อขับรถมาถึงทางเลี้ยวเข้าซอยบ้านของป้า ซอยนี้มีแต่บ้านหลังใหญ่ จะไม่ให้ใหญ่ได้ไงก็เป็นบ้านของพวกเศรษฐีมีตังค์รวมทั้งป้าของฉัน พ่อขับรถมาจอดหน้าบ้านหลังใหญ่หลังหนึ่งซึ่งใหญ่ไม่แพ้บ้านอื่น พ่อขับรถเลี้ยวเข้าไป จนถึงหน้าประตูบ้าน
“คุณยุทธมาแล้วคะ คุณหนู”เสียงสาวรับใช้ร้องเรียกเจ้าของบ้านให้ออกมาดู
“น้ายุทธมาแล้วหรอครับพี่แจ่ม”เสียงชายคนหนึ่งดังขึ้น พร้อมกับวิ่งออกมาหน้าบ้าน
ฉันลืมบอกไปป้าของฉันมีลูกสองคนคือพี่พริม และพลับ พี่พริมแก่กว่าฉันสามปี ส่วนนายพลับนี่อายุเท่าฉันแต่นายนั่นแก่กว่าฉันสามวัน เลยเรียกฉันว่าน้องเลย
“สวัสดีครับลุง โยอยู่ไหนครับอยากเจอจังไม่เจอตั้งนาน สวยขึ้นหรือเปล่าครับ”
“อยากรู้ก็ไปดูหลังรถสิกำลังเอากระเป๋าลงอยู่”
“ครับๆ ขอบคุณ”
นายพลับรีบวิ่งมาหาฉันและสวมกอดด้วยความดีใจ
“เอ๊ยๆปล่อย หายใจไม่ออก “
“ไม่ปล่อย ไม่ปล่อยจะกอดไว้อย่างนี้แหละไม่ได้แจอกันตั้งนาน”
“ฉันโตเป็นสาว นายก็เป็นหนุ่มละนะ จะมากอดกันอย่างนี้ได้ไง มันจะไม่ดี”
“เออ ปล่อยก็ได้ กอดแค่นี้ทำเป็นหวงตัว งอนละนะ” นายพลับทำหน้างอนใส่ฉัน ทำให้ฉันต้องรีบง้อโดยเร็ว
“ก็นายโตเป็นเป็นหนุ่มหล่อ ซะขนนี้หญิงสาวอย่างฉันจะตั้งตัวทันได้ไง จริมั้ย”
“เออๆ ไม่งอนก็ได้ เพราะโยชมว่าผมหล่อนะ”นายพลับทำหน้ากวนๆใส่ฉัน
“เล่นเป็นเด็กกันอยู่ได้ โตเป็นหนุ่มหล่อสาวสวยกันอยู่แล้ว ทำตัวเป็นเด็กกันอยู่ได้ ดูซิพี่หล่อเฟี้ยวาดเนี้ยยังไม่ทำเหมือนเธอสองคนเลย”ฉันกับพลับหันไปมองหน้าพี่ยิมพร้อมกับทำท่าอาเจียร เพราะว่าไม่เคยเห็นพี่ใครเลยชมตัวเองได้มากซะขนาดนี้
“เอาของไปเก็บกันได้แล้ว พ่อต้องรีบกลับ”
“มะ เดี๋ยวพี่แจ่มพาไปห้องของคุณทั้งสองนะคะ”
“ ครับ “ “ คะ “ ฉันกับพี่เอ่ยพร้อมกัน
พวกเรารีบนำข้าวของขึ้นไปบนห้องของฉันตรงข้ามกับห้องของพี่และห้องของฉันยังติดกับห้องของพลับด้วย
เมื่อเก็บข้าวของแล้วพ่อต้องรีบขอตัวกลับก่อน เพราะว่ามีโทรศัพท์จากแม่โทรมาบอกว่าพ่อกับแม่ต้องรีบไปต่างประเทศก่อนกำหนด
“พ่อไปก่อนนะลูก”
“ครับ “ คะ”ฉันและพี่ตอบเสียงเศร้า.
