คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : CH :: 01 :: คุณมนุษย์ภาพวาด
01
“คุณมนุษย์ภาพวาด”
20 เมษายน 25xx
หน้าคณะมนุษยศาสตร์ เวลา 12.05 น.
'อาสาหฤหรรษ์ ปั้นฝันลงสนาม
Playground camp #13'
'มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสนามเด็กเล่นในฝันของเด็กๆให้เป็นสนามจริงกันเถอะ!!'
25 เมษายน - 4 พฤษภาคม 25xx
โรงเรียนบ้านปลาข่อน จังหวัดขอนแก่น
ติดต่อสอบถาม : น้อยนิด 089-0123xxx
: punsanam@manomak.com
ชมรมปั้นสนาม♥
หลังจากสอบวิชาสุดท้ายของภาคเรียนซัมเมอร์เสร็จเรียบร้อย ฉันก็รีบติดสปีดมาแถวๆฟุตบาทหน้าคณะพร้อมกับยืนมองป้ายขนาด 0.8 x 2 เมตร(จากการคาดเดาทางสายตา)มานานเกือบๆ 10 นาที ที่จริงก็เห็นป้ายนี้ตั้งแต่เมื่อเช้าก่อนเข้าห้องสอบแล้วล่ะ เพียงแต่ว่าช่วงเวลานั้นฉันไม่ค่อยสะดวกที่จะอ่านแบบตั้งใจ...
พูดตรงๆ ก็คือ...ฉันมาสอบสายนั่นแหละU-U
และพออ่านอักษรที่เรียงร้อยกันเป็นประโยคทั้งหมดจบ ฉันรู้สึกได้เลยว่า...หัวใจมันวูบวาบเต็มไปด้วยความตื่นเต้นยังกับตอนนั่งเรือไวกิ้งเป็นครั้งแรก นี่คงเป็นโอกาสของฉันแล้วสินะ! โอกาส...ที่จะได้ทำสิ่งดีๆ โอกาสที่จะได้แบ่งปันในสิ่งที่หลายคนไม่มี โอกาสที่จะส่งมอบความสุขให้คนอื่น และก็แน่นอนว่า...
เป็นโอกาสที่ฉันจะได้ไปสัมผัสชีวิตชนบทในถิ่นอีสานอย่างใกล้ชิด!
อ๊ายยยย><~
แค่คิดก็มีความสุขแล้วอ่ะ ช่างจัดขึ้นมาได้ถูกช่วงเวลาม๊าก...มากกกก หลังสอบคุณแม่ตัวเล็กก็ยังไม่ได้จัดทริปส่งฉันออกนอกประเทศซะด้วยสิ คราวนี้ล่ะ! ฉันจะหาวิธีไปค่ายอาสาครั้งนี้ให้ได้ อุวะฮ่าๆ \(^O^)/
แบบนี้ต้องไลน์ไปของความช่วยเหลือจากยัยเพื่อนสนิทJ
'เธอๆ เรามีอะไรจะบอกล่ะ>_<'
'จะบอกอะไรลูกคลื่นสุด cute คนนี้มิทราบคะ-_-?'
ฉันอมยิ้มกับตัวเองก่อนจะถ่ายรูปป้ายและส่งตอบกลับไป
'O_o!
แกไปเหรอ! OMG!
คุณหนูเรนนี่แสนซนคนสวยที่เปรียบดั่งไข่ในหินออกไปสูดอากาศหายใจในโลกภายนอกได้แล้วเหรอ!!'
นี่แหละประเด็นที่ฉันไลน์ไปหายัยลูกคลื่น...
เพราะฉันเป็นลูกสาวคนเล็กและคนเดียวจากสมาชิกทั้งหมด 4 คนในครอบครัว คุณพ่อตัวใหญ่ คุณแม่ตัวเล็ก และก็พี่ซันชายน์(พี่ชายของฉัน)ก็เลยค่อนข้างหวงฉันมากกกก...ถึงมากที่สุด ฉะนั้นเวลาที่ต้องไปในสถานที่ลำบากๆ หรือมีความเจริญไม่มาก ทั้งสามคนเลยไม่เห็นด้วยและออกกฎสั่งห้าม(เฉพาะฉัน)ไม่ให้ไปในแถบชนบทที่ห่างไกลความเจริญ
เป็นครอบครัวที่รักฉันมาก...ดีเนอะว่าไหมY__Y
'ไปได้...ไปได้แน่ๆ ถ้าแก...ช่วยฉันT^T'
'หมายความว่า...?'
