ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    COUNTER CLOCKWISE [BTS fic]

    ลำดับตอนที่ #1 : ก่อนเวลาจะเดิน [0.1]

    • อัปเดตล่าสุด 22 พ.ย. 57


    -       COUNTER CLOCKWISE      -

     

                            - กาลเวลาเป็นสิ่งที่เหนือการควบคุมที่มนุษย์สามารถคาดการณ์ใดๆได้-

                -เข็มนาฬิกา เข็มยาว เข็มสั้น เครื่องมือบอกเวลา-

     

                                        -ความรัก ก็เปรียบเสมือนเข็มของนาฬิกา ที่เดินสวนทางกัน -

                                                                                                    -หรือ ไม่ก็เดินทางมาเจอกันพอดี-

     

    ภาคที่ 1 : Timeless work [Namjin]

    -       กาลเวลาไร้จุดหมาย        -

    -       COUNTER CLOCKWISE [0.1]

     

     

    “ ครืด.....ครืด.....ครืด....ครืด.......... “

     

    เสียงที่เกิดจากมือถือเรือนสวยกระทบกับโต๊ะวางของ ดังสนั่นหวั่นไหวในห้องสีออกครีม สี่เหลี่ยมเรียบที่ไม่ได้มีการตกแต่งอะไรอย่างมากมาย เสียงของมือถือที่ตั้งปลุกไว้ดูเหมือนจะไม่สามารถทำอะไรเจ้าของที่ตั้งปลุกเอาไว้

     

    เวลาผ่านไป 15 นาที เจ้ามือเรือนสวยยังคงตั้งปลุกไว้และยังคงแจ้งเตือนทุกๆ 5 นาที แสงแดดจากภายนอกเริ่มทำให้ห้องสีครีมนี้สว่างมากขึ้นเรื่อยๆ ร่างของชายหนุ่มที่ซ่อนอยู่ใต้ผ้าห่มผืนโตเริ่มขยับไปมา ก่อนที่จะลุกขึ้นพรวดจากเตียงขึ้นมานั่งมองไปยังมือถือที่ตั้งปลุกไว้

     

    13. 15 น.ภาพจากจอมือถือที่เขามอง

    “ ขี้เกียจๆทำงานจริงเว้ย “ ร่างบางเอยขึ้นในห้องที่เงียบสงบ

     

    “ ครืด.....ครืด “ มือถือเรือนสวยสั่นอีกครั้งแต่คราวนี้สั่นแค่ 2 ครั้ง

     

    ร่างบางที่ยังคงนั่งหมดอะไรในชีวิตค่อยๆเหลือบไปมองที่หน้าจอมือถือ มีแจ้งเตือนข้อความเข้า มือเรียวที่พึ่งขยี้ตากำลังยื่นไปหยิบเจ้าของเสียงสั่นเพื่อดูข้อความที่ถูกส่งมา

     

    “           ขอโทษนะครับพี่ซอกจิน คือ วันนี้น้องชายผมมันป่วย ผมต้องหยุดงานจริงๆครับ

    พี่ช่วยทำงานในชั่วโมงตอนเย็นแทนผมได้ไหม เดี๋ยวผมไปอยู่แทนพี่วันหลังเอง

    จากแทฮยอง”

     

    เมื่อเจ้าของมือถืออ่านข้อความเสร็จก็ล้มตัวลงนอนต่อบนเตียงทันที มือถูกยกขึ้นมาวางบนหน้าผากแสดงถึงความเหนื่อยล้าที่สะสมมา “ ครืด.....ครืด มือถือสั่นอีกครั้งพร้อมข้อความที่ทำให้คนอ่านแทบจะหมดแรงในทันที

     

    “           พี่ครับ ผมโทรบอกผู้จัดการแล้วครับ เขาอนุญาตให้ผมหยุดแต่พี่ต้องรีบไปหน่อยนะครับ

    วันนี้ลูกค้าที่ร้านเยอะ ถ้าเป็นไปได้ก็ไปสัก 15.00 น. ผู้จัดการเขาบอกผมมาแบบนั้น

    ที่เหลือ ผมฝากด้วยนะครับ พี่ซ.อ.ก.จิ.น”

     

