ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : หนูชื่อลาล่าค่ะ
รักแท้ 22.00 น.
    “เรื่องนี้สนุกมากนะครับน้องมันแบบว่าซึ้งมาก เนี่ยพี่ดูมาหลายรอบแล้วยังซึ้งอยู่เลยไม่สนใจซื้อเก็บไว้ดูเหรอครับ” เสียงคนขายดีวีดีที่คลองถมพูดจากล่อมเราอยู่นานสงสัยกลัวเราไม่ซื้อเลยยกแม่น้ำทั้งห้าออกมา “โหน้องยิ่งใครกำลังอินเลิฟอยู่นะสุดยอด” เอาอีกแล้วมันเริ่มวกเข้าเรื่องแล้ว “หน้าตาอย่างน้องเนี่ยพี่ว่าแฟนตรึมแน่” อ่ะ!!...พอเห็นเราทำท่าจะเดินหนีก็เริ่มขุดไม้ตายออกมา “เพื่อนพี่มันเอาเรื่องนี้ไปดูกับแฟนที่บ้าน ปรากฏว่าแฟนมันชอบมาก จากที่ทะเลาะกันอยู่ดูไปดูมาคืนดีกันซะงั้นแถมรักกันมากกว่าเดิมอีก....อ่ะ...อ่ะ น้องทำหน้าแบบนี้ไม่เชื่อพี่ล่ะสิ” คนขายรีบพูดดักคอ แหมพูดซะอย่างกับรู้ใจเราแค่ทำหน้าพะอืดพะอมนิดเดียวเอง “ถ้างั้นเอาเรื่องนี้ก็ได้” มันหันไปหยิบเรื่องที่สองออกมาให้ดู โถยังไม่ละความพยายาม “เรื่องนี้นะน้องนางเอกตายตอนจบ...แต่มันเป็นแบบว่า แบบว่า พระเอกรักนางเอกมากขนาดตายไปแล้วก็ยังรักอยู่ ประมาณตายกี่ชาติก็ขาดเธอไม่ได้อย่างนั้นเลย” เบื่อจริงๆ เลยพวกเงินเดือนห้าพันแต่ทำงานอย่างกับได้สักสองหมื่น “อ่ะหรือถ้ายังไม่ถูกใจต้องเรื่องนี้พี่ว่าน้องต้องชอบชัวร์ ถ้าไม่ชอบพี่นอนให้เหยียบเลย” โห!!..ท้ากันขนาดนี้สงสัยวันนี้ได้เหยียบคนฟรีแล้ว “”นี่! เรื่องนี้เลย เรื่อง Be with you” เรื่องซึ้งๆ ประทับใจมากเรื่องนี้นะพี่ขายดีมาก น้องรู้จักหรือเปล่า” แหมกำลังจะได้ถกกระโปรงแล้วเหยียบยอดอกคนขายซีดีซะแล้ว ถ้าไม่ใช่ว่าเคยมีคดีกับเรื่องนี้มาก่อนนะ “เอาก็ได้พี่ แผ่นนี้เท่าไหร่” สงสัยถ้าวันนี้ไม่ซื้อมัน  เราคงไม่ได้กลับบ้านแน่ “แผ่นละแปดสิบครับน้อง” พอเขาพูดจบเราก็รีบยัดเงินให้เขาไปแปดสิบบาทพอดี “เอาไปเลยพี่ไม่ต้องทอน เกรงใจ” กวนอวัยวะเบื้องล่างมันหน่อยดีกว่า “ขอบคุณนะครับโอกาสหน้าเชิญใหม่นะครับ” อ้าว!นึกว่าวันนี้จะได้เรื่องแล้วเชียวอุตสาห์หาเรื่อง  ว่าแล้วกลับบ้านดีกว่า “น้องๆ เดี๋ยวก่อน” ไอ้คนขายมันวิ่งตามเรามาทำไมสงสัยจะมาเอาเรื่อง เอาว่ะกำลังคันไม้คันมืออยู่พอดี ว่าแล้วก็ตั้งท่าเตรียมพร้อม “โอ้...โอ้ ...น้องเป็นไรพี่มาดีนะครับ....พี่เห็นน้องมาตั้งนานแล้วนะ” ตายแล้วหรือว่าจะมาสารภาพรักเพิ่งเคยเจอกันแค่สิบห้านาทีกับสามสิบวินาทีเอง แล้วก็พูดกันไม่กี่ประโยค โห!!..เรานี้เสน่ห์แรงจริงๆ “คือ...พี่อยากจะบอกน้องว่า คือว่า ” เขาทำท่าแบบ กล้าๆ กลัวๆ เอาแล้วเริ่มเข้าเรื่องแล้ว “คงไม่ได้หรอกค่ะพี่...พอดีหนูมีแฟนแล้ว แล้วแฟนหนูนะก็โหดมาก ที่สำคัญหน้าภูธรอย่างพี่น่ะไม่ใช่สเปคหนูหรอก” เรารีบตอบไปก่อนอย่างไว้เชิง...เอาวะคนแรกในรอบ 18 ปี “คือพี่จะบอกน้องว่ากระโปรงน้องมันขาดแล้วเห็นหมดเลยพี่เลยรีบมาบอกกลัวน้องจะกลับบ้านทั้งอย่างนั้นแหละ” โอ้พระเจ้าทำไมถึงกลั่นแกล้งลูกอย่างนี้ “ช่างมันถอะพี่พอดีหนูมันพวกชอบโชว์น่ะ” ตายแล้ว!!! พูดออกไปได้ยังไงเนี่ย “โอเคน้องถ้างั้นพี่ไปก่อนล่ะ” มันมองเราด้วยสายตากึ่งหวาดกลัวกึ่งสมเพชมันดูยังไงก้อไม่รู้ ว่าแล้วแค่เสี้ยววินาทีมันก็หายวับไปเลยสงสัยจะกลัวเรามาก “ซวยจริงๆโว้ย....วันนี้ทำไมมีแต่เรื่องซวยๆ วะเนี่ย” เฮ้อ!!! บ่นไปก็เท่านั้น วันนี้นะมันช่างอุดมไปด้วยเรื่องเฮงซวยแต่เช้าเลยว่าแล้วก็ขอเล่าเรื่องละลึกชาติกันสักหน่อย.........