'แกไปกับฉันนะ นะๆๆ พลีส~ '
'ทำไมฉันต้องหาเรื่องให้ตัวเองไปลำบากด้วยล่ะ แกก็ไปคนเดียวสิ-_-'
เหอะๆ ถ้าฉันไปได้อย่างที่มันพูดนะ ฉันไม่ไลน์ไปอ้อนวอนขนาดนี้หรอก L!
'แกก็รู้คุณแม่ตัวเล็กกับคุณพ่อตัวโตไว้ใจแก แค่แกไปกับฉันแล้วโกหกว่าไปเที่ยวที่ไหนก็ได้สักสิบวันพวกท่านก็อนุญาตแล้วอ่าาา'
อาจจะดูเหมือนฉันเป็นลูกสาวที่เลว คิดจะหลอกพ่อกับแม่แล้วยังชักชวนให้เพื่อนเข้ามาร่วมขบวนการอีก...แต่ฉันอยากไปจริงๆนะ อยากลองไปเดินทุ่งนาจริงๆสักครั้ง อยากไปขี่ควายตัวเป็นๆดู อยากทดลองกินอาหารแปลกๆที่ไม่เคยกิน....
ฉันอยากไปสัมผัสชีวิตติดดินในแถบชนบทอีสานจริงๆน้าาT^T~
'แกชวนฉันทำบาปเหรอ...'
'อยากไปจริงๆ ขอร้องT^T'
ยัยลูกคลื่นเงียบไปเกือบนาทีก่อนจะตอบกลับมาพร้อมคำตอบที่ทำเอาฉันแทบอยากกรี๊ดหลายๆ ภาษา>_<
'เออๆ ฉันช่วยแกก็ได้ อยากไปดูเหมือนกันว่าชีวิตแบบนั้นมันเป็นยังไง'
'น่ารักที่สุดเพื่อนฉัน กอดดดดดดดดT/////T'
ด้วยความดีใจจนไม่ทันระวังฉันกระโดดหมุนตัวสามตลบราวกลับนักบัลเล่ห์ และในจังหวะนั้นเองที่หมุนตัวไปชนกับใครบางคนเข้าจนเกือบจะล้ม แต่โชคดีที่บุคคลปริศนาคนนั้นคว้าเอวฉันเอาไว้ได้ทัน น้ำหอมกลิ่น Ck be ลอยมาแตะจมูกฉันเบาๆ
"โอ๊ะ~! ขอโทษค่ะ>_<"
ฉันรีบผละออกมาก่อนจะหลับหูหลับตาขอโทษ อายจนไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าสบตา ดีนะที่แถวๆ นั้นไม่ค่อยมีคนอยู่เยอะ
...แต่แบบว่านะ โอย~ กลิ่นน้ำหอมยังหอมติดจมูกอยู่เลย*O*
"ไม่เป็นไร"
เขาบอกอย่างไม่ใส่ใจ ฉันค่อยๆ เงยหน้าขึ้นไปมองเจ้าของน้ำเสียงที่อยู่ในชุดนักศึกษาถูกระเบียบพร้อมกับส่งยิ้มไปให้ ก่อนจะ...ยิ้มค้างอยู่อย่างนั้น...
ใบหน้าขาวเนียนใสออกไปทางลูกครึ่ง ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนดูมีเสน่ห์ชวนให้หลงใหล จมูกโด่งสวยได้รูปรับกับริมฝีปากหยักสีชมพู แถมยังความสูงระดับนายแบบในนิตยาสารบวกกับรูปร่างดีแบบคนออกกำลังกาย อื้อหือ~ นี่มัน...
