คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : คุณเป็นใคร?
กริ๊งงงงงงงง กริ๊งงงงงงงงงง
“อือ.....” ผมสะลืมสะลือลืมตาขึ้นมาข้างหนึ่ง ก่อนจะใช้เท้าสะกิดขาคนที่นอนข้างๆ ให้ปิดเสียงนาฬิกาปลุกซะที
“อือออ..อื้อ..” สะกิดเร่งอีกรอบ มีแต่เสียงครางอือตอบกลับมา ผมเริ่มรำคาญเสียงนาฬิกาแล้วนะ เมื่อคืนยิ่งนอนดึกๆ อยู่ ตั้งปลุกไรตั้งแต่ 6 โมงเช้า (ชาร์ลตั้งปลุกเวลานี้ประจำครับ) วันนี้วันหยุดนะคร๊าบบบบคุณ งื้ออออ ง่วงงงง
“อืมมม... คร๊าบ คร๊าบ”
เสียงนาฬิกาปลุกหยุดลง พร้อมกับความรู้สึกที่เตียงเด้งขึ้นจากการที่คนข้างๆ ลุกขึ้นไป
ส่วนผมก็... คร่อก...
“ที่รักครับ ผมไปทำงานก่อนนะ จุ๊บ” รู้สึกสะลืมสะลือมาอีกที ก็เมื่อถูกจูบเข้าที่เหม่งไปทีนึง เลยพยายามลืมตามอง ก่อนจะยิ้มให้เหมือนทุกๆ วัน งื้อ คนนี้หล่อทุกวันเลย หาวววววว
“อืม ไปดีมาดีนะค้าบบบ” ผมตอบเสียงยานคาง ปรือตามองชาร์ลที่ส่งรอยยิ้มกว้างมาให้ แถมยังลูบหัวผมเบาๆ อีกทีสองทีถึงได้ละไปทำงานซะที
พอเสียงประตูปิดลง ผมก็ยืดตัวบิดขี้เกียจ ตอนนี้ตื่นเต็มตาแล้วครับ ลุกเข้าห้องน้ำล้างหน้าแปรงฟันดีกว่า แต่งตัวเสร็จออกมาที่โต๊ะอาหารก็พบกับอาหารเช้าที่ชาร์ลเตรียมไว้ให้ ขนมปังปิ้ง ออมเล็ต สลัดผัก แล้วก็น้ำส้มกับนมอย่างละแก้ว
น่ารักจริงๆ เลย มีคนรักคอยดูแลเรื่องงานบ้านให้นี่สบายจริงๆ ขอบอก วะฮะฮะฮ่า
ในขณะที่ผมกำลังทานอาหารเช้าอย่างเป็นสุขอยู่นั้นเอง เสียงโทรศัพท์ก็แผดเสียงดังขึ้นจนผมตกใจ รีบคว้ามันขึ้นมากดรับทันที
“ฮัลโหลครับ”
[‘………………………’] เงียบ ไร้เสียงตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก
“ฮัลโหลครับ ใครครับ?”
[‘……..’] ก็ยังเงียบ ผมเลยยกโทรศัพท์ออกมาดูว่าใครโทรมา อุ้ยตาย! เชี่ยละ นี่ไม่ใช่มือถือผมนี่ หน้าจอแบล็กกราวน์น้องเหมียวผมกลายเป็นลายพื้นสีดำธรรมดา แถมหน้าจอยังขึ้นชื่อว่า “sweet heart” .... หือ.... ใครวะ?
“เอ่อ... ฮัลโหลครับ” อีกรอบไม่ตอบจะวางละ แง่ง เดี๋ยวตอนเย็นมีเคลียกับเจ้าของมือถือซะหน่อยแล้ว
[‘u439uojjdgs0da7sfGDGw4#$^@#$^’] ห๊ะ ผงะครับ อยู่ๆ อีกฝั่งก็เป็นเสียงผู้หญิงพูดภาษาต่างดาวไม่รู้เรื่อง (จริงๆ เค้าพูดภาษาอังกฤษ แต่ตาอาร์ทของเรามันฟังไม่รู้เรื่องเอง) เอาแล้วไง เอาวะ งูๆ ปลาๆ พอเอาตัวรอดไปก่อนละกัน
“อ่ะ...เอ่อ เฮลโล่ ฮาวอายู แอมฟาย แท็งกิ้ว แอนด์ยู้?”
[‘.........’] อย่างน้อยก็ทำให้อีกสายเงียบเสียงลงได้ละครับ ฮู่ เล่นเอาเหนื่อย เอ้ย! ใช่ที่ไหนเล่า!?
“เอ่อ...”
