ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ exo ] ชะบี๋ตลอดไป ▼o´꓃ `o▼ { chanbaek }

    ลำดับตอนที่ #1 : 。อินโต! ( ´ ▽ ` )ノ

    • อัปเดตล่าสุด 7 มิ.ย. 58


    CR.SHL




    อินโต!


     


                ป๊อก ป๊อก ป๊อก

     

                เสียงดังเหมือนคนเคาะอะไรอยู่ดังขึ้นมาแต่เช้าตรู่ของวันใหม่ ท่ามกลางความเงียบของบ้านสองชั้นเล่นระดับในย่านหนึ่งของโซลที่ไม่ใช่ย่านผู้ดีอย่างกังนัม  ด้วยเงินเดือนของเจ้าของบ้านไม่อาจสู่ถิ่นฐานแห่งอำนาจเงินตราได้ ทำให้คนชนชั้นกลางมนุษย์กินเงินเดือนเดือนละสามหมื่นอย่างเขาเลือกอาศัยแถวๆย่านเงียบสงบอย่างชงโน ที่มันเงียบสงบไม่ฟูฟ่าไปด้วยของแพง กินอยู่สบายมือหน่อยถึงจะไม่หรูโก่เก๋ก็ตาม

     

                ร่างสูงโปร่งสาวขายาวเรียวราวนายแบบไปตามทางพื้นไม้ปาเก้สีเข้ม ปูยาวสุดชานบันไดบ้านลงไปถึงชั้นหนึ่ง ด้วยใบหน้างัวเงียแต่ยังคงความหล่อเอาไว้ ดวงตากลมโตทอประกายรับกับสันจมูกโด่ง ผิวสีขาวไม่สว่างแต่ไม่ติดว่าสีแทน ริมฝีปากหยักหนาอ้าปากหาววอดๆโชว์ลิ้นไก่ คิ้วหนาขมวดชนกันเมื่อมีบางอย่างเล็กๆกลมๆแต่อัดแน่นกลิ้งดุ๊กๆสีเนื้อมาแต่ไกล

     

                จำได้ว่าไม่ได้เลี้ยงหมา...ชายหนุ่มไม่ชอบภาระ โดยเฉพาะกับพวกที่ดูแลตัวเองไม่ได้...อย่างเช่น

     

                “รุณหวัดจะยอล”

     

                เสียงใสแจ๋วทักทายเบิกบาน ดวงตาสะลึมสะลือเลยสว่างขึ้นมา ราวกับถูกฝันร้ายครอบงำ ได้แต่ส่ายหน้าว่าไม่จริง เราไม่มีอิก้อนอวบในบ้าน เราอยู่ตัวคนเดียวมาตลอดไปไม่เคยมีเพื่อนหรือญาติที่ไหน พ่อแม่ก็เสียไปนานแล้ว ดังนั้นเป็นไปไม่ได้ เราฝันไปแน่นๆ

     

                ทว่าภาพตรงหน้าแจ่มชัด มือป้อมๆอ้วนๆไซน์เล็กโบกสะบัดกลางอากาศไปมาเพื่อทักทายพี่จะยอลคนหล่ออย่างที่ทำมาหลายวันติดๆ ไล่สายตาจากแขนมายังใบหน้าที่ยิ้มกว้างสุดสดใส ดวงตาเรียวเล็กถูกแก้มกลมดันขึ้นจนตาปิด ชั้นไขมันสายพรืดๆตาแรงขยับ ไหนจะเอวไหนจะสะโพกนั้นหาไม่มี

     

                ขอต้อนรับสู่โลกแห่งความเป็นจริง

     

                “ทำอะไรเนี่ย! ไปยุ่งกับเร้าเตอร์ทำไม” ขยี้ผมที่ไม่เป็นทรงอยู่แล้ว ให้ยุ่งเหยิงมากยิ่งขึ้น ใบหน้าได้สัดส่วนตียุ่งอ่างหามิได้ เมื่อเห็นสภาพกล่องอินเตอร์เน็ตถูกเลื่อนจากบนโต๊ะลงมาอยู่ที่พื้น สายไฟพันกันนัวเนีย  เก้าอี้ซ้อนกันอยู่หลายตัว

