คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ไคล์แมกซ์ ๑ : จุดเริ่มต้นของความพีค
For one minute please,
stand here in silence and look at the sky, and contemplate how awesome life is.
ขอเวลา 1 นาที ยืนตรงนี้เงียบ ๆ แล้วมองไปบนฟ้า
ลองคิดดูสิว่า ชีวิตมันวิเศษแค่ไหน
“อ้ะ อ้าาา.. ชะ ช่วยด้วย..” ร่างของหญิงสาวคนหนึ่งกำลังหายใจรวยริน อาการหอบหนักจากที่ทำกิจกรรมรักร่วมกับ
ลูกค้าของเธอ คนสุดท้ายในค่ำคืนวันศุกร์นี้..
แต่นั่นไม่ใช่สาเหตุที่เธอหอบเหมือนคนกำลังขาดอากศหายใจตายอยู่ตรงนั้น
แต่เป็นเพราะ มือหนาที่กำลังบีบคอหล่อนไว้ ด้วยถุงมือสีขาวที่ถูกนำมาใช้เพื่อการนี้ มีดสั้นพกที่ไม่มีรอยจับเลยเพราะ
เป็นถุงมือที่ถูกเลือกเป็นอาวุธสังหารอย่างดี ชายหนุ่มที่กำลังคร่อมหญิงคนที่โดนบีบคอ คลายมือที่บีบคอออกแล้วเชือดภายใน
พริบตา ช่างโชคร้ายที่เจ้าหล่อนไม่มีแรงจะตะเบงเสียงอีกเเล้วเนื่องจากกิจกกรมรักที่เร้าร่อนเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้ว
อวัยวะเพศที่ใช้ในกิจกรรมรักของทั้งสองถูกดึงออกจากช่องคลอดของหญิงสาวที่สิ้นใจไปไม่ถึงนาที
ชายหนุ่มที่ลงมือฆ่าเหยื่อรายที่สองผ่านเหงื่อฉีกยิ้มกับผลงานตัวเองแล้วจับมีดกรีดลงกลางท้องของศพ จากนั้นเค้าจึง
เก็บมีดและถุงมือไว้ในถุงร้อนของตัวเอง ชายหนุ่มกวาดสายตามองพลางเก็บอุปกรณ์การฆ่าของตัวเองลงในเสื้อโค้ทและใส่เสื้อผ้า
ให้เรียบร้อยก่อนจากถนนของสลัมแถวนี้ โดยไร้วี่แววของคนพบเห็น
เค้าทำมันได้สมบูรณ์แบบอีกแล้ว ... แล้วเค้าจะทำมันอีกโดยที่จะไม่มีใครจับได้
เหมือนที่ฆาตกรต่อเนื่องคนดังที่ฆ่าโสเภณีรอดมาได้ ..
จะว่าเขาโรคจิต เค้าก็ไม่เถียง.. มันก็เป็นอยู่บ้าง แค่ฆ่าโสเภณีเข้าใกล้โรคเอดส์คงไม่สร้างความโจษจานักหรอกนะ
เขาก็แค่ทำตาม ‘ไอดอล’ ของเขาก็เท่านั้นเอง
ร่างสูงเดินผ่านร่างสูงอีกคนไปโดยที่ยังยืนอยู่ ร่างโปร่งแสงหันมองภาพตรงนั้นก่อนจะส่ายหน้าไปมาช้าๆ เดินเข้าไป
พยายามใช้มือตรงปิดตาโสเภณีผู้น่าสงสารคนนั้น แต่ก็ทำไม่ได้
เพราะด้วยในตอนนี้ เค้าก็สภาพคนไร้ร่าง มีแค่จิตที่ล่องลอยเท่านั้น..
‘คิม จินฮวาน! กลับมานะ!! กลับมาเดี๋ยวนี้ ฉันรอนายอยู่นะ กลับมา!!’
อื้มม เสียงนี่อีกแล้ว
เจ้าของชื่อคิม จินฮวานกุมหัวตัวเองแน่น พยายามจำเสียงของคนที่กำลังเรียกชื่อเค้า แล้วล่องลอยไปตามเสียงนั้นแต่
แปลกที่คราวนี้เขากลับตามถูกทาง เค้าเข้าใกล้เสียงผู้หญิงคนนี้ได้ มันอยู่ภายในโรงพยาบาล..