[‘Who are you?’] โอ้ะ คำนี้ผมรู้ๆ เค้าถามว่าผมเป็นใครใช่ม้า ผมรู้นะ แฮะๆ
“มายเนมอีสอาร์ทครับ”
[‘Art?...’] เสียงผู้หญิงพูดชื่อผมขึ้นมา แล้วอยู่ๆ ก็โดนด่าว่าตู๊ดๆ เฉยเลย (เอิ่ม เค้าวางสายเถอะ)
ใครว้า? ผมได้แต่เกาหัวแกรกๆ ก่อนจะยกมือถือในมือขึ้นมาดู นี่มันมือถือของชาร์ลนี่หว่า ไอ้เราก็นึกว่าของตัวเอง ชาร์ลเค้าถือวิสาสะซื้อมือถือมาให้เหมือนคู่กัน ผมเลยแยกไม่ออกว่าอันไหนของผมอันไหนของชาร์ล แถมเฮียแกเล่นตั้งเสียงสายเรียกเข้าเหมือนกันอีก ยกเว้นเบอร์โทรของกันและกันไว้ที่ใช้เสียงเรียกเข้าแตกต่างไป แต่ก็ไม่เคยมีครั้งไหนที่เราจะสลับมือถือกันนะครับ
เพราะงั้นจะให้ผมหลงก็ไม่เห็นจะแปลกใช่ไหมละครับ ว่าแต่ทำไมเมมว่า ‘sweet heart’ ล่ะ ถึงผมจะเอ๋อแต่ก็ไม่ได้โง่นะครับ คำๆ นี้ไม่ใช่คำแทนเพื่อนผู้หญิงทั่วไปแน่ ในนี้เบอร์พ่อกับแม่ของชาร์ลเค้าก็เมมว่า ‘dad’ กับ ‘mom’ เอาไว้ ญาติคนอื่นก็เมม ‘c.’ ไว้ข้างหน้าชื่อ แล้วนี่ใครกันล่ะ?
หืมมมมมม ดูจากรูปการแล้ว... สายสืบอาร์ทก็ขอฟันธงว่า!
ชาร์ลแอบมีชู้!!!!
บ้า! เป็นไปไม่ได้ คนอย่างชาร์ลเนี่ยนะ ฮะฮะฮะฮ่า ไม่มีทางอ่ะ เค้าก็ยังปฏิบัติตัวกับผมอย่างเสมอต้นเสมอปลายนะ ไอ้เรื่องนอกใจเนี่ย แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ผมเชื่อใจคนของผมครับ (เอามือทุบอกดังปึก)
จริงๆ การที่คนเราจะนอกใจกัน มันต้องมีอาการลับๆล่อๆ ส่อแววพิรุธบ้างใช่ไหมครับ แต่ชาร์ลไม่เคยเป็นอย่างนั้นเลย มือถือก็ไม่เคยหวง แทบอยากจะให้ผมแสดงความเป็นเจ้าของเค้ามากกว่านี้ด้วยซ้ำ
โอเค ปกติผมอาจจะไม่ค่อยตามหึงตามหวงเค้าเท่าไหร่ ก็คนมันเชื่อใจอ่ะ ถ้าไม่มีความเชื่อใจให้กัน ผมว่าเราคงจะรักกันไม่ได้มานานขนาดนี้
จะว่าไปเราก็คบกันมาได้ 7 ปีแล้วสินะ เค้าว่าปีที่ 7 เป็นปีอาถรรพ์รึจะจริง? บ้าน่า เป็นไปไม่ได้...
เป็นไปไม่ได้แน่นอนอ่ะ...เรื่องชาร์ลนอกใจเนี่ย ฮะฮะฮะฮ่าาาาา
.....
แน่นอน......ดิ
ไม่ได้การ ผมรีบกดเบอร์โทรออกหาเจนนี่ทันที
ตู๊ด... ตู๊ด...... (โดนด่าอีกแล้ว)
[‘สวัสดีค่ะคุณชาร์ล’] เสียงหวานของเจนนี่ดังขึ้น ในใจผมร้อนรุ่มจนทนไม่ไหว
“นี่กูเองนะ อาร์ท”
[‘อ้าว ไอ้อาร์ท สลับมือถือกับคุณชาร์ลอีกแล้วเหรอยะ แล้วแกโทรมามีไรยะ?’] พูดยังกับสลับมือถือกันบ่อย บอกเลยครับไม่เค๊ยไม่เคยเลย เจนนี่มันมั่วครับ! ฟันธง!
“วันนี้มึงว่างป่ะ?” ผมถามเสียงเข้ม ไม่มีอารมณ์มาหยอกล้อเล่นเหมือนทุกที หน้าตาคิ้วมาเต็ม ซีเรียสครับซีเรียส
[‘… มีเรื่องอะไรรึเปล่า?’] มี มีแน่นอน
“เออ ตกลงว่างเปล่า”
[‘สำคัญมากไหมยะ? ฉันจะได้ว่างให้แกทันที’] ดีมากครับเพื่อนเลิฟ
“สำคัญมาก!!” ผมรีบบอก เหมือนได้ยินเสียงหัวเราะหึของเจนนี่แว่วๆ หึทำไมฮึ
[‘เจอไหนนัดมาเลยดีกว่า’] เชรดดด ใจร้อนกว่าผมอีกครับ ได้เลยจัดไป เรื่องนี้ถ้าชาร์ลนอกใจผมจริงมีเจ็บ!! (เมื่อกี้ยังว่าเชื่อใจอยู่เลย) อย่าคิดว่าคนอย่างผมจะต้องวีนแตกเหมือนผู้หญิงนะครับ มันต้องมีหลักฐานมัดตัวคนร้ายก่อน ตำรวจยังเอาผิดคนร้ายไม่ได้เลยถ้าไม่มีหลักฐาน เพราะงั้นเรื่องนี้ต้องสืบ!!