     

                “เน็ตไม่แรงแบคเลยทุบๆเผื่อมันจะติด” ก้อนกลมๆพูดภาษาคนที่ฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่ปากเล็กสีชมพูอ่อนก็พยายามอธิบายตามสักยภาพเด็กสามขวบ

     

                “จะบ้าเหรอวะ เดี๋ยวแม่งก็เจ๊งพอดี ใครบอกให้ทำแบบนั้น”

     

                “แบคเองที่ทุบ”

     

                “ไม่ใช่เว้ย! จะไปไหนก็ไปเลยป่ะ แล้วนั้นทำไมไม่ใส่เสื้อวะ” ชี้นิ้วไปที่พุงกลมๆที่โผล่ออกมาโชว์ อีกคนเห็นจะยอลจ้องพุงเขาเลยเอามือตีพุงจนเกิดเสียงไขมันสะเทือน ก่อนกระโดดระบำบ้าบอ เอาชานยอลแทบจะบ้า อยากกัดลิ้นตายจะได้ไม่ต้องตื่นมาเจอความจริง

     

                “แบคเพิ่งอาบน้ำเสร็จแล้วเพลงที่เปิดตอนอาบน้ำมันดับแบคเลยออกมาดู” ว่าพลางส่งมือถือให้พี่ตัวโตดู

     

                “ไม่ใช่! ที่มันไม่ดังเพราะมันขึ้นแจ้งเตือนแบตเหลือยี่สิบเปอร์เซ็น!

     

                “อ๋องี้เอง ขอบคุณนะจะยอล” ฉีกยิ้มกว้างไม่ได้สนใจอารมณ์ของคนที่คุกรุ่นแต่เช้าก่อนไปทำงาน

     

                “โธ่เว้ย ไปแต่งตัวไป๊ เห็นแล้วหงุดหงิดแต่เช้าเลยอิก้อน!

     

                “โอเค แบคไปแต่งตัวนะ อิก้อนนี่ใครอ่ะ” ไม่วายหันมาถามเมื่อนึกขึ้นได้

     

                “ช่างแม่ง”

     

                “เอ้า เพื่อนจะยอลเหรอ แบคเคยเห็นมั้ย”

     

                “ก็มึงนั้นแหละอิก้อน รีบไปแต่งตัวให้เสร็จแล้วมาแดกข้าวโว้ย”

     

                “อ้อ แบคไม่ชอบชื่อนั้น อย่าเรียกอีกนะ แบคไปละ”

     

                “....”

     

                อิเด็กเวรรรรรรรรร!!!




     

     

     
    ◖|◔◡◉|◗




     

     

                ชีวิตของชานยอลหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรงที่จบมาจากมหาลัยและทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือนได้หนึ่งเกือบปีกว่า ทำงานเกี่ยวกับพวกออกแบบผลิตภัณฑ์ของบริษัทชั้นนนำในเกาหลี เงินเดือนเริ่มที่ขั้นต่ำคือสามหมื่นบาท (เรื่องนี้จะใช้เงินบาทเพื่อความเข้าใจง่ายๆ ) ใช้ชีวิตไปกลับที่ทำงานและบ้าน ไร้สีสัน ไร้เพื่อนฝูง ไร้ครอบครัว เพราะนิสัยไม่เอาใครนอกจากพ่อกับแม่ พอท่านเสียไปเลยไม่มีญาติคนไหนมาเหลียวแลเขาเลยสักคนเดียว โชคยังดีที่เขาเหลืออีกเดือนเดียวจะเรียนจบ แม้จะลำบากที่ต้องใช้ชีวิตคนเดียว...แต่ก็นั้นแหละ ผ่านมาได้เป็นผู้เป็นคนถึงทุกวันนี้

     

                และชีวิตของเขามีแต่ไม่กับไม่...