“ดูแลน้องด้วยนะยิม แ ละโยก็ดูและพี่ด้วย อย่าให้พี่หนีบหญิงกลับบ้านนะ”
“โห พ่อไม่ต้องพูดซะขนาดนั้นก็ได้ เดี๋ยวผมดูแลน้องเอง”
“คะ หนูจะดูแลพี่ให้ดี ไม่ให้มีใครติดมือมาแน่นอน”
“ผมก็จะช่วยดูแลน้องด้วยครับคุณน้า เพราะเราต้องอยู่ห้องเดียวกันแน่ๆ”
“นายพลับ นายแก่กว่าแค่สามวันไม่ต้องมาเรียกฉันว่าน้องเลยนะ” ฉันทำเป็นงอนแล้วเดินหนี แต่เปลือกกล้วยเจ้ากรรมนี่สิทำให้ฉันลื่นล้มไม่เป็นท่าซะนี่ ทั้งคุณพ่อ พี่ และพลับต่างหัวเราะฉันกันยกใหญ่แถมนายพลับยังพูดซ้ำเติมอีกว่า “อย่างนี้นี่สิที่ทำให้ผมต้องเป็นพี่ของโยอ่ะ” ฮ้าฮ้า ฮ้า
..........................................................
คืนนั้น
“อะไรนะครับ แม่จะเลื่อนวันกลับมางั้นหรอ หรอครับ ครับ ครับ “
“อ๋อ มาแล้วครับ ครับ แค่นี้นะครับ”
นายพลับคุยโทรศัพท์กับคุณป้าเยาวมาล หรือที่ฉันเรียกสั้นๆว่าป้าเยา นายพลับบอกกับพวกเราว่าป้าเยายังติดธุระอยู่และจะเลื่อนวันกลับมาออกไปอีก7วัน
“เราไปเที่ยวกันมั้ย”นายพลับชวนพวกเราไปเที่ยว
“พี่ขอตัวนะ วันนี้พี่เหนื่อยมาก”ยิมทำท่าปวดเมื่อย
“ไปกับผมเถอะผมไม่มีเพื่อนไปด้วยจริงๆ”
“เออ งั้นไปชวนยายโยซิยายนั่นไปแน่นอน”
“ครับ ครับ “พลับตอบยิมไป
ฉันกำลังเดินออกมาจากห้องน้ำ
“ก๊อก ก๊อก ก๊อก โย อยู่หรือเปล่า”พลับเรียกฉัน
“ไม่อยู่มั้ง ทำไมฮะนายพลับ”
“ไม่อยู่ งั้นเข้าไปหาละนะ”
“เฮ้ยอย่าพึ่งเข้ามานะ”ฉันรีบวิ่งไปที่ประตู เพราะฉันลืมล็อคกลอน
“ผมจะนับถึงสามนะ “
1 2 3
“จ๊ะเอ๋ น้องสาว”
“ว๊าย”ฉันลื่นล้มไม่เป็นท่าก่อนที่นายพลับจะเปิดประตูเข้ามา ผ้าเช็ดตัวที่ใส่มันก็สั้นมากแถมดันไปเกี่ยวเข้ากับโต๊ะอีก ตอนนี้ฉันไม่เหลืออะไรสักชิ้นที่ปกปิดร่างกาย
“ว้าว โหน้องสาวสุดยอดเลย”อิอิอิ
“ออกไปเลยนะนายพลับ เร็ว” ฉันเอามือมาปิดสิ่งที่ไม่ควรให้นายพลับเห็น
“ออกไปก็ได้แต่ขอบอกว่าสุดยอด” นายพลับหันหลังออกไป ฉันรีบคว้าผ้าเช็ดตัวมาและรีบใส่เสื้อผ้า โดยคราวนี้ฉันไม่ลืมที่จะล็อคกลอนห้องไว้ ไม่นานฉันก็แต่งตัวเสร็จ
“มีอะไรอีกนายพลับ” ฉันถามพลับ ด้วยความอารมณ์เสีย
“ไม่มีอะไรหรอก แค่อยากชวนโยไปเที่ยว ไปเที่ยวด้วยกันนะ”นายพลับตอบด้วยสีหน้าเศร้า
“ก็ได้ แล้วจะพาไปไหน”ฉันถามด้วยความอยากรู้ว่าที่ที่ฉันกับพลับจะไปอยู่ที่ไหน
“ไม่รู้สิ แล้วโยอยากไปไหนล่ะ”
