ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    fic Haikyuu(Allคาเงยามะ) รวมฟิคสั้นคาเงยามะเคะ

    ลำดับตอนที่ #1 : Fic Haikyuu (Tsukishima x Kageyama) :osama

    • อัปเดตล่าสุด 3 ธ.ค. 58



    เคยลงฟิคนี้ไปแล้วในwordpress >> fic osama

    *****************************

    Title : osama
    pairing : Tsukishima x Kageyama
    Rate : PG
    Note : เป็นฟิคที่แต่งเพราะอยากเขียนโมเม้นกุ๊กกิ๊กกันนิดหน่อยของสองคนนี้ เพราะฉะนั้นฟิคนี้จึงไม่หวานและไม่เร้าใจอะไรเลย มันมีแค่โม้เม้นชวนจิ้น(ที่เรามโนขึ้นมาเอง)ของสึกิชิมะกับคาเงยามะ
    ซึ่งเราก็ไม่ค่อยเข้าใจตัวเองว่าจะแต่งแค่โมเม้นชวนจิ้นในฟิคที่ควรจะจิ้นเรียบร้อยแล้วทำไม /สรุปคือคนแต่งมันบ้าบอค่ะ

     

    *******************************************
     

                   “คาเงยามะ ตอนเย็นช่วยฉันซ้อมหน่อย ฉันอยากซ้อมรับลูกเสิร์ฟ นายช่วยเป็นคนเสิร์ฟให้ฉันทีสิ เอาลูกกระโดดเสิร์ฟแบบที่นายถนัดเลยนะ” เด็กหนุ่มร่างเล็ก หนึ่งในสมาชิกชมรมวอลเลย์บอลเดินมาบอกเพื่อนร่วมทีมที่มีฉายาติดตัวว่า‘ราชา เจ้าคอร์ต’ ในขณะที่พวกเขาและสมาชิกชมรมคนอื่นๆกำลังเก็บของหลังจากฝึกตอนเช้าเสร็จ

                   “ไม่ได้ ตอนเย็นฉันต้องช่วยสึกิซึมะซ้อมรับลูก” ราชาตอบเสียงเรียบก่อนจะเดินเอาลูกวอลเลย์ 3-4 ลูกในอ้อมแขนไปเก็บในตะกร้าผ้า

                   “...” ฮินาตะนิ่ง คำตอบของราชาทำเขาอึ้งไปเลย

                   “คาเงยามะ... กับสึกิชิมะเนี่ยนะ...?” เด็กหนุ่มพูดทวนกับตัวเองด้วยสีหน้าที่บรรยายไม่ถูก เขาไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยินเลย

     

    -------------------------------------------------------

     

                   พระอาทิตย์ตกดินไปเป็นชั่วโมงแล้ว ท้องฟ้ายามค่ำวันนี้ปลอดโปร่งดั่งเช่นวันก่อนๆ สามารถเห็นดวงดาวบนท้องฟ้าได้เหมือนวันอื่นๆ เหล่านักกีฬาวอลเลย์บอลชายของโรงเรียนมัธยมปลายคาราสุโนะเพิ่งซ้อมกันเสร็จ และกำลังเดินไปตามถนนโล่งเพื่อกลับบ้านของตัวเอง

                   “อา... เจ็บชะมัด” สึกึชิมะลูบแขนตัวเองที่แดงไปหมดเพราะตอนเย็นที่ผ่านมาเขาฝึกรับลูกเสิร์ฟ แรงๆของคาเงยามะเป็นสิบๆลูก “เป็นลูกเสิร์ฟที่แรงสมกับเป็นลูกเสิร์ฟของราชาจริงๆ” ร่างสูงพูดพร้อมกับชำเลียงตามองคนที่ถูกพูดถึงซึ่งเดินอยู่ข้างๆเขา

                   คนถูกเอ่ยถึงหันควับมามองตาดุ ริมฝีปากเรียวพึมพำคำด่าใส่คนตัวสูงกว่า

                    “พูดอะไร?” สึกิชิมะถามเสียงกวน

                   “เปล่า”

                  “รู้นะว่านายด่าฉัน”

                   “แล้วรู้จะถามทำไมวะห๊ะ” คนตัวเล็กว่าตอกกลับเสียงเรียบ

                   “ช่างเป็นราชาที่ปากดีจริงๆ” น้ำเสียงติดโมโหนิดๆ ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนใต้แว่นกรอบดำจ้องหน้าคนตัวเล็กกว่าอย่างไม่วางตา

                   บล็อคเกอร์ร่างสูงและเซ็ตเตอร์อัจฉริยะของทีมวอลเลย์บอลคาราสุโนะเริ่มกัดกันอีก

                   “นี่ ขอถามอะไรหน่อยสิ” ฮินาตะ โชโยพูดขึ้นมา

                   “อะไร?” คาเงยามะละสายตาจากคนใส่แว่นที่ตัวสูงกว่ามามองเพื่อนร่วมทีมและถามเสียงขุ่น

                   “นายกับสึกิชิมะสนิทกันตั้งแต่เมื่อไหร่?”

