ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : I have...{1}
I have ตอนที่ 1
ผมมีแฟน 5 คน แล้วก็ไม่เข้าใจว่าทุกคนไปตกลงกันอีท่าไหนถึงได้ไปรับไปส่งผมได้ทุกวันไม่ซ้ำคนขนาดนี้
ไม่ต้องสับราง เค้าหลบกันเอง สินะ?
แนะนำตัวเล็กน้อย ผมชื่อโอเซฮุน นักเรียนมัถยมปลายปีสองหมาดๆที่แสนหล่อเหลาน่ารักน่าหลง หลักฐานเช็คได้จากจำนวนคนรุมจีบ
แต่ไอ้ที่ใช้ได้จนรับมาเป็นแฟนก็มีแค่ 5 คนล่ะนะ แต่มีใครบ้างก็จะค่อยๆบอกละกัน ตอนนี้หิวจนตาลายบอกเลย
โอเซฮุนเดินโซเซออกมาหน้าประตูรั้วแล้วก็พบรถสปอร์ตโค-ตะ-ระจะไฮโซจอดอยู่อีกฝั่งของถนน ผู้ชายคนนึงยืนพิงประตูรถ มือล้วงกระเป๋าและใส่หูฟังอย่างสุดเท่
รัศมีไฮโซแผ่กระจายเส้นผมจรดปลายเท้าขนาดนี้จะเป็นใครอื่นไปไม่ได้
"อรุณสวัสดิ์ครับน้องเซฮุน"
พ่อหนุ่มไฮโซเงยหน้าจากพื้นมาส่งยิ้มเยิ้มให้
แสบตา...
พี่ครับ...อย่าเรียกผมน้องเลย เรียกเมียดีกว่า...
เอาล่ะครับ วันนี้วันจันทร์และพึ่งจะเปิดเทอมวันแรกและคุณพี่หล่อรวยแอนด์ขาวเว่อตรงนี้คือคิมจุนมยองนักศึกษาปีสามของมหาวิทยาลัยข้างโรงเรียนผมครับ จัดว่าเพอเฟ็คเลอเลิศทั้งด้านบุคลิกหน้าตา การเรียน กิจกรรม และฐานะทางบ้าน จะเสียอย่างเดียวนี่แหละ เตี้ยชิบ...
เฮ้ๆ อย่าเข้าใจผิดสิ ผมไม่ได้สนใจแต่หนุ่มหล่อสูงหุ่นล่ำเสมอไปนะ บังเอิญว่าผมได้หมดทั้งรุกทั้งรับ เพราะถ้าเคะไปเลยก็กลายเป็นเคะสูงหน้าหล่อ แต่ถ้าเมะไปเลยก็กลายเป็นเมะหุ่นบางตุ้งติ้งอีก
ด้วยประการเช่นนี้ผมจึงปฏิบัติตนอย่างเป็นกลางและให้ความเป็นธรรมกับทุกๆคน
แต่ชะนีอดแดกนะครับบอกเลย
กลับมาที่ประเด็นพี่จุนมยอง คือว่างี้ ผมทั้งหล่อโครตเท่และสุดจะน่ารักนึกออกไหมครับ? บังเอิญมีอยู่ครั้งนึงพี่จุนมยองมาซื้อชานมใข่มุกตัดหน้าผมครับ ผมพึ่งกลับมาจากโรงเรียนมันก็ดึกแล้ว แก้วนั้นเป็นแก้วสุดท้่ายด้วย ผมก็จัดไปครับ ด่าเละจนพี่แกเหวอหมดมาด แล้วผมก็สะบัดตูดกลับบ้านครับ งอนมากบอกเลย แล้วพี่แกก็คงสุภาพบุรุษเอาเรื่องไม่ก็ปิ๊งผมแหงวิ่งตามมาบอกจะให้แก้วที่เค้าซื้อไปฟรี ถึงจะดีใจก็เถอะ แต่มันก็ต้องเล่นตัวกันบ้างซึ่งก็ได้ผลครับ ผมให้เบอร์เค้าไป เปล่าใจง่ายนะครับ แค่ให้พี่เค้ารับผิดชอบเรื่องชานมไข่มุก
ปัญหามันอยู่ตรงนี้ครับ พี่จุนมยองหล่อรวยสปอร์ตคังนัมก็จริงอยู่หรอก แต่ผมไม่แน่ใจว่าผมเป็นอะไรสำหรับพี่เค้า เคะหรือเมะ พี่เค้าดูแลผมอย่างกับเจ้าหญิง แต่จริงๆแล้วพี่เค้าก็บอบบาง อ่อนแอ ขี้กลัวเอาเรื่อง บางครั้งหนักๆหน่อยคือเข้ามาอ้อนผมเลยซะด้วยซ้ำ...