"ภาพวาดชัดๆ "
ฉันพูดออกไปคล้ายกับคนกำลังละเมอ ผู้ชายคนนี้ราวกับหลุดออกมาจากภาพวาดจริงๆ นะ องค์ประกอบทุกอย่างบนตัวเขามันดููลงตัวเพอร์เฟ็กต์สุดๆ
"อาฮะ ฉันคือภาพวาด"
คนที่บอกว่าตัวเองคือภาพวาดเลิกคิ้วมองฉันอย่างสงสัย ให้ตายเถอะ! คนอะไรหล่อแล้วยังตลกอีก มีรับมุข(ที่ไม่ได้ตั้งใจของฉัน)ด้วย นี่ควรจะขำหรือเขินดี-///-
"เธอ...มีปัญหาอะไรกับฉันหรือเปล่า"
ฉันคิดว่ามีหลายปัญหาเลยล่ะ อย่างเช่นอาการ ตาพร่ามัวจากออร่าความหล่อของเขา ร่างกายที่เริ่มจะทรงตัวไม่อยู่เพราะสบกับดวงตาสีน้ำตาลอ่อนนานเกินไป และที่คิดว่าหนักที่สุดคงจะเป็นไอ้ก้อนเนื้อตรงหน้าอกข้างซ้ายนี่แหละ เต้นตุบๆๆๆ เสียงดังยังกับว่ามันไม่เคยเต้นมาก่อนแน่ะU///U♥
เฮ้อ~ ให้ตายสิ! ไอ้อาการแปลกๆ พวกนี้หมอจะรับรักษาไหมนะ
"เธอ..."
โอ๊ย~! ยิ่งเขาเรียกฉันแล้วมองด้วยนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนคู่นั้น ใจฉันก็ยิ่งเต้นแรง♥
"เธอ..."
"....."
"นี่ฟังอยู่ไหม-*-?" คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันแน่น
"....."
"เธอ..."
มือขาวๆ โบกไปมาผ่านหน้าฉันU_U เขาถอนหายใจออกมายาวเหยียดก่อนจะตัดสินใจหันหลังเดินกลับไป วินาทีนั้นเองที่ฉันคิดว่าต้องพูดอะไรสักอย่างเพื่อรั้งเขาไว้...
"คุณมนุษย์ภาพวาด~!"
เขาหยุดเดินกะทันหัน...
"ไปค่ายอาสาด้วยกันมั้ยคะ?!"
25 เมษายน 25xx
ณ ลานจอดรถข้างๆ ศูนย์อาหาร
เวลา 23.40 น.
ฉันแบกเป้ใบใหญ่เดินมาถึงสถานที่นัดหมายพร้อมกับยัยลูกคลื่น รอบๆ ตัวมีคนยืนรวมกลุ่มกันเป็นจำนวนมากเพื่อรอรถสำหรับเดินทาง จากที่ฉันเข้าประชุมทางชมรมบอกว่าค่ายครั้งนี้มีคนอาสาไปทั้งหมดหกสิบคนรวมกับคนในชมรมด้วยยี่สิบคนก็เป็นแปดสิบคน จะใช้รถบัสในการเดินทางสองคัน เป็นรถบัสของทางมหาลัยและจะออกรถตอนประมาณเที่ยงคืนเพราะไปถึงจะเช้าพอดีซึ่งจะได้มีเวลาพักผ่อน
จะว่าไปแล้วก็รู้สึกตื่นเต้นแปลกๆ แฮะ ไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะได้มีวันนี้...วันที่ฉันจะได้ไปเยือนชนบทแถบภาค อีสานจริงๆ ความฝันนี้ฉันฝันไว้ตั้งแต่เด็กๆ แล้ว... ตอนที่คุณปู่ยังไม่จากพวกเราไปท่านชอบมาเล่าให้ฟังบ่อยๆ ว่าท่านเดินทางไปทำงานในแถบอีสานตลอด ได้เห็นธรรมชาติที่งดงาม อาหารแปลกๆ แต่รสชาติอร่อย แถมยังมีอากาศที่บริสุทธิ์ไม่มีมลพิษจากควันรถเหมือนอยู่ในเมือง และอีกหลายๆ อย่างที่น่าสนใจ
พอโตขึ้นเรื่องนี้มันเลยถูกฝังอยู่ในใจฉันมาตลอด แต่ก็ไม่มีโอกาสที่จะได้ไปสักครั้งเพราะทางครอบครัวกลัวว่าฉันจะลำบาก จริงๆ ฉันเคยจะแอบหนีไปเองนะแต่พี่ซันชายน์ก็จับได้ซะก่อนและหลังจากนั้นคุณแม่ตัวเล็กก็เลยส่งฉันไปต่างประเทศทุกครั้งในช่วงปิดเทอม
เมื่อวันก่อนกว่าจะหลอกให้ของคุณพ่อตัวใหญ่ คุณแม่ตัวเล็กและก็พี่ซันชายน์ เชื่อว่าฉันกับยัยลูกคลื่นจะไปเที่ยวเสม็ดสิบวันก็เล่นเอาเหงื่อตกเป็นแถบๆ เลือดตานี้แทบกระเด็นT_T โดยเฉพาะพี่ซันชายน์...เอาแต่จับผิดคำพูดของฉันกับยัยลูกคลื่นตลอดเวลาแถมยังบอกอีกด้วยว่าจะขับรถไปส่งที่สนามบิน แต่โชคดีที่คุณแม่ตัวเล็กช่วยพูดให้พี่ชายฉันถึงยอม ไม่งั้นมีหวังฉันไม่ได้มานั่งรอรถอยู่ที่นี่แน่ๆU_U
แต่คราวนี้ล่ะ! ที่ฉันจะได้ไปสัมผัสชีวิตแถบชนบทอีสานจริงๆ ซะที!!