“งั้นเราไปเที่ยวตลาดนัดกันมั้ย”ฉันแกล้งนายโย เพราะรู้ว่ายังไงนายโยก็ไม่มีวันไปเด็ดขาด
“ไปก็ไป งั้นไปใกล้นี่แหละอยู่ติดท่าเรือมีของถูกหลายอย่างเลย” ฉันไม่เชื่อว่าหูของตัวเองฟังผิดหรือเปล่า เพราะดูแล้วนายพลับออกจะไฮโซ ไม่นึกว่าเคยไปตลาดนัดกับเขาด้วย
“งั้นขอเวลา5นาที เพื่อแต่งตัวนะ”
“ได้ครับ” สิ้นสุดคำสนทนาฉันก็รีบเข้าไปในห้องเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า ฉันหยิบเสื้อตามแฟชั่นข้างในสีขาวข้างนอกสีส้มแขนกุด พร้อมกับกระโปรงยีนส์สั้นเหนือเข่ามาใส่ พอแต่งตัวเสร็จแล้วฉันก็ไม่ลืมที่จะมัดผมด้วยโบว์สีแดง สีโปรดของฉัน ฉันไม่รู้ว่าชอบตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ฉันรู้ว่าฉันชอบสีนี้มากๆ
“เสร็จหรือยังเล่าโย นี้มันเลยมา 1 นาทีแล้วนะ”พลับบ่นอุบอยู่หน้าห้อง
“เสร็จแล้วจ้าพี่พลับ กำลังจะออกไป”เป็นครั้งแรกที่ฉันรียกนายพลับว่าพี่ เพราะทุกครั้งจะเรียกว่านายพลับแต่ครั้งนี้ไม่รู้ว่าหลุดปากไปได้ยังไงกับคำว่าพี่ ฉันยังงงกับตัวเองเหมือนกัน
เมื่อออกมาจากห้องฉันไม่เห็นนายพลับอยู่หน้าห้องแล้ว ฉันงงงงเหมือนกันเมื่อกี้ยังบ่นอยู่หน้าห้อง ไหนบอกว่าจะรีบไป แล้วหายไปไหนแล้วเร็วจัง หรือว่าจะแกล้งเราหรอ อาจจะไม่ใช่ก็ได้ หรือเพราะคำว่าพี่ที่ฉันเรียกไปเมื่อกี้ทำให้นายนั่นอายม้วน จนต้องหนีไปเลยหรอ
“น้าแจ่มคะเห็น นายพลับหรือเปล่าคะ ชวนหนูว่าจะไปเที่ยว แล้วไปไหนไม่รู้”ฉันถามน้าแจ่ม
“เมื่อกี้น้าเห็นคุณหนูวิ่งหน้าแดงลงมาจากห้อง ไม่ใช่สิทางห้องหนูโยไม่ใช่หรอจ๊ะ”
“ก็ใช่สิคะ แต่นายพลับหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้คะ”
“มานั่นแล้วไงคะหนูโย”น้าแจ่มชี้มือไปทางประตูหน้าบ้าน ฉันหันไปเห็นนายพลับขับรถมารับฉันหน้าบ้าน
“น่ารักจังเลยโย ถ้าไม่ติดที่เป็นญาติกันฉันเอาเธอเป็นแฟนแล้ว จริงมั้ยครับน้าแจ่ม”นายพลับชมฉัน
“คะวันนี้หนูโยสวยมากจริงๆ เหมือนแม่หนูตอนสาวๆเลยคะ”ฉันเขินเมื่อน้าแจ่มเสริมกับนายพลับ ฉันไม่พูดอะไรเพราะฉันเขินมากที่มีคนชมว่าฉันสวย เฮ้อฉันกำลังจะสวยแล้ว
“โย โย”นายพลับเรียกฉันด้วยเสียงดัง
“ ฮ....ฮะ “ฉันกำลังดีใจกับคำชม
“มาเร็วเดี๋ยวจะช้ากว่านี้ “
“จ้า”ฉันตอบด้วยเสียงกวนๆ และรีบวิ่งไปขึ้นรถเก๋งสีแดงที่จอดอยู่ตรงหน้า
.............................................................................
