คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ
ม่านราตรีสีดำ พื้นหลังคือกองเพลิงที่กำลังพัดโหมกระหน่ำไปทั่วนครเมืองหลวงเศษซากบ้านเรือนที่โดนทำลายและศพผู้คนที่นอนเรียงรายตามท้องถนน กลิ่นไหม้และคาวเลือดหยดลงตามทางเดินผู้คนต่างวิ่งหนีกันชุลมุนสภาพไม่ต่างจากความเป็นจริงของโลกภายใต้การล้มสลาย ปิศาจร่างใหญ่สีดำน้ำตาลดวงตาสีแดงเข้มจับจ้องมองดูเหยื่อพวกมัน ไม่มีความคิดในร่างอันใหญ่โตมีเพียงความชั่วร้ายและความมืดสีดำสนิทที่มองไม่เห็นก้นบึง พร้อมจะใช้กรงเล็บอันแหลมคมฉีกกระชากทุกสิ่งที่มายืนอยู่ต่อหน้า
ทหารของนครเมืองหลวงกัดฟันฝืนร่างกายที่ร่อแร่เผชิญหน้าเข้าต่อกรกับพวกมัน หากพลาดพลั้งไปเพียบนิดพวกเขาไม่รู้ว่าอนาคตที่รออยู่จะสวยงามดังเช่นแต่ก่อน ไม่อาจจะนึกถึงอนาคตที่ถูกพวกปิศาจเข้าทำลายและยึดครองความสุขของพวกเขาจะได้จากที่ใดกัน ไม่สู้เพื่อคนที่รักไม่สู้เพื่ออนาคต ตัวตนของพวกเขาที่มาเป็นทหารคงตายไปอย่างไร้ค่าไม่ต่างจากมดตัวหนึ่งที่พวกเขาไม่เคยมองเห็นคุณค่าในตัวของพวกมัน แม้ยามสงบจะจับกลุ่มตั้งวงสังสรรค์ไม่เอาการเอางาน ยามศึกยังคิดจับดาบอาจหาญสู้รบเป็นตายอย่างสมภาคภูมิ
“กรรรรรรรรร”
สิ่งมีชีวิตคล้ายมังกรแต่ไม่ใช่รูปร่างเทียบเคียงมังกรแค่หากความเป็นจริง เผ่าพันธุ์ของพวกมันได้รับสืบทอดสายเลือดมังกรมาเพียงเศษเสี้ยวจากของจริง เปลวไฟสีแดงฉานพ่นออกมาจากปากสีดำฟันสีขาวแหลม ทหารที่กำลังต่อกรกับปีศาจร่างใหญ่ต้องจบชีวิตลงด้วยเปลวไฟของมันที่จู่โจมเข้าใส่จากด้านหลัง กว่าร้อยชีวิตที่กำลังตกอยู่ในกองเพลิงต่างดิ้นรนพยายามหาทางรอดจากสถานที่ดังนรกภูมิแห่งนี้ แม้ความหวังจะมีน้อยนิดราวแสงไฟดวงเล็กๆแต่พวกเขาก็อยากจะคว้ามันไว้ จนสุดท้ายก็ไม่อาจจะคว้ามันได้
“ด้านพระราชวังสถานการณ์เป็นยังไง”
“พวกปีศาจและสัตว์ประหลาดของฝ่ายศัตรูลุกล้ำเข้าไปแล้วครับ!!!”
“เรียกทุกหน่วยมาร่วมกันต้านพวกมันไว้ในเมืองห้ามให้เข้าใกล้พระราชวังไปมากกว่านี้!!!”