ณ. ร้านคาเฟ่แถวคอนโดเจนนี่
ผมนั่งจิบชารอนังเจนนี่เพื่อนเลิฟ อากาศดีเหมาะแกการนั่งชิว แต่ใจผมมันไม่ชิวตามสภาวะอากาศเลย ถ้าเป็นเวลาปกติผมคงได้หยิบสมุดโน๊ตเล่มน้อยขึ้นมาวาดรูป เผื่อมีไอเดียดีๆ เอาไปใช้กับงานที่ทำได้ แต่ตอนนี้ทำไมในใจผมมันร้อนรุ่มไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแบบนี้นะ นี่มันก็เลยเวลานัดมาตั้ง 15 นาทีแล้วนะ จนเกือบจะเข้านาทีที่ 20 เจนนี่ถึงได้กึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้ามาในร้าน
“นานชาติ” ผมลุกขึ้นยืนทันที ไม่ลืมที่จะโวยใส่มันหน่อย รวมเวลาที่ผมรอในร้านกับเวลาที่เดินทางมาร่วมชั่วโมงเลยนะครับ
“โอ้ยยย แกก็.. วันนี้วันหยุดนะยะ” ผมทำหน้างงกับคำแก้ตัวของมัน
“แล้วไง เกี่ยวไรวะ นี่อุตส่าห์นัดใกล้คอนโดมึงเลยนะ”
“แน่ะๆ เดี๋ยวแม่ตบปาก” มันชี้หน้าผมคาดโทษ โทษที่ผมพูดคำหยาบนั่นแหละครับ พยายามแก้นิสัยผมเหลือเกิน แล้วแก้ได้มะ ก็ไม่ได้... แต่เธอก็พยายามเหลือเกิ๊นนน
“เออๆ โทษๆ แล้วว่าไง ทำไมช้าวะ?”
“แหม ก็ช่วยไม่ได้ก็พี่โก้เค้าเพิ่งกลับมาเมื่อคืนอ่ะ มันก็ต้องบ้าง....อะไรบ้าง” เจนนี่ตอบทำท่าบิดไปมา นี่มันเป็นโรคอะไรรึเปล่าครับ? สงสัยพยาธิเยอะท่าทางจะคัน เอ๊ะ รึมันปวดขี้ รีบออกมาหาผมละลืมขี้มารึเปล่า อี้...
“เป็นไรของมึงเนี่ยะ นั่งบิดไปมาอยู่ได้ ปวดขี้จะกลับไปขี้ก่อนก็ได้นะเว้ย” อุ้ย สงสัยผมจะสันนิษฐาน ท่าทางไม่น่าจะปวดขี้ละครับ เห็นหันขวับมาจ้องผมเขม็งซะน่ากลัวเลย ทำเอาผมขนลุกซู่
“เฮ้อ! น้องๆ พี่ขอมอคค่าเย็นแก้วนะคะ” เจนนี่ถอนหายใจ ทำไมอ่ะ ทำไมต้องถอนหายใจ ก่อนจะหันไปสั่งกาแฟกับเด็กเสิร์ฟสาวที่เดินผ่านมาพอดี
“ว่าแต่แกมีอะไรรึเปล่า?” พอเด็กเสิร์ฟเดินไปเจนนี่ก็หันมาถามทันที ทำเอาผมปรับอารมณ์ตามแทบไม่ทัน
“คือว่า....” ผมหยิบเอามือถือของชาร์ลออกมาวางบนโต๊ะ เจนนี่มองตามงงๆ
“มือถือ? ทำไมยะ?”
ผมไม่ตอบแต่หันมากดหาเบอร์ที่โทรเข้ามาเมื่อเช้าทันที ก่อนจะหันจอมือถือไปให้เจนนี่ดู เจนนี่รับมือถือไปดูแล้วขมวดคิ้วทันที
“เมื่อเช้าเบอร์นี้โทรเข้ามา”
“เบอร์ใครอ่ะ?”
“กูก็ไม่รู้ว่ะ” ถ้ารู้กูคงไม่หันมาพึ่งมึงร๊อกคุณเจนนี่คร๊าบบบ แฮะๆ ได้แต่คิดในใจ
“ทำไม? คิดมากอีกละสิ เบอร์พ่อหรือแม่เค้าเปล่า?” ผมส่ายหน้าทันที เจนนี่ครับเซ้นท์แรงมว๊ากกกก ถุย! จะเป็นไปได้ไงล่ะ (ได้แต่แอบแขวะในใจเงียบๆ)
“ไม่ใช่ พ่อแม่ชาร์ลเค้าเมมไว้ว่า dad กับ mom นี่เบอร์ใครก็ไม่รู้”
“เบอร์แกเอง?”
“ใช่ที่ไหนเล่า กูคงโทรหาได้หรอกนะ ตลกละ”
“อย่าบอกนะ ว่าแกคิดว่า....”