                   “หา...? ฉันกับไอ้งี่เง่าเนี่ยนะสนิทกัน? ไม่มีทาง” ราชารีบปฏิเสธ

                   “ฉันยังยืนอยู่ตรงนี้นะ ราชา” คนตัวสูงพูด น้ำเสียงนั้นเจือไปด้วยความไม่พอใจ

                   และทั้งคู่ก็เริ่มทะเลาะกันอีกครั้ง แม้กัปตันอย่างไดจิจะออกปากห้ามแต่มันก็ทำให้ทั้งสองคนเงียบได้แค่แป๊บเดียว ซักพักก็เริ่มแง่งๆใส่กันเหมือนหมาอีกครั้งจนคนอื่นในทีมรู้สึกเอือมระอา จะทะเลาะอะไรกันนักหนา

                   “ผมขอตัวก่อนนะครับ” สึกิชิมะพูดขึ้นมาเมื่อถึงทางแยกไปบ้านเขา ตอนนี้สมาชิกชมรมวอลเลย์บอลเหลืออยู่แค่ครึ่งหนึ่ง ที่เหลือแยกย้ายกลับบ้านไปก่อนหน้านี้แล้ว

                   “แล้วเจอกันนะ” สึกะวาระตอบ

                   “เดี๋ยว คาเงยามะ บ้านนายไม่ได้ไปทางนั้นไม่ใช่หรอ?” ทานากะ รุ่นพี่ปี 2 ทักขึ้นเมื่อเห็นรุ่นน้องผมดำของตัวเองเดินแยกไปยืนอยู่กับคนที่กำลังจะเดิน แยกตัวไป

                   “อา... วันนี้ผมมีธุระที่บ้านหมอนี่น่ะครับ ขอตัวก่อนนะครับ” คาเงยามะโค้งให้พวกรุ่นพี่และเดินแยกไปพร้อมกับสึกิชิมะ

                   “...”

                   “...”

                   “ซึกกี้...” เพื่อนสนิทของสึกิชิมะยังแปลกใจกับสิ่งที่เห็น

                   ทุกคนนิ่ง มีคำถามโผล่ขึ้นมาในหัวพวกเขา แต่ไม่มีใครหาเสียงของตัวเองเจอและพูดออกมาได้ ถึงเมื่อกี้คาเงยามะจะบอกว่าไม่ได้สนิทกับสึกิชิมะ แต่การกระทำมันตรงข้ามเลย สองคนนั้นมันดูสนิทกันมากกว่าเดิม ดูสนิทกันแบบแปลกๆ มันต้องมีอะไรแน่ๆ... แล้วมันคืออะไรกันฟะ!

                   หลังจากวันนั้น คาเงยามะช่วยสึกิชิมะซ้อมรับลูกทุกวันและเขาก็ยังคงไปบ้านของสึกิชิมะหลัง เลิกซ้อมตอนเย็นทุกวัน นั่นทำให้คนในทีมสงสัยว่าความสัมพันธ์ของสองคนนี้มันเป็นยังไงกันแน่ แต่ถึงจะสงสัยกันจนแสดงออกมาทางสีหน้ากันแล้วแต่ก็ยังไม่มีใครในทีมกล้าปริ ปากถามออกไปว่า คาเงยามะไปทำอะไรที่บ้านของสึกิชิมะ

     

     

                   “ไม่ใช่ๆ ตรงนั้นมันตรงเอามาลบกัน ไอ้ที่สอนก่อนหน้านี่มันไม่เข้าหัวเลยรึไง?” สึกิชิมะบ่นเพื่อนร่วมชั้นและร่วมชมรมของตัวเองที่กำลังทำหน้างงกับโจทย์ การบ้านคณิตในห้องของเขา

