ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    test02

    ลำดับตอนที่ #1 : Chapter One ♡ it's all about FAME.

    • อัปเดตล่าสุด 9 เม.ย. 58



     


    -          

                “ซีนสิบเอ็ด คัทหนึ่ง เทคหนึ่ง

     

                สิ้นเสียงของผู้กำกับทุกอย่างก็กลายมาเป็นหน้าที่ของเธอ ซีนนี้เป็นซีนอารมณ์ เธอต้องร้องไห้เพราะพระเอกในเรื่องกำลังจะไปต่างประเทศ ละครเรื่องนี้น้ำเน่าตั้งแต่พล็อตเรื่องยันคำพูด  แต่น้ำเน่าๆเนี่ยแหละคนก็เลยชอบ

     

                เจสสิก้าสามารถแสดงอารมณ์ออกมาได้อย่างธรรมชาติและสมบูรณ์แบบ แน่นอนล่ะ...เธอฝึกร้องไห้หน้ากระจกมาเป็นร้อยๆครั้งก่อนจะได้แสดงละครเรื่องแรก การร้องไห้ให้สวยและดูไม่ประดิษฐ์จนเกินไป ร่วมถึงมุมกล้องและการสื่ออารมณ์ทางสายตา เรื่องพวกนั้นเป็นสิ่งที่เจสสิก้าเชี่ยวชาญ

     

                “ทำไม...ทำไม..คุณถึงฉันไว้คนเดียวแบบนี้

     

                ทีมงานนับสิบที่มองการแสดงของเธอผ่านทางมอนิเตอร์กำลังอยู่ในภาวะพอใจอย่างสูงสุด เจสสิก้า จอง เป็นนักแสดงเบอร์ต้นๆของวงการ ฝีมือการแสดงของเธอเข้าขั้นเทพ เพียงแค่รับเล่นละครเรื่องไหนก็เหมือนจะเป็นเครื่องประกันกลายๆว่าละครเรื่องนั้นจะต้องได้เรตติ้งและเป็นกระแสไปทั่วบ้านทั่วเมือง มันก็เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าต่อให้ค่าตัวของเธอจะแพงกว่านักแสดงเบอร์รองลงมาถึงสามสี่เท่า

     

                “คัท!” คนที่กำลังร้องไห้อยู่หยุดร้องได้เร็วเหมือนกับมีสวิตซ์ปิดเปิด การที่อยู่ในวงการมาตั้งแต่เด็กๆคงทำให้เธอมีชั่วบินสูงมาก เธอปาดน้ำตาลวกๆก่อนจะเดินไปทางผู้กำกับและทีมงาน

     

                อา...ซีนเมื่อกี้ออกมาเป็นยังไงบ้างคะ ใช้ได้หรือเปล่า

     

                “สุดยอดไปเลยสิก้า พี่ว่าตอนที่ฉากนี้ฉายนะจะต้องเป็นกระแสแน่ๆ ผู้กำกับคิมผู้กล่าวอย่างอารมณ์ดีก่อนจะตบบ่าเธอเบาๆเป็นเชิงให้กำลังใจ

     

                “ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันกลับก่อนนะคะ ขอบคุณที่ทำงานหนักค่ะเจสสิก้าพูดก่อนจะโค้งเก้าสิบองศาให้ทุกคนในกองถ่าย ไม่เว้นแม้แต่ช่างไฟหรือแม่บ้าน

     

                คนตัวเล็กคว้ากระเป๋าใบหรูของตัวเองก่อนจะเดินตรงไปยังลานจอดรถ มือก็ขวานหารีโมทรถยนต์ของตัวเองแล้วกดปลดล็อครถ เธอเข้ามานั่งในรถก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ขณะนี้เป็นเวลาบ่ายสามกว่า แต่นั่นไม่สามารถทำให้เธอสนใจได้มากกว่า 13 missed calls จากเบอร์ที่คุ้นเคย เธอกดโทรกลับไป เพียงไม่นานอีกฝ่ายก็ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงอบอุ่นชวนหลงไหลของเขา

     

                ฉันเสร็จงานแล้ว ...อื้ม เดี๋ยวไปหาที่คอนโดนะ

     

     

     