สิ้นเสียงนายพล นายทหารผู้รายการสภาพในปราสาทหลวงก็หน้าถอดสีฝืนพยักหน้ารับคำสั่งจากใจที่กำลังหวาดกลัวต่อความตายที่กำลังลุกไล่มาถึงตัวเขา ดาบยาวในมือมีหยดเลือด เสื้อผ้าชุดทหารสีน้ำตาลเต็มไปด้วยคาบฝุ่น ทหารมากมายต่างยังไม่เคยก้าวเท้าสู่สนามรบจริงเนื่องจากความสงบนับหลายปีที่มีมา ในวันนี้เหตุการณ์ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นทำให้พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับมัน ไม่อาจเปรียบดังสงครามระหว่างมนุษย์ด้วยกันแต่เป็นศึกที่มีคู่ต่อกรเป็นถึงกองทัพปีศาจจากแดนร้างที่อยู่อีกฟากฝั่งของขอบทะเลไกล
พวกปีศาจและสัตว์ประหลาดจากแดนร้างเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่าหวาดกลัวที่สุดในโลก พวกมันต่างแข็งแกร่งและดุร้ายยิ่งกว่าสัตว์ป่า ไม่เคยมีมนุษย์คนไหนเห็นพวกมันแล้วมีชีวิตรอด มายามนี้กลับยกทัพกันมาอย่างไม่รางบอกเหตุล่วงหน้า ดินแดนที่สงบสุขจนถึงเมื่อวานนี้ตกอยู่ในนรกที่อุบัตรขึ้นชั่วข้ามคืนสงครามกับดินแดนรอบข้างนับว่ายังมีความหวังได้ซึ่งชัยชนะ แต่สิ่งที่กำลังเป็นตอนนี้กลับหาไม่ได้แม้แต่แสงของมัน
นายทหารมากมายหยิบดาบฟาดฟันแม้แต่รอยแผลก็ไม่อาจสร้างให้ผิวหนังของพวกมัน สิ่งที่ตอบกลับมาคือกำปันแห่งความตาย หากว่าเมืองหลวงช่างอ่อนแอก็นับว่า ณ เวลานี้เป็นเช่นนั้น เพราะเกิดสงครามรอบขอบชายแดนขึ้นกะทันหันนายพลใหญ่มากมายต่างละทิ้งฐานที่มั่นและรีบออกทำศึกปกป้องดินแดนโดยที่ไม่รู้ว่า ฉากหลังคือการล่อลวงให้ออกห่างจากเป้าหมายจริง กองทัพปีศาจจากแดนร้างไม่ใช่ผู้ใดจะควบคุมได้และไม่ว่าจะมีคนแบบนั้นอยู่จริง ตอนนี้ปัญหาคือจะค้นหาและหยุดคนผู้นั้นได้ยังไง
“เกะกะ…”
แสงสีขาวตวัดฟันร่างปิศาจใหญ่ขาดสะบันภายในดาบเดียว ร่างของเธอเต็มไปด้วยกลิ่นอายน่าเกรงขามดุจสัตว์ร้ายที่กำลังกระหายอาหาร แววตาสีน้ำเงินเชียบแหลม ดาบยาวในมืองดงามไม่ต่างจากผู้ใช้ ชุกเสื้อเกราะสีเงินคับความหยิ่งยโสของเธอ ผมสีน้ำตาลเข้มพัดปลิวสะไหวด้านหลังคือกองซากปีศาจใหญ่จำนวนมากที่ถูกฟันขาดเป็นชิ้นๆ
“เจ้าพระยาสาระ!!!!”
“พาทหารที่ได้รับบาดเจ็บไปที่หลบภัย พวกมันไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะสู้ได้”
เจ้าพระยาสาระเอ่ยขึ้นและก้าวเท้าเดินไปโดยไม่หันมาสนใจนายพลคนนั้นอีก หากกองทัพของเธอไม่เร่งรีบมาถึงที่นี้ให้เร็วกว่านี้อย่าหวังจะได้เห็นเมืองหลวงที่เคยสงบในวันพรุ่งนี้อีก หากแต่เมื่อเธอกลับมาถึงทันการณ์แล้ว ปัญหาที่เกิดขึ้นต้องได้รับการชำระเท่านั้น
“บังอาจมายุ่งกันถึงเมืองหลวง หาที่ตาย”