“เออ กูคิด”
“ยังไม่ได้พูดย่ะ”
“อ้าวเหรอ 5555 ชิงตอบก่อนไง แล้วตกลงมึงคิดว่าไงวะ?” ผมขยับหน้าเข้าไปใกล้เจนนี่อีกนิด แต่ก็ถูกมือใครบางคนผลักหน้าผมออก จนเกือบตกเก้าอี้ พอหันไปว่าจะด่าซะหน่อยก็ต้องหุบปากทันทีเลยครับ ก็จะใครซะอีกละครับ ผัวนังเจนนี่ เอ้ย คุณแฟนของเจนนี่มันครับ พี่โก้!!! อย่าบอกว่าเข้าใจผิดอีก ผมเปล่าสนใจแฟนเพ่นะคร้าบบบ อยากพนมมือถ้วมหัวเอาหัวตัวเองให้รอดก่อน คราวที่แล้วแค่เผลอเกี่ยวเอวเจนนี่ พี่โก้แทบแยกกะบาลผมออกจากกัน แค่นึกถึงก็เสียวหัวแล้ววววว
“ให้มันน้อยๆ หน่อย จะใกล้กันเกินไปละ” ว่าแล้วเฮียแกก็ลากเก้าอี้มานั่งข้างๆ เจนนี่ อ้าว ไหงเฮียแกมานี่ได้ ยัยเจนนี่ตัวแสบต้องบอกพี่โก้แหง
“หวัดดีครับเฮีย” ผมยกมือไหว้ เฮียรีบไหว้แล้วยักคิ้วกวนๆ ให้ แง่ง เดี๋ยวพ่อโดดกัดคิ้วแหว่ง ข้อหากวนส้นติ่ง แต่พอมองกล้ามแกก็ได้แต่ปลงสังเวช ฝืนระบายยิ้มที่คิดว่าเท่ที่สุดให้แกแทน แล้วไมเฮียต้องทำหน้าเหม็นบูดใส่ผมแทนด้วยว้า หุบยิ้มก็ได้วุ้ย
“พี่โก้กินอะไรไหมเดี๋ยวเจนนี่สั่งให้” เจนนี่เริ่มเอาใจเฮีย อย่ามาสร้างบรรยากาศสีชมพูตรงนี้นะเว้ย หยุดเลย
“ไม่ล่ะ ว่าแต่อาร์ทมานี่มีอะไรรึเปล่า แล้วทำไมชาร์ลไม่มาด้วยกันล่ะ?” พี่โก้ส่ายหน้าปฏิเสธก่อนจะหันมาถามผม
“มันไปทำงานเหอะเฮีย ถามถึงมันทำไมก็ไม่รู้ ฮู้!” คนยิ่งเครียดๆ เรื่องของมันอยู่
“มันเป็นไรของมันวะ?” พี่โก้หันไปถามเจนนี่
“ก็เรื่องคุณชาร์ลนี่แหละค่ะ” เจนนี่ตอบทำจีบปากจีบคอน่าหมั่นไส้มาก
“หือ? มันทำไรน้องเฮีย บอกมาเดี่ยวเฮียจัดการให้” พี่โก้ทำท่าถกแขนเสื้อขึ้นทันที... กูจะซึ้งกับพี่มันดีไหมเนี่ย ถ้าไม่ติดว่าคู่กรณีคือแฟนผมนะ
“ใจเย็นๆ เฮีย จายเย็นเย้นนนน” ผมรีบยกมือปางห้ามญาติก่อน เฮียก็อินเกิ้น หรือแกแกล้งเว่อไปงั้นเองว้า
“เหอะๆ ถ้ามันทำไรเด็กเฮีย บอกเลยเดี๋ยวเฮียจัดการตบบ๊องหูให้” พี่โก้ยักคิ้วทำเท่ห์นะเฮีย ถุย! ตบบ๊องหู คิดได้นะเฮีย สมโดนเจนนี่ตีแขนเข้าให้ซะเลย
“พอเลยพี่โก้ พูดเล่นอยู่ได้ เอ้ากินซะ” ว่าแล้วเจนนี่ก็หยิบเอาเค้กที่ผมสั่งไว้ ตักยัดเข้าปากเฮียเค้าทันที
“เฮ้ยๆ เค้กชินนาม่อนกรู๊วววววว” เฮียแม่งกินแก้มตุ่ย เค้กตัวเองก็ไม่ใช่ ตูยังไม่ได้แตะสักคำเลยเหอะ
“โอ้ย อย่าทำเป็นหวงหน่อยเลย เข้าเรื่องๆ แล้วยังไงต่อยะ? สรุปนี่แกมีเรื่องกับคุณชาร์ลหรือว่ายังไง?”
“ชริชริ จำไว้เลย” ผมหันไปทำตาเศร้ามองพี่โก้ที่เนียนกินเค้กของผมอย่างเอร็ดอร่อย ผมจำใจสั่งใหม่ ก่อนจะพูดต่อ
“เมื่อเช้าเจ้าของเบอร์นี้เค้าโทรเข้ามา เป็นเสียงผู้หญิง พูดภาษาอังกฤษอ่ะ พูดอะไรก็ไม่รู้ แล้วก็ถามว่ากูเป็นใคร พอบอกชื่อไปนางก็ตัดสายไปเฉยๆ เลย” ผมเล่าต่อ มองเจนนี่ที่ตั้งใจฟังพรางขมวดคิ้วคิดตามไปพราง
“แค่นี้?”