                   “งั้นหรอ... ลบสินะ” คาเงยามะพึมพำกับตัวเองก่อนจะลบส่วนที่เขียนผิดและเขียนแก้ เด็กหนุ่มทำการบ้านต่อด้วยตัวเองซักพักก็เริ่มย่นคิ้วสงสัย “แล้วตรงนี้ทำยังไง?” นิ้วเรียวชี้ตรงส่วนที่ไม่เข้าใจ

                   คนตัวสูงกว่าซึ่งยังไม่ได้อาบน้ำขยับเข้ามาใกล้อีกฝ่ายเพื่อดูโจทย์ในสมุด ให้ถนัดขึ้นก่อนจะอธิบายวิธีทำให้ คาเงยามะพยักหน้าเข้าใจแล้วลงมือเขียน

                    “ฉันสอนเรื่องนี้ให้นายมาหลายวันแล้วนะ ทำไมยังไม่เข้าใจอีก?” สึกิชิมะบ่นออกมาในขณะที่ดวงตาใต้แว่นกรอบดำมองคนข้างตัวทำการบ้านอยู่

                   คาเงยามะเงยหน้าขึ้นมามองด้วยใบหน้าไม่สบอารมณ์

                   “ก็คนมันจำไม่ได้นี่หว่า จะให้ทำยังไง”

                    “ไม่น่าเชื่อเลยว่าราชาจะอ่อนวิชาคณิตขนาดนี้” ร่างสูงพูดพรางแสยะยิ้มกวนโมโห

                   “หุบปากไปเลย ฉันก็ไม่ได้ขอให้นายสอนฟรีๆนี่ ก็ช่วยฝึกการรับลูกให้เป็นการแลกเปลี่ยนแล้วไง เพราะฉะนั้นอย่ามาบ่นมาก” คนตัวเล็กกว่าหันมาพูดเสียงดุ แล้วก้มหน้าก้มตาทำการบ้านคณิตต่อไป

                   คนถูกดุมีสีหน้าเรียบเฉย เขาวางเขียนไว้บนโต๊ะตั้งแบบขาสั้นแล้วนั่งมองคนข้างตัวทำการบ้านต่อเงียบ

                   “...”

                   “ข้อนี้มันต้อง...” คาเงยามะพึมพำกับตัวเอง

                   “...” ดวงตาใต้กรอบแว่นสีดำไล่สายตามองจากมือเรียวที่วางอยู่ข้างสมุดขึ้นมามองใบ หน้าคมที่หันข้างให้เขา ใบหน้าของสึกิชิมะและคาเงยามะห่างกันเพียงไม่กี่คืบ นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนมองด้านข้างของใบหน้าคมอย่างพินิจพิจารณา ถือว่าเป็นการมองแก้เบื่อสำหรับร่างสูง ดวงตาของเขามองทุกอย่างบนใบหน้าของคนข้างตัวอย่างละเอียด ผิวสีน้ำผึ้งของคาเงยามะเวลาดูอยู่ใกล้ๆนั้นดูเนียน มองได้มามองใกล้ผิวของอีกฝ่ายก็ยังดูเนียนอยู่ คิ้วเรียวดูรับกับดวงตาคมและทรงผม ริมฝีปากที่ชอบพูดจาอวดดีนั้นเรียวได้รูปและเป็นสีชมพูระเรื่อ นี่เป็นครั้งแรกที่สึกิชิมะมีความคิดที่ว่าคนตรงหน้าเขาดู ‘มีเสน่ห์ดึงดูด’  

                   “นี่” คนที่ถูกมองโดยไม่รู้ตัวหันหน้ามาหาคนข้างตัว ร่างสูงขยับหัวหนีจากคนตัวเล็กกว่าอย่างรวดเร็วตามสัญชาตญาณ

                   “อ..อะไร?”

                   “ฉันไม่เข้าใจ” คาเงยามะพูดพลางมุ่นคิ้วนิดหน่อยก่อนจะก้มหน้ามองสมุดและใช้นิ้วชี้ตรงส่วนที่ไม่เข้าใจ “ข้อนี้”

                   ร่างสูงขยับใบหน้าเข้ามาใกล้เพื่อดูโจทย์ในสมุด เขาอ่านโจทย์ให้เข้าใจก่อนจะบอกอธิบายวิธีทำให้คาเงยามะ คนฟังพยักหน้าหงึกๆและลงมือเขียน สึกิชิมะนั่งมองอยู่ซักพักก่อนจะลุกขึ้น