...แต่อันที่จริงชาติกำเนิดพี่แกไม่มุ้งมิ้งนะครับ ถึงกับเพื่อนหรือคนทั่วไปจะอ่อนโยน ขี้เล่นมากก็จริง แต่พ่อพี่แกนี่มาเฟียนะครับ มาเฟีย ไม่ใช่มาเฟียลูกกระจ๊อกด้วย มาเฟียแก๊งนี้มีสมาชิกและเครือข่ายเยอะมาก นี่มีคนหนุนหลังเป็นถึงคนตำแหน่งใหญ่ในรัฐบาลด้วยซ้ำ โชคดีที่แก๊งพ่อของพี่จุนมยองไม่ใช่แก๊งชั่วๆเลวๆเหมือนมาเฟียทั่วไป แต่เหมือนกับคอยเก็บกวาดอะไรที่มันเหนือบ่ากว่าแรงจริงๆของรัฐบาล หรืออะไรก็ตามที่รัฐบาลไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ เรียกง่ายๆคือพวกเบื้องหลัง
ยกตัวอย่างเช่น การล่อซื้อยาเสพติดหรือการตามล่าและวิสามัญนักโทษสถานหนักที่หลบหนี
แล้วพี่จุนมยองก็ต้องเป็นหัวหน้าแก๊งคนต่อไป ถ้าจะสงสัยว่านิสัยมุ้งมิ้งงี้จะเป็นได้เหรอ? บอกเลยว่าได้ พี่จุนมยองเองก็มีมุมดาร์คที่ปกติไม่ค่อยได้เห็นเหมือนกัน...ผมเคยเห็นตอนผมกำลังเดตกับพี่จุนมยองแล้วมีโจรบ้าที่ไหนไม่รู้วิ่งมาฉกมือถือผมไป อยากจะบอกว่าแววตาพี่แกน่ากลัวมากบอกเลย ตอนที่จับโจรได้… ไม่อยากจะเล่าขนลุก
"เซฮุน" เสียงใครก็ไม่รู้ข้างหูปลุกผมที่ฟุบหลับมาตั้งแต่คาบเช้า พองัวเงียขึ้นมาก็พอจะจำได้ว่าเป็นเพื่อนผู้หญิงคนนึงในห้องที่เหมือนเมื่อปีที่แล้วก็จะอยู่ห้องเดียวกัน แต่ผมยังจำชื่อเธอไม่ได้
"มีคนมาหา" ผมพลิกข้อมือดูนาฬิกา คาบพักเที่ยงพอดี เมื่อมองไปที่หน้าห้องก็พบคนตัวเล็กๆกำลังส่งยิ้มกว้างมาหิอย่างร่าเริงถ้าเขามีหางเหมือนหมาคงสะบัดดุ๊กๆจนหางแทบปลิวแหง
แหม...แฟนใครน่ารักจัง...
"พี่ไม่เรียนเหรอครับ" ผมที่ตอนนี้จัดทรงใบหน้าเสื้อผ้าและทรงผมเรียบร้อยเพิ่มออพชั่นล้วงกระเป๋าแบบโคตรจะแบดเดินเข้าไปทักคนที่รออยู่หน้าห้อง
"ไม่หรอก วันนี้พี่มีเรียนแค่สามชั่วโมงน่ะ" พี่คยองซูตอนทำปากเป็นรูปหัวใจแล้วส่ายหัวกลมๆไปมานี่น่ารักสุดๆ คิดไม่ผิดจริงที่คว้ามาทำเมีย เยเฮต!
แต่ไอ้ได้เลิกเรียนเร็วนี่อิจฉาสุดๆบอกเลย
เมื่อไหร่ผมจะขึ้นมหาลัยซักทีวะครับ
"เซฮุน พี่ทำกับข้าวมาให้ ไปกินด้วยกันนะ" ผมยิ้มชนิดที่กลั่นกรองมาแล้วว่าแมนสุดแบดสุดแล้วพยักหน้าให้พี่เค้าแบบคูลๆ
"ย่าห์!!" แต่เสียงแหลมๆเข้มๆแบบนี้คุ้นหูยังไงชอบกล
"แบบนี้หมายความว่าไงคยองซู วันนี้ชั้นจะพาเซฮุนไปกินข้าวนะ!"
"ใครดีใครได้สิครับ" ใบหน้าที่ดูใสซื่อพาลให้รู้สึกละมุนหายวับปลิวไปกับสายลม ถึงจะไม่ใช่ครั้งแรกแต่ก็ไม่ชินซักที
"เราตกลงกันแล้วไม่ใช่เหรอว่ามื้อเที่ยงนี้ฉันจะพาเซฮุนไปกินข้าว"
"พี่เอาแต่พูดเองเออเองไม่ใช่เหรอ? ผมยังไม่ทันได้ตอบตกลงเลยนี่"
"โดคยองซู!!"
เอาแล้วครับ พี่แพคฮยอนโกรธจนหน้าแดงควันออกหูแล้วครับ พี่คยองซูนี่ก็อย่าไปพูดให้เค้าอารมณ์เสียสิ ยิ่งเฮ้วๆอยู่ทั้งคู่ เกิดตบกันแย่งผมขึ้นมานี่ซวยนะบอกเลย
แต่คิดไปเองรึเปล่า ทำไมพี่พี่ทั้งสองคนแลดูหอบๆเพลียๆเหมือนไปเล่นกีฬาอะไรมา?
แต่เรื่องนั้นช่างมันเถอะ พี่สองคนนี่เรื่องใหญ่กว่า
คนนึงเป็นเด็กนิเทศสุดป๊อบด้วยไหนจะรูปร่างหน้าตาที่จัดว่าดี บุคลิกสดใสร่าเริงและเน้นกิจกรรมคนรู้จักกันทั้งมหาลัย จนถึงกับมีโฮมเพจแฟนคลับ แต่คือพี่แกเป็นหัวหน้าแก๊งค์ครองเมืองอะไรซักอย่างครับ! ลูกน้องเป็นร้อย
อีกคนเด็กวิศวะมาดติ๋ม แค่มาดเฉยๆจริงๆ มาดีก็ดีไป อย่าได้มาหาเรื่อง เพราะเรื่องใหญ่กว่าจะสิงกบาลคุณแน่ เห็นตัวเล็กๆหน้าใสๆงี้เคยต่อยหน้าระดับรองผอ.มหาลัย'มาแล้ว และเกือบโดนไล่ออก แต่เพราะขี้เกียจหาที่เรียนใหม่ก็จัดไปงวดนั้นแถคดีสีข้างเลือดไหลซิบๆเลยทีเดียวถึงจะรอดมาได้แต่ก็โดนทัณฑ์บน ดังเพราะเรื่องนี้แหละครับ คนนี้ไม่ใช่หัวหน้าแก๊งค์อะไรหรอกครับ แต่พวกพี่แกเยอะ! เด็กวิศวะทั้งโซลเลยมั้ง
ตาย! ปล่อยให้ไฝว้กันนี่เละชัวร์ เละไปข้าง!
"อ่าๆๆ พี่แพคฮยอน เดี๋ยวเย็นนี้ผมไปกินข้าวกับพี่นะครับ"
ผมต้องกล้าตายห้ามศึกและดูเหมือนจะได้ผลพี่แพคฮยอนดูใจเย็นลงเยอะ
"เชอะ!" แล้วก็สบัดตูดงอนไปนู่นแล้วครับ
"ช่างหัวไอ้หมานั่นเถอะ ไปกินข้าวกัน...นะ" พี่คยองซูครับ...อย่าใช้น้ำเสียงที่มันขัดกับสีหน้าสิครับน่ากลัวมากนี่บอกเลย
สุดท้ายผมกับพี่คยองซูก็ตกลงปลงใจนั่งทานข้าวกล่องของพี่คยองซูกันที่โต๊ะหินอ่อนใต้ต้นไม้ของโรงเรียนผมครับ
"พี่ผ่านยามเข้ามาได้ยังไงน่ะ เวลานี้เค้าห้ามคนที่ไม่ได้มาติดต่อครูอาจารย์เข้าโรงเรียนนี่ครับ"
"พี่ได้ได้ผ่านซักหน่อย"
"ห๊ะ?"
"พี่ปีนรั้วเข้ามาต่างหาก"
เออ...อย่าใช้สีหน้าขัดกับเนื้อหาที่พูดสิครับ มันน่ากลัวมากบอกเลย
ผมก้มหน้าก้มตาฟาดอาการกลางวันไปดีกว่าสปาเก็ตตี้ครีมซอสฝีมือพี่คยองซูอร่อยสมกับรูปร่างหน้าตากุลสตรีของพี่เค้าเลย
บรู๊วววววววววส์
พี่คยองซูสะดุ้งเฮือกแทบตกเก้าอี้ดีที่ผมรีบเอื้อมไปรับแบบพระเอกซีรีย์ทัน พี่แกเขินผมจนหน้าแดงด้วยล่ะ เพราะผมก็ถือโอกาสยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆหน้าพี่คยองซูจนหายใจรดกันเลย หล่อล่ะสิ
ผมจับไหล่พี่คยองซูให้นั่งดีๆและเนียนแต๊ะอั๋งเล็กน้อย ก่อนจะหยิบโทรศัพท์สมาร์ทโฟนที่ส่งเสียงหอนขึ้นมาดู ไม่ต้องตกใจครับเสียงแจ้งเตือนไลน์ผมเอง
'เซฮุน นายอยู่ไหน'
'ที่เดิม'
'อย่าไปไหนนะ จะรีบไปหา'
เพื่อนผมเอง อันที่จริงเป็นรุ่นพี่แต่ผมอยากนับมันเป็นเพื่อน
เด็กจีนที่ย้ายมาเรียนเกาหลี โรงเรียนผมและมหาวิทยาลัยข้างๆมีเครืออยู่ที่จีนด้วยน่ะ เด็กจีนเด็กเกาหลีเลยข้ามกันไปข้ามกันมาสบายๆ เพราะมีหนังสือเรียนและคลาสสำหรับคนจีนที่นี่ด้วย (ทีี่นู่นก็มีหนังสือเรียนและคลาสสำหรับคนเกาหลี)
ใช่ครับ โรงเรียนผมมีทั้งมัถยมปลายและมหาวิทยาลัย แต่มีรั้วกันไว้ และยังไปเปิดเครือสาขาที่ประเทศจีนอีก รู้สึกคนก่อตั้งจะเป็นลูกครึ่งมั้ง ไม่รู้สิ ตอนผอ.มาพล่ามตอนเข้าแถวตอนเช้าผมเอาแต่เล่นโทรศัพท์ไม่ได้ฟังเลย
ผมมีแฟน 5 คน แล้วก็ไม่เข้าใจว่าทุกคนไปตกลงกันอีท่าไหนถึงได้ไปรับไปส่งผมได้ทุกวันไม่ซ้ำคนขนาดนี้
ไม่ต้องสับราง เค้าหลบกันเอง สินะ?
แนะนำตัวเล็กน้อย ผมชื่อโอเซฮุน นักเรียนมัถยมปลายปีสองหมาดๆที่แสนหล่อเหลาน่ารักน่าหลง หลักฐานเช็คได้จากจำนวนคนรุมจีบ
แต่ไอ้ที่ใช้ได้จนรับมาเป็นแฟนก็มีแค่ 5 คนล่ะนะ แต่มีใครบ้างก็จะค่อยๆบอกละกัน ตอนนี้หิวจนตาลายบอกเลย
โอเซฮุนเดินโซเซออกมาหน้าประตูรั้วแล้วก็พบรถสปอร์ตโค-ตะ-ระจะไฮโซจอดอยู่อีกฝั่งของถนน ผู้ชายคนนึงยืนพิงประตูรถ มือล้วงกระเป๋าและใส่หูฟังอย่างสุดเท่
รัศมีไฮโซแผ่กระจายเส้นผมจรดปลายเท้าขนาดนี้จะเป็นใครอื่นไปไม่ได้
"อรุณสวัสดิ์ครับน้องเซฮุน"
พ่อหนุ่มไฮโซเงยหน้าจากพื้นมาส่งยิ้มเยิ้มให้
แสบตา...
พี่ครับ...อย่าเรียกผมน้องเลย เรียกเมียดีกว่า...
