คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : กาย
กาย
ผมไม่เคยเชื่อเรื่องเทวดาหรือนางฟ้าเลย
จนกระทั่งวันนั้น ผมได้พบกับเธอ ผู้ที่เป็นจุดเริ่มต้นของทุกอย่าง
ผมตื่นขึ้นมาในเช้าวันหนึ่ง
ความเจ็บแล่นไปทั่วร่างกาย เกิดอะไรขึ้นกับผม? แต่แล้ว สายตาของผมก็เหลือบไปเห็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ใส่ชุดเดรสสีขาว
ผมยาวสลวยสีดำขลับ ปากสีแดงอมชมพูดูอวบอิ่ม พวงแก้มที่ประดับด้วยสีชมพูอ่อนๆ
ดวงตากลมโตสีน้ำตาลอ่อนที่กำลังกวาดตาอ่านหนังสือในมืออยู่ที่ปลายเตียง มันช่างสวย
ราวกับ ‘นางฟ้า’ พอผู้หญิงคนนั้นหันมาเห็นผมก็วิ่งเข้ามาหาพร้อมกับประคองร่างผมให้ลุกขึ้นนั่ง
“นะ...น้ำ” ผมพูดไปด้วยเสียงที่แหบแห้ง หลังจากที่ผมพูดจบ เธอก็รีบรินน้ำให้ผมเป็นพัลวัน
ฮ่าๆ ท่าทางแบบนั้นทำไมมันดูน่าตลกจัง
“นี่ค่ะ” ผมรับน้ำที่เธอรินให้มาดื่ม เมื่อดื่มเสร็จคำถามก็วิ่งเข้ามาในหัวมากมาย
“กะ
เกิด อะ ไร ขึ้น” เมื่อผมเริ่มพูด
ความเจ็บก็แล่นไปทั่วทั้งร่างกาย
“คุณเกิดอุบัติเหตุรถล้มน่ะค่ะ
ตอนนี้คุณก็แขนหัก ขาหัก แล้วก็บาดเจ็บที่หัวอีกนิดหน่อย” อ๋อ
ผมจำได้แล้ว
ในวันนั้นผมยังคงขี่รถมอเตอร์ไซค์กลับบ้านเหมือนทุกวัน
แต่อยู่ๆก็มีเด็กที่ไหนวิ่งมาไม่รู้ ทำให้ผมต้องหักหลบจนไปชนกับเสาไฟฟ้าได้ แต่ทำไมนะ ทำไมผมถึงรู้สึกลืมบางอย่างที่สำคัญไป
อะไรที่ผมลืมไป? อีกอย่างนะแบบนี้คงไม่หน่อยแล้วล่ะ ผ้าพันแผลเต็มตัวขนาดนี้
“ทะ
ที่ นี่ ทะ ที่ ไหน”
“บ้านคุณค่ะ
พอดีที่โรงพยาบาลเตียงคนไข้เต็ม แล้วฉันเห็นว่าค่ารักษามันต้องจ่ายเป็นรายวัน
คุณเองก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก ฉันเลยให้คุณมากพักฟื้นที่บ้านคุณค่ะ” เธอยิ้มอย่างน่ารัก แต่ทำไมนะ รอยยิ้มของเธอถึงรู้สึกเศร้าแปลกๆ
“แล้ว
เธอ ปะ เป็น ใคร” เบื่อตัวเองวุ้ยย พูดติดๆขัดๆอยู่นั่นแหละ
อยากหายแล้ว
“คุณไม่ต้องรู้หรอกค่ะ
ว่าฉันเป็นใคร รู้แค่เพียงว่าฉันจะมาดูแลคุณจนกว่าคุณจะหายก็พอค่ะ” แปลกคน แต่ถ้าเธอไม่อยากให้ผมรู้ ผมก็เลือกที่จะไม่คาดคั้น
ผมได้แต่เพียงพยักหน้าตอบรับเธอเท่านั้น
“ชะ
ชื่อ”
“เรียกฉันว่า
พิมพ์ ก็ได้ค่ะ แล้วคุณล่ะคะ”
“กาย”
หลังจากเธอดูแลผมมาได้
2 อาทิตย์ แผลของผมอยู่ในระดับดี แต่ยังต้องเข้าเฝือกอยู่ เธอคอยดูแลผมเป็นอย่างดี
ไม่ว่าจะเป็นหาข้าวหาน้ำมาให้ คอยพยุงตัวผม เช็ดตัว (แค่ส่วนบนนะ) ซักผ้า กวาดพื้น
ถูพื้น ฯลฯ จนความรู้สึกของเราสองคนเริ่มเพิ่มพูนมากขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็น ‘ความรัก’
ผมสัมผัสได้ถึงความหวังดีและความอ่อนโยนของเธอ
บางสิ่งบางอย่างบอกกับผมว่าเธอไม่ได้หวังผลตอบเลยอะไรเลยในการช่วยเหลือผมครั้งนี้
จากในตอนแรกที่ผมระแวงเธออยู่ตลอดเวลา เพราะผมไม่รู้จักเธอเลย
แต่ตอนนี้ผมยอมรับในตัวเธอ จนในที่สุดผมก็ตัดสินใจที่จะพูดคำบางคำกับเธอไป
“พิมพ์”
หญิงสาวใส่ชุดเดรสสีขาวเหมือนดั่งวันแรกที่เราเจอกัน กำลังอ่านหนังสืออยู่ก็เงยหน้าขึ้นมาหาผม
“คะ?”