“แค่นี้ที่ไหน คิดตามนะ” เจนนี่พยักหน้ารับฟัง ผมจึงยกนิ้วชี้ขึ้นนับ
“ข้อหนึ่ง ชาร์ลเมมชื่อผู้หญิงคนนั้นว่า sweet heart ถึงกูจะเอ๋อแต่กูไม่ได้โง่นะ ไม่ได้แดกหญ้าเป็นอาหารถึงไม่รู้ความหมายของคำนี้ ซึ่งนั่นควรจะเป็นกูไม่ใช่ผู้หญิงคนไหน” พูดไปผมก็ชี้ที่ตัวเองประกอบ เจนนี่พยักหน้าเห็นด้วย ผมเลยยกนิ้วกลางเพิ่มเป็นสอง
“ข้อสอง ผู้หญิงคนนั้นพูดทวนชื่อกู แล้วรีบวางสายไป น่าสงสัยโครตๆ”
“เอ่อ... อาร์ท ฉันว่าแกมโนมากไปเปล่าวะ?” ผมหันขวับไปมองเจนนี่ตาขวางทันที หมายความว่าไง มาว่าผมมโนไปเองเนี่ยนะ โอ้ย! เลือดนักสืบในตัวเดือดพ่าน
“งืมๆ อี่อ่าเองอ่างเอนอี้อ้ะ” พี่โก้แม่ง กินเค้กกูเต็มปากแล้วยังจะพูดอีกอุบาทจริงเฮียกูนี่
“พี่โก้กินให้หมดก่อนค่อยพูดสิ” เจนนี่หันว่าเบาๆ เฮียแกถึงกับรีบเคี้ยวแล้วกระเดือกลงคอทันที
“พี่ว่าน่าจะจริงอย่างที่เจนนี่พูดนะ ถึงข้อหนึ่งจะน่าสงสัยไปหน่อยก็เถอะ ว่าแต่ประเด็นเรื่องนี้คืออะไรอ่ะ? พี่ยังงงอยู่เลย”
“โอ้ยยย พี่โก้ ก็อีเนี้ยไม่แคล้วจะสงสัยว่าคุณชาร์ลแอบมีกิ๊กมีกั๊กแหงแหละเรื่องนี้ เจนนี่ฟันธงคร่าาา” เจนนี้พูดตอกย้ำความคิดผมเหลือเกิน แถมมือที่ชี้มาแทบจะจิ้มตาผมนี่คืออาร๊ายยย จนผมต้องรีบปัดมือมันออก
“อ่อ เออ ก็น่าคิดนะ เป็นพี่ถ้าเจนนี่เมมเบอร์ที่ไม่ใช่เบอร์พี่ว่าสวีทฮาร์ท พี่ก็หึงเหมือนกันนะ ถ้าจับได้...ตายคู่แน่” พี่โก้ว่าแล้วทำท่าปาดคอใส่ แถมตาที่เหมือนจะอินจัดจนน่ากลัวนั่นอีก ขอบอกครับ ถ้าผมเป็นเจนนี่ก็กลัวจนไม่กล้ามีกิ๊กแน่นอน แต่หาใช่สำหรับเจนนี่ไม่ เพราะมันทำตาเหลือกไปด้านบน มึงจะมองบนหาอะไรวะ มีอะไรติดเพดาน มองมั่ง ก็ไม่เห็นมีอะไร ยกเว้นจิ้งจกหนึ่งตัว อุ้ย! มันหันมามองด้วย อย่าตกมานะมึงไม่งั้นวงแตกแน่ ผมเลิกใส่ใจจิ้งจกหันมาใส่ใจคู่รักตรงหน้าที่เริ่มจะหาเรื่องกันแล้วดีกว่า
“...เอิ่ม ได้ข่าวว่าคนที่แอบมีกิ๊กมันพี่โก้ใช่ไหมคะ? ยัยแอร์หน้าหมวยหางตาตกที่ถ่ายรูปส่งมาคนนั้นยังไม่เคลียนะคะ” เจนนี่พูดเสียงเย็นตาจิกนี่น่ากลัวกว่าจริงๆ ผมขอคอนเฟิร์มครับ! ก็พี่โก้ตัวหดเหลือแค่หนึ่งนิ้วเอง จนต้องรีบเข้าไปบีบนวดแขนเจนนี่เอาใจใหม่ บอกเลยบ้านนี้ใครใหญ่
“แหม ใครจะกล้านอกใจที่รักละจ้ะ เจนนี่ก็รู้ว่าพี่ไม่สนใจ เค้ามาขอถ่ายรูปด้วยแค่นั้นเอง ไม่มีอะไรอื่นจริงๆ นะ สาบานก็ได้เอ้า!” เฮียป๊มเกียมัวนะครับนี่
“พอๆ พอเลยค่ะ เรื่องนี้เจนนี่จะถือว่ายกประโยชน์ให้จำเลย ถ้ามีอีกไม่ใช่แค่ตายคู่นะคะ แล้วอย่าหาว่าเจนนี่ไม่เตือน” เชร็ดดดดดด ท่าปาดคอเจนนี่ดูโหดกว่าพี่โก้ล้านเท่า กูขอซูฮก (ทำท่ากราบในใจ เอิ๊กๆ)