ร่างโปร่งแสงตามเสียเรียกที่เริ่มตามด้วยเสียงสะอื้นจนนำเขามาหยุดอยู่ห้อง 343
‘คิม จินฮวาน’
ผู้ป่วย ICU
ใช่แล้ว.. เค้าชื่อคิม จินฮวานเค้าจำได้ แต่ที่เค้าเพิ่งรู้เกี่ยวกับตัวเองอีกข้อคือตัวเองป่วย
เค้าป่วยเหรอ? นึกว่าตายแล้วซะอีก..
จินฮวานผ่านประตูเข้าไปมองห้องผู้ป่วยโดยทั่วแล้วสังเกตเห็นร่างชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย
แน่นอนว่า.. คนนั้นคือคิม จินฮวานจริงๆ ร่างของคิม จินฮวานที่กำลังถูกช่วยปั้มหัวใจอย่างสุดความสามารถ
ร่างน้องสาวทรุดลงข้างๆ พยายามอ้อนวอนให้พี่ชายกลับคืนมา
‘คิม จินฮวาน! กลับมานะ!! กลับมาเดี๋ยวนี้ ฉันรอนายอยู่นะ กลับมา!!’
‘กลับมาเดี๋ยวนี้นะ จินฮวานโอปป้า!! กลับมา!!!’
จินฮวานสะดุ้งเบาๆก่อนจะไล่มองไปทั่วพยายามคิดทบทวนแล้วตั้งอึดใจ กระโดดเข้าร่างของตัวเองไป
ติ้ด ติ้ด ติ้ด
เสียงสัญญาณหัวใจที่แทบหยุดเต้นกลับมาเต้นเหมือนคนปกติ ทั้งหมอและพยาบาลผู้ช่วยทำหน้าฉงนไปเล็กน้อยก่อนจะ
ดึงอุปกรณ์ปั้มหัวใจออกจากคนไข้วางไว้ที่เดิม พยาบาลประจำตัวรีบปรี่เข้ามาวัดดูชีพจรแล้วยิ้มกว้างขึ้นมามองหมอ
“คนไข้ดีขึ้นแล้วค่ะ! ชีพจรกลับมาเต้นปกติแล้วค่ะคุณหมอ!”
“ดีแล้วครับ พรุ่งนี้เรามาย้ายห้องคนไข้ไปห้องธรรมดากัน” คุณหมอหันไปคุยกับญาติผู้ป่วยอยู่ครู่ก่อนจะยิ้มให้กำลังใจ
แล้วเดินออกไป พร้อมด้วยพยาบาลอีกสองคน
เหลือแค่น้องสาวที่กุมมือพี่ชายตัวเองแน่น ใบหน้าสวยนิ่มตามฉบับเด็กมหาลัยปีสองซุกมืออุ่นของพี่ชายอย่างโหยหา
มืออีกข้างกอดพี่ชายเอาไว้หลวมๆ
“โอปป้า.. กลับมานะค่ะ กลับมาหาจูนะค่ะ”
CLIMAχ ♦
[WIN / BJINJUN]
หนึ่งอาทิตย์ต่อมา..
