ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    BAP :: {bangchan} COLMAR

    ลำดับตอนที่ #1 : [COLMAR] - 0 - Bienvenue en France

    • อัปเดตล่าสุด 5 เม.ย. 58










     



     

    – 0 –

    “ Bienvenue en France ”

     

     

     

     

     

    มีความเชื่อที่ว่าชีวิตคือการเดินทาง

                และแต่ละคนก็มีเหตุผลในการออกเดินทางที่ต่างกัน

                หลายคน....ไปเพื่อที่จะได้เห็น

                แต่สำหรับบางคน

                การก้าวเดินออกจากจุดเดิมไปยังที่ใหม่ๆ

                ก็เพียงเพื่อที่จะ...

               

     

              ไม่ต้องเห็นต่างหาก

     

     

     

     

     

     

                ชายหนุ่มในชุดสีดำสนิทไปทั้งตัวลากกระเป๋าเดินทางใบขนาดกลางสีเงินเดินออกมาจากประตูผู้โดยสารขาเข้า

                เบื้องหลังนั้นมีป้ายตัวอักษรขนาดใหญ่เขียนตระหง่าน

               

     

    “Paris-Charles de Gaulle Airport”

                (ท่าอากาศยานนานาชาติปารีส-ชาร์ล เดอ โกล)

     

     

                เสียงถอนหายใจเบาๆพร้อมกับเดินออกมาจากมวลหมู่ประชากรที่เดินทางมารับผู้โดยสารคนอื่นๆร่วมกับไฟลท์ของเขา

     

                สมกับเป็นสนามบินหลักของประเทศจริงๆ ผู้คนเดินกันพลุกพล่านเต็มไปหมด เคยคิดว่าสนามบินอินชอนคือสุดยอดสนามบินที่คนเยอะแล้วนะ ตอนนี้เขาคงต้องยกรางวัลให้ที่นี่แทนแล้วล่ะ

     

                ลากกระเป๋าหลบไปทางนั้นทีทางนี้ที กว่าจะเจอมุมสงบๆให้พอได้หยุดพักบ้างก็ทำเอาเหงื่อตกไปเหมือนกัน

     

                ชายหนุ่มคนเดิมเปิดกระเป๋าเป้ของตัวเองเพื่อหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาพร้อมกับเชื่อมต่อเข้ากับสัญญาณไวไฟภายในสนามบินซึ่งถือว่ามีความเร็วขั้นดีเยี่ยมเลยล่ะ

     

                ทันทีที่เปิดเครื่องและสามารถเชื่อมต่อกับโลกของอินเตอร์เน็ตได้ ข้อความแจ้งเตือนทุกอย่างก็พรั่งพรูขึ้นมาบนจอราวกับสายน้ำไหล

     

                หัวคิ้วขมวดเข้าหากันเล็กน้อยขณะเลื่อนดูตามแอปพลิเคชั่นต่างๆของโทรศัพท์ตัวเอง

     

                เขาไม่ได้เปิดสัญญาณโทรข้ามประเทศ

     

                แต่ถึงอย่างนั้นในโลกที่เทคโนโลยีก้าวหน้ามามากมายขนาดนี้ก็ยังมีช่องทางติดต่อกันอีกมากมายผ่านโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คหลายยี่ห้อ

     

     

              Whatapp, Facebook, Kakao Talk

     

     

                ทั้งสามแอปพลิเคชั่นหลักนี้มีตัวเลขแจ้งเตือนเกินหลักร้อยเลยทีเดียว

     

                เสียงถอนหายใจดังขึ้นอีกครั้งก่อนจะเลือกกดเข้าที่แอพสีเหลืองตัวอักษรสีน้ำตาล

     

                KAKAO TALK หรือที่เรียกย่อจนชินปากกันว่า คาทก

     

                มีข้อความแจ้งเตือนจากแอคเค้าท์ทางการบ้างประปรายแต่สิ่งสำคัญคือใครบางคนที่ตัวเลขสีแดงขึ้นหลังชื่อแสดงจำนวนข้อความที่ส่งมาและยังไม่ถูกเปิดอ่านเกือบสองร้อยข้อความ

     

                และก็ต้องสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อข้อความล่าสุดเด้งขึ้นมาพอดี

               

     

    ถ้านายยังไม่ตายเปิดอ่านข้อความเดี๋ยวนี้นะ!!