ในรถ
“ฉันขอโทษด้วยนะกับเรื่องเมื่อกี้”นายพลับพูดหน้าเศร้า และน้ำเสียงที่เศร้า
“ไม่เป็นไร ฉันไม่โกรธนายหรอก ฉันรู้ว่ามันเป็นอุบัติเหตุ อย่าซีเรียสนะ”ฉันพูดปลอบใจนายพลับที่กำลังเศร้า
“จริงหรอ ขอบใจนะ”นายพลับตอบด้วยน้ำเสียงที่ดีขึ้น และหยุดรถกึก
“ขอบใจนะ” นายพลับพูดและกอดฉันไว้ที่อกอันแน่นและบอกว่าขอบใจตลอดเวลาที่กอด
“พอได้แล้วฉันหายใจไม่ออกนะ”ฉันเอามือทุบที่อกและผลักออกไป
“งั้นวันนี้เป็นแฟนฉันวันนึงนะเพราะว่าโยสวยมาก”นายพลับพูดอย่างมีเล่ห์เหลี่ยม
“แต่เราเป็นญาติกันนะ ไม่ได้หรอก”
“ได้ก็เธอยังเรียกฉันว่าพี่ได้เลย”
“เหตุผลไม่พอ”
“และอีกอย่างวันนี้โยก็สวยมากด้วยฉันเห็นยังอึ้งในความสวยเลย”
“ได้เลยคะ ได้เลยคะ”ฉันไม่รีรอตอบตกลงทันที
“ขอบใจมากนะ ที่ยอมตกลง แต่เธอต้องเรียกฉันว่าพี่ตลอดเลยนะเข้าใจมั้ย”
“เข้าใจคะคุณพี่พลับ น้องโยจะทำตามที่คุณพี่พลับสั่งทุกอย่างเลยคะ”ฉันกลั้นใจพูด เพราะรับปากเขาไว้แล้วนี่
“สอนง่ายดีนะครับพูดปุ๊บรู้ปั๊บเหมือนอะไรนะ”นายพลับทำท่ากวนๆใส่ฉัน
“พูดดีนะคะคุณพี่ ไม่งั้นโดนแน่ๆ แก่กว่าแค่สามวันทำเป็นให้เรียกพี่ เดี๋ยวปั้ด”ฉันตอบกลับโดยไม่ลังเล
ไม่นานเราสองคนก็มาถึงตลาดนัด ตลาดนัดนี้ใหญ่มาก และมีคนเยอะมากด้วย ฉันไม่เคยเห็นตลาดนัดที่ใหญ่ขนาดนี้มาก่อนเลย รถก็จอบเต็มไปหมดจนต้องวนที่ลานจอดรถหลายรอบกว่าจะหาที่จอดเจอ ถ้าไม่รู้ฉันคงคิดว่าเขามาชุมนุมประท้วงกันแน่
“ลงได้แล้วครับน้องโยคนสวย ของพี่พลับครับ”นายพลับเรียนฉันให้ลงจากรถ
“คะพี่พลับ เดี๋ยวน้องโยลงทางนี้นะคะ”ฉันตอบตามที่นายพลับสั่งฉันไว้
“ระวังด้วยนะครับ ยิ่งซุ่มซ่ามอยู่เดี๋ยวรถชนน้องสาวเอ๊ยแฟนสาวคนสวยของพี่พลับละ พี่ตายแน่”
“คะ จะระวังความปลอดภัย”ฉันตอบกลับ
พวกเราสองคนเมื่อเดินลงมาจากลานจอดรถแล้วก็เดินไปที่ตลาดนัดทันที ที่ตลาดนี้มีของขายเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นของกินของใช้ เสื้อผ้าก็มีเต็มไปหมด ไม่ใช่แค่มีของเยอะอย่างเดียวแต่ที่สำคัญมีราคาที่ถูกมาก ก็มันอยู่ติดท่าเรือนี่ ถ้าไม่ถูกก็บ้าแล้ว ฉันนี่คิดตื้นๆไปได้ ฉันกับนายพลับเดินชื้อของไปเรื่อยๆ ก็เจอวัยรุ่นหญิงกลุ่มหนึ่งที่กำลังเข้ามาทักพวกเราสองคน เมื่อพวกเธอใกล้เข้ามาเรื่อยๆนายพลับเลยบอกฉันว่า ให้ฉันทำตัวเป็นแฟนของนายพลับ เพราะที่พาฉันมาเพื่อที่แก้แค้นแฟนเก่าที่ทิ้งนายพลับไปด้วยเหตุผลที่ว่า”เธอดีเกินไป”แต่ความเป็นจริงแล้วเธอกลับไปคบผู้ชายอีกคน ซึ่งทำให้นายพลับเจ็บใจมาก ฉันพิจารณาวัยรุ่นหญิงทั้งสามพบว่าคนที่อยู่ตรงกลางสวยที่สุด (แต่สวยสู้ฉันไม่ได้หรอก อิอิ ชมตัวเองมากไปป่าว) และคนนั้นนั่นเองที่นายพลับบอกว่าชื่ออิงค์เป็นแฟนเก่านายพลับส่วนอีกสองคนคือ เฟิร์นและมิ้มลูกไล่ของอิงค์ ที่ตามอิงค์เพราะว่าเห็นแก่เงินของอิงค์ที่มีให้เธอสองคนใช้และเชิดหน้าชูตาเธอสองคน
“หวัดดี ไม่เจอกันนานสบายดีหรอ มากับคนใหม่นี่ สวยไม่เบาเลยนะ”ยายอิงค์นี่เสียวแสบแก้วหูชะมัดยาดเลยยังกับเป็ดโดนเชือด หน้าตาก็สวยแต่พอฟังเสียงแล้วไม่รู้ว่านายพลับคบเข้าไปได้ยังไง
“หวัดดี เราเห็นเธอก็ควงกับคนใหม่เหมือนกันนี่ คนใหม่ก็รวยไม่ใช่หรอ คงพอใจละสิ”นายพลับตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา แต่ทำให้ฉันสะใจกับคำพูดของเขามาก
“เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลยนะ นิสัยหยิ่งๆเนี่ยไม่รู้ยายนี่คบไปได้ยังไง”ยายอิงค์ตอบกลับ
“ก็ยังมีน้อยกว่าแฟนใหม่เธอไม่ใช่หรอ ได้ยินข่าวว่าแฟนเธอเอาเธอไปแลกกับศักดิ์ศรีของเขาเลยไม่ใช่หรอ คงสนุกสินะมีผู้ชายหลายคนมามุง เสร็จพวกนั้นหมดแล้วใช่มั้ยละ”นายพลับก็ใช่ย่อย เรื่องการเอาคืน พอพูดจบยายอิงค์ก็ทำท่าเหมือนคนเป็นบ้าแต่ยายเฟิร์นกับมิ้มมาห้ามไว้ก่อน แล้วสามคนนั้นก็หายไปกับฝูงชนนับร้อย ฉันค่อยโล่งอกที่แม่สามคนนั่นไปก่อนไม่งั้นนายพลับคงมีเรื่องกับผู้หญิงแน่ ฉันกลันนายพลับก็เดินต่อไปกันเรื่อยเห็นว่าเขามุงดูอะไรกันอยู่ก็เข้าไปดูกันใกล้
“นายรู้จักเขาด้วยหรอ”
“ไม่รู้จักได้ไง นายนี่อะนะทั้งเก่งทั้งเท่ห์ สาวๆถึงได้กรี๊ดอยู่นี่ไง”
“หรอแล้วเค้าชื่ออะไรอ่ะ น่ารักจัง”
“นายนี่ชื่อนายมิว ทำไมตาเป็นประกายเชียวนะหล่อกว่าพลับหรอ”นายพลับทำท่าน้อยใจ
“ก็น่ารัก แต่น้อยกว่านอดหน่อยอะนะ”ฉันพูดไปทั้งๆที่ใจจริงอยากบอกว่าเขาหล่อกว่านายอีกนี่ถ้าไม่ติดสัญญานะ พูดความจริงไปนานแล้ว