“โอปป้า!! จะไปทำงานวันแรกแล้วเหรอค่ะ?” คิม นัมจู เดินมากอดอ้อนพี่ชายตัวเองแล้วยิ้มกว้าง คิม จินฮวานหันมายิ้ม
ให้แล้วยีหัวเบาๆกับความน่ารักของน้องสาวตัวเอง
“ใช่แล้ว.. เราก็จะไปเรียนใช่มั้ย ไป.. เดี๋ยวโอปป้าไปส่ง”
“ค่ะ~ โอปป้าของนัมจูกลับมาแข็งแรงแล้วนะ..” แขนเล็กกอดเอวพี่ชายแล้วพากันขึ้นรถ Ford Fiesta 4Dr สีเทาบลอนด์ที่
เพิ่งถอยออกมาเนื่องในโอกาสที่พี่ชายหายจากการเป็นเจ้าชายนิทรา
จริงๆขอบขวัญรับมากลับมาสำหรับพ่อของเขายังน้อยไปด้วยซ้ำ พ่อเขาเลยแถมคอนโดที่ตั้งอยู่ในเมืองใกล้มหาลัยให้
พี่ชายไม่ต้องเหนื่อยไปรับส่งนัมจูบ่อยๆ แต่วันนี้เป็นวันดีของจินฮวาน เขาจึงอยากไปส่งเอง น้องสาวคนน่ารักเดินไปนั่งข้าง
คนขับแล้วรัดเข็มขัดยิ้มให้พี่ชายก่อนจะจูนคลื่นวิทยุฟังเพลงของทางคลื่นวิทยุอย่างอารมณ์ดี
“อารมณ์ดีจังเลยนะนัมจูอ่า..” จินฮวานหันไปยีหัวนัมจูเบาๆแล้วขับรถต่อ
“แน่นอนค่ะ วันนี้พี่ชายนัมจูเท่มาก มีตราเจ้าหน้าที่สืบสวนเป็นสารวัตรประจำสน.แหนะ” เจ้าตัวพูดก่อนจะหัวเราะคิกคัก
แล้วหยิบโทรศัพท์ของพี่ชายมาจิ้มเล่น ห้านาทีต่อมาจินฮวานก็ขับรถมาจอดหน้ามหาลัยน้องสาวตัวเองพอดี นัมจูเบะปากเบาๆคืน
โทรศัพท์ให้แล้วมองพี่ชายดุๆ
“โอปป้าค่ะ.. สนใจสาวหรือหนุ่มที่ไหนต้องเอามาให้นัมจูสแกนด้วยนะ!”
“ครับๆแม่ รีบไปเรียนนะเดี๋ยวสาย..” จินฮวานดีดหน้าผากเด็กช่างพูดทีนึงแล้วไล่ลงจากรถ นัมจูหอมแก้มพี่ชายยิ้มๆแล้ว
ลงจากรถเข้ารั้วมหาลัยไป จินฮวานรอจนนัมจูเดินไปได้ไกลแล้วก็ออกรถกำหนด GPS ไปที่สถานีฮงแด ที่ทำงานในวันแรกของเขา
จินฮวานขับรถอย่างระมัดระวังเพื่อให้ถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย
เพราะเขาก็เคยไปไม่ถึงจุดหมายมาแล้ว..
ไม่ว่าตัวเขาหรือคนที่ขับรถ จินฮวานก็จะระวังมากเวลาเดินทาง
แค่ปีหนึ่งกับการเป็นเจ้าชายนิทราสำหรับคิม จินฮวานครั้งเดียวก็เกินพอ
‘อ้ะ อ้าาา.. ชะ ช่วยด้วย..’
เสียงร้องของหญิงสาวในโสตประสาททำให้จินฮวานนวดขมับตัวเองเบาๆแล้วส่ายหน้า น่าแปลกที่เขาตื่นมากับความทรงจำ
บางส่วนเท่านั้น เช่นส่วนตอนที่เค้าล่องลอยจากถูกอุบัติเหตุ เขาคิดไว้ว่าเค้าตายไปแล้วเลยล่องลอยไปทั่ว
แต่ผ่านไปราวๆสองเดือนเขาก็ได้ยินเสียงเด็กผู้หญิงร้องเรียกเค้าตลอด
แล้วจำได้อีกที ก็เหตุการณ์ที่หญิงสาวคนหนึ่งถูกฆ่าตาย และฆาตกรได้ผ่านร่างของเค้าไป
และล่าสุดี่จำได้ คือตอนที่เค้าลืมตาขึ้นเจอน้องสาวตัวเองกุมมือนอนหลับอยู่
“ย่าห์ๆ จินฮวาน เลิกคิดเรื่องนี้ได้แล้ว ปวดสมองชะมัด..” จินฮวานส่ายหน้าแรงๆ แล้วขับเข้าซอยใหญ่ซอยหนึ่งที่มีสถานี
ตำรวจตั้งอยู่ เขาวนหาที่จอดรถในส่วนของเจ้าหน้าที่แล้วหยิบกระเป๋าเอกสารอันไม่หนักลงไปด้วย มือเรียวไม่ลืมหยิบตราตำรวจที่
น้องสาวหยิบออกมาเล่นใส่กระเป๋าเสื้อโค้ทลงไปด้วย
เอาล่ะ.. วันนี้คือวันของการเริ่มต้นใหม่ ขอให้เป็นวันที่ดีของนายนะคิม จินฮวาน!
