คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ก่อนเวลาจะเดิน [0.1]
- COUNTER CLOCKWISE -
- กาลเวลาเป็นสิ่งที่เหนือการควบคุมที่มนุษย์สามารถคาดการณ์ใดๆได้-
-เข็มนาฬิกา เข็มยาว เข็มสั้น เครื่องมือบอกเวลา-
-ความรัก ก็เปรียบเสมือนเข็มของนาฬิกา ที่เดินสวนทางกัน -
-หรือ ไม่ก็เดินทางมาเจอกันพอดี-
ภาคที่ 1 : Timeless work [Namjin]
- กาลเวลาไร้จุดหมาย -
- COUNTER CLOCKWISE [0.1]
“ ครืด.....ครืด.....ครืด....ครืด.......... “
เสียงที่เกิดจากมือถือเรือนสวยกระทบกับโต๊ะวางของ ดังสนั่นหวั่นไหวในห้องสีออกครีม สี่เหลี่ยมเรียบที่ไม่ได้มีการตกแต่งอะไรอย่างมากมาย เสียงของมือถือที่ตั้งปลุกไว้ดูเหมือนจะไม่สามารถทำอะไรเจ้าของที่ตั้งปลุกเอาไว้
เวลาผ่านไป 15 นาที เจ้ามือเรือนสวยยังคงตั้งปลุกไว้และยังคงแจ้งเตือนทุกๆ 5 นาที แสงแดดจากภายนอกเริ่มทำให้ห้องสีครีมนี้สว่างมากขึ้นเรื่อยๆ ร่างของชายหนุ่มที่ซ่อนอยู่ใต้ผ้าห่มผืนโตเริ่มขยับไปมา ก่อนที่จะลุกขึ้นพรวดจากเตียงขึ้นมานั่งมองไปยังมือถือที่ตั้งปลุกไว้
13. 15 น.ภาพจากจอมือถือที่เขามอง
“ ขี้เกียจๆทำงานจริงเว้ย “ ร่างบางเอยขึ้นในห้องที่เงียบสงบ
“ ครืด.....ครืด “ มือถือเรือนสวยสั่นอีกครั้งแต่คราวนี้สั่นแค่ 2 ครั้ง
ร่างบางที่ยังคงนั่งหมดอะไรในชีวิตค่อยๆเหลือบไปมองที่หน้าจอมือถือ มีแจ้งเตือนข้อความเข้า มือเรียวที่พึ่งขยี้ตากำลังยื่นไปหยิบเจ้าของเสียงสั่นเพื่อดูข้อความที่ถูกส่งมา
“ ขอโทษนะครับพี่ซอกจิน คือ วันนี้น้องชายผมมันป่วย ผมต้องหยุดงานจริงๆครับ
พี่ช่วยทำงานในชั่วโมงตอนเย็นแทนผมได้ไหม เดี๋ยวผมไปอยู่แทนพี่วันหลังเอง
จากแทฮยอง”
เมื่อเจ้าของมือถืออ่านข้อความเสร็จก็ล้มตัวลงนอนต่อบนเตียงทันที มือถูกยกขึ้นมาวางบนหน้าผากแสดงถึงความเหนื่อยล้าที่สะสมมา “ ครืด.....ครืด มือถือสั่นอีกครั้งพร้อมข้อความที่ทำให้คนอ่านแทบจะหมดแรงในทันที
“ พี่ครับ ผมโทรบอกผู้จัดการแล้วครับ เขาอนุญาตให้ผมหยุดแต่พี่ต้องรีบไปหน่อยนะครับ
วันนี้ลูกค้าที่ร้านเยอะ ถ้าเป็นไปได้ก็ไปสัก 15.00 น. ผู้จัดการเขาบอกผมมาแบบนั้น