เอาล่ะครับ วันนี้วันจันทร์และพึ่งจะเปิดเทอมวันแรกและคุณพี่หล่อรวยแอนด์ขาวเว่อตรงนี้คือคิมจุนมยองนักศึกษาปีสามของมหาวิทยาลัยข้างโรงเรียนผมครับ จัดว่าเพอเฟ็คเลอเลิศทั้งด้านบุคลิกหน้าตา การเรียน กิจกรรม และฐานะทางบ้าน จะเสียอย่างเดียวนี่แหละ เตี้ยชิบ...
เฮ้ๆ อย่าเข้าใจผิดสิ ผมไม่ได้สนใจแต่หนุ่มหล่อสูงหุ่นล่ำเสมอไปนะ บังเอิญว่าผมได้หมดทั้งรุกทั้งรับ เพราะถ้าเคะไปเลยก็กลายเป็นเคะสูงหน้าหล่อ แต่ถ้าเมะไปเลยก็กลายเป็นเมะหุ่นบางตุ้งติ้งอีก
ด้วยประการเช่นนี้ผมจึงปฏิบัติตนอย่างเป็นกลางและให้ความเป็นธรรมกับทุกๆคน
แต่ชะนีอดแดกนะครับบอกเลย
กลับมาที่ประเด็นพี่จุนมยอง คือว่างี้ ผมทั้งหล่อโครตเท่และสุดจะน่ารักนึกออกไหมครับ? บังเอิญมีอยู่ครั้งนึงพี่จุนมยองมาซื้อชานมใข่มุกตัดหน้าผมครับ ผมพึ่งกลับมาจากโรงเรียนมันก็ดึกแล้ว แก้วนั้นเป็นแก้วสุดท้่ายด้วย ผมก็จัดไปครับ ด่าเละจนพี่แกเหวอหมดมาด แล้วผมก็สะบัดตูดกลับบ้านครับ งอนมากบอกเลย แล้วพี่แกก็คงสุภาพบุรุษเอาเรื่องไม่ก็ปิ๊งผมแหงวิ่งตามมาบอกจะให้แก้วที่เค้าซื้อไปฟรี ถึงจะดีใจก็เถอะ แต่มันก็ต้องเล่นตัวกันบ้างซึ่งก็ได้ผลครับ ผมให้เบอร์เค้าไป เปล่าใจง่ายนะครับ แค่ให้พี่เค้ารับผิดชอบเรื่องชานมไข่มุก
ปัญหามันอยู่ตรงนี้ครับ พี่จุนมยองหล่อรวยสปอร์ตคังนัมก็จริงอยู่หรอก แต่ผมไม่แน่ใจว่าผมเป็นอะไรสำหรับพี่เค้า เคะหรือเมะ พี่เค้าดูแลผมอย่างกับเจ้าหญิง แต่จริงๆแล้วพี่เค้าก็บอบบาง อ่อนแอ ขี้กลัวเอาเรื่อง บางครั้งหนักๆหน่อยคือเข้ามาอ้อนผมเลยซะด้วยซ้ำ...
...แต่อันที่จริงชาติกำเนิดพี่แกไม่มุ้งมิ้งนะครับ ถึงกับเพื่อนหรือคนทั่วไปจะอ่อนโยน ขี้เล่นมากก็จริง แต่พ่อพี่แกนี่มาเฟียนะครับ มาเฟีย ไม่ใช่มาเฟียลูกกระจ๊อกด้วย มาเฟียแก๊งนี้มีสมาชิกและเครือข่ายเยอะมาก นี่มีคนหนุนหลังเป็นถึงคนตำแหน่งใหญ่ในรัฐบาลด้วยซ้ำ โชคดีที่แก๊งพ่อของพี่จุนมยองไม่ใช่แก๊งชั่วๆเลวๆเหมือนมาเฟียทั่วไป แต่เหมือนกับคอยเก็บกวาดอะไรที่มันเหนือบ่ากว่าแรงจริงๆของรัฐบาล หรืออะไรก็ตามที่รัฐบาลไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ เรียกง่ายๆคือพวกเบื้องหลัง
ยกตัวอย่างเช่น การล่อซื้อยาเสพติดหรือการตามล่าและวิสามัญนักโทษสถานหนักที่หลบหนี
แล้วพี่จุนมยองก็ต้องเป็นหัวหน้าแก๊งคนต่อไป ถ้าจะสงสัยว่านิสัยมุ้งมิ้งงี้จะเป็นได้เหรอ? บอกเลยว่าได้ พี่จุนมยองเองก็มีมุมดาร์คที่ปกติไม่ค่อยได้เห็นเหมือนกัน...ผมเคยเห็นตอนผมกำลังเดตกับพี่จุนมยองแล้วมีโจรบ้าที่ไหนไม่รู้วิ่งมาฉกมือถือผมไป อยากจะบอกว่าแววตาพี่แกน่ากลัวมากบอกเลย ตอนที่จับโจรได้… ไม่อยากจะเล่าขนลุก
"เซฮุน" เสียงใครก็ไม่รู้ข้างหูปลุกผมที่ฟุบหลับมาตั้งแต่คาบเช้า พองัวเงียขึ้นมาก็พอจะจำได้ว่าเป็นเพื่อนผู้หญิงคนนึงในห้องที่เหมือนเมื่อปีที่แล้วก็จะอยู่ห้องเดียวกัน แต่ผมยังจำชื่อเธอไม่ได้
"มีคนมาหา" ผมพลิกข้อมือดูนาฬิกา คาบพักเที่ยงพอดี เมื่อมองไปที่หน้าห้องก็พบคนตัวเล็กๆกำลังส่งยิ้มกว้างมาหิอย่างร่าเริงถ้าเขามีหางเหมือนหมาคงสะบัดดุ๊กๆจนหางแทบปลิวแหง
แหม...แฟนใครน่ารักจัง...