     

                ย้อนหลับไปเมื่อวันคืนปิดโปรเจค ทุกคนต่างพากันโห่ร้องด้วยความยินดี ทั้งที่คนทำงานหนักสุดนั้นคือชานยอลคนนี้ แต่ก็นั้นแหละ  แค่ลูกน้อง





     

                “ไงฝ่ายออกแบบ คืนนี้เราไปฉลองกัน ฉันเลี้ยงเอง” เสียงหัวหน้าแผนกตะโกนบอกเหล่าลูกน้อง พลางส่งสายตามายังชานยอลผู้ที่ไม่เคยไปไหนเลย นัยน์ตากลมโตของผู้จัดการคนจีนนามว่าลู่หานกำลังเว้าวอนเขา สายตาที่ส่งมาว่าถ้าไม่ไปเขารู้สึกผิดมากแน่ๆ คนทำงานหนักสุดไม่เคยได้รับการตอบแทนจากบริษัทเลยสักมื้อ...ทว่า

     

                “ไม่ไปครับ ผมจะกลับบ้าน ถ้าอยากขอบคุณช่วยขึ้นเงินเดือนก็ดี” เสียงทุ่มตอบกลับไปอย่างนั้น...

     

                หักหามน้ำใจจนโดนเพื่อนๆในแผนกเกลียดขี้หน้า ถามว่าอยู่ได้มั้ยคนเดียว ก็ตอบเลยว่าได้...ไม่เห็นจะเป็นอะไร

     

                “ชานยอลขอยืมแบบตัวอย่างของเก่าดูได้มั้ย พอดีว่าอยากเทียบกันดู”

     

                “ไม่ครับ”

     

                “เที่ยงนี้ไปกินข้าวกัน เดี๋ยวฉันเลี้ยงเองเว้ย!

     

                “ไม่ ผมห่อข้าวมา”






     

                ทั้งชีวิตมีแต่คำว่าไม่...กระทั่งมาเจอกับไอ้เตี้ยเนี่ย

               

                กลิ่นอาหารเช้าลอยฟุ้งกลางอากาศ จมูกเชิดนั้นจุดเล็กๆบนใบหน้าที่ไร้ดั้งขยับฟุดฟิด เดินย้ายร่างออกจากห้องแต่งตัวด้วยชุดนักเรียนอนุบาลโคริน้อย เสื้อผ้าฝ้ายสีขาวแขนยาวด้านในถูกทับด้วยเอี๊ยมสีแดงสว่าง เข้ารับกับผิวขาวอมชมพูของเจ้าตัวเล็กได้เป็นอย่างดี  มือป้อมกระชับหมวกสีเหลืองใบใหญ่ที่เกือบเท่าตัวเอง ลากไปตามพื้นกระเบื้องสีหินอ่อน ก่อนถึงตัวครัวกว้าง แบคฮยอนรู้สึกว่าตัวเองตัวเล็กลงไปราวกับอยู่ในเมืองคุณยักษ์

     

                ตั้งแต่ย้ายมาไม่ว่าอะไรก็ดูกว้างขวางไปซะหมด

     

                “เอ้า มาเอาแก้วน้ำไปด้วย” ชานยอลเหลือบเห็นสีแดงแรงฤทธิ์ยืนดมฟุดฟิดอยู่จึงเอื้อมไปหยิบแก้วน้ำที่เพิ่งถอยมาใหม่เมื่อเย็นวาน เรียกเจ้าอ้วนมารับไปถือ

     

                แก้วกระเบื้องสีชมพูอ่อนแสนน่ารักถูกเพ้นลงด้วยตัวอักษร ‘B’ ตัวใหญ่ ดวงตาเรียวเบิกกว้างพร้อมอ้าปากร้องโหด้วยความเวอร์วังอลังการงานสร้าง