    -

                “มากันครบแล้วใช่ไหม

     

                “ครับ

     

                ณ เวลานี้บรรยากาศในห้องประชุมของตึก SM Entertainment เต็มไปด้วยความเครียดและความเงียบ หลังจากที่โบอา นักร้องหญิงที่เป็นตัวสร้างรายได้ให้ค่ายอย่างล้นลามพึ่งจะออกมาแถลงข่าวฟ้องร้องค่ายด้วยเหตุผลความไม่เป็นธรรมในสัญญา กระแสส่วนใหญ่เห็นใจเธอกันมาก ก็เธออยู่ในค่ายมาเป็นสิบๆปี หากว่าจะมีเรื่องให้ต้องทำแบบนี้ก็คงเป็นเรื่องใหญ่น่าดู

     

                ปกติแล้วเอสเอ็มก็เป็นค่ายยักษ์ใหญ่ที่มีภาพลักษณ์ในการดูแลศิลปินที่ไม่ค่อยดีอยู่แล้ว ชอบมีข่าวลือออกมาบ่อยๆว่าพวกเขาเห็นไอดอลเป็นเพียงสินค้าเท่านั้น ถึงจะมีส่วนจริงบ้าง แต่มันก็ไม่ทั้งหมดหรอก...ปีสองปีที่ผ่านมาเอสเอ็มให้อิสระให้กับไอดอลมากขึ้น แต่ก็ยังเป็นค่ายที่ฉลาดทางด้านการตลาด จับอะไรก็เป็นเงินเป็นทองไปเสียหมด ใครได้เป็นไอดอลในค่ายนี้แล้วไม่มีทางจะเหนื่อยฟรี

     

                แต่ในขนาดนี้ทั้งภาพลักษณ์และหุ้นของค่ายกำลังตกชนิดที่ว่าดิ่งลงเหวแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

     

                รอจนทุกคนพร้อมแล้วคิมยองมิน ซีอีโอของค่ายก็เริ่มพูด ผมจะไม่อ้อมค้อมก็แล้วกัน ทุกคนคงรู้นะว่าโบอาออกมาฟ้องร้องค่าย ยังไงพวกเราก็ต้องดำเนินการทางกฏหมายต่อไปแน่ๆ แต่ว่าภาพลักษณ์ของค่ายเรามันกำลังแย่มาก หลังจากข่าวเดทของชางมินเมื่อต้นปี ค่ายเราก็ไม่มีอะไรน่าปลื้มสักอย่าง รายได้ก็เริ่มน้อยลง ทั้งที่ค่ายใช้จ่ายมีแต่จะมากขึ้นๆ...”

     

                “....”

     

                “คิมจงอิน โอเซฮุน พร้อมจะเดบิวต์หรือยังทั้งสองเงยหน้ามองซีอีโอของบริษัทพร้อมด้วยอาการตกใจ ทั้งคู่เป็นเด็กฝึกของค่ายมาได้ห้าปีกว่าแล้ว ณ ตอนนี้อายุก็ครบสิบแปดปีพอดี พวกเขาถูกบ่มมาจนดีมากพอแล้วล่ะ

     

                พ..พร้อมครับทั้งเซฮุนและจงอินตอบแทบจะเป็นเสียงเดียวกัน

     

                ถ้าอย่างนั้นก็ดี ฉันคิดว่าฉันเองก็มองคนไม่ผิด เอาล่ะ...ผมขอนัดประชุดล่วงหน้าเลยแล้วกันนะ วันจันทร์หน้าตอนแปดตรง ขอให้มาเจอกันที่นี่เพื่อตกลงคอนเซ็ปต์อีกที สองคนนี้จะเดบิวต์ในฐานะคู่ดูโอ้ นายสองคนออกไปได้แล้ว ส่วนที่เหลือผมขอคุยเรื่องโบอาต่อ

     

                จงอินและเซฮุนโค้งให้ผู้หลักผู้ใหญ่ในห้องประชุมก่อนจะเดินออกมา ความรู้สึกดีใจจนเหมือนพูดไม่ออก ไม่สามารถแม้แต่จะอธิบายได้ เป็นครั้งแรกที่พวกเขารู้สึกแบบนี้ ทั้งคู่มองหน้ากันแล้วก็กอดกันกลม นี่คงเป็นสิ่งที่น่าภูมิใจที่สุดในชีวิตของเด็กอายุสิบแปดปีก็ได้