จินฮวานคลี่ยิ้มแล้วเดินตรงเข้าไปในสถานีฮงแดซึ่งภายในมีเจ้าหน้าที่กำลังกรอกทะเบียนอยู่
ชายหนุ่มเดิเข้าไปยิ้มเป็นมิตรให้เเล้วชูตรตำรวจขึ้นมายิ้ม
“ขอโทษนะครับผมเพิ่งมาบรรจุเป็นสารวัตร ผู้กำกับการสถานีอยู่ที่ไหนเหรอครับ?”
“อ่า.. อยู่ชั้นสามประตูซ้ายมือจากบันไดครับ” หนึ่งในตำรวจยิ้มให้ก่อนจะผายมือไปทางบันได จังหวะเดียวกับที่ร่างสูง
ขายาวท่าทางสมส่วนคนหนึ่งกำลังวิ่งลงด้วยสีหน้าตกใจเล็กน้อย
“ย่าห์ๆ ทำยังไงดีจงกุก เรายังหาสารวัตรไม่เจอเลย.. แย่เลยคดีฆาตกรต่อเนื่องนั้นก็ถูกเร่งแล้ว” ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลเข้มขยี้หัวตัวเองแรงๆแล้วถอนหายใจ สายตามีความสับสนอยู่มากทีเดียว จินฮวานเอียงคอมองเล็กน้อยก่อนจะเดินไปใกล้
“เออ.. ผมคิม จินฮวานครับ สารวัตรที่มาประจำที่นี้..”
“อ่าสารวัตรคิม! ดีเลยครับ ฝากเอกสารของคุณไว้กับจองกุกคนนี้เลยนะครับ เราเพิ่งได้ข้อมูลของฆาตกรต่อเนื่องมา
พบศพรายที่สามของฆาตกรเลียนแบบที่บาร์ XX ใกล้ๆโรงแรมคังจุนเองครับ”
“ได้ๆไปกันเลยนะ..” จินฮวานพูดก่อนจะยื่นกระเป๋าเอกสารให้กับคนตรงฝ่ายทะเบียนที่ยืนอยู่ตรงนั้น วันแรกก็ต้องวิ่งเสียแล้วนะ ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆแล้ววิ่งไปที่รถตัวเองเอาวอสัญญาณขึ้นบนรถแล้วรีบสตาร์ทรถเดินทาง
“อ่า.. ว่าแต่เราชื่ออะไรเหรอ?” จินฮวานหันไปถามคนเด็กกว่า เจ้าตัวหันมายิ้มให้ก่อนจะขยับคอปกยิ้ม
“ซน ยุนฮยองครับ ผู้หมวดประจำสน.ฮงแดครับ”
“อื้ม.. นายนี่น่าจะ ยี่สิบสาม ใช่มั้ย?” จินฮวานหันไปเอียงคอมอง ยุนฮยองพยักหน้ารัวยิ้มที่คนข้างๆทายถูกก่อนจะเล่า
เรื่องรายละเอียดตัวเองเล็กๆน้อยๆให้ฟังในระหว่างทางที่ไปที่เกิดเหตุ
เมื่อถึงที่เกิดเหตุ จินฮวานกับยุนฮยองพากันลงจากรถแล้วเดินไปทางมุมนึงของอาคารที่เพิ่งมีตำรวจมาถึงแล้วกำลังคาดเส้น
สีเหลืองตรงที่เกิดเหตุพอดี สารวัตรจินฮวานย่อตัวลงนั่งมองสภาพศพที่คาดว่าเป็นสาวโสเภณีกำลังนอนในสภาพเสื้อเดรสถูก
ถลกขึ้น แและชั้นในของเธอคาอยู่ที่ข้อเท้า ทำให้ภาพตรงนั้นไม่น่าดูมากกว่าศพธรรมดา..