"พี่ไม่เรียนเหรอครับ" ผมที่ตอนนี้จัดทรงใบหน้าเสื้อผ้าและทรงผมเรียบร้อยเพิ่มออพชั่นล้วงกระเป๋าแบบโคตรจะแบดเดินเข้าไปทักคนที่รออยู่หน้าห้อง
"ไม่หรอก วันนี้พี่มีเรียนแค่สามชั่วโมงน่ะ" พี่คยองซูตอนทำปากเป็นรูปหัวใจแล้วส่ายหัวกลมๆไปมานี่น่ารักสุดๆ คิดไม่ผิดจริงที่คว้ามาทำเมีย เยเฮต!
แต่ไอ้ได้เลิกเรียนเร็วนี่อิจฉาสุดๆบอกเลย
เมื่อไหร่ผมจะขึ้นมหาลัยซักทีวะครับ
"เซฮุน พี่ทำกับข้าวมาให้ ไปกินด้วยกันนะ" ผมยิ้มชนิดที่กลั่นกรองมาแล้วว่าแมนสุดแบดสุดแล้วพยักหน้าให้พี่เค้าแบบคูลๆ
"ย่าห์!!" แต่เสียงแหลมๆเข้มๆแบบนี้คุ้นหูยังไงชอบกล
"แบบนี้หมายความว่าไงคยองซู วันนี้ชั้นจะพาเซฮุนไปกินข้าวนะ!"
"ใครดีใครได้สิครับ" ใบหน้าที่ดูใสซื่อพาลให้รู้สึกละมุนหายวับปลิวไปกับสายลม ถึงจะไม่ใช่ครั้งแรกแต่ก็ไม่ชินซักที
"เราตกลงกันแล้วไม่ใช่เหรอว่ามื้อเที่ยงนี้ฉันจะพาเซฮุนไปกินข้าว"
"พี่เอาแต่พูดเองเออเองไม่ใช่เหรอ? ผมยังไม่ทันได้ตอบตกลงเลยนี่"
"โดคยองซู!!"
เอาแล้วครับ พี่แพคฮยอนโกรธจนหน้าแดงควันออกหูแล้วครับ พี่คยองซูนี่ก็อย่าไปพูดให้เค้าอารมณ์เสียสิ ยิ่งเฮ้วๆอยู่ทั้งคู่ เกิดตบกันแย่งผมขึ้นมานี่ซวยนะบอกเลย
แต่คิดไปเองรึเปล่า ทำไมพี่พี่ทั้งสองคนแลดูหอบๆเพลียๆเหมือนไปเล่นกีฬาอะไรมา?
แต่เรื่องนั้นช่างมันเถอะ พี่สองคนนี่เรื่องใหญ่กว่า
คนนึงเป็นเด็กนิเทศสุดป๊อบด้วยไหนจะรูปร่างหน้าตาที่จัดว่าดี บุคลิกสดใสร่าเริงและเน้นกิจกรรมคนรู้จักกันทั้งมหาลัย จนถึงกับมีโฮมเพจแฟนคลับ แต่คือพี่แกเป็นหัวหน้าแก๊งค์ครองเมืองอะไรซักอย่างครับ! ลูกน้องเป็นร้อย
อีกคนเด็กวิศวะมาดติ๋ม แค่มาดเฉยๆจริงๆ มาดีก็ดีไป อย่าได้มาหาเรื่อง เพราะเรื่องใหญ่กว่าจะสิงกบาลคุณแน่ เห็นตัวเล็กๆหน้าใสๆงี้เคยต่อยหน้าระดับรองผอ.มหาลัย'มาแล้ว และเกือบโดนไล่ออก แต่เพราะขี้เกียจหาที่เรียนใหม่ก็จัดไปงวดนั้นแถคดีสีข้างเลือดไหลซิบๆเลยทีเดียวถึงจะรอดมาได้แต่ก็โดนทัณฑ์บน ดังเพราะเรื่องนี้แหละครับ คนนี้ไม่ใช่หัวหน้าแก๊งค์อะไรหรอกครับ แต่พวกพี่แกเยอะ! เด็กวิศวะทั้งโซลเลยมั้ง
ตาย! ปล่อยให้ไฝว้กันนี่เละชัวร์ เละไปข้าง!
"อ่าๆๆ พี่แพคฮยอน เดี๋ยวเย็นนี้ผมไปกินข้าวกับพี่นะครับ"
ผมต้องกล้าตายห้ามศึกและดูเหมือนจะได้ผลพี่แพคฮยอนดูใจเย็นลงเยอะ
"เชอะ!" แล้วก็สบัดตูดงอนไปนู่นแล้วครับ
"ช่างหัวไอ้หมานั่นเถอะ ไปกินข้าวกัน...นะ" พี่คยองซูครับ...อย่าใช้น้ำเสียงที่มันขัดกับสีหน้าสิครับน่ากลัวมากนี่บอกเลย
สุดท้ายผมกับพี่คยองซูก็ตกลงปลงใจนั่งทานข้าวกล่องของพี่คยองซูกันที่โต๊ะหินอ่อนใต้ต้นไม้ของโรงเรียนผมครับ
"พี่ผ่านยามเข้ามาได้ยังไงน่ะ เวลานี้เค้าห้ามคนที่ไม่ได้มาติดต่อครูอาจารย์เข้าโรงเรียนนี่ครับ"
"พี่ได้ได้ผ่านซักหน่อย"
"ห๊ะ?"