“เออ พูดอย่างนี้ดีหน่อย ค่อยไปด้วยกันได้ แต่นายนี่เก่งมากเลยนะประกวดหนุ่มหล่อได้ตั้งที่หนึ่ง ฉันยังเป็นรองความหล่อของนายนี่เลย แต่ขอบใจนะที่โยชมว่าผมหล่อกว่า ค่อยมีกำลังใจมากขึ้น”
“ไม่เป็นไร”ฉันตอบแบบหลบสายตากลัวนายพลับจะรู้ความจริง
พิธีกรกล่าวบนเวทีถามคำถามนายมิวหลายข้อ แต่คนอะไรหล่อชะมัด จนฉันเกือบเผลอใจให้เค้า พิธีกรกล่าวอีกครั้งคราวนี้เรียกนายพลับหนุ่มหล่ออันดับสองขึ้นไปด้วย ฉันตกใจมากนายพลับเนี่ยนะ เมื่อกี้ฉันนึกว่านายพลับโกหก โอ้ว ญาติเราก็หล่อเหมือนกันนี่ ได้ถึงที่สอง นายพลับบอกว่าให้รอตรงนี้ก่อนเดี๋ยวลงเวทีแล้วจะมาหาและปล่อยฉันยืนรออยู่ตรงนั้น ไหนบอกว่าไปแปบเดียวขึ้นไปตั้งนานสองนาน ฉันยืนรอไม่ไหวฉันเลยบอกว่าขอไปเข้าห้องน้ำก่อน แล้วฉันก็เดินไปเข้าห้องน้ำ ในขณะที่กำลังจะออกมาฉันก็ได้ยินเสียงสนทนาของคนสามคนพูดกัน เหมือนจะนินทาฉันเลย ฉันแอบแง้มประตูออกดู
“ยายอิงค์นี่”ฉันเห็นยายอิงค์กับเพื่อนสาวสองคนกำลังแต่งหน้ากันอยู่ จึงแอบฟังว่าทั้งสามสาวนินทาอะไรฉันบ้าง
“นี่ยายอิงค์ ฉันหมันใส่ยายนั่นจังเลย ยายที่มากับพลับแฟนเก่าแกอ่ะ”
“ฉันก็หมันไส้ยายนั่นทำเป็นไร้เดียงสา ไม่รู้ว่าเสร็จกี่คนแล้ว”
“เธอก็อย่าว่ายายนั่นมากเลยอิงค์ เฟิร์น ถ้ายายนั่นมันได้ยินละเราซวยตาย”
“อย่ากลัวไปหน่อยเลย ถึงมันมาได้ยินก็ไม่มีใครช่วยมันได้ หลักฐานก็ไม่มีและอีกอย่างพลับแฟนมันยังอยู่บนเวทีอยู่เลย ถ้ามันมาละก็เราจัดการมันเลย”อิงค์พูด
ยายอิงค์นี่ร้ายชะมัดแต่อย่าคิดว่าฉันไม่มีหลักฐานนะ ฉันอัดเสียงเธอสามคนไว้หมดแล้วอย่าคิดเลยว่าฉันจะโง่ให้แกทั้งสามคนมาจัดการฉัน และอย่าคิดด้วยว่าฉันไปให้คนอื่นพูดให้ฟัง ไม่มีทางเพราะเสียงเป็ดโดนเชือดมีคนเดียวคือเธอ ยายอิงค์ ฉันพูดคนเดียวอยู่ในใจ แต่ยายสามคนนั่นกลับไม่หยุดว่าฉันสักที ฉันทนไม่ไหวแล้วนะยิ่งว่าฉันเสียๆหายมากขึ้นเลยตอนนี้ และไม่ๆได้ว่าแค่ฉันคนเดียวยังลามไปถึงพ่อแม่ของฉันอีกฉันทนเธอทั้งสามคนว่าฉันไม่ได้แล้วนะ ฉันรวบรวมความกล้าให้มากพอและพร้อมที่จะเปิดประตูไปพบความจริง