แต่ที่ต้องปิดตาหนีพอๆกับภาพเมื่อครู่ คือคอที่ถูกเชือดจนเลือดไหลนองบนพื้น และรอยคว่านกลางท้อง มันเป็นโชคดีที่
ตำรวจที่มาทำคดีนี้ทุกคนล้วนทำคดีกันมากเเล้ว สภาพศพจึงไม่เป็นที่น่าตกใจหรือหวาดผวานำไปฝันร้ายซักเท่าไหร่
ยุนฮยองเหลือบมองสารวัตรจินฮวานที่มีสีหน้าตกใจเล็กน้อยแต่สามารถยืนตรวจมองสภาพศพได้โดยไม่อาเจียน
ทำคิ้วของคนหล่อในสน.ฮงแดขมวดกันเป็นปมทีเดียว.. เค้าก็ไม่ได้อะไรหรอกนะ แต่สารวัตรหน้าใหม่หลายๆคนก่อนหน้านี้ที่ได้
งานใหญ่แล้วสภาพศพ... แทบบรรยายไม่ได้ แต่ละคนสีหน้าดูย่ำแย่จับใจ..
บางคนวิ่งไปอาเจียน บางคนแทบจะลมจับก็มีเหมือนกัน..
ซึ่งคดีมันไม่ได้น่ากลัวเท่าคดีนี้เลย หากแต่สารวัตรจินฮวานที่เพิ่งเข้ามาทำงานกลับแสดงอาการได้น้อยมากเทียบจาก
คนอื่นทั้งที่ตัวสารวัตรจินฮวานก็เพิ่งมาทำงาน และคดีนี้ก็หนักหน่วงที่สุดในรอบสี่ปีได้
ทำไมกันนะ?..
การฆ่าครั้งนี้ดูคล้ายครั้งที่แล้วไม่มีผิิด สารวัตรจินฮวานคิดแล้วถอนหายใจใหญ่ออกมาก่อนจะส่ายหน้าเบาๆหันไป
สอบถามรายละเอียดกับตำรวจที่มาถึงก่อน คาดว่าเป็นแบบที่สารวัตรหนุ่มคิดไว้ทุกอย่าง
“เราควรจะตั้งแรงจูงใจของฆาตกรว่ายังไงดีครับ” ยูนฮยองหันไปถาม จินฮวานถอนหายใจเบาๆ
“ก็คงต้องประมาณตั้งใจเลียนแบบการฆาตกรรมของ แจ็ค เดอะริปเปอร์ไปนั้นแหละนะ..”
“การฆาตกรรมครั้งนี้เหมือนกันมาก ทั้งการเลือกเหยื่อ การฆ่าที่เชือดคอและคว่านท้องออกมา.. คาดว่าคงต้องเป็นพวก
คลั่งไคล้การฆาตกรรมของฆาตกรต่อเนื่องนั้นแน่..” เสียงของชายหนุ่มดังขึ้นทั้งสองคน จินฮวานหันไปขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะหัน
ไปมองยุนฮยองที่กระตุกยิ้มเบาๆให้ก่อนจะยันตัวขึ้นผายมือตรงคนที่ยืนอยู่
“นี่คือคิม ฮันบิน เอฟ.บี.ไอ จากสหรัฐอเมริกาที่จะเข้าร่วมการสืบสวนครั้งนี้ด้วยครับ เห็นว่ากำลังจะสอบเทียบยศขึ้นเป็น
สารวัตรสอบสวนครับ” ยุนฮยองยิ้มให้ ฮันบินที่เพิ่งถูกแนะนำไปยื่นมือเข้าหา จินฮวานยื่นมือไปเขย่าด้วยแทนการทักทายก่อน
จะยิ้มให้
“เรียกบีไอก็ได้ครับ สารวัตรจินฮวาน”
“จริงๆเรียกฉันว่าฮยองก็ได้ มันง่ายดี นายด้วยนะยุนฮยอง”
“ครับฮยอง~” ยุนฮยองรับเสียงใสก่อนจะเกาะแขนสารวัตรจินฮวานยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ที่ได้สนิทกับสารวัตรมากขึ้น
แล้วสายตาคมก็เฉี่ยวเข้ามองเด็กใส่ชุดฮิปฮ็อปกำลังใส่ถุงมือสีขาวกับกล่องอุปกรณ์เก็บหลักฐานกำลังถ่ายรูปศพก่อนจะขยับหัว
เหยื่อดูรอยเชือดคอ
“เฮ้ๆ.. นายเป็นใครน่ะไอเด็กนี่ อย่ามาเล่นสนุกกับศพนะ!” ยุนฮยองเดินเข้าไปขู่ฟอ เด็กหนุ่มวัยราวๆเพิ่งพ้นยี่สิบเงยหน้ามอง
ด้วยสีหน้าเฉยเมยแล้วก้มลงดูศพต่อ สร้างความฉุนเล็กน้อยกับผู้หมวดอารมณ์ดีอย่างซง ยุนฮยอง
“มันก็คล้ายการฆาตกรรมเลียนแบบ..” เด็กหนุ่มคนนั้นพูดแล้วถ่ายรูป ก่อนจะจับคอดูตรงส่วนที่ไม่ได้โดนปาด
พบรอยนิ้วมือจางๆอยู่ “แจ็ค เดอะริปเปอร์จับรัดคอเหยื่อให้ตายแล้วปาดคอ ตามด้วยคว่านท้อง..”