“เข้าเรื่องกูได้ยัง” ผมรีบแทรกก่อนจะออกทะเลไปมากกว่านี้
“ย่ะๆ ชั้นว่านะ แกถามคุณชาร์ลโดยตรงเลยดีกว่าไหม”
“อืม พี่ก็ว่างั้นนะ คนเราคบกันต้องเชื่อใจกัน ใช่ไหมจ้ะที่รัก” พี่โก้หันไปยิ้มให้ แต่เจนนี่หรี่ตามองตอบ พี่โก้ช่างกล้า
“แต่...ถ้าชาร์ลไม่ยอมบอกละ” ไม่ใช่ว่าผมไม่เชื่อใจนะ แต่ของอย่างนี้กล้าทำแต่จะกล้ารับจริงรึเปล่า หรือว่าผมจะคิดแง่ร้ายเกินไป
“เฮ้อ เอาอย่างนี้ ชั้นถามแกหน่อย คุณชาร์ลมีอะไรกับแกบ่อยไหมช่วงนี้” ผมหน้าขึ้นสีทันที อะไรเนี่ย อยู่ๆ มาถามเรื่องใต้เข็มขัดกันโต้งๆ เรื่องในมุ้งในเรือนใครเค้าบอกกัน
“เอ่อ...” ผมล่ะไม่รู้จะตอบยังไงดี รู้สึกหน้าร้อนผ่าวๆ
“แกจะอายทำไมยะ เรื่องธรรมชาติ” เจนนี่ว่า พี่โก้พยักหน้าเสริม
“ก็...ตรงนี้มันไม่เหมาะสม”
“อะไรไม่เหมาะสม?” ฮึ่ย! ก็นี่มันกลางสาธารณะชนนะเฟ้ย
“ก็...” ผมหันไปมองรอบร้าน ก่อนจะหันกลับมามองหน้าเจนนี่ ขอความเห็นใจ อย่าได้ซักผู้น้อยต่อหน้าธารกำนัลอย่างนี้เลยขอรับ ถึงช่วงเช้าคนจะน้อยก็เถอะ แต่ตูก็อายเป็นนะเว้ย
“อ้อ งั้นไปคุยต่อที่ห้องไหม” พี่โก้เสนอผมก็สนอง รีบพยักหน้าเห็นด้วย พวกเราเลยเปลี่ยนสถานที่เป็นห้องคอนโดคู่ผัวตัวเมียคู่นี้แทน
“เอ้า ตอบมา” เพิ่งหย่อนก้นลงโซฟา มึงจะรีบเปิดประเด็นไปไหนเจนนี่!!!
“เรื่อง!?” ทำหน้ามึนไปก่อน ผมละอ๊ายอายจริงๆ อยากเอามือขึ้นปิดหน้า ไม่สิขอแทรกแผ่นดินหนีคำถามนี้ได้ไหมครับ
“แหมๆๆๆ ไม่ต้องมาหมกเม็ด ตอบคำถามชั้นมาซะโดยดี ถ้ายังคิดจะให้ชั้นช่วยแกอยู่” เจนนี่ว่าตาใส นี่อยากรู้เรื่องนี้ที่สุดเลยมั้งเนี่ย ฮึ่ย! ผมเหลือบไปมองหน้าพี่โก้ คือขอผมคุยกับเจนนี่แค่สองคนไม่ได้เหยอคร๊าบบบ
“ไม่ต้องมอง ยังไงชั้นกับพี่โก้ก็ไม่เคยมีเรื่องปิดบังกันอยู่แล้ว คิดว่าเป็นอากาศธาตุอย่าไปสนใจเลย” เจนนี่ดันหน้าผมมาคืน แต่ดูมันพูดนะครับ ทำเอาพี่โก้เหวอเลย น่าสงสารเฮียจริงๆ ผมขอโทษแทนเพื่อนผมด้วยนะเฮีย ซิกๆ
“เอ่อ...” นี่ผมต้องบอกจริงๆ สินะ บอกก็ได้วะ “ก็...เมื่อคืนก็เพิ่ง...นั่นไป”
“กี่รอบ?” หือ!? ผมเบิกตากว้างมองมัน นี่มึงจะเจาะลึกไปไหน
“เอาจริง?” เจนนี่พยักหน้า ผมคงหน้าแดงแปร้ดแน่ แต่ชูนิ้วตอบแทน ฉ้าม >////<
“โห น่าอิจฉาชาร์ลว่ะ” พี่โก้
“อิจฉาทำไมคะ?” เจนนี่หันไปถาม
“พี่ก็ชายหนุ่มสุขภาพดีคนหนึ่งนะที่รัก แค่วันละครั้งจะไปพออะไรละจ้ะ” เป็นเจนนี่ที่หน้าแดง ตีแขนพี่โก้ใหญ่ ทนดูไม่ด๊ายยยย อย่ามาหวีดหวานกันตอนนี้สิเฟ้ย!! นี่ตูกลุ้มอยู่นะ
“อ่ะ แฮ่ม! .. เอ่อ ชั้นว่าคุณชาร์ลก็... ไม่น่าจะนอกใจแกนะ” เจนนี่เร่งสรุป
“แล้วเรื่องผู้หญิงคนนั้นละ?”