                   “ฉันจะไปอาบน้ำ” พูดจบร่างสูงก็เดินหยิบผ้าขนหนูและเสื้อผ้าที่จะเปลี่ยนเดินออกไปจากห้อง เพื่อไปใช้ห้องน้ำซึ่งแยกอยู่ด้านนอก

                   นัยน์ตาสีดำของราชามองร่างสูงเดินออกไปจากห้องก่อนจะหันมาสนใจสมุดที่อยู่ ตรงหน้า เขาสามารถแก้โจทย์ 2 ข้อได้ด้วยตัวเอง แต่พอมาถึงข้อถัดมาก็เกิดอาการไม่เข้าใจและทำไม่เป็นอีกแล้ว คาเงยามะมองไปที่ประตูหลายครั้ง หวังให้เจ้าของห้องที่ออกไปอาบน้ำกลับเข้ามาในห้องเร็วๆ เขาจะได้ถามสิ่งที่สงสัย แต่รอไปได้ซักพักก็ยังไม่มีใครเข้ามาในห้องซักที
                   “ฮ้าว...” คาเงยามะหาวออกมา ตอนนี้ร่างเพรียวรู้สึกหนักเปลือกตาเหลือเกิน เขาขยับถอยหลังไปเพื่อไปนั่งพิงที่นอนซึ่งตั้งอยู่ติดหนัง ดวงตามองไปที่นาฬิกาที่หัวเตียง มันบอกเวลา 4 ทุ่มกว่า ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงรู้สึกง่วง เด็กหนุ่มพิงกับที่นอนนุ่ม ดวงตาเรียวคมทั้งสองข้างหลับลง ร่างเพรียวคิดจะพักสายตาซักพัก รอเจ้าของห้องกลับเข้ามา...

     

                   เอี๊ยด...

                   บานประตูไม้ถูกเปิดออกโดยสึกิชิมะที่ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ามาเรียบร้อย แล้ว ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนของเด็กหนุ่มไปสะดุดอยู่ที่ร่างเพรียวซึ่งกำลังนอนหลับ หัวพิงเตียงของเขาอยู่ ร่างสูงปิดประตูลงอย่างแผ่วเบา และเดินไปหาคนที่นอนอยู่อย่างเงียบๆ ไม่ให้อีกฝ่ายรู้ตัว

                   สึกิชิมะนั่งยองๆอยู่ข้างตัวคาเงยามะ ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนมองนาฬิกาที่ตั้งอยู่ใกล้ๆก่อนจะใบหน้ายามหลับของคนตัว เล็กกว่าไม่วางตา และไม่รู้ว่าเขาเกิดนึกบ้าอะไรขึ้นมา สึกิชิมะยกฝ่ามือใหญ่ของตัวเองขึ้นมาลูบแก้มของคนตรงหน้า คิ้วเรียวบนใบหน้าคมสวยขมวดเข้าหากันนิดหน่อย นั้นทำให้ร่างสูงรีบชักมือออก เขากลัวคาเงยามะจะตื่น แต่อีกฝ่ายแค่ขยับใบหน้าหนีแค่นั้นเอง เด็กหนุ่มถอนหายใจโล่งออกแผ่วเบามาโดยไม่รู้ตัว

                   “เฮ้...” ร่างสูงใช้นิ้วดันหัวคนที่นอนหลับแรงจนหัวอีกฝ่ายโยกไปตามแรง หวังว่าอีกฝ่ายจะตื่น แต่ก็ไม่

                   คาเงยามะมุ่นคิ้วทั้งๆที่กำลังกลับอยู่แล้วพลิกตัวหนี หันหลังให้กับสึกิชิมะ

                    “เฮ้ย ตื่น” ร่างสูงพูดเสียงพร้อมกับใช้มือขยี้หัวคนที่นอนอยู่

    กลุ่มเส้นผมสีดำของคาเงยามะนุ่มกว่าที่สึกิชิมะเคยคิดเอาไว้มาก

                   “อือ...” คาเงยามะครางในลำคอก่อนจะขดตัวมากกว่าเดิม

                    “เฮ้ย ตื่นได้แล้ว” สิกิชิมะพูดเสียงดังกว่าเดิมนิดหน่อยแล้วจับไหล่ของคนตรงหน้าให้หันหน้ามาหาตัวเอง