สาระสั่งการหน่วยทหารของเธออย่างมีระเบียบกองทัพที่ได้ชื่อว่าแข็งแกร่งเป็นอันดับสามของอาณาจักรหกลำธาร มีตัวเธอที่เป็นเจ้าหญิงลำดับที่สามเป็นแม่ทัพ ตำแหน่งทางการคือ เจ้าพระยาสาระ ด้านความสามารถยากหาใครเทียบเคียง ตัวเธอที่ไม่กี่วันก่อนต้องออกไปทำศึกที่ชายแดนรอบข้าง จากคำสั่งของพระบิดาเธอจึงเร่งรีบพากองทัพออกจากเมืองหลวง เมืองหลวงที่ขาดกำลังพลทางทหารอยู่ในจุดที่หวาดหวั่นหากมีศัตรูเข้ารุกรานย่อมตกอยู่ด้านเสียเปรียบ แม้การที่จะมาถึงเมืองหลวงได้ต้องพาด้านมาหลายด้าน คิดไม่ถึงว่าจะมีกองทัพฝ่าเข้ามาได้ นับร้อยปียังไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ยิ่งกองทัพที่มาไม่นับว่าเป็นมนุษย์
หนึ่งดินแดนสามอาณาจักรปกครอง ทิศเหนือคือ อาณาจักรทาทาเลีย ทิศตะวันออกคือ อาณาจักรเพลิงไท และทิศของอาณาจักรผู้ครองสองทิศ ทิศตะวันตกและทิศใต้ อาณาจักรหกลำธาร ความเป็นใหญ่ของสามอาณาจักรปกครองแคว้นเล็กมากมายไว้ในเขตแดนถูกขีดไว้ แม้บ้างเวลาจะมีสงครามระหว่างแคว้นกันบ้างครั้งคราว เป็นปัญหาที่ผู้ก่อขึ้นต้องรับผิดชอบ จัดการเพียงครั้งดับหายไปสามชาติภพ ตำแหน่งเจ้าพระยาคือ ตำแหน่งที่จะมอบให้แด่ผู้ที่แข็งแกร่งและผู้ปกครอง เหล่าแม่ทัพชั้นสูง การศึกมากมายมีชัยชนะได้เพราะพวกเขา
โลกใบนี้เคยเกิดสงครามไม่ใช่ของมนุษย์เพียงเผ่าเดียวแต่เป็นสงครามที่เป็นตัวกำเนิดชะตากรรมของเผ่าพันธุ์นั้น นามที่ถูกจารึกไว้ในสมัยคือ ยุคมืด เป็นยุคที่มีช่วงเวลาอันเลวร้าย แม้จะผ่านมาเกือบหลายพันปีแต่เหตุการณ์นั้นก็ยังถูกจารึกไว้ รวมทั้งของมากมายที่ตกทอดมาจากมัน หนึ่งในของที่ตกทอดมาจากยุคมืด แดนร้าง ดินแดนที่ไม่ถูกร่วมไว้ในแผนดินนี้ ฟากฝั่งของทะเลอันไกลที่ทอดยาวสุดขอบฟ้า สถานที่สีดำที่ไม่ผู้ใดไปถึง บ้างว่าดินแดนของปิศาจ บ้างว่าเป็นแดนสวรรค์ แท้จริงเป็นอย่างไหนไม่เคยมีใครรอดกลับมาบอก จะมีเพียงบันทึกเก่าๆเล่มหนึ่งที่เขียนเกี่ยวมัน บันทึกที่เขียนด้วยลายมือและภาษาที่ไม่เคยมีอยู่บนโลก….
ในตัวท้องพระโรง ความสับสนวุ่นวายไม่เท่าข้างนอก ทุกหนแห่งในตัวปราสาทช่างเงียบเหงาดังป่าช้าที่ไร้ผู้คน บ้างที่ความเงียบแบบนี้ก็เหมาะสำหรับคนอย่างเธอ ก้าวข้ามศพแล้วศพเหล่า ตั้งแต่เดินเข้ามาในปราสาทเธอสังหารคนด้วยมือคู่นี้ไปกี่คนแล้วนะ ไม่ได้นับด้วยสิ ความเงียบเป็นดังโลกของเธอ ไม่ว่าจะเวลาไหนมันก็จะอ้าแขนรอรับเธอเสมอ กลิ่นเลือดที่มืออันแสนจะเย็น ดวงตาสีดำเงาแฝงความมืดมิดดังสุริยันสีดำ ย่างก้าวเธอไม่เร่งรีบเดินไปอย่างสบายๆไม่สนใจมองดูเหตุการณ์ที่เธอเป็นผู้ก่อขึ้น ที่สนคงมีแต่เป้าหมายของเธอที่กำลังใกล้จะสำเร็จ
ผ่านทางเดินมุ่งตรงไปยังสวนดอกไม้ที่มีดอกไม้มากมายหลากหลายชนิด แม้แต่ยามค่ำคืนพวกมันก็ยัง เบ่งบานตอบรับแสงจันทร์ ชายกระโปรงสีดำลูกไม้ กินเลนลึกๆยังคงหวั่นไหว แม้ทางที่เลือกเดินจะหันหลังกลับไม่ได้เธอก็ไม่สิทธิ์ที่จะนึกเสียใจ ในเมื่อหันกลับไปได้ก็เดินไปให้ถึงปลายทางของมันซะเลย กินเลนเหลียวมอง พุ้มดอกไม้ในวันวาน ยามที่ตัวเธอยังคงมีแต่พวกมันคอยเป็นเพื่อน
“เธอคนนั้นน่ะ!!!!”