ที่เหลือ ผมฝากด้วยนะครับ พี่ซ.อ.ก.จิ.น”
“ ไอแทฮยอง เจอกันคราวหน้าแกโดนแน่ๆ “
ร่างบางนอนบ่นพึมพับก่อนที่จะค่อยๆลุกขึ้นจากเตียงเดินตรงไปยังห้องน้ำทำกิจวัตรประจำวันทั่วไป นี้ก็เป็นวงจรชีวิตของผมละมั้งครับ ชื่อของผมก็คือ คิม ซอกจิน ทำไมผมถึงตื่นสายขนาดนี้ ก็เพราะว่าผมเรียนจบแล้วนะสิครับแต่ดันเลือกเรียนอะไรที่มันไม่เข้ากลับตัวเองเลยครับให้ทายว่าผมเรียนอะไร.. 1...2 ...3 พอครับ เรียนวิทยาศาสตร์ครับ ชีวิตผมก็เลยเป็นแบบทุกวันนี้ไงครับ เรียนจบมาแล้วก็ไม่มีงานทำเพราะผมมันซุ่มซ่ามสุดๆไปเลย
นึกถึงตอนเรียนผมก็อดขำตัวเองไม่ได้เลยครับ เรียนผ่ากบที่ผมนี้แทบจะเป็นลมดีที่ได้คู่หูอย่างเจโฮปคนหล่อมาช่วยผมเอาไว้ได้เรื่องตอนเรียนก็ให้มันจบไปละกันครับ ตอนนี้ผมก็เลยมาทำงานฆ่าเวลาไปก่อนโดยเป็นพนังงานในร้านกาแฟแถวนี้ละครับ
เวลาก็ล่วงเลยไปจนเกือบจะบ่ายสองโมง เสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงสีดำถูกจัดใส่อย่างลงตัว เมื่อมองไปยังนาฬิกาที่ข้อมือก็บอกได้ว่ายังเหลือเวลาให้เดินเล่นอีกเยอะ เขาเดินทางออกจากห้องพักในทันทีเดินไปตามทางเท้าข้างถนนที่มีต้นไม้ถูกปลูกไว้ตามทาง ที่พักที่อยู่ชานกรุงโซลกับร้านกาแฟที่อยู่ในตัวเมืองอาจจะต้องใช้เวลาเดินทางสักหน่อย แต่เขาก็ไม่ได้สนใจเดินไปเรื่อยๆจนหยุดที่หน้าร้านหนังสือร้านหนึ่ง
“ พาดข่าววันนี้ มีอะไรน่าสนใจบ้าง “
ไม่รอช้า ผมรีบพุ่งตัวเข้าไปที่ชั้นหนังสือพิมพ์หยิบหนังสือพิมพ์มาฉบับหนึ่งที่ดูมีสีสันมากว่าเล่มอื่น ก่อนจะจ่ายเงินและเดินออกจากร้านมานั่งที่ม้านั่งในสวนสาธารณะใกล้ๆกัน
ด้วยตาสีน้ำตาลกลมใสกลอกไปมาตามตัวอักษรที่เรียงกันอย่างเป็นระเบียบในหนังสือพิมพ์ จนไปสะดุดตาเข้ากับหัวข้อข่าวเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์วันนี้
“ นักวิทยาศาสตร์ ชาวรัสเซียเผย วันนี้จะมีคลื่นรังสีจากอวกาศมากระทบกับสนามแม่เหล็กไฟฟ้าของโลกอาจทำให้
อาจทำให้บางบริเวณของโลกไฟฟ้าดับ ซึ่งด้วยเหตุการณ์นี้อาจทำให้เวลาของโลกเดินเร็วขึ้นไปอีก 0.000001 วินาที”
“ 0.000001 วินาที มันจะไปสำคัญอะไรกัน “
“ ครืด.....ครืด…..”