“ผมรักคุณ”
เมื่อผมพูดจบ ใบหน้าที่อมชมพูกลายเป็นสีแดงระเรี่อทันที
บ่งบอกได้ว่า เธอกำลังอาย “แล้วคุณล่ะ” ผมยังคงเร่งเร้าคำตอบจากอีกฝ่าย
“ฉันก็เหมือนคุณค่ะ”
ถึงแม้เสียงที่เธอตอบนั้นจะอู้อี้อยู่ในลำคอ แต่ผมก็ได้ยินอย่างชัดเจน
ผมดีใจที่เธอเองก็รู้สึกแบบเดียวกัน
“งั้น
คบกับผมนะ ถึงจะเป็นเวลาเพียงแค่ 2 อาทิตย์ที่ผมรู้จักคุณ
ทุกๆคนอาจจะมองว่ามันเร็วเกินไป แต่สำหรับผม มันทำให้ผมเห็นอะไรมากมายในตัวคุณ”
ผมมองเธอด้วยแววตาแน่วแน่
“ค่ะ”
รอยยิ้มของเธอช่างสวยเหลือเกิน
แต่ทำไมผมถึงรู้สึกว่ามันแฝงความเศร้าเอาไว้อีกแล้วนะ
หลังจากที่ผมได้ขอเธอเป็นแฟนนั้น ผมรู้สึกว่าอะไรๆมันดูลงตัวไปหมด
ทุกๆวันของผมมันเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ถึงแม้ว่าผมจะต้องลางานจนกว่าผมจะหายดีก็ตาม
อีกไม่กี่วันผมก็จะได้ถอดเฝือกแล้วผมก็จะหายเป็นปกติแล้ว ผมรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก
แต่สิ่งหนึ่งที่ผมสังเกตได้ก็คือ ยิ่งผ่านไปทุกวันๆ ยิ่งผมจะหายมากเท่าไหร่
พิมพ์จะยิ่งเศร้ามากขึ้นเท่านั้น มันทำให้ผมรู้สึกว่า เหมือนเธอ ไม่อยากให้ผมหายดี
เพราะอะไร? แต่ผม ก็ได้แต่เก็บงำความสงสัยนั้นเอาไว้ในใจ
จนกระทั่งวันหนึ่ง วันที่ผมหายดี
วันนี้เป็นวันที่ผมได้ถอดเฝือกออกทั้งที่แขนและที่ขา
เมื่อผมกลับมาจากโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว ผมก็รีบตรงกลับบ้านทันที ระหว่างทางผมเห็นกล้องโพลาลอยก็เลยซื้อมากะจะถ่ายเป็นความทรงจำของเราสองคน
ผมเห็นพิมพ์นั่งรออยู่ที่หน้าบ้านพอดี เราสองคนเดินเข้าบ้านไปด้วยรอยยิ้ม
แต่ผมสังเกตเห็นนะ ทุกครั้งที่ผมไม่ได้มองพิมพ์
พิมพ์จะมองมาทางผมด้วยแววตาที่เศร้าสร้อย แต่เมื่อผมหันหน้าไปหาเธอ
เธอก็จะยิ้มอย่างร่าเริงมาให้ผมทุกครั้ง อะไรกันนะ อะไรกันที่ติดใจเธออยู่? แต่ก็เหมือนเดิม ผมได้แต่เก็บงำความสงสัยไว้ในใจ
“พิมพ์
ไหนๆผมก็หายดีแล้ว เรามาถ่ายรูปกัน ผมไปซื้อกล้องโพลาลอยตอนขากลับมา” ผมโชว์กล้องที่ห้อยอยู่ที่คอผมให้พิมพ์ดู