กินเลนละสายตาจากดอกกุหลาบสีขาว เธอแหงนหน้ามองเด็กสาวคนหนึ่ง ผมสีแดงดุจกุหลาบหน้าตาจิ้มลิ้น ดวงตาสดใสดูไม่เป็นอะไรไปมากกว่าเจ้าหญิงคนหนึ่งในปราสาทที่เหลืออยู่ กินเลนมองสบตาเธอ แววตาใสซื่อของน้องสาวต่างมารดาของเธอดูสงสัยที่มาของเธอและกำลังตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปราสาท
“เธอ นี้มัน…”
แม้หน้าพี่สามตัวเองยังจำไม่ได้ กินเลนคงไม่เคยอยู่ในสายตาใครเลยสินะ จะมีใครบ้างที่มองเห็นเธอจริงๆ คลื่นพลังสีม่วงดำแผ่ออกมาจากฝามือของกินเลน เพียงเธอเดินก้าวผ่านร่างของน้องสาวไปชีวิตก็ได้ดับลงไปอีกหนึ่ง กินเลนไม่แม้แต่จะหยุดก้าวลง ร่างน้องสาวหยุดนิ่งเมื่อเธอเดินผ่านแล้วค่อยๆล้มลงไปกลับพื้นใบหน้าซีดขาวดังคนตายเป็นไปได้ว่าวิญญาณคงตกลงไปยมโลกเสียแล้ว ไม่มีเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด ชีวิตดวงน้อยที่จบลงเพียงช่วงยาม ไม่มีโอกาสได้เห็นวันพรุ่งนี้อีก
กินเลนหงุดหงิดที่พอเอาเข้าจริงคนที่จะพอเป็นคู่ต่อสู้ให้เธอกลับมีเพียงไม่กี่คนในดินแดนแห่งนี้ พลังที่เธอมีและได้รับมาเป็นสิ่งที่แลกมาด้วยจิตใจของเธอหัวใจที่ถูกย้อมเป็นสีดำด้วยความมืดทมิฬจากก้นบึงหัวใจเธอเสียใจมามากพอแล้วไม่มีอะไรที่เธอต้องเสียใจกับมันอีก ชีวิตที่ก้าวมาบนเส้นทางนี้ไม่อาจนับว่ามีความสุขรอเธออยู่ แต่เมื่อตัดสินใจว่าจะไม่หันหลังกลับต่อให้ปลายทางคือความตายและนรกเธอไม่เกรงกลัว หากความสุขเธอไม่สามารถหาได้อีกก็อย่าหวังว่าเธอจะให้คนอื่นได้มี
สุดทางเดินหินอ่อนมีศาลาไม้ตั้งอยู่กลางสระน้ำ ดอกบัวที่ผลิบานสีขาวเปล่งแสงสีเงินงดงามวิจิตรตระการตาราวรูปสลัก กินเลนมองดูมันเป็นครั้งสุดท้าย ในปราสาทที่เงียบสงบมีสายลมพัดผ่าน ชายแขนเสื้อสีดำยาวสั่นไหวแววตาดุจนางมารจากยมโลกเกิดจากการตัดสินใจที่เดิมพันด้วยอนาคตทั้งหมด หากนี้เป็นโชคชะตาของเธอเธอก็ขอยอมรับมัน แม้จะกลายเป็นอะไรเธอก็ไม่สนขอเพียงได้ทำในสิ่งที่อยากทำไม่ว่าจะแลกมาด้วยหลายชีวิต หยดเลือดสักกี่หยด ไม่ว่าจะเสียอะไรไปมันก็ไม่สำคัญอีกแล้ว
“เป็นค่ำคืนที่ไม่ต่างจากเมื่อก่อน….”
“พี่กินเลน!!!!”