    “ ไอแทฮยอง เจอกันคราวหน้าแกโดนแน่ๆ “

     

    ร่างบางนอนบ่นพึมพับก่อนที่จะค่อยๆลุกขึ้นจากเตียงเดินตรงไปยังห้องน้ำทำกิจวัตรประจำวันทั่วไป นี้ก็เป็นวงจรชีวิตของผมละมั้งครับ ชื่อของผมก็คือ คิม ซอกจิน ทำไมผมถึงตื่นสายขนาดนี้ ก็เพราะว่าผมเรียนจบแล้วนะสิครับแต่ดันเลือกเรียนอะไรที่มันไม่เข้ากลับตัวเองเลยครับให้ทายว่าผมเรียนอะไร.. 1...2 ...3 พอครับ เรียนวิทยาศาสตร์ครับ ชีวิตผมก็เลยเป็นแบบทุกวันนี้ไงครับ เรียนจบมาแล้วก็ไม่มีงานทำเพราะผมมันซุ่มซ่ามสุดๆไปเลย

     

    นึกถึงตอนเรียนผมก็อดขำตัวเองไม่ได้เลยครับ เรียนผ่ากบที่ผมนี้แทบจะเป็นลมดีที่ได้คู่หูอย่างเจโฮปคนหล่อมาช่วยผมเอาไว้ได้เรื่องตอนเรียนก็ให้มันจบไปละกันครับ  ตอนนี้ผมก็เลยมาทำงานฆ่าเวลาไปก่อนโดยเป็นพนังงานในร้านกาแฟแถวนี้ละครับ

     

    เวลาก็ล่วงเลยไปจนเกือบจะบ่ายสองโมง เสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงสีดำถูกจัดใส่อย่างลงตัว เมื่อมองไปยังนาฬิกาที่ข้อมือก็บอกได้ว่ายังเหลือเวลาให้เดินเล่นอีกเยอะ เขาเดินทางออกจากห้องพักในทันทีเดินไปตามทางเท้าข้างถนนที่มีต้นไม้ถูกปลูกไว้ตามทาง  ที่พักที่อยู่ชานกรุงโซลกับร้านกาแฟที่อยู่ในตัวเมืองอาจจะต้องใช้เวลาเดินทางสักหน่อย แต่เขาก็ไม่ได้สนใจเดินไปเรื่อยๆจนหยุดที่หน้าร้านหนังสือร้านหนึ่ง

     

    “ พาดข่าววันนี้ มีอะไรน่าสนใจบ้าง “

     

    ไม่รอช้า ผมรีบพุ่งตัวเข้าไปที่ชั้นหนังสือพิมพ์หยิบหนังสือพิมพ์มาฉบับหนึ่งที่ดูมีสีสันมากว่าเล่มอื่น ก่อนจะจ่ายเงินและเดินออกจากร้านมานั่งที่ม้านั่งในสวนสาธารณะใกล้ๆกัน

     

    ด้วยตาสีน้ำตาลกลมใสกลอกไปมาตามตัวอักษรที่เรียงกันอย่างเป็นระเบียบในหนังสือพิมพ์ จนไปสะดุดตาเข้ากับหัวข้อข่าวเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์วันนี้

     

    “ นักวิทยาศาสตร์ ชาวรัสเซียเผย วันนี้จะมีคลื่นรังสีจากอวกาศมากระทบกับสนามแม่เหล็กไฟฟ้าของโลกอาจทำให้

    อาจทำให้บางบริเวณของโลกไฟฟ้าดับ ซึ่งด้วยเหตุการณ์นี้อาจทำให้เวลาของโลกเดินเร็วขึ้นไปอีก 0.000001 วินาที”

     

    “ 0.000001 วินาที มันจะไปสำคัญอะไรกัน “

    “ ครืด.....ครืด…..

