คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Death
[04.06.2558]
Dark Paradise
(NO. 7)
‘Death’
ผมสงสัยมาตลอดว่า
“ความตาย” คืออะไร : ฮันบิน
มันทั้งมืด และเงียบ ถึงดวงจันทร์จะทอแสงลงมาแต่มันก็ไม่ได้ทำให้บรรยากาศในสุสานตอนเกือบเที่ยงคืนน่ากลัวน้อยลงเลย
มองไปทางไหนก็มีแต่ความมืดกับหลุมฝังศพเรียงรายรอบตัว
ฮันบินวางดอกกุหลาบสีขาวลงบนหลุมศพตรงหน้า ดอกไม้ที่แม่ของเขาชอบ
เหลือบมองคนข้างๆที่ยืนยิ้มอย่างอ่อนโยนให้กับหลุมศพที่อยู่ข้างกัน
“นานแล้วนะ”
“อื้อ”
แทฮยอนพูดเสียงเบา แต่ในความเงียบมันทำให้ฮันบินได้ยินชัดเจน
ความเจ็บปวดที่ยากจะลืมมันไม่เคยจางหายไปจากใจ แม้จะผ่านมาหลายปีแล้วก็ตาม
แต่เมื่อไหร่ที่คิดถึงมันก็ยิ่งเหมือนความมืดที่เกาะกุมหัวใจ
ฉุดรั้งให้หัวใจที่เต้นอยู่ห่อเหี่ยวลงแม้จะพยายามปลอบใจตัวเองแค่ไหนก็ตาม
แต่อย่างน้อยก็ไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวบนโลกใบนี้
แทฮยอนหันมายิ้มให้กับน้องชายอย่างอ่อนโยน บ่อยครั้งที่พยายามทำเข้มแข็ง ทั้งๆที่ในใจกำลังร้องไห้
มันเหนื่อยแต่เพราะเขาเป็นทุกอย่างของฮันบินในตอนนี้มันทำให้เขาต้องเข้มแข็ง
“กลับกันเถอะ”
ฮันบินพยักหน้าให้กับพี่ชายที่กำลังชวนกลับแล้วหันไปมองหลุมศพที่อยู่คู่กันอีกครั้ง
อยากจะภาวนาให้มันเป็นแค่ความฝัน แต่มันก็คือเรื่องจริง
ทุกวันตอนดึกๆพวกเขาจะมาที่นี่เพื่อมาเยี่ยมพ่อกับแม่ที่จากไปเพราะอุบัติเหตุเมื่อหลายปีก่อน
กว่าแทฮยอนจะเลิกงานก็เย็นมากแล้ว กว่าฮันบินจะกลับถึงบ้านหลังเลิกเรียนอีก
พวกเขาเลยต้องมาที่นี่เวลาดึกๆแบบนี้
แต่มันก็ดีอย่างหนึ่งเพราะมันมีแค่พวกเขาในสุสาน
ถึงมันจะน่ากลัวแต่อย่างน้อยพ่อกับแม่น่าจะได้ยินเสียงของพวกเขาชัดเจน
แทฮยอนขับรถออกมาจากสุสาน
จู่ๆฝนก็เทลงมาทั้งๆที่ตอนแรกฟ้าสว่างแถมยังมีพระจันทร์อีก
เขาขับช้าๆไปเรื่อยๆเพราะมองไม่เห็นทางข้างหน้า แถมถนนยังลื่น
เพราะเป็นทางเรียบไปตามเขาคดเคี้ยวทำให้ยิ่งอันตราย
“น่าแปลกจังแฮะ!”
“อะไรเหรอ?”
ฮันบินหันมาถาม เขาเห็นสีหน้าแทฮยอนที่กำลังกังวลกับทางข้างหน้า
เพราะกลัวจะมองไม่เห็นแล้วเผลอไปชนหรือเลี้ยวไม่ทันเข้า
“จู่ๆฝนก็ตกลงมาทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ฟ้าเปิด”
“อากาศแปรปรวนมั้ง”
ฮันบินเองก็ไม่รู้หรอกว่าทำไม เขามองไปทางข้างหน้าที่ตอนนี้แทบจะมองไม่เห็นอะไรนอกจากสายฝน
แทฮยอนขับรถสลับกับหยุดนิ่งเวลาที่รู้สึกว่าฝนสา
แต่พอเหยียบออกไปก็กระหน่ำเทลงมาอีก แถมอากาศก็เริ่มจะเย็นลงแล้วด้วย
เอี๊ยด!!