(ถึงจะรู้สึกผิดที่โกหกครอบครัวก็เถอะนะT_T)
"น้องๆ พี่ๆ ที่จะไปค่ายช่วยมารวมกลุ่มกันตรงนี้ด้วยนะคะ เราจะทำการแจกป้ายชื่อให้ทุกคนและก็แนะนำพี่ๆ บางคนที่ยังไม่แนะนำตัวระหว่างที่รอรถบัสกัน!"
เสียงแหลมสูงของฟักทอง(รู้จักตอนเข้าประชุมเรื่องค่าย)ตะโกนผ่านโทรโข่งสีแดงขนาดเล็กเดินประกาศไปทั่วบริเวณลานกว้างข้างๆ ศูนย์อาหารของมหาลัย หลายคนเริ่มยกกระเป๋าตัวเองเดินไปนั่งรวมกลุ่มกันใกล้ๆ กับอุปกรณ์บางอย่างที่ทางชมรมต้องขนไปเอง เสียงคุยกันจอแจเกี่ยวกับรุ่นพี่ที่ไม่เคยเข้าประชุมชมเริ่มดังขึ้น
"แกๆ ฉันได้ยินว่าพี่ภาพวาดจะขึ้นรถบัสคันเดียวกับเราล่ะ"
"อ๊าย~ จริงเหรอแก! สาธุขอให้ฉันได้นั่งข้างๆพี่เค้าเถอะ>/\<"
ฉันมองน้องปีหนึ่งที่กำลังบนบานศาลกล่าวกับลมฟ้าอากาศยามค่ำคืนอย่างสงสัย ได้ยินคนพูดถึงผู้ชายที่ชื่อภาพวาดบ่อยๆ ตั้งแต่เข้าประชุมแล้วล่ะ ก็ไม่ได้อยากฟังหรอกนะแต่โดนคนอื่นพูดกรอกหูซะจนฉันจะเอาข้อมูลของเขาไปท่องอาขยานได้แล้วมั้ง นี่ไม่ได้เว่อร์จริงๆ (* *)
จากที่ได้ยินมา...เขาเป็นลูกครึ่งไทยอีสาน - อเมริกัน เป็นผู้ชายปากเสียนิดๆ ซึ่งผิดกับหน้าตาเลยได้ฉายาว่า หล่อJPEG* เพราะเวลาอยู่นิ่งๆ จะหล่อดูดีแต่ถ้าได้พูดหรือขยับจะตรงข้ามกันทุกอย่าง(เขาว่ามาอย่างนั้นนะ) และว่ากันอีกว่าเขาคือคนที่ประธานค่ายห้ามไม่ให้เข้าร่วมประชุมและก็ไม่ยอมบอกด้วยว่าเขาจะไปค่ายด้วยมั้ยจนกว่าจะถึงวันสุดท้ายก่อนการเดินทาง ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะเคยมีเรื่องทะเลาะกันเพื่อแย่งชิงชายหนุ่มรูปงามคนนี้ตอนเข้าค่ายทำให้เกิดปัญหามากมายตามมา หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้นประธานค่ายเลยอุ๊บอิ๊บเรื่องที่เขาจะไปหรือไม่ไปเอาไว้ เพื่อกันผู้หญิงที่จะแอบมาใกล้ชิดเขาแทนที่จะมาอาสาทำค่ายด้วยใจบริสุทธิ์จริงๆ
ชักอยากจะเห็นหน้า ‘พี่ภาพวาด’ ที่ว่าแล้วล่ะสิ อยากจะรู้เหมือนกันว่าจะหล่อขนาดไหน...หล่อสู้คุณมนุษย์ภาพวาด(ของฉัน)ได้หรือเปล่า
เฮ้อ...พอพูดถึงคุณมนุษย์ภาพวาดแล้ว...ฉันล่ะอดเศร้าใจไม่ได้~ Y_Y
ย้อนกลับไปวันที่ 20 เมษายน 25xx หลังจากที่ฉันตะโกนเรียกเขาออกไป
'คุณมนุษย์ภาพวาด~!'