“เอ่อ
ก็ได้ค่ะ ถ้าคุณต้องการแบบนั้น” และแล้ว ทั้งเย็นวันนี้ผมก็ถ่ายรูปพิมพ์จนฟิล์มหมดเลย
ฮ่าๆ
ไหนๆวันนี้ผมได้ถอดเฝือกแล้ว
ผมจึงชวนให้พิมพ์มานอนบนเตียงด้วยกัน
เพราะปกติเธอยอมที่จะเสียสละไปนอนบนโซฟาด้วยเหตุผลว่า กลัวผมจะเจ็บแขน
ในตอนแรกเธอไม่ยอมครับ แต่ผมก็ดื้อเพ่ง เธอก็เลยนอนกับผมครับ (แค่นอนเฉยๆนะ
ไม่มีอะไรเกินเลย) ผมสังเกตเห็นนะ ว่าเธอชอบนวดต้นคอตัวเองบ่อยๆ
ถึงเวลาที่ผมจะได้ดูแลเธอมั่งแล้ว การนอนในค่ำคืนนี้ เป็นการนอนที่อบอุ่นที่สุดเท่าที่ผมเคยนอนมา
ผมตื่นขึ้นมาในเช้าของอีกวันหนึ่ง
ผมควานมือไปที่ข้างกายหวังจะได้กอดคนที่อยู่ข้างๆ แต่ผมก็พบกับความว่างเปล่า
ผมงัวเงียตื่นขึ้นมามองไปที่ข้างกาย ไม่อยู่? สงสัยไปทำอาหารมั้ง พึ่งจะ 6
โมงเช้าเอง ถึงแม้ผมพูดกับตัวเองแบบนั้น แต่อะไรไม่รู้ดลใจให้ผมเดินตามหาพิมพ์
ห้องครัว...ไม่อยู่ ห้องน้ำ...ไม่อยู่ หน้าบ้าน...ไม่อยู่ เธอไปไหน? ผมเดินตามหาเธอทั่วทั้งบ้าน แต่ก็ไม่เจอ
นี่คือที่สุดท้ายที่สุดท้ายของบ้านนั่นคือดาดฟ้า ถ้าเธอไม่อยู่ ผมก็ไม่รู้จะไปหาที่ไหนแล้ว
ในที่สุดผมก็เจอเธอ แต่พิมพ์กำลังยืนอยู่บนรั้วกั้น วินาทีนั้นผมรู้สึกได้เลยว่าผมกำลังสั่น
สั่นเพราะความกลัว กลัวว่าเธอจะหายไป
“พิมพ์
อย่าทำแบบนี้นะพิมพ์” และแล้วเธอก็กางแขนทั้งสองข้างของตัวเอง
เธอยิ้มให้ผม
รอยยิ้มของเธอยังคงเศร้าสร้อยเหมือนเดิมก่อนที่เธอจะหงายหลังให้ตัวเองตกลงไปสู่เบื้องล่าง
“พิมพ์!!!!” ผมวิ่งไปยังที่ที่เธอเคยยืนอยู่
ผมก้มลงไปมองข้างล่าง ไม่มี!! ไม่มีร่างของเธออยู่ข้างล่าง เพราะอะไร ผมหันกลับไปมองรอบๆก็เจอกับตุ๊กตาตัวหนึ่ง
ที่เป็นรูปนางฟ้า ใครเป็นเอาคนเอามาวางไว้?
ผมเดินลงไปชั้นล่างด้วยแววตาที่เลื่อนลอย ทันทีที่ผมนึกอะไรได้
ผมก็เดินไปดูรูปที่ผมกับพิมพ์ถ่ายกันเมื่อวาน ไม่มี? รูปของพิมพ์หายไปหมด
กระทั่งรูปคู่ของผมกับพิมพ์ ก็เหลือเพียงแค่ผมคนเดียว
ส่วนข้างกายที่ตอนแรกมีพิมพ์อยู่นั้น ตอนนี้กลับไม่มี เพราะอะไร?