“นี่เธอทั้งสามคน หยุดว่าฉันได้แล้วฉันทนไม่ไหวแล้วนะ”ฉันตะคอกไปด้วยความโกรธสุดขีด สามคนนั้นตกใจเล็กน้อย ก่อนจะกระซิบกระซาบกับ ฉันว่าสามคนนี้ต้องวางแผนอะไรกันแน่ๆ
“ยายตัวดี ออกมาก็ดีแล้วพวกชั้นอยากมีเรื่องกับแกมานานแล้ว”ยายเฟิร์นเพื่อนของยายอิงค์พูด
“อยากมีเรื่องก็เข้ามาสิ ฉันก็พร้อมอยู่แล้ว รู้มั้ยที่โรงเรียนเก่าฉันเคยเป็นนักมวยมาก่อน”ฉัดพูดข่มขวัญสามคน
นั้นให้กลัว พอฉันพูดจบสามคนนั้นก็กระโจนเข้าหาฉัน ฉันหลบตัวทันทำให้ยายเฟิร์นกับยายมิ้มล้มไม่เป็นท่า แต่ยายอิงค์นี่สิฉันหลบไม่ทัน ยายนั่นเอเกระเป๋าเครื่องสำอางมาฟาดหลังชั้นเต็มๆ ฉันก็เลยเก็บเครื่องสำอางขว้างคืน ยายอิงค์ล้มไม่เป็นท่าฉันก็เลยเอาลิปสติกไปละเลงบนหน้ายายนั้น ฉันละเลงได้ไม่เท่าไหร่เพื่อนยายนั่นก็มาจับฉันไว้ แต่สองคนนี้รู้ฤทธิ์เดชฉันน้อยไปหน่อยแล้ว ฉันสลัดยายสองคนนี่แล้วแล้วฟาดหลังมือและศอกเข้าที่หน้าสองคนนั้น สามคนนี้ก็มีพวกมาก ยายอิงค์ที่ตอนนี้หน้าเปื้อนลิปสติกก็กดโทรเรียกพรรคพวกของตัวเองมาให้ช่วยจัดการฉัน แต่ฉันวิ่งหนีมาได้ก่อน ก่อนที่พวกของยายอิงค์จะมาเจอ
“ไหนละอิงค์ คนที่เธอจะให้เราจัดการ มันอยู่ไหน”พวกที่มาสมทบที่หลังถามอิงค์
“มันหนีไปแล้ว มันวิ่งไปเมื่อกี้พวกเธอไม่เห็นกันหรอ”อิงค์ถามเพื่อน
“คนไหนวะ แกพูดยังกับมันมีคนเดียวอะ แล้วมันมีอะไรที่ทำให้เราสังเกตได้ง่ายๆมาก จะได้หาเจอเร็ว”
อิงค์นึกก่อนจะคิดออกว่ามีสิ่งที่สังเกตได้ง่ายมาก”โบ มันใส่โบมันผมที่เป็นสีแดง”
“ได้ เดี๋ยวฉันตามหามันเอง พวกเรามันใส่โบมันผมที่เป็นสีแดงเร็วหาให้เร็วที่สุด”
พวกนั้นแยกย้ายกันตามหาฉัน ส่วนฉันตอนนี้แอบอยู่ในร้านขายน้ำปั่นโดยไม่รู้เลยว่าโบแดงที่ใส่อยู่นำโชคร้ายมาถึงตัวเองแล้ว
“นั่นไง มันอยู่นั่นนังโบแดง มันอยู่ร้านน้ำปั่น เร็วพวกเราไปจับมัน”
พวกนั้นวิ่งมา ฉันเลยวิ่งหนี ทำไมพวกนั้นตามไม่หยุดไม่หย่อนเลยวะ
“ใช่แล้ววิ่งไปหานายพลับดีกว่าคนกำลังจะออกมากันพอดี”ฉันวิ่งไปตรงลานคอนเสิร์ตเพื่อที่จะเรียกให้พลับช่วย