ใช่...ฉันเรียกเขาแบบนั้นและเขาก็หยุดขายาวๆ ที่กำลังจะเดินหนีฉันไป
'ไปค่ายอาสาด้วยกันไหมคะ?!'
เอาตรงๆ คือตอนนั้นฉันไม่รู้ว่าควรจะสรรหาคำพูดอะไรมาฉุดรั้งเขาไว้เพื่อทำความรู้จัก ในหัวมันมีแต่เรื่องไปค่ายกับใบหน้าหล่อๆ ที่เหมือนหลุดออกมาจากภาพวาดอยู่เต็มไปหมด สุดท้ายคำพูดมันเลยออกมาในรูปแบบนี้U_U
และแน่นอนว่าผลลัพธ์คือ...คุณมนุษย์ภาพวาดไม่แม้แต่จะหันกลับมามองแถมยังส่ายหน้าคล้ายๆ จะตอบปฏิเสธคำชักชวนอีกด้วย เฮ้อ~ ฉันมันบ้าเองแหละที่พูดอะไรแบบนั้นออกไป แถมเจอกันได้ไม่ถึงชั่วโมง ฉันก็เอาแต่มองเขาตาหวานเยิ้มไม่ยอมพูดอะไร และพอพูดก็ดันชวนเขาไปค่ายอาสาด้วยกันตั้งแต่ครั้งแรกที่เจออีก นี่คงจะคิดว่าฉันเป็นพวกชอบหลอกล่อผู้ชายหน้าตาดีๆ ไปแล้วแน่ๆ
ฮือออ~ เรื่องมันเศร้าขอเลิกเล่าแล้วกันT_____T
"ทำหน้าแบบนี้กำลังเพ้อถึงคุณมนุษย์ภาพวาดอะไรของแกนั่นอีกแล้วล่ะสิ"
ก้มหน้าก้มตาเล่นเกมเศรษฐีสร้างแลนด์มาร์คในไอโฟนของแกต่อไปก็ไม่มีใครว่าหรอกนะลูกคลื่น-_-^
"ฉันบอกแกแล้วนี่ว่าเขาคือรักแรกพบ♥"
นี่อาจจะเป็นครั้งที่ร้อยแล้วมั้งที่ฉันพูดเรื่องรักแรกพบ(ข้างเดียว)กับคุณมนุษย์ภาพวาดให้ลูกคลื่นฟัง และผลตอบรับที่ได้กลับมาจากยัยเพื่อนสนิทคนนี้ก็คือ...
"แกมโนรู้ตัวบ้างป่ะ?"
อืม...อย่างที่เห็นแหละ-_-;;
"ใจร้ายยยย=[]="
"ฉันอยากให้แกอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงต่างหาก!"
"แต่ฉันรู้สึกใจเต้นแรงกับเขาจริงๆ นะ เนี่ย...ไม่เคยใจเต้นแรงแบบนี้กับใครมาก่อนเลยU////U"
"เพ้อเจ้อ! ไม่คุยด้วยล่ะสร้างแลนด์มาร์คดีกว่า"
ยัยลูกคลื่นยื่นมือมาดีดหน้าผากฉันก่อนจะก้มหน้าลงไปสร้างแลนด์มาร์คในไอโฟนต่อ อะไรกัน...ฉันไม่ได้เพ้อเจ้อหรือขี้มโนอะไรสักหน่อย ฉันใจเต้นแรงกับคุณมนุษย์ภาพวาดจริงๆ ตอนแรกก็ไม่ได้คิดว่าจะรู้สึกอะไรด้วยหรอกเพราะเจอหน้ากันไม่ถึงชั่วโมงด้วยซ้ำ แต่หลังจากผ่านไปสามวัน ใบหน้าหล่อคมเข้มก็ยังคงฝังอยู่ในใจฉันตลอดแถมพอคิดถึงเขาทีไรใจมันก็สั่นทุกที...