ผมเดินหาของที่พิมพ์น่าจะทิ้งไว้ก่อนจากไปทั่วบ้าน
มันก็ไม่มี จนเหลือแค่ ห้องนอนที่เดียว และแล้วผมก็เจอ
มีกระดาษสีขาวอยู่ที่หัวเตียง ผมเลือกที่จะหยิบมันมาอ่าน แล้วผมก็ได้รู้ว่ากระดาษสีขาวนี้
คือจดหมายของ พิมพ์ ไม่รอช้าผมรีบเปิดในทันที
‘กาย ครั้งแรกที่คุณเจอพิมพ์คือตอนไหนคะ
ถ้าให้ฉันตอบ คงเป็นตอนที่คุณตื่นขึ้นมาและเจอฉันนั่งอ่านหนังสืออยู่สินะคะ
แต่คุณรู้ไหม ฉันเจอคุณก่อนที่คุณจะเจอฉัน ฉันเจอคุณมาตั้งนานแล้ว
ที่คุณจะได้อ่านต่อไปนี้ คุณอาจจะไม่เชื่อ แต่ฉันอยากจะบอกว่า ทุกอย่างมันคือ
ความจริง ฉันเจอคุณทุกๆวัน จะเรียกว่ามองก็ได้ค่ะ ฉันมองคุณทุกๆวัน
ไม่ว่าจะเป็นตอนที่คุณขี่รถไปทำงาน หรือกลับมาจากที่ทำงาน ในถนนเส้นเดิม
ฉันมองคุณจาก ท้องฟ้า ฉันเป็นนางฟ้า คุณจะเชื่อฉันรึเปล่านะ ฮ่าๆ หรือคุณกำลังคิดว่าฉันบ๊อง
ฉันไม่รู้เลยว่าฉันสนใจคุณมาตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้ตัวอีกที
ฉันก็สนใจเรื่องของคุณมากๆ ถ้าเลือกได้ฉันไม่อยากจะเป็นนางฟ้า
ฉันอยากลงไปคุยกับคุณสักครั้ง ฉันรู้ว่าเป็นไปไม่ได้ แต่แล้ว
ฟ้าก็ทำให้ฉันได้คุยกับคุณ โดยการทำให้คุณประสบอุบัติเหตุรถล้ม คุณใกล้ที่จะตาย
ไม่สิ จะบอกว่าตายเลยก็ได้ แต่อะไรไม่รู้ดลใจให้ฉันลงจากบนฟ้านั้น มามองคุณ’
ผมจำได้แล้ว
สิ่งที่ผมลืมไปในวันที่ผมรถล้ม ผมเห็นผู้หญิงคนหนึ่ง
เธอยื่นมือมาหาผมพร้อมกับรอยยิ้ม เธอใส่ชุดเดรสสีขาว ผมสีดำขลับ
ดวงตากลมโตสีน้ำตาลอ่อน ทุกอย่างช่างเหมือนกับพิมพ์ ไม่สิ เป็นพิมพ์เลยต่างหาก
แต่ติดตรงที่ว่า พิมพ์ในวันนั้น มีปีกสีขาวอยู่ด้านหลัง พิมพ์ยื่นมือมาหาผมพร้อมกับรอยยิ้ม
แล้วหลังจากนั้น สติผมก็หายไป
ผมก้มหน้าลงไปอ่านจดหมายของพิมพ์ต่อ
หลังจากที่ผมนึกถึงเหตุการณ์ที่ผมลืมไปได้แล้ว
‘ฉันได้ตัดสินใจทำอะไรบางอย่างลงไป นั่นคือ
ขอกับท่านเทพ ผู้ที่เป็นใหญ่ที่สุดในสรวงสวรรค์ ให้คุณมีชีวิตต่อไป
โดยต้องแลกกับชีวิตของฉัน ฉันปรารถนาที่จะดูแลคุณสักครั้ง ฉันจึงขอร้องท่านเทพว่าจะดูแลคุณจนกว่าจะหายดี
ซึ่งตอนนี้คุณก็หายดีแล้ว ถึงเวลาที่ฉันต้องไปแล้ว แต่ฉันเชื่อนะคะ ว่าซักวันหนึ่ง
เราจะได้เจอกันอีกครั้ง ฉันรักคุณค่ะ...ลาก่อน’
หลังจากที่ผมได้อ่านจดหมายนี้ ผมไม่มีคำใดที่จะเอื้อนเอ่ย นอกจากคำว่า...‘ผมก็รักคุณ’ พลางกอดจดหมายนั้นไว้ ด้วยความกลัว กลัวว่ามันจะหายไปเหมือนกับเธอ พิมพ์
.
.
.
ถ้าเลือกได้ ผม ไม่อยากจะหายเลยจริงๆ
ความคิดเห็น