คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : เรื่องราวในอดีต
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าแต่งนิยายไม่เป็น ไม่ได้เรื่อง แล้วก็ไม่รู้ว่าจะแต่งได้ดีแค่ไหน ยังไงก็อย่าลืมแนะนำ ติชมกันได้นะ ไม่ว่าอะไรหรอก
บทที่ 1
ผมไม่เคยรู้หรอกว่าวันที่ผมเสียใจมากที่สุดมันจะมาถึงเร็วขนาดนี้
วันนี้ผมยังคงทำตัวเป็นเด็กที่ไม่รู้จักโตเหมือนปกติ จนเพื่อนมักจะว่าผมเป็นลูกแง้ แต่ผมไม่สนใจหรอก
"แม่ คราบ ไปส่งผมที่โรงเรียนหน่อยนะ" ผมมักจะอ้อนแม่อย่างนี้ทุกเช้าที่ต้องไปโรงเรียน
"แม่ไม่ไปส่งได้ไหมลูก ลูกขับรถไปโรงเรียนเองได้ไหม วันนี้แม่เหนื่อย อยากพักผ่อน" แม่บอกผม ถึงแม้ว่าผมจะเห็นว่าสีหน้าที่ดูอิดโรยของแม่บ่งบอกว่าแม่พูดความจริง แต่ผมก็ยังจะตื้อให้ท่านไปส่งผมอีกอยู่ดี
"โถ!! แม่ แค่ไปส่งผมที่โรงเรียนแค่นี้เองทำไม่ได้หรอ" ผมพยายามอ้อนแม่ต่อไป
"ก็ได้ลูก ไปเอากุญแจรถมาสิ เดี๋ยวแม่ขับไปส่ง" ในที่สุดผมก็สามารถอ้อนแม่ให้ไปส่งผมที่โรงเรียนได้สำเร็จ
เมื่อมาถึงที่โรงเรียนผมก็ลงจากรถ พร้อมกับบอกลาแม่
" แม่ครับ ผมไปก่อนนะครับ เย็นมารับผม เร็ว ๆ นะครับ"
"จ้าลูก ตั้งใจเรียนหนังสือนะ อย่าเอาแต่เล่น"เมื่อแม่พูดเสร็จก็ขับรถออกไป
ผมนั่งเรียนวิชาแรกของวันนี้อยู่ ก็มีโทรศัพท์จากพ่อเข้ามา ผมรับโทรศัพท์ พ่อบอกว่าแม่รถชนตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาลอาการเข้าขั้นโคม่า เมื่อผมได้ฟังที่พ่อพูด ผมก็รีบไปโรงพยาบาลโดยด่วนแม่ผมไปถึงผมได้คุยกับแม่สองสามคำ แม่ก็จากผมไปผมรู้สึกตกใจและโทษตัวเองที่เป็นสาเหตุให้แม่ต้องตาย ผมจะไม่ให้อภัยตัวเองเลย
เราทุกคนควรเตรียมใจให้พร้อมอยู่เสมอเพราะเราไม่รู้ว่า วันที่เราจะต้องอยู่คนเดียวนั้นมันจะมาถึงเมื่อไร
แม่ของผมเสียเมื่อผมขึ้น ม.4 ผมต้องอยู่กับพ่อซึ่งไม่ได้เรื่องไม่ได้ราว พึ่งพาอาศัยไม่ได้ ตอนนี้ผมอยู่ ม.6 เทอมแรก ผมรู้สึกเหมือนอยู่ตัวคนเดียว ไม่มีแม่เป็นที่ปรึกษา ผมจะปรึกษาพ่อก็ไม่ได้เพราะพ่อทำงานกลับบ้านดึก ๆ ดื่น ๆ พ่อจะให้เงินผมไปหมุนเงินเองเดือนละ 3 พันบาท ถึงมันจะเป็นจำนวนเงินที่เยอะก็เถอะแต่มันก็ไม่พอที่จะใช้จ่ายเพราะผมอยู่โรงเรียนที่ไฮโซ (ผมกะจะย้ายโรงเรียนแต่เป็นเพราะแม่ขอพ่อกับผมไว้ ว่าต้องให้ผมอยู่โรงเรียนนี้จนกว่าจะจบ ม.6) ที่ว่ามันไม่พอเพราะทางโรงเรียนมักจะเก็บค่านู้นค่านี้อยู่เรื่อยเก็บทีละเล็กละน้อยมันจึงไม่ค่อยพอจ่าย ผมจึงต้องออกไปทำงานเสริม แต่ร้านส่วนใหญ่มักจะไม่รับผมเข้าทำงานเพราะเห็นว่าผมยังเด็กอยู่ แต่เผอิญผมรู้จักกับร้านขายหนังสืออยู่เข้าก็เลยจ้างผมให้ส่งหนังสือพิมพ์ทุกเช้าก่อนที่ผมจะไปโรงเรียน
ทุก ๆ วันผมจะขับมอเตอร์ไซด์ที่ผมได้จากแม่เป็นของขวัญวันเกิดไปโรงเรียน แต่วันนี้มันดันดื้อไม่ยอมทำงาน(รถเสีย) ผมก็เลยต้องปั่นจักรยานไปส่งหนังสือพิมพ์และไปโรงเรียน
"เฮ้ยพวกเรา ไอ่แป๊ะ มาโรงเรียนแล้วเว้ย ไปทักทายมันกันหน่อยดีกว่า"
พวกเพื่อน ๆ มักจะเรียกผมว่าแป๊ะ เพราะหน้าผมเหมือนแป๊ะยิ้ม(หน้าออกคนจีนอ่านะ)ที่จริงผมชื่อว่า อั้น แต่ไม่มีใครเรียกผมด้วยชื่อนี้เลย เฮ้ออ..เศร้า
"เป็นไงแป๊ะ ทำงานมาเหนื่อยไหม" เพื่อนที่รู้ใจที่สุดของผมถามผม ชื่อ เบนซ์ มันมักจะเป็นห่วงผมเสมอเมื่อผมมีปัญหา (ไม่รู้ว่ามันแอบชอบผมรึเปล่า อิอิ)
"ถ้ามันไม่เหนื่อยมันก็คงไม่เหงื่อออกเยอะขนาดนี้หรอก" ( ควับ ไอเบนซ์หันมามอง แล้วส่งสายตาว่า ผมไม่ได้ถามคุณ) แล้วฟาร์ม ก็พูดต่อพร้อมกับทำหน้าประมาณว่า ผมไม่สน "อ้าว.. แล้ววันนี้ทำไมขี่จักรยานมา แล้วรถเครื่องมีไหน" ฟาร์มถามด้วยความที่มันเป็นคนอยากรู้อยากเห็น
"มันขี้เกียจไม่ยอมตื่นข้าก็เลยปล่อยมันไว้บ้าน" ผมตอบเพื่อน ๆ อย่างเบื่อหน่าย
"พูดง่ายๆ ก็คือมันเสีย" ไอดลที่ยืนเงียบอยู่ตั้งนานเปิดปากพูด ดลมันเป็นคนที่เงียบ ๆ ไม่ค่อยพูด ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร แต่ถ้าเป็นเรื่องเรียนแล้วละก็มันไม่เคยแพ้ใครในกลุ่มเลยนะ มันมันจะได้ที่ 1 ของกลุ่มตลอด และมักจะติดอันดับ 1 ใน 10 ของห้องทุกครั้งที่มีการสอบ
กลุ่มของผมก็มีกันอยู่แค่เนี้ยแหละ มี ผม ฟาร์ม เบนซ์ และดล แต่ละคนก็จะโดดเด่นกันไปคนละด้าน
ผมจะโดดเด่นด้านกีฬา เบซน์ด้านกิจกรรม ฟาร์มด้านดนตรี ส่วนดลก็ด้านการเรียน
ที่ผมเล่าให้ฟังไม่ได้เพราะว่าจะชมตัวเองหรือเพื่อนๆ นะครับแต่เพราะอยากจะให้รู้ไว้ว่าพวกเราไม่ได้เป็นนักเรียนเกเร และก็ไม่ได้เป็นดาวเด่นของโรงเรียน พวกผมก็เป็นแค่นักเรียนที่เรียนในโรงเรียนชื่อดัง
ความคิดเห็น