     

                เหลือเชื่อเลยว่ะไอฮุน กูคิดว่าจะไม่ได้เดแล้วซะอีก

     

                “นั่นดิ เป็นไปได้ไงว่ะ

               

                เป็นเพราะว่าเป็นฝึกด้วยกันมานานเลยทำให้สถานะของสองคนนี้เลื่อนเข้ามาใกล้กันจนกลายเป็นเพื่อน(โคตร)สนิท ไม่ว่าจะสกิลการเต้นที่อยู่ในระดับเดียวกันเท่านั้น แต่นิสัยของทั้งคู่ยังคล้ายกันจนเกือบจะเหมือน ติดเพียงแต่ว่าเซฮุนจะถือตัวกว่าหน่อย

     

                จริงๆการถูกเรียกให้เข้าร่วมประชุมด้วยก็สร้างความแปลกใจให้กับเซฮุนอยู่ไม่น้อย แต่เขาคิดว่าคงจะเป็นเรื่องอื่น เช่นปลดเขาออกจากการเป็นเด็กฝึกหรืออะไรที่ไม่ค่อยจะสร้างสรรค์ซักเท่าไหร่ ...บางครั้งก็ต้องยอมรับว่าหายนะของคนอื่นก็สามารถนำพาโอกาสมาให้ตัวเองได้เหมือนกัน

     

     

     

    -

                ภายในล็อบบี้ของคอนโดเงียบกริบ หากไม่ติดว่ามีเสียงรองเท้าของผู้คนและเสียงโทรศัพท์เข้าที่ประชาสัมพันธ์แล้ว ที่นี่ก็ดูเหมือนจะไม่มีสิ่งมีชีวิตใดๆอาศัยอยู่เลย

     

                หลังจากผ่านการถ่ายทำมาครึ่งวัน เจสสิก้าเลือกจะขับรถมาที่คอนโดสุดหรูแห่งนี้ ที่นี่ติดท็อปไฟว์คอนโดที่มีราคาแพงที่สุดของเกาหลี ไม่เพียงแค่เพราะการตกแต่งสไตล์ยุโรปเท่านั้น แต่มันยังอยู่ติดแม่น้ำฮัน ซึ่งบรรยากาศสุดแสนจะโรแมนติกอีกด้วย

     

                และแม้ว่าเจสสิก้าจะไม่ได้เป็นเจ้าของห้องใดๆในคอนโดนี้เธอก็สามารถเข้า-ออกได้อย่างง่ายดาย เพราะเจ้าของห้องเพนส์เฮ้าส์ชั้นสูงสุดของที่นี่ใส่ชื่อเธอเป็นแขกวีไอพี คิดดูซิ...เจ้าของห้องที่รวยและรสนิยมดีขนาดนี้จะเป็นคนแบบไหนกันนะ?

     

                ‘5001’

     

                ร่างบอบบางในเสื้อกล้ามสีขาวกับกางเกงขายาวสีดำกำลังยืนรอเจ้าของห้องมาเปิดประตูให้หลังจากกดออดไปแล้ว ในขณะที่เธอกำลังคิดอะไรเพลินๆประตูก็เปิดออกพร้อมกับมือของใครคนหนึ่งที่ดึงเธอเข้าไปข้างในแล้วใช้มืออีกข้างปิดประตู

     

                คนตัวสูงประกบริมฝีปากลงมาอย่างรวดเร็ว มือไม้อยู่ไม่สุขจนต้องลูบไล้ไปทั่วร่างของเธอก่อนจะสอดมือเข้าไปใต้เสื้อกล้ามตัวบาง สัมผัสของเขาร้อนแรงและเร่งรีบไม่อ่อนโยนเช่นทุกครั้ง

     

                ไปอดอยากปากแห้งมาจากไหนกันย่ะ?!