“แกก็ถามคุณชาร์ลโดยตรงสิ ชั้นว่าไม่น่าจะมีอะไรหรอก เนอะพี่โก้เนอะ”
“ใช่ พี่ว่าเอ็งคิดมากเกินไปวะ อาจมีใครแอบเอามือถือชาร์ลไปเมมเบอร์เองโดยที่ชาร์ลไม่รู้รึเปล่า ชาร์ลมันรูปหล่อขนาดนั้นย่อมเป็นที่ต้องการของตลาดเป็นธรรมดา อีกอย่างเอ็งคบกับชาร์ลมากี่ปีแล้ว ชาร์ลเป็นคนยังไงเอ็งจะไม่รู้เลยเชียวเหรอวะ? เรื่องแค่นี้ถ้าไม่เชื่อใจกันแล้ว ถ้าเจอเรื่องหนักกว่านี้แกจะไหวเหรอวะ?”
คำพูดแกทำเอาผมสะอึก จริงของเฮีย ชาร์ลเป็นคนยังไง ทำไมผมจะไม่รู้ พอคิดดูดีๆ ผมก็รู้สึกผิดขึ้นมาทันที ความเชื่อใจที่ชาร์ลมีให้แก่ผม ผมกลับทำเป็นเหมือนมันไม่มีค่า แล้วมานั่งจับผิด คิดไปเองก่อนแบบนี้ มันไม่แฟร์กับชาร์ลเลยจริงๆ ถ้าเป็นผมโดนมั่ง ผมคงโกรธมากแน่ๆ ขอโทษนะชาร์ล...
ที่เฮียพูดมาก็มีเหตุผล สองวันก่อนเพิ่งมีปาร์ตี้ที่บริษัทไป อาจเป็นตอนนั้นก็ได้ รึจะเป็นเมื่อห้าวันก่อนก็อาจใช่ รึก่อนหน้านั้นอีก เอ่อ.. ช่างมันเถอะ เอาเป็นว่าชาร์ลอาจจะไม่รู้ตัว ดีล่ะ ผมต้องรีบตัดไฟตั้งแต่ต้นลม ไม่ว่าผู้หญิงคนนี้จะเป็นใคร แต่มาทำแบบนี้กับมือถือชาร์ลไม่ได้! คนนั้นๆ ต้องแอบเอามือถือชาร์ลไปเมมเบอร์เองแน่น๊อน เลือดนักสืบการผมบอกอย่างนั้น!!
ผมลุกขึ้น หันไปมองเจนนี่กับพี่โก้
“ขอบใจแกมากเจนนี่ ขอบคุณครับเฮีย เพราะคำพูดเฮียทำให้ผมคิดได้! ต่อไปนี้ผมจะไม่คิดมากอีก เย็นนี้ผมจะถามชาร์ลไปตรงๆ”
“ดีมากน้องรัก” พี่โก้ลุกขึ้นตบบ่าผมปุๆ ส่วนเจนนี่ก็ยิ้มให้
(เสียงเพลงเรียกเข้ามือ)
หือ? ผมมองมือถือบนโต๊ะที่กำลังแผดเสียงเรียกเข้า หน้าจอขึ้นชื่อคนโทรเข้ามา
‘sweet heart’
เป็นเจนนี่ที่รู้สึกตัวไวสุด รีบกดรับแล้วเปิดสปีกเกอร์โฟนทันที
“…”
*ต่อไปนี้ใน [‘ ’] เป็นภาษาอังกฤษนะครับ โปรดมโนตามอาร์ท*
[‘ฮัลโหล ชาร์ล’]
“นั่นใครครับ?” พี่โก้ผู้สันทันภาษามากที่สุดในที่นี้เป็นผู้ตอบโต้สนทนา ซึ่งพี่แกมาบอกทีหลังว่าคุยอะไรกันบ้าง
[‘นี่ใช่เบอร์ของชาร์ลรึเปล่าคะ?’]
“ใช่ครับ”
[‘แล้วคุณเป็นใครทำไมมารับสายแทน ชาร์ลอยู่ไหน เรียกมาคุยกับชั้นหน่อยสิ’] เสียงฝั่งนู้นเริ่มฟังเหวี่ยงๆ
“ผมเป็นเพื่อน คุณละเป็นใครครับ มีอะไรฝากผมไว้ได้” พี่โก้ยังพูดด้วยโทนเสียงคงเส้นคงวา แต่คิ้วนี่เริ่มขมวดเข้าหากันแทน เจนนี่ลูบแขนปลอบเบาๆ ส่วนผมทำหน้าเอ๋อ ไม่เข้าใจ คุยเรื่องอะไรกันเหรอ? ได้ยินชื่อชาร์ลแว่วๆ
[‘ไม่ใช่คนที่ชื่ออาร์ทอะไรนั่นใช่ไหม?’]