     

     

                สุดท้ายก็ต้องกดเปิดช่องแชตของใครคนนี้ขึ้นมาจนได้

     

                กว่าจะเลื่อนเจอข้อความแรกสุดที่ยังไม่ได้อ่านก็ต้องลากนิ้วบนหน้าจอจนเมื่อยอยู่เหมือนกัน

     

                สายตาเรียวกวาดสายตาเร็วพอๆกับปลายนิ้วที่สไลด์เลื่อนดูแต่ละข้อความไปเรื่อยๆ

     

     

     

                นายอยู่ไหนน่ะ..

              ไปกินข้าวกันมั้ย

              นายตอบช้านะ....

              นี่ ทำไมไม่เปิดข้อความอ่านล่ะ

              ผ่านไปสองชั่วโมงแล้วนะ ให้ตายสิ!!!

              ย๊า!!! คิมฮิมชาน!

              รับโทรศัพท์ฉันสิ ทำไมฉันติดต่อนายไม่ได้ล่ะ!!

              ‘ (อิโมติค่อน)

              ‘(อิโมติค่อน)

              นายทำให้ฉันเป็นห่วงนะ!

              .

              .

              .

              .

              .

              เปิดโทรศัพท์ซะทีสิ เจ้าโง่

              ถ้านายไม่ติดต่อมาฉันจะแจ้งตำรวจแล้วนะ

              ฉันเกลียดนายชะมัดให้ตายสิ

     

     

     

     

                ข้อความทั้งหมดถูกส่งมาห่างกันแทบจะไม่ถึงห้านาที บางครั้งก็เป็นส่งสติ๊กเกอร์หรืออิโมติค่อนมาแทน

     

                ดูเหมือนจะเป็นการส่งมาตลอดทั้งคืนด้วยเลย

     

                คงจะเป็นตลอดช่วงเวลาที่เขาอยู่บนเครื่องบินนั่นเอง

     

     

     

                หน้าจอโทรศัพท์เด้งขึ้นอีกครั้งแต่คราวนี้ไม่ใช่ข้อความแล้ว เป็นโทรศัพท์มาผ่านแอพเลยล่ะ

     

                เจ้าของเครื่องหลับตาเรียกความเข้มแข็งตัวเองอีกครั้งก่อนจะกดรับในที่สุด

     

                คิมฮิมชานใช่มั้ย!ปลายสายถามขึ้นทันทีที่เขากดรับสาย

     

                ฉันเอง....

     

                นาย...นาย....ปลายเสียงกลับอ้ำอึ้ง นายทำบ้าอะไรของนายอยู่ ฉันติดต่อนายไม่ได้เกือบสองวันเต็มๆเลยนะ!

     

                ฉัน....

     

                นายทำเอาฉันกังวลจนจะประสาทตายอยู่แล้วรู้ตัวมั้ย นายอยู่ที่ไหน ทำไมปิดเครื่อง ฉันส่งข้อความไปเท่าไหร่ก็ไม่ตอบ

     

                ส่ายหัวเบาๆ ขอโทษนะ

     

                ขอโทษอะไร ฉันถามเพื่อให้นายตอบไม่ใช่ขอโทษ

     

                “....” ชายหนุ่มเลือกที่จะเงียบแทนคำตอบ

     

                นายเป็นอะไรของนายฮิมชาน ทำไมนายต้องปิดสัญญาณ find my friend ด้วยปลายสายหมายถึงแอพพลิเคชั่นของเครื่องมือสื่อสารเครือแอปเปิ้ลที่จะสามารถเช็คได้ว่าใครอยู่ที่ไหนบนโลกนี้จากสัญญาณโทรศัพท์หรืออุปกรณ์อเล็คโทรนิกส์ใดๆก็ตามภายใต้แบรนด์นี้

     

                “.....”