     

    มือถือเครื่องเดิมสั่นอีกครั้ง แต่คราวนี้คือมีคนโทรเข้า

     

    “ สวัสดีครับ ผู้จัดการร้าน “

    “ ถึงไหนแล้ว รีบๆมาช่วยกันหน่อยสิ คนเต็มร้านแล้ว “ เสียงทุ่มโวยวาย

    “ขอโทษด้วยนะครับ ผมกำลังรีบไปแล้วครับ “

    “ เจอกันที่ร้านละกัน “

    “ ครับ สวัสดีครับ “

     

    บทสนทนาจบลง คงเป็นเพรามัวแต่เดินกินลมชมวิว ทำให้ไม่ได้มองไปที่นาฬิกาที่บอกว่า ตอนนี้ 15.15 น. แล้ว ผมต้องรีบวิ่งออกจากสวนสาธารณะไป หนังสือพิมพ์ที่ซื้อมาเมื่อกี้ก็ถูกยันใส่กระเป๋าที่แขวนมาด้วย วิ่งไปตามทางจนเจอป้ายร้านกาแฟ วอนคอฟฟี่ ก่อนที่จะวิ่งไปทางด้านหลังตึกแล้วเปิดประตูหลังร้านเข้าไป

     

    ชายรูปร่างใหญ่ยืนรอเขาอยู่หลังร้านอยู่แล้ว ก่อนจะเอยปากพูดกับผมที่รีบวิ่งเข้ามาในร้าน

     

    “ สมกับเป็นนายจริงๆเลยนะ “ ร่างใหญ่พูดพร้อมกับส่ายหัว

    “ ขอโทษด้วยครับผู้จัดการ ผมจะไม่มาสายแล้วครับ” ร่างบางก้มโค้ง 45 องศา

    “ เฮ้ยๆ ไม่ถึงขนาดนั้นจะก้มทำไม “

    “ ก็มันรู้สึกผิดนิครับ “

    “ ถ้ารู้สึกผิดก็อย่าทำจาน ชาม แก้ว หรืออะไรก็ตามในร้านฉันแตกอีกเข้าใจไหม “

    “ มันเป็นอุบัติเหตุนะครับ ผู้จัดการ “

    “ ไม่ต้องมาแก้ตัวเลย ผมถามว่าเข้าใจไหม ตอบผมมา “

    “ ครับๆ ผมจะพยายาม “

     

    ผมตอบผู้จัดการร้านด้วยน้ำเสียงน่าสงสารสุดๆบวกกับทำหน้าใสๆใส่ แต่ดูเหมือนผู้จัดการร้านจะรู้ทันมุกของเขาแล้ว ผู้จัดการร่างใหญ่ค่อยๆเดินมาใกล้และเอามือตบที่บ่ากว้างข้างขวาของผมแรงๆ

     

    “ จะพยายามไม่พอหรอก ต้องทำให้ได้รู้เปล่า “

    “ ครับ ผู้จัดการ ขอบคุณครับ “

    “ แล้วก็....อย่าทำตัวให้มันน่ารักเกินไปละ ลดๆลงบ้าง “

    “ อะไรนะครับ “

     

    หูฟาดไปหรือเปล่าเนี้ยเรา – ผมก็ได้แต่คิดในใจ ไม่ค่อยเข้าใจที่ผู้จัดการพูดกับเขาแต่ก็คงถามอะไรไม่ได้แล้วเพราะผู้จัดการเดินไปที่อื่นแล้ว

     

    ผ้ากันเปื้อนสีน้ำตาลที่มีตราของร้านถูกผูกเข้าที่คอและหลัง ชุดทำงานก็พร้อมแล้วจึงเดินออกไปที่หน้าร้าน เพื่อทำงานที่ต้องทำเป็นประจำมาเกือบปีแล้ว เมื่อเดินออกมาก็ปรากฏหญิงสาวดวงตาสีน้ำตาลเข้ม ตาชั้นเดียวแบบลูกคนจีนแน่นอนกับ ผมสีดำสนิทที่ยืนอยู่ที่เคาน์เตอร์ ก่อนที่เด็กสาวจะเอยเสียงเรียกผมดังมาแต่ไกล

     

    “ ย่าส์ !!!!! พี่ซอกจิน ไปไหนมาคะ “

    “ โทษทีๆ คือ เดินกินลมนานไปหน่อย มินอาจัง “

    “ กินจนตัวผองเลยสินะ “ มินอาหัวเราะในลำคอ

    “ ให้มันน้อยๆหน่อย “ ซอกจินเดินไปเขกหัวเจ้าของเสียงเบาๆ

    “ พี่อ่าๆ มาเขกหัวทำไม พอกันทั้งพี่ทั้งแทฮยองเลย ปวดหัวจริงๆ “

    “ พูดถึงไอแทฮยองก็ดีละ วันนี้มันลาหยุดกะทันหัน ไม่รู้ไปไหนของมัน “

    “ เห็น วันก่อนบ่นๆว่า จะไปซื้ออะไรสักอย่างแหละ “

    “ ถึงกับต้องหยุดงานเลย ???