สาวน้อยทั่วทั้งร่างเต็มเปรี่ยมไปด้วยความงดงามเว้นแต่เพราะอายุยังไม่ถึงจุดเปลี่ยนพันความงดงามที่ยังไม่ผลิบานเต็มที่ของเธอ ในอนาคตภายภาคหน้าเธอจะต้องเป็นหญิงสาวที่สวยสดงดงามที่สุดในอาณาจักรหกลำธารได้แน่ กินเลนมองดูใบหน้าของเธอ เด็กสาวที่ถูกเรียกว่า องค์รัชทายาท ของอาณาจักรหกลำธารผู้ที่อนาคตจะเป็นผู้ปกครองคนนับพันในดินแดน แม้อายุจะห่างจากกินเลนสามปีแต่ความสามารถกับเทียบกินเลนไม่ได้แม้เศษเสี้ยว เพราะตัวองค์รัชทายาทเป็นดังนกที่ถูกขังไม่รู้โลกภายนอกไม่เคยได้สัมผัสความโหดร้ายและสิ่งสีดำของโลก เป็นผ้าขาวที่รอวันจะได้ใครสักคนมาลงสีให้
“ฉันมาหาแล้วนะ องค์รัชทายาท”กินเลนใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้ม หากอยาก หลอกคนอื่นก็ต้องหลอกใจตัวเองให้ได้ การโกหกของเธอไม่เคยมีใครมองออก ใบหน้าที่ถูกปิดบังด้วยหน้ากากคำโกหกไม่รู้ว่าจะถูกถอดออกมาเมื่อใด น้ำเสียงเรียบเฉยแฝงด้วยอารมณ์ขันไม่ต่างจากเสียงเด็กสาวคนอื่น ฟังแล้วมองไม่ออกว่าเธอคือเด็กสาวที่ฆ่าคนมามากมาย
“ลาก่อนนะ น้องสาวที่น่ารักของฉัน”
กินเลนก้าวเข้าไปในศาลาร่างอันบางเบาของเธอลุกเข้าประชิดกับองค์รัชทายาทดาบยาวสีเงินที่ยังไม่เคยถูกดึงออกมาใช้ของกินเลนเคลื่อนไปที่บริเวณอกขององค์รัชทายาท ทั้งสองต่างมองสบตากันคนกินเลนยืนคร่อมร่างอยู่ด้านบนก้มหน้ามองดูหยดน้ำตาของน้องสาว แม้เธอจะไม่ใช่คนที่กินเลนอยากจะกำจัดไม่แม้แต่จะมีความสนใจในตัวเธอ แต่เธอก็เป็นเป้าหมายที่กินเลนต้องกำจัดไปให้พ้นทาง เพื่ออนาคตที่รอกินเลนอยู่ เส้นผมสีดำเปล่งประกายท่ามกลางความมืดมิดในแววตาของกินเลนแววตาที่มองมายังเธอทั้งสับสนทำให้หัวใจของกินเลนหยุดชะชัก ดวงตาที่กำลังจ้องมองมาในใจของกินเลน มีแต่ความโศกเศร้าไร้ที่สิ้นสุด
“หยุดเถอะค่ะพี่…”
“ฉันหันกลับไม่ได้แล้ว”
“แต่…”
“เพื่ออนาคตของฉันจำเป็นต้องแลกมาด้วยชีวิตเธอ”
“พี่ค่ะ… “
ปลายดาบกำลังจะแทงลงกลางอกพลันถอยออก กินเลนรับรู้ถึงพลังที่ส่งผ่านมาถึงเธอ จิตสังหารของสาระพุ่งใส่เธอไม่มีความเมตตามีเพียงรังสีแห่งการเข่นฆ่า กินเลนกระโดดพลิกร่างออกจากศาลากลางสระน้ำ หันไปมองคนที่โผล่มาจากด้านหลัง สาระในชุดเกราสีเงินมองดูเธอ
“เป็นเธอจริงสินะ”
“กลับมาแล้วเหรอท่านพี่ เร็วจังเลยนะ”กินเลนยิ้มตอบรับใบหน้าที่เรียบเฉยของสาระ แผนการของกินเลนหน้าจะสามารถล่อกำลังหลักทหารจากเมืองหลวงไปได้หมดแล้ว ไม่คิดว่าจะมีคนจัดการปัญหาที่ชายแดนแล้วกลับมาได้เร็วถึงเพียงนี้ กินเลนคำนวณพลาดไป