     

                ตอบสิ อย่าเอาแต่เงียบแบบนี้

     

                ฮโยริน...เสียงแรกที่ฮิมชานเอ่ยออกมาหลังจากที่เงียบไปพักใหญ่

     

                นายไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนนะฮิมชาน นี่นายยังเห็นว่าฉันเป็นเพื่อนอยู่รึเปล่าเนี่ย

     

                คำว่า เพื่อนสั้นๆที่ทำให้ฮิมชานต้องหลับตาข่มความเจ็บปวดเอาไว้อีกครั้ง

     

                ขอโทษนะ

     

                ขอโทษฉันเรื่องอะไร

     

                ที่นั่นกี่โมงแล้ว

     

                อย่ามาเปลี่ยนเรื่องนะ ก็ตีสามไงนายไม่มีนาฬิกา.....ปลายสายชะงักไป ถามแบบนี้อย่าบอกนะว่านาย...ไม่ได้อยู่ในเกาหลีแล้ว

     

                “.....”

     

                ฮิมชาน ตอบฉันมาเดี๋ยวนี้ นายอยู่ที่ไหน

     

                ชายหนุ่มปล่อยมือที่จับกระเป๋าเดินทางเพื่อใช้มันยกขึ้นมากุมหน้าผากบริเวณผมหน้าของตัวเอง

     

                ฮิมชาน....หญิงสาวลากเสียงยาว ทำไมทำแบบนี้

     

                ฉัน...มาทำงาน

     

                งานอะไร ที่ไหน แล้วทำไมถึงไม่บอกฉันเลย ทำไมมันกะทันหันแบบนี้

     

                เป็นงานด่วนน่ะ

     

                หญิงสาวเงียบไปเล็กน้อยจึงเอ่ยต่อ มันจะถึงงานแต่งของฉันแล้วนะ

     

                เจ้าของชื่อฮิมชานเม้มปากลงจนสนิท มือข้างหนึ่งเอื้อมไปจับหูกระเป๋าเดินทางอีกครั้งคล้ายกับต้องการพยุงตัวเองเอาไว้

     

                ฉันรู้

     

                นายจะกลับมาทันใช่มั้ย

     

                ขอโทษนะฮโยริน

     

                หยุดพูดคำว่าขอโทษซะที!!!หญิงสาวร้องเสียงแหลมกลับมา

     

                ชายหนุ่มเร่งฝีเท้าเดินไปตามป้ายบอกทางให้เร็วยิ่งกว่าเดิม เขาไม่ชอบเลยจริงๆ เสียงสั่นเครือคล้ายคนร้องไห้ของปลายสายน่ะ

     

                เขาไม่อยากทำให้เธอต้องร้องไห้เลย

     

                เพราะเขารู้ดี...ว่าตอนนี้เขาไม่สามารถเช็ดน้ำตาให้เธอได้อีกแล้ว

     

                ฉันคงต้องทำงานอยู่ที่นี่เป็นเดือนล่ะนะ คงกลับไปงาน....งานแต่งของเธอไม่ได้จริงๆ

     

                แต่ฉันอยากให้นายอยู่ในวันสำคัญที่สุดในชีวิตของฉันนะ

     

                ชายหนุ่มไม่ตอบอะไร

     

                นายเป็นเพื่อนที่สำคัญที่สุดของฉันนะฮิมชาน

     

                ฉันรู้ ฮโยริน...ฉันรู้ดี

     

              ช่วยหยุดตอกย้ำกันสักที

     

                เขารู้ดี...ว่าเขาเป็นได้แค่ไหนตลอดมา

     

                และก็คงตลอดไป

     

                กลับมาสักวันไม่ได้เลยหรอ

     

                ฉันกลับไปไม่ได้จริงๆ

     

                ความรู้สึกในตอนนี้มันถอยหลังไปยังจุดเริ่มต้นไม่ได้แล้ว

     

                ทำไมนายใจร้ายแบบนี้นะคิมฮิมชาน

     