    “ พี่มาถามหนู แล้วหนูจะตอบพี่ว่าไงดีคะ หนูไม่รู้ “

    “ ขอโทษนะครับ “

    “ ใครมาขัดจังหวะ คนเขาจะคุยกัน “

    “ ผมจะสั่งกาแฟครับ รอมาสักพักละ “

     

    หน้าของลูกค้าที่เป็นพนักงานวัยกลางคนใส่แว่นตาหนายืนมองมินอากับซอกจิน ด้วยความไม่ค่อยพอใจสักเท่าไร ใครจะพอใจละครับ มัวแต่ยืนคุยกันไปรับออเดอร์ลูกค้า นี้เป็นสไตล์ของผม คิม ซอกจินจริงๆเลยครับ คุยเก่ง แล้วก็ซุ่มซ่ามแบบไม่มีใครในโลกนี้จะทำได้เหมือนอีกแล้ว...

     

    เวลาก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ก็ หนึ่งทุ่มแล้ว นาฬิกาข้อมือของผมบอกแบบนั้น แต่ลูกค้าในร้านก็เริ่มบางตาลง ผมกับมินอาก็ยืนกันที่เคาน์เตอร์จนปวดขาไปหมดแล้ว ด้วยความเบื่อจึงหาเรื่องชวนคุยกับมินอาอีกครั้ง

     

    “ นี้ๆมินอา เห็นผู้หญิงคนนั้นไหม โคตรสวยเลย  “

    “ คนไหนพี่ๆ “

    “ คนที่นั่งอยู่ริมหน้าต่างนั้นไง “

    “ นั้นมันรุ่นพี่ ฮยอนอานี้นา ดาวมหาลัยที่หนูเรียนอยู่เลยนะนั้น “

    “ แล้วเขามารอใครที่นี้ละ พี่เห็นเขามาสักพักแล้วนะ “

    “ พี่ชอบถามอะไรที่หนูตอบได้ตลอด “ มินอามองหน้า

    “ เออๆ ไม่คุยด้วยก็ได้ “

     

     

    ------------------------- “ พรึบ “-----------------------------------------------------------

     

    -       ความมืดเข้าปกคลุมภายในตัวร้านและบริเวณใกล้เคียงเกือบทั้งหมด  -

     

    ภายในตัวร้านเกือบจะมืดสนิท แต่ดีที่ไฟฉุกเฉินในตัวร้านทำงาน ลูกค้าในร้านจึงไม่ค่อยตกใจกันมากสักเท่าไร ร่างของผู้จัดการเดินออกมาจากหลังร้านพร้อมกับไฟฉายปรากฏขึ้น

     

    “ ทำไมไฟดับ “ ผู้จัดการเอย ถามพนักงานทั้งสองคน

    “ ผู้จัดการกับพี่จินนี้เหมือนกันเลยนะคะ ถามแบบนี้จะให้ตอบอะไรคะ “

    “ แต่ก็ดับกันหมดนะ “

    “ ออ เมื่อก่อนมาผมอ่านหนังสือพิมพ์เขาบอกว่าวันนี้จะมีคลื่นอะไรสักอย่างมาที่โลกเลยอาจจะทำให้บางที่ในโลกไฟฟ้าดับ “

    “ เข้าใจเลือกที่จะดับนะ เวลาทำเงินเลย เซ็ง !!!