มือถือเครื่องเดิมสั่นอีกครั้ง แต่คราวนี้คือมีคนโทรเข้า
“ สวัสดีครับ ผู้จัดการร้าน “
“ ถึงไหนแล้ว รีบๆมาช่วยกันหน่อยสิ คนเต็มร้านแล้ว “ เสียงทุ่มโวยวาย
“ขอโทษด้วยนะครับ ผมกำลังรีบไปแล้วครับ “
“ เจอกันที่ร้านละกัน “
“ ครับ สวัสดีครับ “
บทสนทนาจบลง คงเป็นเพรามัวแต่เดินกินลมชมวิว ทำให้ไม่ได้มองไปที่นาฬิกาที่บอกว่า ตอนนี้ 15.15 น. แล้ว ผมต้องรีบวิ่งออกจากสวนสาธารณะไป หนังสือพิมพ์ที่ซื้อมาเมื่อกี้ก็ถูกยันใส่กระเป๋าที่แขวนมาด้วย วิ่งไปตามทางจนเจอป้ายร้านกาแฟ วอนคอฟฟี่ ก่อนที่จะวิ่งไปทางด้านหลังตึกแล้วเปิดประตูหลังร้านเข้าไป
ชายรูปร่างใหญ่ยืนรอเขาอยู่หลังร้านอยู่แล้ว ก่อนจะเอยปากพูดกับผมที่รีบวิ่งเข้ามาในร้าน
“ สมกับเป็นนายจริงๆเลยนะ “ ร่างใหญ่พูดพร้อมกับส่ายหัว
“ ขอโทษด้วยครับผู้จัดการ ผมจะไม่มาสายแล้วครับ” ร่างบางก้มโค้ง 45 องศา
“ เฮ้ยๆ ไม่ถึงขนาดนั้นจะก้มทำไม “
“ ก็มันรู้สึกผิดนิครับ “
“ ถ้ารู้สึกผิดก็อย่าทำจาน ชาม แก้ว หรืออะไรก็ตามในร้านฉันแตกอีกเข้าใจไหม “
“ มันเป็นอุบัติเหตุนะครับ ผู้จัดการ “
“ ไม่ต้องมาแก้ตัวเลย ผมถามว่าเข้าใจไหม ตอบผมมา “
“ ครับๆ ผมจะพยายาม “
ผมตอบผู้จัดการร้านด้วยน้ำเสียงน่าสงสารสุดๆบวกกับทำหน้าใสๆใส่ แต่ดูเหมือนผู้จัดการร้านจะรู้ทันมุกของเขาแล้ว ผู้จัดการร่างใหญ่ค่อยๆเดินมาใกล้และเอามือตบที่บ่ากว้างข้างขวาของผมแรงๆ
“ จะพยายามไม่พอหรอก ต้องทำให้ได้รู้เปล่า “
“ ครับ ผู้จัดการ ขอบคุณครับ “
“ แล้วก็....อย่าทำตัวให้มันน่ารักเกินไปละ ลดๆลงบ้าง “
“ อะไรนะครับ “
หูฟาดไปหรือเปล่าเนี้ยเรา – ผมก็ได้แต่คิดในใจ ไม่ค่อยเข้าใจที่ผู้จัดการพูดกับเขาแต่ก็คงถามอะไรไม่ได้แล้วเพราะผู้จัดการเดินไปที่อื่นแล้ว
ผ้ากันเปื้อนสีน้ำตาลที่มีตราของร้านถูกผูกเข้าที่คอและหลัง ชุดทำงานก็พร้อมแล้วจึงเดินออกไปที่หน้าร้าน เพื่อทำงานที่ต้องทำเป็นประจำมาเกือบปีแล้ว เมื่อเดินออกมาก็ปรากฏหญิงสาวดวงตาสีน้ำตาลเข้ม ตาชั้นเดียวแบบลูกคนจีนแน่นอนกับ ผมสีดำสนิทที่ยืนอยู่ที่เคาน์เตอร์ ก่อนที่เด็กสาวจะเอยเสียงเรียกผมดังมาแต่ไกล
“ ย่าส์ !!!!! พี่ซอกจิน ไปไหนมาคะ “
“ โทษทีๆ คือ เดินกินลมนานไปหน่อย มินอาจัง “
“ กินจนตัวผองเลยสินะ “ มินอาหัวเราะในลำคอ
“ ให้มันน้อยๆหน่อย “ ซอกจินเดินไปเขกหัวเจ้าของเสียงเบาๆ