     

                “ของแบคเหรอ!  ถามเสียงใสก่อนคว้าหมับแล้วเต้นระบำแสดงความดีใจ จนชานยอลต้องใช้มือใหญ่จับหัวทุยๆให้หยุดนิ่ง “แบคอยากใส่น้ำ แบคใส่น้ำ จะยอลใส่น้ำ”

     

                “รู้แล้ว ไปนั่งก่อนได้มั้ย เดี๋ยวแก้วหล่นแตกกูเตะแน่”

     

                “โอะเคะ  แก้วน้ำของแบค ใส่น้ำเลยๆ”  พูดจบก็วิ่งไปนั่งประจำเก้าอี้เด็ก ทว่า... “โอ๊ะ จะยอล ทำไมแบคนั่งไม่ได้อ่ะ”

     

                “ก็เพราะมึงอ้วนไง! เอานี่ ถือจานไปนั่งกินตรงโซฟา” ยื่นจานอาหารเช้าจานใหญ่ที่อุดมไปด้วยไขมันล้วนๆ แบบชาวยุโรป ทั้งไส้กรอกทอดสามชิ้น ไข่ดาวหนึ่งฟอง มันบด... มิน่าถึงอ้วนเอาอ้วนเอา...

     

                “อื้อ แบคไปนะ”

     

    ◖|◔◡◉|◗


     

               

                ชีวิตเล็กๆที่กำเนิดมาจากไหนสักที่ กำลังฮัมเพลงชูมือขึ้นแล้วหมุนๆที่โรงเรียนสอนมาเมื่อวานให้กับสารถีหนุ่มฟังแทนการเปิดเพลงสากลเพราะๆ เสียงใสแจ้วจากเจ้าตัวจ้อยนั้นแรกๆอาจจะยังไม่ชิน แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นว่าเพราะซะอย่างนั้น

     

                ไม่นานนักรถคันใหญ่สี่ประตูก็จอดเทียบหน้าประตูโรงเรียน โดยมีเหล่าผู้ปกครองพากันทยอยมาส่งลูกหลานเช่นทุกวัน  แต่แล้วแบคฮยอนกลับร้องตะโกนขึ้นมาไม่ยอมลงจากรถ

     

                “คาย๊องมาถึงก่อนแบคอีก” ชี้นิ้วสั้นๆไปยังร่างเล็กๆของเด็กผู้ชายตัวอวบเป็นก้อนน้อยอีกคนด้านนอก แบคฮยอนเบ้ปากบวมๆพร้อมครางหงิง

     

                “ก็เพราะใคร บอกว่าให้รีบกินๆ” แต่ชานยอลหาได้สนใจไอ้ท่าลูกหมาอ้วนไม่ เขากลับคิดว่ามันน่าเสียเวลามาก

     

                “แบคผิดเองแหละ เดี๋ยวแบคจะไปบอกคาย๊องว่าเพราะแบคได้แก้วใหม่ ไม่กล้ากิน” ยู่ปากจนหน้าอู้ก่อนตีขาไปมากลางอากาศ

     

                เขาอยากให้จะยอลสนใจอะ...แต่ก็ต้องเจียมตัวด้วย

     

                “เออแล้วแต่เหอะ ลงไปได้แล้ว จะไปทำงาน”

     

                “งั้นไปนะจะยอล...จริงด้วย” วางกระเป๋าใบโตไว้ที่หน้าเค้าเตอร์รถ

     

                “อะไรอีก!” ก่อนจะจู่โจมไม่ให้ตัวโตรู้ทัน!

     

                จุ๊บ!

     

                “บะบาย”

     

                ก็แค่เด็กละนะ...

     




     

    (´ε` )♡

    เปิดอินโตแล้ว อย่าลืมกดติดตามแบ้กแล้วเม้นที่แท๊กนี้นะเด้อ!

    #ชะบี๋ตลอดไป

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×