     

    ไฟดับอยู่แบบนี้ไปเกือบครึ่งชั่วโมง ด้วยความฉลาดอันใดของผู้จัดการร้านแล้วก็ไม่รู้ไปเอาเทียนมาจากไหน เขาทยอยจุดเทียนนำไปวางที่โต๊ะที่มีลูกค้าอยู่ บรรยากาศในร้านเลยดูสวยไปอีกแบบเลย และแน่นอนผมกับมินอาก็ต้องช่วยอยู่แล้ว

     

    “ นี้ครับเทียน “ ผมเดินตรงเอาเทียนอันสุดท้ายไปให้ดาวมหาลัยที่นั่งอยู่ไกลสุด

    “ ขอบคุณค่ะ “

    “ ขอโทษนะครับ คือเห็นนั่งมานานแล้วนี้รอใครเหรอครับ “

    “ รอคนที่คุณแม่นัดมาดูตัวละคะ แต่มาสายชะมัด “

    “ ยังไงก็ใจเย็นๆก่อนนะครับ ไฟมันดับ เขาก็เลยอาจจะมาช้า “

    “ ออ ค่ะ “ฮยอนอาตอบกลับด้วยน้ำเสียงมีโมโหนิดๆ

     

    ผมจึงไม่รอช้า เดินออกมาในทันทีครับกลัวเดี๋ยวจะโดนเธอเหวี่ยงใส่เอา ทันที่ที่เดินมาถึงเคาน์เตอร์

     

     

    ------------------------- “ พรึบ “-----------------------------------------------------------

     

     

    แสงจากหลอดไฟที่มืดสนิทค่อยๆกระพริบและติดสว่างในที่สุด ตัวร้านสว่างขึ้นมาในทันที ลูกค้าบางส่วนก็เลือกที่จะเดินออกไปจากร้าน เหลือเพียงดาวมหาลัยของมินอา กับลูกค้าอีกสองสามคนในร้าน

     

     

    “ กริ้งๆ “

     

    เสียงกระดิ่งที่ประตูร้านดังขึ้น ร่างของชายร่างสูงผมสีบลอนซ์ขาวที่สีจะใกล้เคียงกับสีผิว แต่งตัวด้วยเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินตัดกันสุดเดินเข้ามาในร้านด้วยท่าทีรีบร้อน เขาหันมายิ้มให้ผมที่ยืนมองนิ่งก่อนจะเดินไปหาดาวมหาลัยที่นั่งอยู่ใกล้ๆกัน

     

    -       ทำไมรู้สึกคุ้นๆหน้าหมอนี้ชะมัด –

     

    -       เคยเจอที่ไหนหรือเปล่านะ ???      -

     

    ผมได้แต่ยืนคิดในใจอยู่แบบนี้ ตาก็มองไปยังชายร่างสูงที่กำลังดูเหมือนทะเลอะกับดาวมหาลัยคนนั้น ฝ่ายหญิงเริ่มโวยวายเสียงดังขึ้นในร้าน ส่วนฝ่ายชายผมไม่ได้ยินว่าเขาพูดอะไรแต่ยิ่งพูดเหมือนจะยิ่งแย่ สุดท้ายฝ่ายหญิงก็หยิบแก้วที่มีน้ำเปล่า   ขึ้นมา สาดใส่หน้าฝ่ายชายเต็มๆก่อนจะรีบเดินออกไปจากร้าน ปล่อยให้ฝ่ายชายยืนนิ่งกำมัดแน่นอยู่ในร้านก่อนจะค่อยๆนั่งลงบนเก้าอี้แล้วเอามือกุมหน้าด้วยความเครียด

     

    “ ดูไว้นะซอกจิน หาแฟนก็หาให้มันดีๆหน่อยละกัน “

    “ อะไรของผู้จัดการครับ ผมเกี่ยวอะไรด้วย “

    “ เกี่ยวเลยละ “

    “ ยังไงครับ ผู้จัดการ “

    “ ก็ต้องเอาไม้ไปถูพื้นไง เกี่ยวยัง เข้าใจแล้วก็ไปทำ “

    “ ครับ เข้าใจแล้ว “

     

    ทั้งที่ผมก็ไม่ใช่คนสาดสักหน่อยทำไมต้องไปเช็ดให้ด้วย จริงๆคนที่สาดมันควรจะต้องมาถูพื้นเองไหม แย่ๆจริงๆเลย ผมก็ได้แต่บ่นในใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากเดินถือไม่ถูพื้นไปที่โต๊ะ แต่พอผมเดินไปชายร่างสูงก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วก็เดินออกจากร้านไป

     