“ พี่อ่าๆ มาเขกหัวทำไม พอกันทั้งพี่ทั้งแทฮยองเลย ปวดหัวจริงๆ “
“ พูดถึงไอแทฮยองก็ดีละ วันนี้มันลาหยุดกะทันหัน ไม่รู้ไปไหนของมัน “
“ เห็น วันก่อนบ่นๆว่า จะไปซื้ออะไรสักอย่างแหละ “
“ ถึงกับต้องหยุดงานเลย ??? “
“ พี่มาถามหนู แล้วหนูจะตอบพี่ว่าไงดีคะ หนูไม่รู้ “
“ ขอโทษนะครับ “
“ ใครมาขัดจังหวะ คนเขาจะคุยกัน “
“ ผมจะสั่งกาแฟครับ รอมาสักพักละ “
หน้าของลูกค้าที่เป็นพนักงานวัยกลางคนใส่แว่นตาหนายืนมองมินอากับซอกจิน ด้วยความไม่ค่อยพอใจสักเท่าไร ใครจะพอใจละครับ มัวแต่ยืนคุยกันไปรับออเดอร์ลูกค้า นี้เป็นสไตล์ของผม คิม ซอกจินจริงๆเลยครับ คุยเก่ง แล้วก็ซุ่มซ่ามแบบไม่มีใครในโลกนี้จะทำได้เหมือนอีกแล้ว...
เวลาก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ก็ หนึ่งทุ่มแล้ว นาฬิกาข้อมือของผมบอกแบบนั้น แต่ลูกค้าในร้านก็เริ่มบางตาลง ผมกับมินอาก็ยืนกันที่เคาน์เตอร์จนปวดขาไปหมดแล้ว ด้วยความเบื่อจึงหาเรื่องชวนคุยกับมินอาอีกครั้ง
“ นี้ๆมินอา เห็นผู้หญิงคนนั้นไหม โคตรสวยเลย “
“ คนไหนพี่ๆ “
“ คนที่นั่งอยู่ริมหน้าต่างนั้นไง “
“ นั้นมันรุ่นพี่ ฮยอนอานี้นา ดาวมหาลัยที่หนูเรียนอยู่เลยนะนั้น “
“ แล้วเขามารอใครที่นี้ละ พี่เห็นเขามาสักพักแล้วนะ “
“ พี่ชอบถามอะไรที่หนูตอบได้ตลอด “ มินอามองหน้า
“ เออๆ ไม่คุยด้วยก็ได้ “
------------------------- “ พรึบ “-----------------------------------------------------------
- ความมืดเข้าปกคลุมภายในตัวร้านและบริเวณใกล้เคียงเกือบทั้งหมด -
ภายในตัวร้านเกือบจะมืดสนิท แต่ดีที่ไฟฉุกเฉินในตัวร้านทำงาน ลูกค้าในร้านจึงไม่ค่อยตกใจกันมากสักเท่าไร ร่างของผู้จัดการเดินออกมาจากหลังร้านพร้อมกับไฟฉายปรากฏขึ้น
“ ทำไมไฟดับ “ ผู้จัดการเอย ถามพนักงานทั้งสองคน
“ ผู้จัดการกับพี่จินนี้เหมือนกันเลยนะคะ ถามแบบนี้จะให้ตอบอะไรคะ “
“ แต่ก็ดับกันหมดนะ “
“ ออ เมื่อก่อนมาผมอ่านหนังสือพิมพ์เขาบอกว่าวันนี้จะมีคลื่นอะไรสักอย่างมาที่โลกเลยอาจจะทำให้บางที่ในโลกไฟฟ้าดับ “
“ เข้าใจเลือกที่จะดับนะ เวลาทำเงินเลย เซ็ง !!! “
ไฟดับอยู่แบบนี้ไปเกือบครึ่งชั่วโมง ด้วยความฉลาดอันใดของผู้จัดการร้านแล้วก็ไม่รู้ไปเอาเทียนมาจากไหน เขาทยอยจุดเทียนนำไปวางที่โต๊ะที่มีลูกค้าอยู่ บรรยากาศในร้านเลยดูสวยไปอีกแบบเลย และแน่นอนผมกับมินอาก็ต้องช่วยอยู่แล้ว
