ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    AEACUS ก๊วนป่วนคนมีพลังจิต

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ

    • อัปเดตล่าสุด 3 เม.ย. 58


    บทนำ

                พระอาทิตย์ยามเย็นส่องสว่างอยู่ปลายริมน้ำ ส่งผลให้เมฆกลายเป็นสีชมพูดั่งสายไหมนุ่มกำลังลอยละล่องทักทายผู้คนที่กำลังกลับบ้านในเวลาพลบค่ำ เนินทุ่งหญ้าที่ทอดลงไปถึงแม่น้ำมีเสียงพูดคุยและเสียงหัวเราะที่บ่งบอกถึงความสุขและความสงบของเมืองลีคาร์เซนส์

    แชลิน บราวน์ เจ้าของใบหน้าหวานที่เต็มไปด้วยรอยแผลจากการตบและข่วนทอดสายตามองภาพตรงหน้าอย่างเลื่อนลอย เธอหยุดจักรยานเพื่อมองภาพตรงหน้าทุกวันจนติดเป็นนิสัย ความมีชีวิตชีวาของผู้คนและธรรมชาติทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลาย หญิงสาวบ้วนน้ำลายออกมาเพื่อไล่กลิ่นคาวเลือด เส้นผมสีน้ำตาลดั่งช็อกโกแลตที่ปลิวสยายไปกับสายลมไม่ได้สร้างความรำคาญให้เธอเลยแม้แต่น้อย

    แชลินหันหน้าไปที่จุดหมายของเธอก่อนจะเตรียมตัวออกตัว แต่ทว่าควันสีเทาน่ากลัวที่ลอยสูงบนยอดเขาที่มีเพียงบ้านของเธอเพียงหลังเดียวทำให้เธอต้องเร่งความเร็ว ความรู้สึกเย็นวาบแผ่ไปทั่วร่างกาย หัวสมองจินตนาการไปต่างๆนาๆว่าจะเกิดอะไรขึ้น

    ทันที่ที่แชลินเห็นภาพตรงหน้าก็แทบทำให้เธอไม่มีแรง กลุ่มนักเลงของโจนส์ นักเลงสัญลักษณ์โพแดงที่ขึ้นชื่อเรื่องความโหดเหี้ยมที่สุดในแถบนี้กำลังยืนมุงอะไรบางอย่างอยู่พลางหัวเราะอย่างสะใจ บ้านที่เธออาศัยอยู่ บัดนี้แทบจะไม่เหลืออะไรแล้วเพราะเพลิงสีแดงกัดกินทุกสิ่งทุกอย่างอย่างไม่ใยดี

    “หยุดนะ! หยุด! พวกนายทำอะไรน่ะ”

    เสียงหวานตะโกนออกมาด้วยความรู้สึกหลากอารมณ์ ตอนนี้เธอไม่รู้จะโกรธ จะร้องไห้เสียใจ หรืออะไรดี เธอแหวกกลุ่มนักเลงออกก่อนจะพบร่างของตาแก่แรลีย์ที่นอนจมกองเลือด เขากอดกล่องสีฟ้าขนาดใหญ่แน่นราวกับเป็นของรักของหวง

    “แรลีย์! พวกแกทำอะไรเขา”

    แชลินคุกเข่าลงกับพื้นเพื่อดูอาการแรลีย์ที่ดูไม่สู้ดีนัก

    “หึ ก็มันไม่ยอมจ่ายเงินที่ไปยืมพวกเรามาน่ะสิ”

    “เงิน? เงินอะไร?”

    “เอ้านี่ ลองอ่านซะสิ”

    แชลินรับกระดาษที่หนึ่งในพวกนักเลงโยนมา ก่อนจะเบิกตากว้างอย่างตกใจ เงินสองล้านโอเยน[หน่วยเงินของอายีคัส] พร้อมดอกเบี้ย โดยมีลายเซ็นของแรลีย์กำกับอยู่

    “นี่มันหมายความว่าไงกัน ลายเซ็นของแรลีย์ไม่ผิดแน่”

    “นะ.. หนีไป”

    เสียงอันแผ่วเบาของแรลีย์เรียกน้ำตาใสคลอที่ตากลมโตทันที

    “แรลีย์เอาเงินมากขนาดนี้มาทำไมกัน”

    “แค่กๆ ไปมีเรื่องมาอีกแล้วรึ”

    “ทำไมดื้อขนาดนี้”

    “ดูซิใบหน้าสวยๆเป็นแผลหมดแล้ว”

    ....

    “ฉันถามว่าเอาเงินมากขนาดนี้มาทำไม!!