“เจ้าหญิงอย่างเธอกลับหันดาบใส่อาณาจักรของตัวเอง เป็นเรื่องที่ไม่หน้าให้อภัย ถึงจะมีสายเลือดเดียวกัน แต่สิ่งที่เธอทำยากจะรอดไปได้”
“สายเลือดเดียวกัน? ฮ่ะๆๆ”
กินเลนปิดปากหัวเราะ ไม่หน้าเชื่อว่าจะมีคนเห็นเธออยู่ในสายตาตัวเธอที่เป็นเงามืดในเชื้อพระวงศ์ไม่เคยมีใครคิดจะแลมอง ตัวเธอเป็นเพียงครอบครัวเพียงคนเดียว ไม่มีทั้งเพื่อน พระบิดาก็ไม่เคยจะหันมามองเธอ ชีวิตที่ผ่านมาเธอเจ็บปวดมาตลอดจะมีใครเห็นความเศร้านั้นของเธอ ร้องไห้ในความมืด ไม่มีใครได้ยิน แม้จะเคยมีแต่สุดท้ายก็ทิ้งเธอไป…
“หุบปาก”
“หืม”
“ฉันจะทำลายมัน ทุกอย่างๆทั้งโลกใบนี้”กินเลนเงยน่าจ้องมองสาระ แววตาที่ไม่มีความกลัวและความลังเล สาระมองสบแววตาคู่นั้นเธอไม่สามารถปล่อยน้องสาวไปได้ สิ่งที่เด็กคนนั้นทำไม่มีวันได้รับการอภัย ความตายเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นที่ช่วยเธอได้
“โทษของเธอฉันจะเป็นคนชำระ”
“คิดว่าฉันจะยอมเหรอ”
คลื่นพลังสองสายพุ่งใส่ปะทะกันโดยต่างคนต่างไม่ยอมแพ้ กินเลนรู้ว่าความสามารถของเธอในตอนนี้ยังไม่มากพอที่จะสู้กับสาระ สาระเองก็รู้ขีดจำกัดของกินเลน แม้หัวใจจะแข็งแกร่งแต่ด้านความสามารถยังพึ่งแรกเริ่ม ผลแพ้ชนะถูกกำหนดไว้ตั้งแต่แรกแล้ว สาระปลายเท้าแตะพื้นกระโดดพุ่งร่างขึ้นด้านบน กินเลนมองดูจังหวะความเร็วของสาระ เธอหยิบแผ่นกระดาษออกมาเตรียมร่ายเวทกัน แต่ความเร็วของการร่ายช้ากว่าของสาระ เธอพลิกดาบยาวฟาดฟันลงไปใส่กินเลนทุกอย่างก็เป็นอันจบ
กินเลนกระอักเลือดออกมา การโจมตีเพียงครั้งเดียวทำความเสียหายกับเธอ ร่างเซไปด้านหลัง สาระลอยตัวลงมาต่อหน้าเธอ ตวัดดาบฟันใส่กินเลนเลือดสีแดงฉานสาดกระจาย
จบแล้วเหรอ…
กินเลนสติดับลง ภาพตรงหน้าเลือนรางหยดน้ำตาของเธอไหลออกมา ร่างล้มลงที่อกรู้สึกเจ็บ จบลงแบบนี้เหรอ จุดจบของฉัน…
ปิศาจมากมายจางหายไปเหลือเพียงสัตว์ประหลาดที่กำลังถูกกำจัด เมืองหลวงได้รับความเสียหายจนยากที่จะฟื้นฟูอีกครั้ง แต่ด้วยความพยายามของทุกคนไม่ว่าจะใช้เวลากี่ปีพวกเขาก็จะทำให้เมืองหลวงกลับมารุ่งเรืองอีกครั้งให้ได้ ตัวการเหตุวุ่นวายถูกจับกุมไว้และได้รับโทษประหารชีวิต สังหารเชื้อพระวงศ์มากกว่าสามสิบคน คิดลอบสังหารองค์รัชทายาท กินเลนถูกประหารบนแท่นตัดหัวต่อหน้าประชาชนของเมืองหลวง ความแค้นของผู้คนจบลง ด้วยการตายของเธอ ความสงบสุขกลับมาอีกครั้งแต่แผลในใจของผู้คนยังคงไม่จางหาย…
ความคิดเห็น