“...”
“แต่ดูฆาตกรรายนี้อาจจะเก็บรายละเอียดไม่ค่อยดี ดูจากตำแหน่งเสื้อผ้าแบบนี้ ฆาตกรลงมือร่วมรักกับผู้ตายก่อนแล้วเมื่อ
เสร็จกิจกรรมตัวผู้ตายก็จะศูนย์เสียแรงไปมาก เค้าจึงบีบคอเบาๆให้หายใจไม่คล้อง แล้วจัดการฆ่าซะ..”
“.. แล้วนายจะบอกว่ามันไม่ใช่การฆาตกรรมเลียนแบบรึไง..?” ฮันบินเลิกคิ้วขึ้นถามอย่างสัย หากแต่เด็กหนุ่มคนนั้นส่าย
หน้าเบาๆ ถ่ายรูปทุกร่องรอยในตัวผู้ตายแล้วจัดการหาผ้ามาคลุมตรงส่วนล่างที่ถูกถลกขึ้นมา เค้าจัดการฉีกเสื้อตรงท้องออกให้เห็น
รอยการลงน้ำหนักแทงอย่างสม่ำเสมอ
“ดูแล้วฆาตกรคงจะชำนาญการผ่าเลยสินะ..” ฮันบินเอ่ยขึ้นจากที่ยืนมอง เด็กหนุ่มพยักหน้าเบาๆมอง
“อืม... อาจจะเป็น หมอ ก็ได้..” เด็กหนุ่มพูดก่อนจะหันไปเรียกเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมาเก็บรายละเอียดอีกทีแล้ว
แกะถุงมือทั้งสองข้างออกโยนไว้ข้างๆกล่องเก็บหลักฐาน
“นายเป็นใครกันแน่เหรอ..” สารวัตรจินฮวานหันไปถามเด็กหนุ่มที่ยืนมองศพอยู่ เจ้าตัวหันมายักไหล่มองสารวัตรแวบ
หนึ่งก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเลื่อนดูอะไรบางอย่าง
“แล้วคุณคิดว่าผมเป็นใครล่ะครับ..”
“สารวัตรถาม นายก็อย่ากวนนักสิ” คราวนี้เป็นฮันบินที่หันไปดุเข้าให้ เด็กหนุ่มหันมาส่ายหน้าเบาๆเก็บโทรศัพท์ลง
กระเป๋ากางเกงแล้วหยิบบัตรออกมาใบนึงให้สารวัตรจินฮวานดู
“ผมชื่อจุนฮเว กู จุนฮเว.. ได้หน้าที่มาเป็นแพทย์ชันสูตรของเคสนี้” จุนฮเวพูดแล้วยื่นบัตรเจ้าหน้าที่ให้ดู จากที่จินฮวานอ่าน
ข้อมูลบนบัตรก็รู้เลยว่า เด็กหนุ่มคนนี้ไม่ได้เป็นแพทย์ชันสูตรจริงๆ แต่ถูกส่งมาในกรณีพิเศษเลย..