                   “หือ... ...อือ...” คนถูกปลุกหลับตาแน่น ก่อนจะค่อยๆปรือตาขึ้น เขากระพริบตาอีกซักพักก่อนจะมองจ้องคนตัวสูงที่นั่งยองๆอยู่ด้านข้างด้วยสาย ตาสะลึมสะลือ

                   “4ทุ่มกว่าแล้ว กลับบ้านได้แล้ว เดี๋ยววันนี้ฉันจะปั่นจักรยานไปส่งที่บ้าน”

                    “อือ...” คาเงยาะตอบเสียงเบาตามประสาคนเพิ่งตื่น สึกิชิมะลุกขึ้นและเดินลงไปที่หน้าบ้านก่อนเลย ร่างเพรียวรีบหยิบกระเป๋าขึ้นมาสะพายและเดินตามลงไป

                   ในระหว่างที่รอสึกิชิมะเอาจักรยานออกมาร่างเพรียวก็ยืนสับผะงักรออยู่หน้าบ้านจนเผลอยืนหลับไปโดยไม่รู้ตัว

                   “เดี๋ยวเถอะ อย่ามายืนหลับสิ” ร่างสูงที่เดินออกมาพร้อมจักรยานตรงเข้ามาใช้มือข้างหนึ่งขยี้หัวคาเงยามะเป็นการปลุก

                   “อา รู้แล้วๆ อย่าขยี้ผมสิฟะ” ร่างเพรียวบ่นเบาๆก่อนจะใช้มือทั้งลูบผมให้เข้าทรง

                   “รีบขึ้นมาซ้อนท้ายซะ จะได้รีบไปรีบกลับ” เสียงทุ้มจากร่างสูงที่นั่งคร่อมจักรยานเรียบร้อยแล้วดังมาทัก

                   คาเงยามะตอบแบบเสียงเบาอีกครั้งแล้วเดินไปนั่งซ้อนท้ายจักรยาน

                   ฟุบ

                   พอนั่งเรียบร้อยแล้วร่างเพรียวก็กอดเอวคนปั่นแน่นและฟุบหัวลงกับแผ่นหลังของคนขับ

                   “เฮ้ย ทำอะไรของนาย...” คนถูกกอดถามเสียงอึกอัก เขากำลังตัวไม่ถูก

                   “ง่วง...” ตอบมาเสียงงึมงำแล้วก็เงียบไป คาเงยามะนอนหลับคาแผ่นหลังสึกิชิมะไปซะแล้ว

                   “...” ร่างสูงนิ่ง เขาทำตัวไม่ถูกไปซักพัก ก่อนจะค่อยๆตั้งตัวได้และเริ่มปั่นจักรยานไปส่งคนที่ซ้อนอยู่ด้านหลัง

                   สองข้างทางที่สึกิชิมะปั่นผ่านนั้นเงียบสงบ บนท้องถนนมีเพียงสึกิชิมะและคาเงยามะ ข้างทางมีต้นไม้ขึ้นอยู่หรือไม่ก็เป็นที่โล่งๆมีรั้วกั้นอยู่ข้างทางซะเป็น ส่วนใหญ่ ตามประสาถนนในต่างจังหวัด อากาศด้านนอกตอนนี้ปลอดโปร่งและมีสายลมเย็นพัดผ่านสึกิชิมะรู้สึกราวกับว่า สายนั้นสามารถชำระความเครียดในตัวเข้าไปได้ระดับหนึ่ง ท้องฟ้าสีดำด้านบนก็ปลอดเมฆเห็นดาวบนท้องฟ้าและพระจันทร์เต็มดวงชัดเจน เป็นบรรยากาศทำให้รู้สึกผ่อนคลายอย่างบอกไม่ถูกเลย

                   “...!” คาเงยามะกอดเอวสึกิชิมะแน่นขึ้น ทำเอาเด็กหนุ่มร่างสูงตกใจ

                   “เป็นอะไร?” คนถูกกอดถามโดยที่ยังคงมองทางข้างหน้าอยู่

                   “หนาว...”

                   “ทนเอาหน่อยก็แล้วกัน เดี๋ยวก็ถึงแล้ว” พูดโดยที่ยังมองทางด้านหน้าอยู่

                   “อือ...” พูดจบคาเงยามะก็เอาหน้าผากถูหลังซึกิชิมะสามสี่ทีแล้วก็ซบหน้าด้านหนึ่งลงบนแผ่นหลังกว้างนั่นอีกครั้ง

                   น่ารัก...! สึกิชิมะไม่อยากจะชมอะไรคาเงยามะแบบนี้หรอกนะ แต่ตอนนี้คนที่อยู่ด้านหลังเขาทำตัวน่ารักชะมัด!