ฉันว่าฉันคงหลงรักเขาไปแล้วแน่ๆเลยU_U♥
"เงียบๆ กันแป๊บนึงนะคะแล้วก็ช่วยแยกกลุ่มออกตามฝ่ายงานที่ได้รับมอบหมายด้วย ตอนนี้พี่น้อยนิดกำลังจะแจกป้ายชื่อแล้วก็สลากคู่ พ่อฮักแม่ฮัก** ให้ทุกคน ใครที่ได้ตัวเลขตัวเดียวกันในสลากจะได้พ่อฮักแม่ฮักคนเดียวกันและก็ทั้งขาไปและขากลับจะได้นั่งที่นั่งรถบัสข้างๆ กันนะคะ"
เสียงฟักทองประกาศผ่านโทรโข่งอีกครั้ง ฉันเดินลากยัยลูกคลื่นที่กำลังมัวเมากับการสร้างแลนด์มาร์คไปต่อแถวฝ่ายงานสันทนาการ ป้ายชื่อถูกส่งต่อมาเรื่อยๆ พร้อมกับแก้วที่ใส่สลากพอถึงคิว ฉันก็หยิบกระดาษแผ่นเล็กสีเขียวออกมาก่อนจะคลี่ออกดู
' ๑๓ รถคันที่ ๑ ที่นั่ง ๕เอ '
อืม... สิบสาม เลขนำโชคสินะ แต่จะโชคดีหรือโชคร้ายนั่นก็อีกเรื่อง-*-
"ลูกคลื่นแกได้เลขอะไร?"
"สามสิบ"
ง่า...กลับกันซะงั้น แล้วฉันได้นั่งกับใครล่ะเนี่ยT^T
"โอ๋ๆ~ ไม่เป็นไรนะแก ถือว่าเป็นการทำความรู้จักเพื่อนใหม่^^"
ยัยลูกคลื่นพูดปลอบใจฉันพร้อมกับลูบหัวเบาๆ นี่เพื่อนนะไม่ใช่หมาเวลาเศร้าจะได้ลูบหัวปลอบใจ-_-;;
"ต่อไปจะเป็นการแนะนำพี่ๆ บางคนที่ยังไม่ได้แนะนำตัวหรือไม่เคยเข้าร่วมประชุมนะคะ"
ฉันไม่ได้สนใจอะไรมากเพราะมัวแต่ก้มหน้าก้มตาติดป้ายชื่อเข้ากับเสื้อของตัวเองก่อนจะเก็บแผ่นสลากพ่อฮักแม่ฮักเข้ากระเป๋าสะพายใบจิ๋ว
"สวัสดีครับ พี่ชื่อภาพวาด ปีสาม วิทย์ฟิสิกส์"
"อื้อหือ หล่อสมชื่อจริงๆแฮะ"
ลูกคลื่นพูดออกมาเบาๆ พร้อมกับเสียงแอบกรี๊ดกร๊าดดังมาจากทั่วทุกมุม...หล่อจริงเหรอ! ไหนขอดูหน้าหน่อยเถอะ…
OoO!!
นั่นมัน...!!
"คุณมนุษย์ภาพวาด!!!"
ฉันเผลออุทานออกมาเสียงดังพร้อมกับยกมือขึ้นชี้คนตรงหน้าอย่างลืมตัว ส่วนเขาก็ทำหน้านิ่งๆ จ้องฉันกลับมาเหมือนคนไม่รู้จักกัน แต่...นั่นใช่คุณมนุษย์ภาพวาดจริงๆเหรอ ไม่ใช่ว่าฉันเพ้อถึงเขาจนออกมาเป็นภาพโฮโลแกรมหรอกนะ!
"เรนนี่แกทำอะไร คนมองหมดแล้ว!"