สารวัตรจินฮวานพยักหน้ารับแล้วไม่ได้พูดอะไรต่อในขณะที่มองไล่ไปทั่วตัวจุนฮเวอย่างพินิจพิเคราะห์
จุนฮเวเดินห่างจากระยะสายตาคนที่มองสำรวจตัวเองแล้วมองด้วยสายตาตึงใส่
“ผมไม่ชอบให้ใครมามองแบบนี้นะครับคุณสาวัตร คุณจะไม่เชื่อก็เรื่องของคุณแต่อย่ามามองผม” จุนฮเวชี้หน้ามอง
สารวัตรจินฮวานละสายตาออกเกาหัวตัวเองแล้วขอโทษอีกคนที่ทำเค้าไม่ได้เจตนา
แต่เป็นใครก็คงสงสัยไม่น้อยล่ะว่าเด็กนิสิตแพทย์เค้ามีแบบฮิปฮ็อปด้วยเหรอ หรือว่าหนึ่งปีที่เค้าล่องลอยไปจากร่าง
โลกมันหมุนไปไกลมากแล้ว..?
“อ่า.. ขอโทษครับ ยกโทษให้ผมด้วยนะครับ”
“จะให้ผมยกโทษก็ต้องช่วยผมไปชันสูตรศพด้วยกัน” จุนฮเวหันไปมองหน้าสารวัตรแบบเต็มๆครั้งแรกแล้วส่งสายตาเรียบนิ่ง
รอคำตอบ สารวัตรจินฮวานเกาแก้มมองก่อนจะพยักหน้ายิ้มเบาๆ
“เอาแบบนั้นก็ได้.. ยูนฮยอง..” จินฮวานหันไปเรียกยูนฮยองที่เดินไปจัดการเรื่องหลักฐานอยู่ เจ้าตัวรีบวิ่งเยาะๆกลับมา
หาพลางยิ้มให้ “ว่าไงครับฮยอง..”
“ฮยองจะไปช่วยคุณจุนฮเวชันสูตรศพ นายช่วยกลับไปสถานีกับบีไอนะแล้วฉันจะกลับไปบอกว่าได้อะไรเพิ่มบ้าง”
“ผมไปด้วยสิ..” บีไอพูดขึ้นมาก่อนจะมองจุนฮเว
“ได้สิ.. แต่่บีไอช่วยไปเอาแฟ้มคดีที่สน.มาให้ได้มั้ยครับ ฮยองว่ามันน่าจะดีนะ..” จินฮวานหันไปยิ้มหวานให้ บีไอที่มุ่ยหน้า
ไปในตอนแรกเปลี่ยนท่าที่รีบเดินหนีไปเมื่อสบสายตาตอนสารวัตรจินฮวานยิ้มให้พอดี จุนฮเวเหลือบมองบีไอที่เดินหนีไปแล้ว
แวบไปมองสารวัตรตัวเล็กที่ยืนทำหน้าเอ๋อแต่ไม่ได้พูดอะไร
มีแค่ยุนฮยองที่ยืนดูแล้วหัวเราะคิกคักอยู่คนเดียว..
“ฮยองไปแล้วนะครับ ยังไงฝากนายอยู่ที่สน.เผื่อมีพยานอะไรนะ”
“รับทราบครับฮยอง ฮยองอยากได้ข้อมูลอะไรผมจะให้ไอจองกุกจัดการให้เลยครับ” ยุนฮยองทำท่าตะเบ๊ะยิ้ม จินฮวานยิ้ม
ให้ก่อนจะหันไปมองเด็กตัวสูงที่ก้มลงจิ้มบางอย่างในโทรศัพท์
“ไปรถผมหรือรถคุณดี..?”
“ไปรถฮยอง” จุนฮเวพูดแล้วเก็บโทรศัพท์ลงในกระเป๋ากางเกง จินฮวานเลิกคิ้วมองก่อนจะระบายยิ้มออกมาเดินนำเด็กหนุ่ม
ไปที่รถของตัวเองแล้วกดปลดล็อครถ จุนฮเวขึ้นรถตามก่อนจะหันมองสารวัตรจินฮวาน
“จินฮวาน..ฮยอง ผมมีเรื่องจะบอก”
“.. ครับ?”
“.. ผมเคยเห็นฮยองมาก่อน เหมือนเห็นที่ไหนซักที่ที่เป็นข้างถนน
.
.
‘ตอนนั้นตัวฮยองมีแต่ เลือด’"
❀ Supercell
ความคิดเห็น