     

                “พ..พอก่อนเจสสิก้าถอนริมฝีปากออกจากคนใจร้อน พร้อมกับจับมือของเขาออกห่างจากร่างกายเธอ ขอฉันอาบน้ำก่อนไม่ได้เหรอ

     

                “สิก้า ตั้งแต่เธอถ่ายละครเราก็แทบจะไม่ได้เจอกันเลยนะ ฉันจะคลั่งตายอยู่แล้วเนี่ย!”

     

                ตลกชะมัด...ผู้ชายตัวสูงเกือบร้อยเก้าสิบแต่ดันมาทำท่าโมโหเหมือนเด็กๆ มือเล็กทั้งสองเอื้อมไปลูบใบหน้าเขาเบาๆก่อนจะเขย่งไปกระซิบข้างหู ถ้างั้น....เราไปอาบน้ำด้วยกันมั๊ยคะ

     

     

     

    -

                เจสสิก้านอนชำระร่างกายอยู่ในอ่างจากุชชี่ขนาดใหญ่พอที่คนสองคนจะอยู่ด้วยกันได้อย่างสบายๆ  ทั้งสองคนเปลือยเปล่าไม่มีเสื้อผ้าแม้แต่ชิ้นเดียว ข้างๆคือเธอคือคริสหรืออู๋อี้ฝาน ลูกชายประธานบริษัท Wu Entertainment ต้นสังกัดของเธอ เจสสิก้าและคริสเป็นแฟนกันตั้งแต่เมื่อสามปีที่แล้ว จนตอนนี้พวกเขาทั้งคู่อายุยี่สิบสามปีถ้วน

     

                มันคงจะกระดากปากถ้าจะเรียกความสัมพันธ์นี้ว่าเกิดจากความรักทั้ง 100% เพราะเธอเองก็หวังจากเขามากกว่าความรัก คริสเองก็รู้ดี แต่มันก็ไม่ได้แย่อะไรนี่ ในเมื่อตอนนี้เจสสิก้าก็รักเขาแล้ว จริงๆแล้วคริสเองก็หวังความสุขจากตัวเธอเหมือนกัน

     

                ผลประโยชน์มันมีอยู่ทุกที่นั่นล่ะ...แต่ถ้าไม่ใช่คริส เธอเองก็คงไม่ยอมทำกับใครแบบนี้เพื่อแลกกับชื่อเสียงหรอก ในขณะที่เขาก็ยอมถอดร่างเพลย์บอยตัวพ่อออก มีได้ก็ต้องมีเสียกันทั้งนั้น ทั้งนี้ทั้งนั้นเธอและเขาก็ยังรัก แม้ว่ามันจะมีอะไรแอบแฝงอยู่ก็ตาม แต่เธอเองก็ไม่คิดว่าแปลก มีความรักไหนที่บริสุทธิ์ขนาดนั้นในโลกตอนนี้ด้วยเหรอ?

     

                กฎข้อเดียวในการอยู่ด้วยกันคือ...ต้องซื่อสัตย์ ไม่นอกใจ

     

                คริส..

     

                “หืม?”

     

                “รักนะคริสมองหน้าเจสสิก้าอย่างประหลาดใจ ถึงแม้ว่าจะเป็นแฟนกันมานาน แต่ว่าเจสสิก้าบอกรักเขาแทบจะนับครั้งได้เลย เขาเดาว่าต้องมีอะไรแปลกๆเกิดขึ้นแน่ๆ

     

                มีอะไรหรือเปล่า

     

                “เปล่าหรอก ก็แค่อยากบอก

     

                เจสสิก้าไม่ได้โกหกก็แค่ไม่ได้พูดเรื่องทั้งหมด จริงๆแล้วมันมีคนเข้ามาจีบเธอบ่อยๆ แม้ว่าบางครั้งก็จะถูกใจอยากเล่นด้วย แต่เธอมีแฟนแล้ว เธอก็ต้องรักเดียวใจเดียว และที่บอกรักก็เพื่อจะทำให้ตัวเองเชื่อว่าไม่มีผู้ชายคนไหนหรอกที่ทั้งรักและก็ยอมเธอขนาดนี้

     

                ฉันก็รักเธอมือใหญ่เอื้อมไปขยี้หัวคนตัวเล็กข้างๆด้วยความหมั่นเขี้ยว

     

                ลุกกันเถอะ ฉันหิวแล้ว

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×