“พลับ พลับ”ฉันตะโกนไปสุดเสียง แต่เหมือนนายพลับจะไม่ได้ยินฉันเลย ฉันพยายามฝ่าฝูงชนเข้าไป แต่เหมือนยิ่งมีแรงพยายามมากเท่าไหร่ก็มีแรงต้านทวีคูณ ยิ่งฉันพยายามเข้าไปใกล้เวทีมากเท่าไหร่ก็โดนผลักออกมาเท่านั้น ทันใดนั้นฉันก็นึกถึงนายเทพบุตรไม่ใช่สินายผู้พิทักของฉัน นายบอกว่าจะช่วยฉันนายหายไปไหน ถึงมันจะเป็นฝันลมๆแล้งๆนายก็น่าจะช่วยฉัน นายผู้พิทักษ์ ฉันตะโกนออกไปดังลั่น แต่การตะโกนออกไปครั้งนี้ถือว่าช่วยฉันได้เพราะนายพลับหันมามองฉัน นายผู้พิทักษ์นายเป็นใครกันแน่ ทำไมเมื่อฉันตะโกนออกไปนายพลับถึงหันมา หรือว่านายมีตัวตนจริงไม่สิไม่ใช่ ไม่ใช่เวลาที่จะมาคิดเรื่องนี้เราต้องเอาตัวรอดก่อน เราจะข้างหน้าหรือเราจะถอยไป ข้างหน้ามีแฟนคลับของนายมิวและนายพลับ ส่วนข้างหลังเป็นพวกของยายอิงค์ ฉันจะฝ่าเข้าไปหรือจะปล่อยตัวไปกับแฟนคลับเหล่านั้นช่วยฉันคิดทีนายผู้พิทักษ์ของฉัน ช่วยฉันด้วย นายผู้พิทักษ์นายมาช่วยฉันแล้ว สายลมเย็นพัดผ่าย วืด วืด นายมาช่วยฉันแล้วจริงๆ ฉันหันหลังไปกับแฟนคลับของมิวและพลับ มีมอเตอร์ไซ คันหนึ่งขับฝ่าวงล้อมเข้ามา ตรงมาที่ฉัน ฉันไม่มีแรงจะวิ่งหนีแล้วนะสาธุนายผู้พิทักษ์ช่วยฉันอีกที ฉันหลับตาพร้อมกับกุมมือไว้ที่อกพร้อมภาวนา
“ไม่ ไม่ ไม่ นายต้องมาช่วยฉันใช่มั้ย นายผู้พิทักษ์” ฉันลืมตาขึ้นสู้กับความจริงมองดูรถคันนั้นแล่นตรงมาที่ฉันใกล้แล้ว ใกล้ถึงแล้ว ใกล้ถึงแล้ว เฟี่ยว ฉันตาค้างมองดูรถมอเตอร์ที่แล่นมาด้วความเร็วแล้วยกล้อใส่หน้าแล้วหันหลังกลับไป ฉันล้มลง ร่างของฉันเหมือนร่างที่ไร้สติ ลอยคว้างในอากาศ และกำลังจะลงพื้นตามแรงโน้มถ่วง โบที่ผูกไว้หลุดออกมาลอยคว้างในอากาศจนทำให้ผมที่ยาวของฉันปกปิดใบหน้า จนทำให้ฉันในตอนนี้ดูเหมือนคนบ้าไปเลย ฝุบ หลังของฉันกระแทกลงบนอะไรสักอย่างที่ไม่ใช่พื้น มันนุ่มมากเหมือนฉันเคยสัมผัสมาจากที่ไหน แขนคนนี่นา แขนใคร ใครที่รับฉันไว้นายหรอนายผู้พิทักษ์นายหรอ ขอบใจนะ ฉับพยายามลืมตาเพื่อสัมผัสโลกแห่งความเป็นจริงและพร้อมที่จะยืนโดยไม่มีใครมาพยุง ฉันค่อยๆเปิดเปลือกตาและโน้มตัวขึ้นแต่แล้วเขาก็โน้มตัวลงมาทำให้บางอย่างของเราสองคนไดสัมผัสกัน โดยที่เราไม่ได้ตั้งใจ.............นายผู้พิทักษ์นายเป็นใครกันแน่
..............................................................................................
ช่วยแนะนำและติชมด้วยครับ
ความคิดเห็น