“...ไม่ใช่ครับ” พี่โก้เว้นวรรคไม่ตอบทันที แต่ได้ยินชื่อตัวเองแว่วๆ อีกแล้ว
[‘หึ ชั้นชื่อซอนย่า เป็นคู่หมั้น เหตุผลพอไหม เรียกชาร์ลมาคุยกันชั้น นี่เรื่องด่วน’]
ผมมองหน้าพี่โก้ที่ตอนนี้ซีดจนน่าตกใจ พี่โก้หันมามองผมช้าๆ ปากอ้าค้างก่อนเจนนี่จะเป็นคนสะกิดเรียกสติแก ถึงได้ตอบโต้สายอีกฝั่งไปอย่างตะกุตะกัก
“ชะ…ชาร์ล..ปะ..ไปทำงาน ไว้ผมจะบอกให้ แค่นี้นะ” ท้ายๆ นี่รัวเร็วแล้วรีบวางทันที ผมมองหน้าแกงงๆ
“ว่าไงเฮีย เค้าว่าไงอ่ะ?” ผม
“…….”
“พี่โก้” เจนนี่เรียกชื่อเฮียเบาๆ พี่โก้ถอนหายใจยาว เหมือนคิดอะไรอยู่ หันไปมองหน้าเจนนี่ เจนนี่พยักหน้าให้ ทั้งคู่หันมามองผมช้าๆ พี่โก้เอ่ยตอบผม
“พี่ว่า.. แกควรระแวงได้แล้วละ คนเมื่อกี้ชื่อซอนย่า…เป็น…”
“เป็นอะไรเฮีย?”
“เฮ้ออออ เจนนี่ พี่ควรบอกมันดีไหม” อะไรเนี่ย ผมเริ่มหวาดๆ แล้วนะ เฮียคุยอะไรกัน!!??
“บอกไปเถอะค่ะ รู้ตอนนี้ดีกว่ามารู้ทีหลัง ยังไงก็เจ็บเหมือนกัน” เจ็บอะไร? ยังไง? งง ทำไมกูต้องเจ็บด้วยวะ
“อาร์ท มึงฟังนะ” เฮียบีบบ่าผมเบาๆ แต่ทำไมผมรู้สึกไม่อยากฟังพี่โก้พูดต่อเลย
“เรื่องร้ายหรือเรื่องดีอ่ะเฮีย” ผมขอทำใจก่อนได้ไหม ถ้าเป็นเรื่องร้ายอย่าบอกผมเลยได้ไหม
“ก็...ร้ายว่ะ” แม่ง!
“……..” เอาวะ ตูคงรับไหว “ว่ามาเถอะเฮีย ผมรับได้” ผมยิ้มรับ
“พี่ว่ามันไม่โอว่ะ” พี่โก้ยังไม่กล้าจะพูด หันไปขอความเห็นเจนนี่อีกรอบ
“บอกมาเถอะพี่ ผมอยากรู้” ผมเขย่าไหล่เฮียเบาๆ เฮียมึงรีบบอกเลยนะกูอยากรู้ใจจะขาดแล้วเนี่ยยยยยย
“อาร์ท… เค้าเป็น…คู่หมั้นของชาร์ล” พี่โก้พูดจบ แต่เหมือนโลกของผมกำลังทลายลง จากรอยยิ้มบนหน้าไม่รู้ว่ากลายเป็นน้ำตาแทนที่ตั้งแต่เมื่อไหร่ เจนนี่ขยับตัวเข้ามาโอบบ่าผมไว้ ผมได้แต่พูดว่า ‘กูไม่เป็นไร’ แต่เจนนี่กลับเอาแต่พูดว่า ‘อย่าร้อง’ ‘ไม่เป็นไรนะอาร์ท’ ก็กูบอกว่าไม่เป็นไรไง!!
พี่โก้ตบบ่าผมเบาๆ ก่อนจะบีบทีแล้วลุกเดินออกไปสูบบุหรี่ที่ระเบียงห้อง ผมพยายามยิ้ม แต่มันยิ้มไม่ออก ได้แต่มองหน้าเจนนี่มัวๆ ทำไมภาพตรงหน้ามันมัวจัง แล้วเจนนี่ร้องไห้ทำไม?
กว่าจะตั้งสติได้ ก็เมื่อถูกเจนนี่กอดแล้วลูบหลังช้าๆ เบาๆ ผมถึงได้รู้ตัวว่าผมกำลังร้องไห้อยู่ เสียใจกับสิ่งที่ได้ยิน อยากให้มันเป็นเรื่องโกหก ชาร์ลมีคู่หมั้นแล้ว คนนั้นคือ ‘sweet heart’ ของชาร์ล ไม่ใช่ผม ไม่ใช่ผมอีกต่อไป...
ผมไม่สามารถยืนอยู่ข้างๆ เค้าได้อีกแล้วจริงๆ เหรอ?
นี่ผมคงฝันไป เมื่อไหร่ถึงจะตื่น ผมไม่อยากฝันแบบนี้เลย
ตื่นสิ! ตื่นซะทีสิโว้ย!!!!
ความคิดเห็น