    “แค่ก ใจเย็นๆสิ ก็เธอต้องเรียนในโรงเรียนดีๆ เสื้อผ้าสวยๆ ไหนบ้านนี้จะถูกยึดอีก ไม่ต้องห่วงนะมันเป็นหนี้เก่าน่ะเด็กดี”

    แรลีย์ไอออกมาเป็นเลือดพลางลูบแก้มแชลินอย่างอ่อนโยน

    “ซึ้งกันมากพอแล้ว ไหนบอกซิว่าจะให้เงินเราอย่างไร”

    พวกโจนส์กระชากแชลินออกมาทำให้เข่าของเธอขูดไปกับพื้น แต่ถึงอย่างนั้นร่างบางก็ยังนิ่งเฉย เธอทำเหมือนว่าไม่รู้สึกถึงความเจ็บที่หัวเข่า พวกมันเลยถุยน้ำลายออกมาข้างๆแชลิน จากนั้นจึงหันไปกระทืบแรลีย์พลางแย่งกล่องสีฟ้าออกมาแล้วเททิ้ง ทำให้ของใช้ต่างๆที่เป็นสมบัติของแชลินตั้งแต่เด็กล่วงหล่นลงมา

    หยดน้ำตาใสไหลออกมาจากตากลมโตอย่างห้ามไม่ได้ แรลีย์พยายามที่จะเอื้อมมือมาปลอบเธอแต่ก็โดนพวกนักเลงเหยียบมือไว้แล้วหัวเราะราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

    “อั่ก”

    “พอแล้ว ฉันบอกให้พอ!!!!

    เสียงทรงอำนาจที่ไม่เคยมีใครได้ยินมาก่อนดังออกมาจากปากแชลินและทำให้ทุกคนที่อยู่รอบข้างนิ่งไปชั่วขณะ

    ทันใดนั้นเองไฟที่ไหม้บ้านอยู่ก็โหมกระหน่ำราวกับมีใครไปเติมเชื้อเพลิง ลมพัดรุนแรงราวกับพายุจะเข้า กลุ่มเมฆสีดำที่ก่อนหน้านี้ยังเป็นเพียงปุยสีขาวนุ่มลอยทะมึนอยู่เหนือหลังคาบ้าน สายฟ้าฟาดกันไปมาเหมือนรอรับคำสั่งของนายเหนือหัว เสียงใบไม้เสียดสีกันเหมือนเสียงหัวเราะของธรรมชาติ

    ร่างของแชลินที่เหมือนไร้การควบคุมมองกลุ่มคนที่เผาบ้านเธออย่างเลื่อนลอย

    “ปะ.. เป็นไปไม่ได้ ผนึกคลายแล้วรึ”

    เสียงของแรลีย์พึมพำออกมาอย่างไม่เชื่อสายตา

     

     

    “พบกลุ่มก้อนพลังงานขนาดใหญ่ที่เมืองลีคาร์เซนส์! หน่วย5เตรียมเข้าเคลียร์พื้นที่”

    ความวุ่นวายวิ่งไปทั่วหน่วยงานพิเศษแห่งอายีคัส เสียงรัวแป้นพิมพ์และเสียงการเตรียมการเคลื่อนย้ายดังระงม ทำให้ที่แห่งนี้ตกอยู่ในความอลหม่านเกือบ10นาที

    “เกิดอะไรขึ้นหรือโซเฟีย”

    “เราพบกลุ่มพลังงานที่ใหญ่มากที่ลีคาร์เซนส์ค่ะ ทั้งๆที่ก่อนหน้าที่แถบนั้นไม่เคยพบผู้มีพลังพิเศษมาก่อนแท้ๆ ถ้ามีพลังงานเล็ดลอดออกมาเพียงนิดเดียว เราก็น่าจะได้ไปเฝ้าระวังแล้วแท้ๆ แต่กลุ่มพลังงานนี้ไม่เคยโผล่มาก่อนเลย ... น่าแปลกนะคะทั้งๆที่พลังงานใหญ่ออกขนาดนั้น”

    “นั่นน่ะสินะ เราไม่เจอผู้มีพลังพิเศษแถวนั้นก็เกือบ16ปีแล้ว เอ้าเตรียมพร้อมแล้วสินะ คราวนี้เวรฉันออกไปด้วย ไม่แน่อาจจะมีหลายคนก็ได้น่าโซฟ อย่าคิดมากเลย”

    “แล้วถ้าเป็นแค่1คนล่ะแวนซ์”

    “ก็น่าสนุกน่ะสิ”