    ก็แปลกดีนะครับ คุ้นหน้าผู้ชายคนนี้สุดๆแต่ทำไมนึกไม่ออกกัน ผมก็ก้มหน้าก้มตาทำความสะอาดทั้งพื้นทั้งโต๊ะ จนผมเหลือบไปเห็นกระเป๋าเงินสีดำถูกวางอยู่ที่เก้าอี้ที่เมื่อกี้ชายร่างสูงนั่งอยู่ เขาคงจะลืมกระเป๋าตัง พึ่งออกไปเมื่อกี้น่าจะยังไปได้ไม่ไกล ผมจึงรีบคว้ากระเป๋าตังขึ้นมาพร้อมกับวิ่งออกไปนอกร้าน วิ่งไปตามทางเดินเพื่อมองหาเจ้าของกระเป๋าเงิน แต่สุดท้ายก็หาไม่เจอ ก็ต้องเดินกลับมาที่ร้าน

     

     

    “ ไปไหนมา คิมซอกจิน “ ผู้จัดการร้านเอยน้ำเสียงดุดัน

    “ ผมวิ่งเอากระเป๋าเงินจะไปคืนลูกค้าครับ เขาทำตกไว้ที่เก้าอี้ “

    “ แล้วเจอไหม “

    “ ไม่เจอหรอกครับ .... “ จินตอบด้วยน้ำเสียงเหนื่อย

    “ กระเป๋าเงินงั้นเหรอ ก็น่าจะมีบัตรประชาชนอยู่ในนั้นนะ “

     

    ผมไม่รอช้ารีบเปิดกระเป๋าเงิน แล้วก็เจอจริงๆครับบัตรประชาชนแต่เหมือนตอนที่ถ่ายเขาจะยังไม่ได้ย้อมสีผมผมจึงเป็นสีดำ เมื่อมองไปที่บัตรอีกใบข้างๆ

     

    “ มหาวิทยาลัย เซวอน “

    “ นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาเครื่องกล ชั้นปีที่ 2 “

    “ คิม นัมจุน “

     

     

    -       ชื่อ คิม นัมจุน นี้เอง –

     

     

    “ มหาลัยเซวอน ก็ไม่ได้ไกลจากตรงนี้สักเท่าไรนิ “

    “ งั้นผมจะรีบเอาไปคืนให้เขา....”

    “ ดูเวลาก่อนไหม “ ผู้จัดการเอยถาม

     

     

    ผมค่อยๆดูนาฬิกาบนข้อมือของตัวเอง เข็มบอกถึงว่าตอนนี้ 21.39 แล้วมันก็ดึกแล้วมหาลัยคงจะปิดแล้ว ไปก็คงไม่เจอใคร แล้วจะทำไงดี คิดเท่าไรก็คิดไม่ออก

     

    “ เอาไงดีละครับ ผู้จัดการ “

    “ ก็เอาไปให้ที่มหาลัยยากอะไร พรุ่งนี้เข้างานเย็นอยู่แล้ว ไม่เห็นจะยาก “

    “ แล้วผมจะไปหาเขาเจอไหมละครับ มหาลัยออกกว้าง “

    “ ก็มีข้อมูลซะขนาดนั้น ทำไมจะหาไม่เจอ ไปๆ ปิดร้านๆ “

     

    กระเป๋าเงินถูกเก็บใส่กระเป๋าคู่ใจของผมอย่างดี พรุ่งนี้ผมต้องตื่นเช้าสินะ ไม่นะ นี้มันฝันร้ายชัดๆ ผมบอกลาทั้งมินอาและผู้จัดการก่อนจะดิ่งกลับสู่ที่พักและล้มนอนลงบนเตียงนิ่มๆที่เดิม

     

    ผมรีบหยิบกระเป๋าเงินสีน้ำตาลออกมาดู และ ภาพของเด็กมหาลับผมสีขาว ค่อยๆปรากฏขึ้นในหัว

     

    ทำไมถึงรู้สึกคุ้นแบบนี้นะ....................................

     

     

    ------ โปรดติดตามตอนต่อไป ---------

    COUNTER CLOCKWISE [0.1]

     

    จบไปแล้วสำหรับตอนแรก

    อาจจะดู งงๆ แต่ขอให้ลองอ่านไปสักพักนะครับ 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×