"พี่ปีนรั้วเข้ามาต่างหาก"
เออ...อย่าใช้สีหน้าขัดกับเนื้อหาที่พูดสิครับ มันน่ากลัวมากบอกเลย
ผมก้มหน้าก้มตาฟาดอาการกลางวันไปดีกว่าสปาเก็ตตี้ครีมซอสฝีมือพี่คยองซูอร่อยสมกับรูปร่างหน้าตากุลสตรีของพี่เค้าเลย
บรู๊วววววววววส์
พี่คยองซูสะดุ้งเฮือกแทบตกเก้าอี้ดีที่ผมรีบเอื้อมไปรับแบบพระเอกซีรีย์ทัน พี่แกเขินผมจนหน้าแดงด้วยล่ะ เพราะผมก็ถือโอกาสยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆหน้าพี่คยองซูจนหายใจรดกันเลย หล่อล่ะสิ
ผมจับไหล่พี่คยองซูให้นั่งดีๆและเนียนแต๊ะอั๋งเล็กน้อย ก่อนจะหยิบโทรศัพท์สมาร์ทโฟนที่ส่งเสียงหอนขึ้นมาดู ไม่ต้องตกใจครับเสียงแจ้งเตือนไลน์ผมเอง
'เซฮุน นายอยู่ไหน'
'ที่เดิม'
'อย่าไปไหนนะ จะรีบไปหา'
เพื่อนผมเอง อันที่จริงเป็นรุ่นพี่แต่ผมอยากนับมันเป็นเพื่อน
เด็กจีนที่ย้ายมาเรียนเกาหลี โรงเรียนผมและมหาวิทยาลัยข้างๆมีเครืออยู่ที่จีนด้วยน่ะ เด็กจีนเด็กเกาหลีเลยข้ามกันไปข้ามกันมาสบายๆ เพราะมีหนังสือเรียนและคลาสสำหรับคนจีนที่นี่ด้วย (ทีี่นู่นก็มีหนังสือเรียนและคลาสสำหรับคนเกาหลี)
ใช่ครับ โรงเรียนผมมีทั้งมัถยมปลายและมหาวิทยาลัย แต่มีรั้วกันไว้ และยังไปเปิดเครือสาขาที่ประเทศจีนอีก รู้สึกคนก่อตั้งจะเป็นลูกครึ่งมั้ง ไม่รู้สิ ตอนผอ.มาพล่ามตอนเข้าแถวตอนเช้าผมเอาแต่เล่นโทรศัพท์ไม่ได้ฟังเลย
I have ตอนที่ 1
I have ตอนที่ 1
ผมมีแฟน 5 คน แล้วก็ไม่เข้าใจว่าทุกคนไปตกลงกันอีท่าไหนถึงได้ไปรับไปส่งผมได้ทุกวันไม่ซ้ำคนขนาดนี้
ไม่ต้องสับราง เค้าหลบกันเอง สินะ?
จ่าวช่างห่าว(อรุณสวัสดิ์) ถึงมันจะไม่เช้าแล้วก็ตามแต่ผมชื่อหวางจื่อเทา โดนม๊าถีบส่งใช้เครือซิงโครย้ายจากจีนมาที่นี่ตั้งแต่มัถยมต้นปีสอง เพราะที่โน่นระดับมัถยมปลายจะต้องเสียค่าเทอมแพงกว่าที่เกาหลีเล็กน้อย และในเกาหลีมีทุนความสามารถพิเศษทางด้านกีฬาอีกตังหาก รู้ดังนั้นม๊าผมก็ตัดไฟตั้งแต่ต้นลมดำเนินเรื่องให้เรียบร้อย จัดกระเป๋าให้อีกตะหาก ผมมีหน้าที่ร้องไห้งอแงเดินขึ้นเครื่องบินอย่างเดียว
ฟังแล้วดูน่าสมเพศชอบกลแฮะ แต่เรื่องยุ่งๆของผมยังไม่จบแค่นี้
หลังจากมาอยู่ได้เทอมนึง ผมที่ไม่รู้ภาษาเกาหลีเลยซักกระแอะนอกจากคำว่าอันยองฮาเซโยก็กร่อยสนิท ไปไหนมาไหน คุยกับใครไม่รู้เรื่องเลย โชคดีที่มีรุ่นพี่ที่เป็นคนจีนกับเด็กที่พอพูดภาษาจีนได้อยู่บ้าง
แล้วพอขึ้นมอปลายปีหนึ่งได้จู่ๆคนกลุ่มนั้นก็เรียกผมว่าแฟน ไม่รู้ทำไมเหมือนกันแต่กลับมาที่ปัจจุบันก่อนดีกว่า
ผมเดินออกมาหน้าบ้านตามปกติ เพราะวันนี้เป็นวันจันทร์และวันเปิดเทอมชีวิตมอปลายปีสองของผม
แล้วพี่เกี่ยวอะไรอ่ะ...?
"ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะครับ หิวข้าวเหรอ? ป่ะ เดี๋ยวพี่เลี้ยง"
เอ๊ะ?
พี่จงแดพาผมมาที่ร้านข้่าวปั้น ก็ไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมต้องข้าวปั้นแต่เค้าก็อุตสาห์เลี้ยง
"อร่อยไหมครับ จื่อเทา"
"อื้ม อร่อยครับ" พี่จงแดยิ้มจนตาหยียับ พี่เค้าอยู่มหาลัย'ปีสองจริงๆรึเปล่าหรือตอนเด็กๆไม่มีตังค์ไม่มีโอกาศได้เรียน พอโตมามีเงินเลยซิ่วเอา
ไม่มีใครแก่เกินเรียนหรอกเนอะ
"น้องจื่อเทาเป็นอะไรครับ ไม่สบายรึเปล่า"
"...เอ่อ.."
โครม!
จู่ๆผมก็ล้มหน้าคว่ำไปกับพื้นชนิดนอนราบเป็นปลาทูแม่กลอง แต่ปลาทูจะหันข้างเนอะ แต่ผมคว่ำหน้า เอาเป็นว่าช่างปลาทูเถอะ เจ็บอ่ะ...
