ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ☁ (OS/SF) JARK STORY

    ลำดับตอนที่ #1 : Remember

    • อัปเดตล่าสุด 3 มี.ค. 59



    Remember





    ผมขอนั่งด้วยได้ไหมครับเสียงของผู้ชายร่างหนาในชุดเสื้อยืดสีดำดังขึ้น ขณะที่ มาร์คกำลังก้มหน้าขีดเขียนรูปเล่นในสมาร์ทโฟนตรงหน้า บรรยากาศภายในร้านขนมแห่งนี้คึกคักตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะช่วงเลิกงานแบบนี้ที่มักจะมีกลุ่มนักศึกษามานั่งจับกลุ่มนินทาชาวบ้านหรือไม่ก็คุยงานกัน  โต๊ะที่มาร์คนั่งเป็นมุมบอดภายในร้านเพราะเขารักความสงบมากกว่าความจอแจกลางตัวร้าน แจ็คสันก็เช่นกัน โต๊ะทุกตัวถูกจับจองจนหมด เขาทำได้แค่มองหาคนที่หน้าตาเป็นมิตรเพื่อขอนั่งร่วมโต๊ะเพียงชั่วครู่เท่านั้น

    ได้ครับได้คนที่นั่งอยู่เงยหน้าสบตาต้นเสียงก่อนจะส่งยิ้มอย่างอัธยาศัยดีแล้วก้มลงจอจ่อกับหน้าจออีกครั้ง ปากกาอัจฉริยะในมือถูกขยับให้เกิดภาพการ์ตูนสวยงามบนหน้าจอ มาร์คมีความสุขกับสิ่งนี้ การวาดรูปคืองานอดิเรก ความฝัน ความสุข และความทรงจำทั้งหมดของเขา แจ็คสันวางแก้วลาเต้ปั่นลงบนโต๊ะก่อนจะหย่อนก้นลงบนเก้าอี้โซฟาสีน้ำตาลเข้ม หน้าจอสมาร์ทโฟนของมาร์คมีขนาดใหญ่พอที่จะดึงดูดความสนใจจากแจ็คสัน

    วาดมิคาสะเหรอครับคนที่แอบมองได้ซักพักเอ่ยถาม ทำเอาคนวาดสะดุ้งเล็กน้อย

    อา ใช่ครับ คุณรู้จักการ์ตูนเรื่องนี้ด้วยเหรอ

    ผมชอบเรื่องนี้มากเลยครับ แฟนพันธุ์แท้เลยแจ็คสันยิ้มกว้างด้วยท่าทีที่สนใจ

    ผมไม่ได้ชอบการ์ตูนเรื่องนี้หรอกครับ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงชอบวาด

    แฟนคุณชอบมั้งครับ

    ผมไม่มีแฟนหรอกครับมาร์คหัวเราะร่วนพลางยกหลังมือข้างหนึ่งมาบังปากแบบอายๆ ตรงกันข้ามกับแจ็คสัน รอยยิ้มที่ปรากฏบนใบหน้าได้ถูกแปรเปลี่ยนเป็นความเจ็บปวดในหัวใจ ดวงตาดูสิ้นหวังและหมดแรง

     

    .

    .

    .

    .

     

    บรรยากาศภายในร้านขนมแห่งนี้ยังคงคึกคักเหมือนทุกวัน โต๊ะนับสิบตัวภายในร้านถูกจับจองเป็นจุดนัดหมายของนักศึกษา ยกเว้นเสียจากโต๊ะตัวหนึ่งที่ตั้งอยู่มุมหลืบของร้าน

    ขอโทษนะครับ โต๊ะนี้มีคนจองแล้วครับพนักงานเสิร์ฟรีบวิ่งมาขัดลูกค้าสาวคนหนึ่งที่ตรงดิ่งมายังโต๊ะนั้น ทำเอาเธอตกใจเล็กน้อย เขารีบวางป้ายตั้งพลาสติกสีแดงที่มีตัวหนังสือคำว่า จองแล้วไว้บนโต๊ะพร้อมหายใจหอบเพราะวิ่งตรงมาจากหลังร้าน ก่อนจะเงยหน้ามองนาฬิกาแขวนที่บอกเวลา 16:30 นาฬิกาพอดี เขาโค้งขอโทษลูกค้าเล็กน้อยก่อนจะกลับไปรับออเดอร์ลูกค้าโต๊ะอื่น

    .