ลูกคลื่นขยับเข้ามากระซิบฉันก่อนจะหันไปยิ้มแห้งๆ ให้ทุกคน ก็มันตกใจนี่นา...นั่นเขานะ...เขา...คุณมนุษย์ภาพวาดU_U♥
"เอ่อ...ขอโทษค่ะ ฉันคงจำคนผิด"
เพื่อความปลอดภัยจากสายตาสงสัย(ปนอาฆาต)จากมนุษย์รุ่นน้อง รุ่นเพื่อน และรุ่นพี่จากทั่วทุกสารทิศ ฉันเลยแก้ตัวออกไปแบบลวกๆ แล้วพอบอกว่าจำผิดทุกคนต่างทำท่าโล่งอกเหมือนดีใจที่ฉันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับพี่ภาพวาด พี่ๆ คนต่อไปก็เริ่มแนะนำตัวกันจนครบ ฉันแอบเหลือบมองเขาเป็นระยะๆ เผื่อจะจำคนผิด แต่ไม่ว่าจะมองสักกี่ครั้ง มองมุมไหน หรือองศาไหน ก็คนเดียวกันชัดๆ!
แต่...ท่าทางนิ่งๆ เหมือนไม่เคยเจอกันนั่นคืออะไร? กระซิกๆ T^T
"โอเค พี่ๆ ก็แนะนำตัวกันครบทุกคนแล้วเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเราขึ้นรถเตรียมตัวเดินทางกันเลยนะคะ ไหนๆ รถก็มาแล้ว อ้อ! ฟักทองวานคุณผู้ชายทั้งหลายช่วยขนของกันด้วยน้า~ "
พวกเราทั้งหมดแยกย้ายกันไปขึ้นรถตามที่ตัวเองจับได้ในสลากพ่อฮักแม่ฮัก ส่วนพวกผู้ชายบางคนก็ไปช่วยพี่ๆ ชมรมขนของขึ้นรถ ฉันเดินไปส่งลูกคลื่นที่รถคันที่สองพร้อมกับกอดลา
"ลูกคลื่น...ฉันว่าคุณมนุษย์ภาพวาดต้องเป็นเนื้อคู่ฉันแน่ๆ"
"ห๊ะ? อะไรของแกเนี่ยอย่าเพิ่งเพ้อตอนนี้ได้มั้ย ยิ่งไม่ได้นั่งรถคันเดียวกันอยู่ด้วย-_-^"
"แกรู้ไหม...คุณมนุษย์ภาพวาดกับพี่ภาพวาดน่ะ…เป็นคนๆ เดียวกันนะ~"
"หา!! พูดจริงเหรอฉันนึกว่าแกอำซะอีก O_o!"
ลูกคลื่นทำหน้าไม่อยากจะเชื่อ...อย่าว่าแต่แกเลย...ฉันเองก็ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกันว่าคุณมนุษย์ภาพวาดจะมาอยู่ที่นี่ แถมยังเป็นคนเดียวกันกับพี่ภาพวาดอีก นี่มันบังเอิญ โลกกลม พรหมลิขิตเกินไปแล้วนะ
แต่ว่าวันนั้นเขาส่ายหน้ากับฉันทำไมอ่ะ นี่ก็เข้าใจว่าเขาปฏิเสธอยู่ตั้งนานหรือเขาอยากมาเซอร์ไพรส์ฉัน อาจจะใช่สินะ แล้วไอ้ท่าทางนิ่งๆ ที่เหมือนจำฉันไม่ได้นั่นก็จะเซอร์ไพรส์เหมือนกันใช่ไหม? อืมๆ ฉันเข้าใจล่ะ (ขอมโนเข้าตัวเองแป๊บๆ )U^U
"อื้อ~ แต่เหมือนเขาจะจำฉันไม่ได้T^T"
"เออๆ เอาไว้ค่อยทำความรู้จักพี่เขาทีหลังก็ได้เพราะยังไงก็อยู่ค่ายด้วยกันตั้งสิบวัน ฉันขึ้นรถล่ะ ไว้คุยกันในไลน์นะ^^"
พอกอดลากับยัยลูกคลื่นเสร็จเรียบร้อยฉันก็เดินขึ้นมานั่งประจำที่ของตัวเอง ความตื่นเต้นกลับมาอีกครั้ง นี่เป็นครั้งแรกเลยนะที่ฉันได้นั่งรถบัสในการเดินทางแถมยังเป็นการเดินทางไปยังชนบทแถบอีสานที่ฉันใฝ่ฝันที่จะไปอีกด้วย ฮื้อ~ ความรู้สึกตอนนี้เหมือนได้กลับไปเป็นเด็กเลย>_<
"กรี๊ด~ พี่ภาพวาดขึ้นรถคันเดียวกันกับเราล่ะแก!"