พี่จงแดรีบเข้ามาพยุงผมอย่างไวเหมือนกลัวว่าถ้าผมยังคงนอนต่อไปจะมีรถวิ่งมาทับทั้งๆที่นี่มันทางเท้า
แต่ก็จุกจริงๆน่ะแหละ
"เฮ้! ไม่คิดจะขอโทษกันก่อนเหรอ!" พี่จงแดตะโกนไล่หลังพลเมืองดีที่ชนผมล้มจนพี่แกมีโอกาศได้จับนู่นจับนี่จนมันส์มือ
พี่จงแด...
"โทษๆๆๆ โทษที รีบอยู่น่ะ" พลเมืองดีคนนั้นหันกลับมาทั้งที่ยังวิ่งอยู่แล้ววิ่งต่อไป เก่งดีแฮะ...
"อ่าว ชิบหาย นั่นพยอนแพคฮยอนนี่หว่า" พี่จงแดหน้าซีดลงไปเล็กน้อย
"พี่จงแด ไปกันเถอะเดี๋ยวจะเข้าคาบบ่ายไม่ทันเอา
ครับ ฟังไม่ผิดหรอก คาบบ่าย ผมไม่รู้จะอธิบายตัวผมยังไง แต่ผมยอมรับว่าผมไม่ใช่นักเรียนตัวอย่างที่ดีซักเท่าไหร่หรอก...
"จื่อเทาครับ เอาจริงๆเหรอ"
"ใช่! ขืนวิ่งเข้าหน้าโรงเรียนเหมือนปกติก็ซวยน่ะสิ ครูเจ๊ฮีนิมแกยืนหน้าเข้มอยู่นั่น" ผมกระโดดเกาะรั้วเหล็กอย่างคล่องแคล่ว แล้วทรงตัวยืนบนรั้วตรงกลางระหว่างเหล็กแหลมกันขโมยหรือกันเด็กโดดเนี่ยแหละของรั้ว
ฟุบ.. ผลัก! โครม!
รู้สึกอะไรซักอย่างพุ่งชนจากด้านหลังจนล้มหน้าคว่ำใส่พื้นทั้งอย่างนั้น กลายเป็นปลาทูแม่กลองอีกแล้ว เข่งละสองตัวมันต้องแบบนี้สินะ
เอาเป็นว่าช่างปลาทูเถอะ หล่นลงมาเป็นเมตรนี่เล่นเอาจุกแฮะ
"เฮ้ ไม่คิดจะขอโทษกันก่อนเหรอ!!" เสียงพี่จงแดฟังดูหงุดหงิดคูนสามไล่หลังพลเมืองดีคนที่สองของวันไปสงสัยเพราะพี่แกอยู่นอกรั้วเลยเข้ามาพยุงผมไม่ได้
"ขอโทษครับบบบบ ผมรีบจริงๆ" คนนั้นพลิกตัวกลับมาวิ่งหันหลังเพื่อขอโทษแล้วก็หมุนตัวกลับไปตั้งหน้าตั้งตาวิ่งเหมือนเดิม
เก่งดีแฮะ...
"เหี้ยแล้วไง โดคยองซูนี่หว่า" พี่จงแดกหน้าซีดอีกแล้ว นี่ผมต้องลุกเองใช่ไหม?
"พี่ครับกลับไปก่อนเลยก็ได้ ผมไม่เป็นไร จะเข้าเรียนแล้ว" พี่จงแดพยักหน้าแล้วส่งจูบให้เหมือนจะล้อผม
จะหล่อจู่ๆก็หล่อแฮะ...
สุดท้ายพี่จงแดก็เดินหายไปจนได้ ผมก็ไลน์หาเพื่อนดีกว่า เพื่อนคนเกาหลี คนเดียวและคนแรกที่มี คือ...พี่จงแดกับพี่มินซอกตอนนี้เป็นแฟนน่ะ ไม่ใช่เพื่อน
'เซฮุน นายอยู่ไหน'
'ที่เดิม'
'อย่าไปไหนนะ จะรีบไปหา'
อยู่กับแฟนอีกแล้ว เฮ้อ กะจะแกล้งซะหน่อย ช่างมันเถอะ
ไม่ต้องสับราง เค้าหลบกันเอง สินะ?
จ่าวช่างห่าว(อรุณสวัสดิ์) ถึงมันจะไม่เช้าแล้วก็ตามแต่ผมชื่อหวางจื่อเทา โดนม๊าถีบส่งใช้เครือซิงโครย้ายจากจีนมาที่นี่ตั้งแต่มัถยมต้นปีสอง เพราะที่โน่นระดับมัถยมปลายจะต้องเสียค่าเทอมแพงกว่าที่เกาหลีเล็กน้อย และในเกาหลีมีทุนความสามารถพิเศษทางด้านกีฬาอีกตังหาก รู้ดังนั้นม๊าผมก็ตัดไฟตั้งแต่ต้นลมดำเนินเรื่องให้เรียบร้อย จัดกระเป๋าให้อีกตะหาก ผมมีหน้าที่ร้องไห้งอแงเดินขึ้นเครื่องบินอย่างเดียว
ฟังแล้วดูน่าสมเพศชอบกลแฮะ แต่เรื่องยุ่งๆของผมยังไม่จบแค่นี้
หลังจากมาอยู่ได้เทอมนึง ผมที่ไม่รู้ภาษาเกาหลีเลยซักกระแอะนอกจากคำว่าอันยองฮาเซโยก็กร่อยสนิท ไปไหนมาไหน คุยกับใครไม่รู้เรื่องเลย โชคดีที่มีรุ่นพี่ที่เป็นคนจีนกับเด็กที่พอพูดภาษาจีนได้อยู่บ้าง
แล้วพอขึ้นมอปลายปีหนึ่งได้จู่ๆคนกลุ่มนั้นก็เรียกผมว่าแฟน ไม่รู้ทำไมเหมือนกันแต่กลับมาที่ปัจจุบันก่อนดีกว่า
ผมเดินออกมาหน้าบ้านตามปกติ เพราะวันนี้เป็นวันจันทร์และวันเปิดเทอมชีวิตมอปลายปีสองของผม
แล้วพี่เกี่ยวอะไรอ่ะ...?
"ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะครับ หิวข้าวเหรอ? ป่ะ เดี๋ยวพี่เลี้ยง"
เอ๊ะ?
พี่จงแดพาผมมาที่ร้านข้่าวปั้น ก็ไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมต้องข้าวปั้นแต่เค้าก็อุตสาห์เลี้ยง
"อร่อยไหมครับ จื่อเทา"
"อื้ม อร่อยครับ" พี่จงแดยิ้มจนตาหยียับ พี่เค้าอยู่มหาลัย'ปีสองจริงๆรึเปล่าหรือตอนเด็กๆไม่มีตังค์ไม่มีโอกาศได้เรียน พอโตมามีเงินเลยซิ่วเอา
ไม่มีใครแก่เกินเรียนหรอกเนอะ
"น้องจื่อเทาเป็นอะไรครับ ไม่สบายรึเปล่า"
"...เอ่อ.."
โครม!
จู่ๆผมก็ล้มหน้าคว่ำไปกับพื้นชนิดนอนราบเป็นปลาทูแม่กลอง แต่ปลาทูจะหันข้างเนอะ แต่ผมคว่ำหน้า เอาเป็นว่าช่างปลาทูเถอะ เจ็บอ่ะ...
พี่จงแดรีบเข้ามาพยุงผมอย่างไวเหมือนกลัวว่าถ้าผมยังคงนอนต่อไปจะมีรถวิ่งมาทับทั้งๆที่นี่มันทางเท้า
แต่ก็จุกจริงๆน่ะแหละ
"เฮ้! ไม่คิดจะขอโทษกันก่อนเหรอ!" พี่จงแดตะโกนไล่หลังพลเมืองดีที่ชนผมล้มจนพี่แกมีโอกาศได้จับนู่นจับนี่จนมันส์มือ
พี่จงแด...
"โทษๆๆๆ โทษที รีบอยู่น่ะ" พลเมืองดีคนนั้นหันกลับมาทั้งที่ยังวิ่งอยู่แล้ววิ่งต่อไป เก่งดีแฮะ...
"อ่าว ชิบหาย นั่นพยอนแพคฮยอนนี่หว่า" พี่จงแดหน้าซีดลงไปเล็กน้อย
"พี่จงแด ไปกันเถอะเดี๋ยวจะเข้าคาบบ่ายไม่ทันเอา
ครับ ฟังไม่ผิดหรอก คาบบ่าย ผมไม่รู้จะอธิบายตัวผมยังไง แต่ผมยอมรับว่าผมไม่ใช่นักเรียนตัวอย่างที่ดีซักเท่าไหร่หรอก...
"จื่อเทาครับ เอาจริงๆเหรอ"
"ใช่! ขืนวิ่งเข้าหน้าโรงเรียนเหมือนปกติก็ซวยน่ะสิ ครูเจ๊ฮีนิมแกยืนหน้าเข้มอยู่นั่น" ผมกระโดดเกาะรั้วเหล็กอย่างคล่องแคล่ว แล้วทรงตัวยืนบนรั้วตรงกลางระหว่างเหล็กแหลมกันขโมยหรือกันเด็กโดดเนี่ยแหละของรั้ว
ฟุบ.. ผลัก! โครม!
รู้สึกอะไรซักอย่างพุ่งชนจากด้านหลังจนล้มหน้าคว่ำใส่พื้นทั้งอย่างนั้น กลายเป็นปลาทูแม่กลองอีกแล้ว เข่งละสองตัวมันต้องแบบนี้สินะ
เอาเป็นว่าช่างปลาทูเถอะ หล่นลงมาเป็นเมตรนี่เล่นเอาจุกแฮะ
"เฮ้ ไม่คิดจะขอโทษกันก่อนเหรอ!!" เสียงพี่จงแดฟังดูหงุดหงิดคูนสามไล่หลังพลเมืองดีคนที่สองของวันไปสงสัยเพราะพี่แกอยู่นอกรั้วเลยเข้ามาพยุงผมไม่ได้
"ขอโทษครับบบบบ ผมรีบจริงๆ" คนนั้นพลิกตัวกลับมาวิ่งหันหลังเพื่อขอโทษแล้วก็หมุนตัวกลับไปตั้งหน้าตั้งตาวิ่งเหมือนเดิม
เก่งดีแฮะ...
"เหี้ยแล้วไง โดคยองซูนี่หว่า" พี่จงแดกหน้าซีดอีกแล้ว นี่ผมต้องลุกเองใช่ไหม?
"พี่ครับกลับไปก่อนเลยก็ได้ ผมไม่เป็นไร จะเข้าเรียนแล้ว" พี่จงแดพยักหน้าแล้วส่งจูบให้เหมือนจะล้อผม
จะหล่อจู่ๆก็หล่อแฮะ...
สุดท้ายพี่จงแดก็เดินหายไปจนได้ ผมก็ไลน์หาเพื่อนดีกว่า เพื่อนคนเกาหลี คนเดียวและคนแรกที่มี คือ...พี่จงแดกับพี่มินซอกตอนนี้เป็นแฟนน่ะ ไม่ใช่เพื่อน
'เซฮุน นายอยู่ไหน'
'ที่เดิม'
'อย่าไปไหนนะ จะรีบไปหา'
อยู่กับแฟนอีกแล้ว เฮ้อ กะจะแกล้งซะหน่อย ช่างมันเถอะ
I have ตอนที่ 1
--------------------
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ
FLONN
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ
FLONN
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น