    .

    เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นแทบทุกวัน

    จนกลายเป็นเรื่องปกติ

    .

    .

    โต๊ะเดิม เวลาเดิม และคนเดิม

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    วาดมิคาสะเหรอครับ

    อา ใช่ครับ คุณรู้จักการ์ตูนเรื่องนี้ด้วยเหรอ

    ผมชอบเรื่องนี้มากเลยครับ แฟนพันธุ์แท้เลย

    ผมไม่ได้ชอบการ์ตูนเรื่องนี้หรอกครับ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงชอบวาด

    แฟนคุณชอบมั้งครับ

    ผมไม่มีแฟนหรอกครับ

    .

    .

    .

    .

    มีสิ ผมไง คนที่อยู่ตรงหน้าคุณนี่ไง

     






     

     

    เป็นเวลาเกือบ 5 ปีแล้วที่มาร์คป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ ความทรงจำของเขาเริ่มจางหายไปพร้อมกับเวลาที่ล่วงเลย มันเริ่มตั้งแต่ตอนที่มาร์คเรียนอยู่มหาวิทยาลัยชั้นปีที่ 3 และป่วยจนไม่สามารถสำเร็จการศึกษาได้ ทุกวันของมาร์คผ่านไปด้วยงานอดิเรกที่เขารัก นั่นคือการวาดรูป โดยมีคนที่เขารักอย่างแจ็คสันคอยดูแลไม่ห่าง ทั้งสองคนคบหากันตั้งแต่เรียนอยู่ชั้นปีที่ 2 และร้านขนมแห่งนี้เป็นสถานที่แรกที่คนทั้งสองได้รู้จักกัน

    เหตุผลที่โต๊ะตัวนี้เป็นที่ประจำสำหรับมาร์คเพราะเจ้าของร้านคือแจ็คสันนั่นเอง เขาเปิดธุรกิจเป็นของตัวเองตั้งแต่เรียนอยู่ชั้นปีที่ 1

    .

    .

    .

    .

    เขารู้ว่ามาร์คชอบนั่งตรงไหน

    เขารู้ว่ามาร์คจะมาที่นี่เมื่อไหร่

    เขารู้ว่ามาร์คชอบกินอะไร

    .

    .

    เขาจำทุกอย่างที่เกี่ยวกับมาร์คได้

    ถึงแม้มาร์คจะจำอะไรที่เกี่ยวกับเขาไม่ได้เลยก็ตาม

     

     

    ผมต้องกลับแล้วมาร์คขยับปากพูดด้วยสีหน้ากังวลเมื่อเห็นนาฬิกาที่บอกเวลา 19:00 . เวลาผ่านล่วงเลยไปด้วยบทสนทนาซ้ำเดิมกับคนเดิม มันเป็นบทสนทนาธรรมดาที่คนแปลกหน้าจะสามารถแลกเปลี่ยนกันได้และไม่มีอะไรพิเศษไปกว่านั้น ถึงแม้แจ็คสันจะอยากให้มันพิเศษมากก็ตาม

    ให้ผมไปส่งไหม

    ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมเรียกแท็กซี่เอาดีกว่า รบกวนคุณเปล่าๆ

    งั้นกลับดีๆ นะครับแจ็คสันยิ้มบางให้อีกฝ่ายก่อนที่แผ่นหลังมาร์คจะเลือนหายไปกับความมืดนอกร้าน แท็กซี่ที่มารับมาร์คทุกวันก็เป็นแท็กซี่คันเดิม คนขับคนเดิม คนที่รู้ว่าต้องไปส่งมาร์คที่ไหน

     

    .