                   นึกไม่ถึงเลยว่าราชาของเขาจะมีมุมแบบนี้ด้วย

                   แล้วบล็อกเกอร์ร่างสูงก็พาเพื่อนร่วมทีมของเขามาส่งถึงบ้านได้อย่างปลอดภัย

                   “ราตรีสวัสดิ์” ร่างสูงบอกลาตามมารยาทก่อนกลับ

                   “ราตรีสวัสดิ์”

                   คาเงยามะยืนมองเพื่อนร่วมชมรมของตัวเองปั่นจักรยานกลับไปจนลับสายตา มือข้างหนึ่งยกขึ้นมาลูบแก้มตัวเองเบาๆ นึกย้อนไปตอนที่ตัวเองนอนกึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่ในห้องของร่างสูงและมีมืออุ่น มาสัมผัสที่แก้ม

                   ไม่นึกเลยว่าหมอนั่นจะทำแบบนั้น... นิสัยแปลกกว่าที่คิดไว้...

                    ร่างเพรียวเดินเข้าไปในบ้าน... โดยที่ไม่รู้ตัวเลยซักนิดว่าตัวเองได้ลืมของไว้ที่บ้านของสึกิชิมะ

     

    ---------------------------------------------------------   

     

     

                   “เอ้านี่”

                   สมุดเล่มหนึ่งถูกยื่นมาให้คาเงยามะหลังจากเจ้าตัวเข้าห้องชมรมมาได้ไม่ถึง 5 นาที สายตาของสมาชิกทุกคนที่อยู่ในห้องชมรมมองไปที่สึกิชิมะและคาเงยามะด้วยความ อยากรู้อยากเห็นเต็มที่ ร่างเพรียวรับสมุดมาอย่างงงๆก่อนจะเพิ่งรู้ตัวว่านี่เป็นสมุดของตัวเอง

                   “มันไปอยู่กับนายได้ไง?”

                   “เมื่อวานนายลืมมันไว้ที่บ้านฉัน”

                   เมื่อคืนคาเงยามะลืมเรื่องหนังสือซะสนิทเลย กลับไปถึงบ้านก็อาบน้ำนอนทันที เด็กหนุ่มเปิดสมุดไปยังหน้าที่เขาเขียนไว้ล่าสุดเมื่อวาน เขาจำได้ว่าตัวเองยังทำไม่เสร็จเลย...

                   โจทย์ทุกข้อในหนังสือถูกเขียนวิธีทำและคำตอบเรียบร้อยแล้ว แถมแต่ละหน้ายังมีกระดาษโน้ตสีแผ่นเล็กๆติดไว้ 2-3 แผ่นด้วย

                   ร่างเพรียวเงยหน้า คิดจะอ้าปากพูดแต่ก็โดนคนตรงหน้าชิงพูดขึ้นมาซะก่อน

                   “เมื่อวานฉันว่างก็เลยทำไปเล่นๆ ฉันไปซ้อมล่ะ” สึกิชิมะยกมือลูบหัวคาเงยามะเล่นก่อนจะเดินออกจากห้องชมรมไป คาเงยามะนิ่ง สมาชิกคนอื่นในห้องอึ้ง

                   สองคนนี้มันสนิทกันขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่!?

                   ด้านนอกประตูที่มีเพียงร่างสูงของบล็อคเกอร์แห่งชมรมวอลเลย์บอลคาราสุโนะ เด็กหนุ่มอยากจะตีมือตัวเองแรงๆ เขาเผลอยกมือไปลูบหัวคาเงยามะโดยไม่รู้ บ้าจริงๆ...!

                   คงเพราะเมื่อวาน ต้องเป็นเพราะเมื่อวานแน่ๆ... เมื่อวานเขารู้สึกดีที่ได้ลูบหัวคาเงยามะ รู้สึกแปลกๆตอนสัมผัสแก้มของคาเงยามะ เขาไม่รู้ว่าจะอธิบายความรู้สึกนั้นยังไง เขารู้แค่ว่ามันเป็นความรู้สึกที่ดี อยากจะสัมผัสอีกครั้ง ดีแค่ไหนแล้วที่ครั้งนี้เขาไม่เผลอไปลูบแก้มของคาเงยามะแทนการลูบหัว


     

    END.

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×