ทันทีที่ได้ยินคำว่าภาพวาดหัวใจฉันเริ่มเต้นแรงขึ้นมา โอยยย~ เขาทำให้ฉันตื่นเต้นยิ่งกว่าการนั่งรถบัสอีก>_<
"แบบนี้ก็มีลุ้นที่พี่เค้าจะนั่งข้างฉันสิ><"
"พี่เขาหล่อน่าลากมากอ่ะแก!"
"ยังกับหลุดออกมาจากภาพวาดแน่ะ"
"บางทีก็อยากจะถามเขาว่าตกลงมาจากสวรรค์เจ็บหรือเปล่า~"
และก็มีอีกหลากหลายคำพูดคร่ำครวญดังมาจากน้องปีหนึ่ง
ฉันแอบชะโงกหน้าออกไปมองหน้ารถก่อนจะเห็นร่างสูงของใครบางคนที่เดินตรงเข้ามาเรื่อยๆ เขาหันมาสบตาฉันเล็กน้อยก่อนจะเลยไปเบาะด้านหลัง...
ด้านหลังของฉัน...เขานั่งข้างหลังฉัน...นั่งเบาะข้างหลังฉัน! ให้ตายเถอะ! ใจฉันสั่นจะแย่อยู่แล้ว>////<
"อ้าว~! น้องเรนนี่คะ เรานั่งถูกที่แล้วใช่มั้ย? พี่ได้ที่นั่ง 4A นะหนู"
พี่อ้วน(รู้จักตอนประชุมนั่นแหละ)ทำหน้าตกใจก่อนจะถามอย่างสงสัย เอ่อ...ฉันว่าฉันก็นั่งถูกแล้วนะ หมายเลขที่นั่ง 5A และตรงนี้มันก็...
' 4A '
ชัดเจนเต็มตาเลย!
ฉันนั่งผิดจริงๆด้วย รู้สึกอายยยยยย(_/////_)
"เรนนี่ขอโทษค่ะ พอดีตามันมัวๆ ไปหน่อย แฮะๆ"
ฉันลุกขึ้นให้พี่อ้วนได้เข้าไปนั่งแทนที่ก่อนจะหันไปเจอหมายเลข 5A อยู่เบาะด้านหลังข้างๆกับ....
เดี๋ยวนะๆๆ ขอตั้งสติก่อน! นับหนึ่งถึงสามพอฮึบ! แล้วสติจงกลับมานะเรนนี่เอ๋ย~
หนึ่ง...
สอง...
สาม...!! ฮึบ!!!
ร่างกายของฉันแข็งทื่อไปโดยอัตโนมัติแต่ทว่าหัวใจมันกลับเต้นแรงสวนทางกันอย่างสิ้นเชิงเมื่อสบเข้ากับนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนน่าหลงใหลนั่น
บอกฉันทีว่าฉันตาฝาด....
คนที่นั่งข้างๆฉัน...พี่ภาพวาด...!!
JPEG* หรือ Joint Photographic Experts Group เป็นรูปแบบไฟล์ภาพ สำหรับภาพถ่ายซึ่งเป็นภาพนิ่ง เช่น ภาพถ่ายธรรมชาติ คน สัตว์ สิ่งของ ฯลฯ
พ่อฮักแม่ฮัก** คือคนที่จะคอยดูแลเราตลอดทั้งการเข้าค่าย จะคอยดูแลเราเหมือนเป็นลูกอีกคน ทั้งให้ที่พักและอาหาร ถ้าหากเราขาดหรือลืมเอาสิ่งของอะไรไปพ่อฮักแม่ฮักก็จะคอยหามาให้
สถานที่ในเรื่องเป็นไม่มีอยู่จริงเป็นเพียงสถานที่ที่สมมติขึ้นมาเท่านั้น
เฮลโลวววว กับตอนที่หนึ่งฮับ
ฝากเม้น ด้วยน้า~
#เดี๋ยวๆมีคนอ่านมั้ย 5555
ปล.gifเราเองนะอย่ากลัว 555555
23/12/2557
ความคิดเห็น