    .

    .

    ทำไมผมไม่ถอดใจตั้งแต่ตอนที่รู้ว่าเขาป่วย

    เพราะรักไปแล้วล่ะมั้ง

    .

    .

    .

     

     

    เสื้อคลุมสีน้ำตาลเข้มถูกพาดไว้บนพนักโซฟายาว แจ็คสันคว้ารีโมทโทรทัศน์มากดปุ่มปิดเพราะมันถูกเปิดทิ้งไว้โดยไร้คนดู เขาเดินตรงไปยังห้องน้ำเพื่อชำระล้างร่างกายที่เหนื่อยล้ามาทั้งวัน มีร้านอาหารมากมายหลายสาขาที่เขาต้องจัดการ ร้อยแปดพันเรื่องที่ทำให้สมองทำงานไม่หยุดหย่อน ร่างหนาในชุดเสื้อกล้ามสีขาว กางเกงขาสั้นวนกลับมาที่ห้องนั่งเล่นอีกครั้ง เขายืนมองรูปสีน้ำมันที่ตั้งเรียงพิงกับผนังนับสิบรูป แต่ทว่า แต่ละรูปนั้นมันไม่เคยเสร็จสมบูรณ์

    .

    .

    .

    .

    .

    นอนแล้วเหรอมาร์คแจ็คสันนั่งลงบนเตียงใหญ่ ขณะที่เจ้าของชื่อนอนหลับปุ๋ยเหมือนเจ้าหญิงนิทรา คิ้วเข้ม ขนตางอนสวย จมูกโด่งได้รูป บวกกับปากอวบอิ่มทำให้เขาอดใจไม่ไหวที่จะก้มลงทาบริมฝีปากลงเบาๆ

    ฝันดีนะร่างหนาขยับตัวเข้าหาก่อนจะวางหัวลงบนหมอน เอื้อมแขนโอบกอดคนตรงหน้าไว้ และนั่นก็ทำให้คนที่หลับอยู่ตื่นขึ้นจากนิทรา ขนตางอนขยิบเบาๆ ด้วยความงัวเงีย เมื่อแจ็คสันเห็นก็จุมพิตลงบนหน้าผากอีกครั้ง เลื่อนมือมาลูบผมเบาๆ ไม่มีบทสนทนาใดๆ ดังขึ้น มีเพียงเสียงลมหายใจของคนสองคน ใบหน้าสวยค่อยๆ พร่ามัวเพราะน้ำตาที่เอ่อคลอ แจ็คสันเม้มปากแน่นๆ กระพริบตาถี่กว่าปกติเพื่อไม่ให้น้ำตาไหลออกมา ไม่รู้ว่าเป็นน้ำตาของความรู้สึกแบบไหน เศร้าใจ หมดหวัง ท้อแท้ หดหู่ หรือคิดถึง

    .

    .

    .

    แต่เขามั่นใจเพียงหนึ่งความรู้สึกคือความรักของเขาที่มีให้มาร์ค

    มันไม่เคยลดน้อยลงและเปลี่ยนแปลงไป

    .

    .

    .

    .

    ถึงมาร์คจะจำอะไรไม่ได้ก็ไม่เป็นไร

    .

    .

    เขาจะเป็นคนจดจำทุกอย่างแทนมาร์คเอง

     

     

     

     





    แจ็คสัน หลับตาเร็ว!” คนที่มานั่งรอก่อนเอ่ยปากสั่งคนที่เพิ่งมาทั้งที่ก้นยังวางไม่ถึงเก้าอี้

    หลับทำไมอ่ะ

    หลับเถอะหน่าแจ็คสันนั่งลงตรงข้ามอีกคนก่อนจะหลับตาลงอย่างไม่ขัดขืน ก่อนที่มือเรียวจะควานหากล่องพลาติกสี่เหลี่ยมจากกระเป๋าตัวเองออกมาวางบนโต๊ะด้วยสีหน้าตื่นเต้น