                คนใจร้ายที่ว่าหยุดเดินจนได้เมื่อถึงที่หมายที่เขาตามหาแล้ว

     

     

               

              “Train à Grande Vitesse – TGV”

                (รถไฟความเร็วสูง)

     

     

     

                ฉันอยากให้นายมาในฐานะเพื่อนเจ้าสาวนะ

     

                ชายหนุ่มขำเล็กน้อย ฉันเป็นผู้ชายนะ ให้ไปยืนอยู่ข้างๆเธอตอนนั้นคงจะตลกน่าดู

     

                แต่ฉันคงรู้สึกดีขึ้นเยอะเลยถ้ามีนายอยู่ด้วยตอนนั้น

     

                รอยยิ้มระบายบางๆบนใบหน้าของเขา พอเธอแต่งงานไปแล้ว จะมาเกาะติดฉันตลอดแบบเมื่อก่อนไม่ได้แล้วนะ

     

                ฉันแต่งงานก็ไม่ได้แปลว่าเราจะต้องเลิกเป็นเพื่อนกันนี่นา

     

                ต่อไปนี้จะมีผู้ชายคนอื่นมาดูแลเธอแทนฉันแล้วนะ ยัยตัวแสบ

     

                ไม่มีใครแทนนายได้หรอกฮิมชาน อย่ามาพูดแบบนี้นะฉันไม่ชอบ

     

                ไม่มีใครแทนที่เธอได้เหมือนกัน ฮโยริน

     

                นายอยู่ที่ไหน...

     

                วันงานเธอต้องยิ้มเยอะๆนะ ชุดเจ้าสาวของเธอคงจะสวยน่าดูสินะ

     

                อยากเห็นก็กลับมาดูสิ

     

                เสียงหัวเราะเบาๆดังขึ้น ไม่ต้องดูฉันก็รู้แล้วล่ะว่าเธอจะต้องใส่มันออกมาสวยที่สุดแน่ๆ

     

                ถึงมาชมฉันตอนนี้ฉันก็ไม่ดีใจหรอกนะ

     

                ชายหนุ่มพยายามทำให้บทสนทนาไม่เศร้าจนเกินไป ตีสามกว่าแล้วใช่มั้ยไปนอนได้แล้วนะ

     

                ฉันยังคุยต่อได้

     

                ไปนอนเถอะ

     

                ฉันยังไม่อยากวาง...หญิงสาวเอ่ย ฉันกลัวว่านายจะไม่รับสายฉันอีก

     

                ฮิมชานพยักหน้าเบาๆ

     

                นายจะไม่ทำแบบนั้นใช่มั้ย...

     

                ฉันต้องวางแล้วนะ

     

                “....”

     

                ฉันขอให้เธอมีความสุขนะฮโยริน

     

                ทำไมพูดแบบนี้

     

                ดูแลตัวเองดีๆ

     

                หยุดเดี๋ยวนี้นะ

     

                เอาแต่ใจน้อยลงบ้าง อย่าทะเลาะกับเขาเยอะนะ

     

                ฮิมชาน!

     

                ฉันรู้ว่าเธอจะไม่เป็นไร

     

                กลับมาเถอะนะฮิมชาน กลับมา...

     

                ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นจ้องมองเพดานที่ถูกประดับประดาอย่างสวยงาม แต่ตอนนี้เขากลับหวังเพียงว่าแรงโน้มถ่วงของโลกจะดึงน้ำตาให้ไหลย้อนกลับไปก็เท่านั้นเอง

     

                ฉันต้องวางแล้วนะ

     

                “....”