“ นี้ครับเทียน “ ผมเดินตรงเอาเทียนอันสุดท้ายไปให้ดาวมหาลัยที่นั่งอยู่ไกลสุด
“ ขอบคุณค่ะ “
“ ขอโทษนะครับ คือเห็นนั่งมานานแล้วนี้รอใครเหรอครับ “
“ รอคนที่คุณแม่นัดมาดูตัวละคะ แต่มาสายชะมัด “
“ ยังไงก็ใจเย็นๆก่อนนะครับ ไฟมันดับ เขาก็เลยอาจจะมาช้า “
“ ออ ค่ะ “ฮยอนอาตอบกลับด้วยน้ำเสียงมีโมโหนิดๆ
ผมจึงไม่รอช้า เดินออกมาในทันทีครับกลัวเดี๋ยวจะโดนเธอเหวี่ยงใส่เอา ทันที่ที่เดินมาถึงเคาน์เตอร์
------------------------- “ พรึบ “-----------------------------------------------------------
แสงจากหลอดไฟที่มืดสนิทค่อยๆกระพริบและติดสว่างในที่สุด ตัวร้านสว่างขึ้นมาในทันที ลูกค้าบางส่วนก็เลือกที่จะเดินออกไปจากร้าน เหลือเพียงดาวมหาลัยของมินอา กับลูกค้าอีกสองสามคนในร้าน
“ กริ้งๆ “
เสียงกระดิ่งที่ประตูร้านดังขึ้น ร่างของชายร่างสูงผมสีบลอนซ์ขาวที่สีจะใกล้เคียงกับสีผิว แต่งตัวด้วยเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินตัดกันสุดเดินเข้ามาในร้านด้วยท่าทีรีบร้อน เขาหันมายิ้มให้ผมที่ยืนมองนิ่งก่อนจะเดินไปหาดาวมหาลัยที่นั่งอยู่ใกล้ๆกัน
- ทำไมรู้สึกคุ้นๆหน้าหมอนี้ชะมัด –
- เคยเจอที่ไหนหรือเปล่านะ ??? -
ผมได้แต่ยืนคิดในใจอยู่แบบนี้ ตาก็มองไปยังชายร่างสูงที่กำลังดูเหมือนทะเลอะกับดาวมหาลัยคนนั้น ฝ่ายหญิงเริ่มโวยวายเสียงดังขึ้นในร้าน ส่วนฝ่ายชายผมไม่ได้ยินว่าเขาพูดอะไรแต่ยิ่งพูดเหมือนจะยิ่งแย่ สุดท้ายฝ่ายหญิงก็หยิบแก้วที่มีน้ำเปล่า ขึ้นมา สาดใส่หน้าฝ่ายชายเต็มๆก่อนจะรีบเดินออกไปจากร้าน ปล่อยให้ฝ่ายชายยืนนิ่งกำมัดแน่นอยู่ในร้านก่อนจะค่อยๆนั่งลงบนเก้าอี้แล้วเอามือกุมหน้าด้วยความเครียด
“ ดูไว้นะซอกจิน หาแฟนก็หาให้มันดีๆหน่อยละกัน “
“ อะไรของผู้จัดการครับ ผมเกี่ยวอะไรด้วย “
“ เกี่ยวเลยละ “
“ ยังไงครับ ผู้จัดการ “
“ ก็ต้องเอาไม้ไปถูพื้นไง เกี่ยวยัง เข้าใจแล้วก็ไปทำ “
“ ครับ เข้าใจแล้ว “
ทั้งที่ผมก็ไม่ใช่คนสาดสักหน่อยทำไมต้องไปเช็ดให้ด้วย จริงๆคนที่สาดมันควรจะต้องมาถูพื้นเองไหม แย่ๆจริงๆเลย ผมก็ได้แต่บ่นในใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากเดินถือไม่ถูพื้นไปที่โต๊ะ แต่พอผมเดินไปชายร่างสูงก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วก็เดินออกจากร้านไป