“เสียงอะไรน่ะ
”
แทฮยอนหยุดรถแล้วพยายามมองผ่านสายฝนไป
เขาได้ยินเหมือนเสียงรถที่พยายามเหยียบเบรกจนล้อลากไปกับพื้นถนน
เอี๊ยด!!
“เดี๋ยวนะ”
ฮันบินพยายามจ้องออกไปข้างนอก เขาเห็นแสงไฟที่สาดมาจากข้างหน้ามันส่ายไปมาเหมือนกับกำลังเสียหลัก แทฮยอนจับพวงมาลัยในมือแน่นเพราะถ้าหากว่ามันส่ายมาใกล้อันตรายแน่
“ถอยก่อนมั้ย”
ฮันบินบอก เขากลืนน้ำลายอึกใหญ่เพราะความกลัวนิดหน่อย แสงไฟใกล้เข้ามา มันยังส่ายไม่หยุดและใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
แทฮยอนถอยหลังแล้วพยายามหลบเข้าข้างทางให้มากที่สุด แต่ไม่ทันจะหยุดรถ แสงไฟจากคันข้างหน้าก็สาดเข้ามาอย่างจัง
มันเลี้ยวไปมาเพราะเสียหลักจากความลื่นของถนน
“เฮ้ย!”
“อันตราย!!”
เอี๊ยด!!
ปี๊กกกกกกกกกกก!
โครม!
ชั่ววินาทีเดียวที่เห็นแสงไฟใกล้ๆกับรถยนตร์สีดำคันใหญ่
วิ่งเข้ามาด้วยความเร็วจนเบรกไม่ทัน ชนเข้ากับรถสีขาวคันเล็กที่ข้างทาง
จนพลิกคว่ำไปหลายตลบเพราะพยายามจะสะบัดออก
เสียงโครมดังลั่นท่ามกลางความมืดและสายฝน
เศษซากที่หลุดออกกระจายไปทั่วพื้นก่อนทุกอย่างจะสงบลง
รถสีดำคันใหญ่หลุดออกจากรั้วกั้นชนเข้ากับก้อนหินใหญ่ข้างทางและใช้มันเป็นที่หยุดความเร็ว
กระโปรงหน้ายุบเข้าไปและเปิดออก ควันลอยคลุ้งขึ้นมาและได้กลิ่นไหม้
เมื่อกี้มันเหมือนกับสติหลุดออกไป
รถสีขาวคันเล็กพลิกคว่ำหงายท้องอยู่ไม่ไกล กลิ่นน้ำมันที่ไหลออกมาจากตัวถังมันไหลไปทั่วพื้นปนกับน้ำฝน
เศษกระจกกระจายไปทั่ว
ร่างของคนสองคนที่อยู่ใต้ซากรถหนึ่งในนั้นกำลังพยายามเอาตัวเองออกมา
ฮันบินนอนหายใจแผ่วเพราะความเจ็บและจุก
เลือดกำลังไหลออกมาจากหัวอาบไปทั่วหน้า พยายามใช้แรงที่เหลือดันตัวเองออกมา
แต่ยิ่งขยับมันก็ยิ่งเจ็บ เจ็บเหมือนจะขาดใจ
เหลือบมองแทฮยอนที่นอนแน่นิ่งอยู่ข้างๆ
เขาสลบไปแล้วแถมยังมีเลือดไหลออกมาจนเปื้อนไปทั้งตัว
ฮันบินพยายามจะเอื้ออมือไปสะกิดพี่ชาย
มันเจ็บ...เจ็บจนขยับไปไหนไม่ได้
ตอนนั้นพ่อกับแม่จะรู้สึกเหมือนกับเขาหรือเปล่า
ตึก ตึก !
เสียง...เสียงเหมือนมีคนกำลังเดิน ฮันบินพยายามเงยหน้ามอง
ใครน่ะ...
รองเท้าหนังสีดำกับกางเกงขายาวสีดำ กำลังหยุดยืนอยู่บนหัว
ฮันบินพยายามจะมองและขอความช่วยเหลือ แต่ตอนนี้เรี่ยวแรงแม้กระทั่งจะหายใจ ใครบางคนกำลังยืนมองเขาและก้มลงมาใกล้
ฮันบินหรี่ตามองแต่ก็ยังมองไม่ชัดเห็นเพียงแค่เงาดำๆของคนๆนั้น
เขาสวมชุดสูทดูดีสีดำในมือถือร่มมาด้วย เขากำลังมองมาที่ฮันบิน
กำลังกางร่มเพื่อบังฝนให้
ใคร...ใครน่ะ
พ่อเหรอ?
มารับผมใช่มั้ย
พ่อครับ...
ความคิดเห็น