    คูแวนซ์ขยิบตาให้โซเฟียพลางจุดบุหรี่ก่อนจะเข้าไปที่แท่นเคลื่อนย้ายคนแบบพิเศษพร้อมหน่วย5ของเขาอย่างอารมณ์ดี

    “ไปล่ะ”

    ภายในพริบตาหน่วย5จำนวนเกือบ20คนก็หายไปราวกับไม่เคยมีใครอยู่ตรงนี้ แต่สถานการณ์ในห้องกลับยิ่งตึงเครียดขึ้น

     

     

     

    “ปล่อยพวกเราไปเถอะนะหลานสาวลุงแรลีย์ พวกเราแค่ได้รับคำสั่งมาจากท่านโจนส์ก็เท่านั้นเอง ถ้าตาลุงแรลีย์ไม่ยอมให้เงินมา เราก็จำต้องเผาบ้านทิ้งเป็นการเตือนครั้งสุดท้าย”

    เสียงหวีดร้องของสายฟ้าที่ดังเสียดสีกันไปมาทำให้ทุกคนต้องยกมือขึ้นมาปิดหู มีเพียงแชลินเท่านั้นที่เงยหน้ามองฟ้าและปล่อยให้เพลิงสีแดงกัดกินไปทั่วเนินเขา

    แรลีย์ไม่เคยให้เธอรู้มาก่อนเลยว่าเขาเป็นหนี้มากขนาดนั้น แน่นอนถ้าเธอรู้เธอจะต้องไม่ไปเรียนและดื้อดึงไปหางานทำช่วยแน่ๆ

    ทำไมอะไรมันถึงแย่ขนาดนี้

     

    การกระทำทุกอย่างของแชลินอยู่ภายใต้หน่วย5ที่เฝ้าสังเกตการณ์อยู่อย่างรอบคอบ

    “โฮ่ คราวนี้ยายโซเฟียพูดถูกแหะ”

    “หัวหน้าครับ เราไม่สามารถระบุได้เลยครับว่าเธอเป็นผู้มีพลังพิเศษพันธ์ไหน เครื่องมือรวนโดยไม่ทราบสาเหตุครับ”

    “เป็นไปไม่ได้น่า พาเลนว่าไง”

    “พาเลนก็ไม่สามารถระบุได้ครับ เห็นบอกว่าทุกอย่างในบริเวณนั้นมีหลากหลายพลังงานมาก”

    “ความอันตรายระดับ2 บอกทุกคนเตรียมเข้าแผนเอ แบ่ง5คนไปดับไฟที่เริ่มลามลงไปด้านล่าง แล้วอีก10คนไปกางม่านอาณาเขต”

    คูแวนซ์โยนบุหรี่ทิ้งแล้วจ้องสถานการณ์ด้วยความรู้สึกประหลาดใจ

    ไม่มีทางที่พลังขนาดนี้จะหลุดหลอดสายตาหน่วยเฝ้าระวังได้สิ ไหนตัวบรรจุคนนี้จะโตขนาดนี้แล้วด้วย

    “เรากางม่านพลังเสร็จแล้วครับ”

    “สงสัยคงต้องใช้สิ่งนั้นสินะ”

    “ครับ?”

    คูแวนซ์ไม่พูดอะไรเขาเพียงแต่หยิบหินสีเทาขึ้นมาแล้วจ้องมองสิ่งนั้นนิ่ง จากนั้นเขาจึงเดินเข้าไปประจันหน้ากับเด็กสาว

    “เธอทำให้ฉันประหลาดใจจริงๆ”

    คูแวนซ์หลับตานิ่งพร้อมกำหินในมือจนแหลกละเอียด ละอองสีเทากระจายเข้าไปล้อมรอบตัวแชลิน แต่เธอก็มองสิ่งนั้นนิ่งเหมือนคนไร้วิญญาณ ร่างของเธอลอยสูงขึ้นเหนือพื้นก่อนที่เสียงกรีดร้องจะดังระงมไปทั่วบริเวณ

    “ลบความทรงจำของพวกนี้แล้วเราจะส่งเธอเข้าเดอราโรซ ฉันฝากพวกนายจัดการพื้นที่นี้ด้วย อย่าให้เหลือร่องรอยล่ะ”

    คูแวนซ์สะบัดมือเพียงเล็กน้อยทำให้ทั้งร่างของแชลินและแรลีย์เคลื่อนที่ตามเขาไปอย่างง่ายดาย จากนั้นร่างของพวกเขาทั้งสามก็หายไปจากบริเวณนี้ราวกับไม่เคยมีตัวตนอยู่

     

    SQWEEZ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×