ก็แปลกดีนะครับ คุ้นหน้าผู้ชายคนนี้สุดๆแต่ทำไมนึกไม่ออกกัน ผมก็ก้มหน้าก้มตาทำความสะอาดทั้งพื้นทั้งโต๊ะ จนผมเหลือบไปเห็นกระเป๋าเงินสีดำถูกวางอยู่ที่เก้าอี้ที่เมื่อกี้ชายร่างสูงนั่งอยู่ เขาคงจะลืมกระเป๋าตัง พึ่งออกไปเมื่อกี้น่าจะยังไปได้ไม่ไกล ผมจึงรีบคว้ากระเป๋าตังขึ้นมาพร้อมกับวิ่งออกไปนอกร้าน วิ่งไปตามทางเดินเพื่อมองหาเจ้าของกระเป๋าเงิน แต่สุดท้ายก็หาไม่เจอ ก็ต้องเดินกลับมาที่ร้าน
“ ไปไหนมา คิมซอกจิน “ ผู้จัดการร้านเอยน้ำเสียงดุดัน
“ ผมวิ่งเอากระเป๋าเงินจะไปคืนลูกค้าครับ เขาทำตกไว้ที่เก้าอี้ “
“ แล้วเจอไหม “
“ ไม่เจอหรอกครับ .... “ จินตอบด้วยน้ำเสียงเหนื่อย
“ กระเป๋าเงินงั้นเหรอ ก็น่าจะมีบัตรประชาชนอยู่ในนั้นนะ “
ผมไม่รอช้ารีบเปิดกระเป๋าเงิน แล้วก็เจอจริงๆครับบัตรประชาชนแต่เหมือนตอนที่ถ่ายเขาจะยังไม่ได้ย้อมสีผมผมจึงเป็นสีดำ เมื่อมองไปที่บัตรอีกใบข้างๆ
“ มหาวิทยาลัย เซวอน “
“ นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาเครื่องกล ชั้นปีที่ 2 “
“ คิม นัมจุน “
- ชื่อ คิม นัมจุน นี้เอง –
“ มหาลัยเซวอน ก็ไม่ได้ไกลจากตรงนี้สักเท่าไรนิ “
“ งั้นผมจะรีบเอาไปคืนให้เขา....”
“ ดูเวลาก่อนไหม “ ผู้จัดการเอยถาม
ผมค่อยๆดูนาฬิกาบนข้อมือของตัวเอง เข็มบอกถึงว่าตอนนี้ 21.39 แล้วมันก็ดึกแล้วมหาลัยคงจะปิดแล้ว ไปก็คงไม่เจอใคร แล้วจะทำไงดี คิดเท่าไรก็คิดไม่ออก
“ เอาไงดีละครับ ผู้จัดการ “
“ ก็เอาไปให้ที่มหาลัยยากอะไร พรุ่งนี้เข้างานเย็นอยู่แล้ว ไม่เห็นจะยาก “
“ แล้วผมจะไปหาเขาเจอไหมละครับ มหาลัยออกกว้าง “
“ ก็มีข้อมูลซะขนาดนั้น ทำไมจะหาไม่เจอ ไปๆ ปิดร้านๆ “
กระเป๋าเงินถูกเก็บใส่กระเป๋าคู่ใจของผมอย่างดี พรุ่งนี้ผมต้องตื่นเช้าสินะ ไม่นะ นี้มันฝันร้ายชัดๆ ผมบอกลาทั้งมินอาและผู้จัดการก่อนจะดิ่งกลับสู่ที่พักและล้มนอนลงบนเตียงนิ่มๆที่เดิม
ผมรีบหยิบกระเป๋าเงินสีน้ำตาลออกมาดู และ ภาพของเด็กมหาลับผมสีขาว ค่อยๆปรากฏขึ้นในหัว
ทำไมถึงรู้สึกคุ้นแบบนี้นะ....................................
------ โปรดติดตามตอนต่อไป ---------
COUNTER CLOCKWISE [0.1]
จบไปแล้วสำหรับตอนแรก
อาจจะดู งงๆ แต่ขอให้ลองอ่านไปสักพักนะครับ
ความคิดเห็น