    ลืมตาได้

    แจ็คสันขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้า มันคือทาร์ตไข่ของโปรดเขาที่บรรจุอยู่ในกล่องพลาสติกใสรูปสี่เหลี่ยม สีหน้าที่ดูไม่เข้าใจของแจ็คสันทำให้มาร์คหุบยิ้มลง

    ฉันทำเองเลยนะ นายชอบไม่ใช่เหรอ ก็ร้านนายไม่มีเมนูนี้ ฉันเลยอยากทำให้นายกิน

    ใช่ ฉันชอบทาร์ตไข่มากเลย มาร์คจดจ้องที่ใบหน้าแจ็คสันอย่างตั้งใจ

    แต่รู้ไหม ครั้งนี้เป็นครั้งที่สามแล้วนะที่นายทำทาร์ตไข่ให้ฉัน แถมยังสามวันติดกัน

    ..ฉันเคยทำให้นายไปแล้วเหรอ

    หน้าฉันเหมือนทาร์ตไข่หรือยังแจ็คสันหัวเราะเสียงดังพลางยื่นหน้าไปหาอีกฝ่าย ถึงแม้ภายนอกแจ็คสันยังคงเป็นผู้ชายที่พูดมากและร่าเริงเหมือนปกติ แต่ภายในสมองของเขากลับว้าวุ่นและเต็มไปด้วยคำถาม ใบหน้าของมาร์คตอนนี้มันดูไม่สู้ดีเลย เหมือนว่ามาร์คจำไม่ได้จริงๆ ว่าเคยทำทาร์ตไข่ให้แจ็คสันไปแล้วถึงสองครั้ง

     

    นั่นคือจุดเริ่มต้นของอาการป่วยของมาร์ค และมันรุนแรงขึ้นทุกวัน จนกระทั่งวันหนึ่ง วันที่เรื่องราวทุกอย่างของมาร์คและแจ็คสัน ถูกกลืนหายไปพร้อมกับเวลาที่ล่วงเลย

    .

    .

    .

    .

    ตู้เย็นบรรจุอาหารประเภทเดียวกัน ยี่ห้อเดียวกันนับสิบชิ้น

    .

    ลิ้นชักโต๊ะวางโทรทัศน์ที่มีแต่แผ่นหนังเรื่องเดียวกันเกือบสิบแผ่น

    .

    .

    .

    จะมีคนซักที่คนที่ยอมเหนื่อยเพื่อคนที่จำเราไม่ได้แม้กระทั่งชื่อ

    คนที่ไม่มีเราอยู่ในเสี้ยวความทรงจำแม้แต่วินาทีเดียว

    .

    .

    .

    คนๆ นั้นคือแจ็คสัน

    .

    .

    กล่องกำมะหยี่สีแดงที่บรรจุแหวนเพชรดีไซน์สวยจากฝรั่งเศสถูกเก็บลงลิ้นชัก ร่างหนาคลี่ยิ้มบางๆ พร้อมดวงตาที่เอ่อไปด้วยน้ำสีใส

     

    ผมอยากขอคุณแต่งงาน แต่คงไม่มีใครอยากแต่งงานกับคนแปลกหน้าหรอก จริงไหม

     

     

     

     

     

     

    END






    เป็นยังไงบ้างคะ ช็อคฟิคเรื่องนี้ บอกตามตรงว่าได้แรงบันดาลใจจากซีรีส์เรื่อง Remember the war of son นั่นแหละ เศร้ามาก คคือตอนแต่งเป็นอารมณ์ชั่ววูบ หาเรื่องไม่อ่านหนังสือมิดเทอมจ้า 55555555555555555 อยากให้มันเศร้าแต่ก็ไม่เศร้าเกินไป แต่งเองหน่วงเอง เอาแค่นี้ก็พอ อ่านแล้วไปสกรีมในทวิตเตอร์ก็อย่าลืมติดแท็ก #ฟิคทาร์ตไข่ ให้เค้าด้วยน้า 

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×