     

     

                ฉันรักนายนะ คิมฮิมชาน

                ฉันก็รักเธอ มินฮโยริน

     

     

     

     

                ชายหนุ่มจ้องหน้าจอโทรศัพท์อยู่สักพักหนึ่ง ก่อนจะเดินไปยังเคาท์เตอร์เพื่อรับตั๋วที่เขาได้สั่งจองไว้ล่วงหน้าแล้ว

     

                โชคดีที่มาถึงทันเวลาก่อนรถไฟจะออกพอดี

     

                ยกกระเป๋าเดินทางเก็บในช่องก่อนจะนั่งลงบนเบาะของรถไฟที่เรียกว่าสะดวกสบายสมกับราคาที่ค่อนข้างสูงเลยล่ะ

     

                เหลือบตามองตั๋วเดินทางที่ระบุเวลาที่จะเดินทางยังปลายทางของเขา สามชั่วโมงงั้นหรอ...

     

                คงนอนหลับไปได้สักตื่นล่ะมั้ง

     

                รอเพียงไม่กี่นาทีขบวนรถไฟก็เริ่มเคลื่อนตัวออกจากชานชาลาจนได้ ชายหนุ่มยกมือปฏิเสธการเสนอขายอาหารและเครื่องดื่มของพนักงานก่อนจะมองออกไปด้านนอกกระจก

     

                การเดินทางของเขาในโลกใบใหม่แห่งนี้กำลังเริ่มต้นขึ้นแล้ว

     

                ยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดไปยังแอพพลิเคชั่นโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คทั้งหมดแล้วกดลบแอคเค้าท์ทีละแอพ

     

                กดเข้าไปยังอัลบั้มรูปภาพก็เจอเข้ากับรูปถ่ายของหญิงสาวคนหนึ่งเต็มไปหมด

     

                บางรูปก็เป็นรูปของเธอเพียงคนเดียว

     

                แต่บางรูปก็มีเขาอยู่ข้างๆเธอในรูปด้วย

     

                กดเลือกรูปทั้งหมดกว่าห้าสิบรูปก่อนจะกดที่ปุ่ม delete

     

                หน้าจอหนึ่งก็เด้งขึ้นมาเพื่อถามความต้องการของเขา

     

     

              “DELETE 59 PHOTOS”

     

     

                ชายหนุ่มกัดฟันแน่น ก่อนจะพ่นลมหายใจเบาๆ

                แล้วกดปุ่ม “CANCEL”

     

                ภายในรถไฟมีการเปิดเพลงบรรเลงเบาๆคลอกับความสวยงามของวิวภายนอกด้วย

     

                เอาจริงๆด้วยความเร็ว 320กิโลเมตรต่อชั่วโมงก็ทำให้เขามองอะไรไม่ค่อยจะทันหรอกนะ

     

                แต่สีเขียวของต้นไม้ที่ตัดสลับกับท้องฟ้าสีคราม มันก็เป็นอะไรที่น่ามองสุดๆเลยล่ะ

     

                นี่อาจจะไม่สมควรเรียกว่าการเดินทางด้วยซ้ำ

     

                แต่เป็นการหลบหนีของเขาต่างหาก

     

     

                หนีออกมาจากการ์ดเชิญ Wedding Ceremony

                หนีออกมาจากการลองชุดสูททักซิโด้หรูหรา

                หนีออกมาจากการต้องพูดว่าเขายินดีกับงานแต่งนี้แค่ไหน

                หนีออกมาจากความลำบากใจทุกครั้งที่เห็นหน้าว่าที่เจ้าสาว

                หนีออกมาจากความจริงที่ว่า...เขาไมใช่เจ้าบ่าวของเธอ

     

     

                แต่เป็นได้เพียงแค่เพื่อน

                เพื่อนรัก...ที่ไม่มีวันได้เป็นคนรัก

     

     

                เขาทนยิ้มให้เธอในโบสถ์วันนั้นไม่ได้จริงๆ

     

     

                เพราะสำหรับเขามันเป็นอะไรที่ยากเกินจะอดทน

                ที่ต้องยอมรับความจริงว่าเรารักใครสักคนไปแล้ว

                แต่ไม่สามารถยืนอยู่ข้างๆเขาได้จริงๆ

     

     

                เพราะที่ตรงนั้นมันไม่ใช่ของเรา

                และมันมีคนยืนอยู่ในจุดที่เราอยากยืนไปเสียแล้ว

     

     

                นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เขามานั่งอยู่ในรถไฟขบวนนี้

                เพื่อหลบหนีจากความจริงที่เขาไม่ต้องการจะยอมรับ

     

     

     

                พนักงานเดินตรวจตั๋วมาหยุดอยู่ที่เก้าอี้ของฮิมชาน พูดคุยเป็นภาษาอังกฤษว่าต้องการจะตรวจสอบความตรงกันระหว่างตั๋วกับหนังสือเดินทาง

     

                ฮิมชานทำตามที่พนักงานคนนี้แนะนำ เพียงครู่เดียวเขาก็ได้เอกสารทั้งหมดกลับคืนมาพร้อมการเอ่ยขอบคุณของชายตัวใหญ่ตรงหน้า

     

                กระดาษตั๋วที่ถูกสอดเอาไว้ในหนังสือเดินทางเล่มสีเขียวเขียนต้นทางและปลายทางที่ชายหนุ่มเลือกเอาไว้

     

                จุดหมายของรถไฟและจุดเริ่มต้นในการเริ่มต้นใหม่ของเขา

     

     

     

              ‘PARIS  –  COLMAR’

               

     

     

     

    - - - - - -  - - - - - - - - - - - - - - -

     

     

    #บชโคลมา

     

     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -






     

     

    - Bienvenue en France (เบียงเวอนยู – ออง – ฟร๊องซ์) = ยินดีต้อนรับสู่ประเทศฝรั่งเศส

    - Paris Charles-de Gaulle Airport

                    หรือเรียกโดยทั่วไปว่า ท่าอากาศยานรัวซี (Roissy) ตั้งอยู่ที่รัวซี กรุงปารีส ฝรั่งเศส อยู่ห่างจากตัวเมืองปารีสไปทางตะวันออกเฉีนงเหนือประมาณ 25 กิโลเมตร นับเป็นประตูสำคัญในการเดินทางเข้าออกประเทศฝรั่งเศส นอกจากนี้ยังเป็นท่าอากาศยานหลักของสายการบินแอร์ฟรานซ์ด้วย

                    ท่าอากาศยานแห่งนี้ ตั้งชื่อตาม ชาร์ล เดอ โกล วีรบุรุษ และผู้นำขบวนการปลดปล่อยฝรั่งเศส

    - Train à Grande Vitesse (TGV)

                    เป็นรถไฟความเร็วสูง ซึ่งความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 320 km/h เป็นรถไฟที่ราคาตั๋วแพงที่สุด และเป็นรถไฟที่ใช้วิ่งระยะไกล อีกทั้งยังมีโบกี้ขายอาหารไว้บริการอีกด้วย

                    TGV เป็นรถไฟความเร็วสูงประเภทหนึ่งที่ถือกำเนิดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศฝรั่งเศสในราว ๆ คริสศตวรรษที่ 1960 โดยเริ่มต้นจากแนวความคิดที่ต้องการจะพัฒนารถไฟซึ่งถือได้ว่าเป็นระบบการคมนาคมขนส่งสาธารณะที่เป็นที่นิยมสูงที่สุดประเภทหนึ่งของแถบทวีปยุโรป ให้มีศักยภาพในการตอบสนองความต้องการของประชาชน สังคมและเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างทันท่วงที เนื่องจากประเทศฝรั่งเศสซึ่งเป็นประเทศขนาดใหญ่และอยู่เกือบใจกลางของทวีปยุโรป ดังนั้นการเดินทางทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศจึงต้องมีระบบการคมนาคมขนส่งที่มีความสะดวกรวดเร็ว ประหยัดค่าใช้จ่าย และสามารถขนสินค้าหรือบรรทุกผู้โดยสารได้เป็นจำนวนมาก

     

                    **เส้นทางที่ฮิมชานเดินทางในตอนนี้  PARIS – COLMAR
     

                 








    Je ne vois personne aussi bien que vous
    เฌอ เนอ วัวร์ แปรซอน โอซี่ เบียง เก้อะ วู
    ผมไม่เคยพบใครดีเท่าคุณมาก่อนเลย




     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×