    ในห้องนอนสีชมพูหวานจ๋อยเต็มไปด้วยเครื่องตบแต่งรูปกระต่ายไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็มีแต่กระต่ายทั้งผ้าปูที่นอนเอย โปสเตอร์ติดผนัง หวี แปรงสีฟัน ยาสีฟัน ไดร์เป่าผม กิ๊บ  และอื่นๆที่ภายในห้องนอนพึงจะมีและไม่พึงมี ที่นี่ทุกอย่างล้วนเป็นกระต่าย นี่ยังไม่นับตุ๊กตาทุกเวอร์ชั่นเป็นร้อยๆตัว ไม่ได้โกหกนะเป็นร้อยๆตัวจริงๆ ไอ้ที่น่ารักก็จะเอาไว้กอดบนเตียงแต่ไอ้ที่ไม่น่ารักก็ยังงงอยู่ว่าซื้อมาทำไมพวกเกรดนี้ก็จะวางไว้แอบๆหน่อยเพราะบางทีก็กลัวกับไอ้ความไม่น่ารักของมันเหมือนกัน  .........ปิ๊บๆๆๆๆๆ เสียงนาฬิกาปลุกเตือนเมื่อถึงเวลา 7.00 น. ชั้นงัวเงียหลับตาคลำหาต้นตอของเสียงปิศาจยามเช้านี้ มันเคยอยู่ตรงนี้นี่หว่าแต่คลำเท่าไหร่ก็ไม่เจอสักที เฮ้อ!!!!ถ้าไอ้เรื่องที่เค้าบอกว่าการถอนหายใจหนึ่งครั้งจะทำให้ชีวิตสั้นไปหนึ่งปีมันเป็นเรื่องจริงนะชั้นว่าชั้นคงเหลือเวลาในชาตินี้อีกไม่กี่วันหรอก เพราะวันๆนึงถอนหายใจไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง เอ้า!!! นอกเรื่องอีกแล้ว เผลอเป็นไม่ได้เชียวชอบชวนออกนอกเรื่องอยู่เรื่อย เอาสั้นๆเลยแล้วกันไม่รู้ว่านาฬิกาปลุกมันอยู่ที่ไหน ในที่สุดก็ทนไม่ไหวใช้พลังเฮือกสุดท้ายที่มีเกร็งลมปราณแล้วตั้งสมาธิไปที่ดวงตาทั้งสองข้างแล้วเบ่งอย่างแรง .....ฟี้~~~~)โอ้โล่งท้อง) มีอย่างอื่นออกมาแทน  ปิ๊บๆๆๆๆๆ ส่วนไอ้เสียงเวรนี่ก็ไม่หยุดสังทีดังตั้งนานแล้วมันน่าจะมีคนคิดนาฬิกาปลุกแบบไร้เสียงบ้างจะได้ไม่ต้องรำคาญแบบนี้ ?!?!?!?!?!(ใช้อะไรคิดเนี่ย) “เออๆๆ ตื่นแล้วเงียบซะที” ชั้นบอกกับมันหวังว่าถ้ามันรู้ว่าชั้นตื่นแล้วจะได้เลิกปลุกซะที  แต่เอ๊ะ!! เสียงมันเงียบไปจริงๆ โอ้สวรรค์ ช่างเมตตากับลูกบันดาลให้ลูกคุยกับนาฬิกาปลุกรู้เรื่อง ชั้นเริ่มรู้สึกว่าตัวเองมีค่าก็วันนี้แหละ (เรื่องที่คุยกับนาฬิกาปลุกเนี่ยนะ) “เช้านี้สงสัยจะนอนตกหมอนแฮะ รู้สึกคอมันตึงๆ ยังไงก็ไม่รู้” ชั้นบ่นกับตัวเองแต่ช่างมันเถอะไปอาบน้ำดีกว่าขณะกำลังจะเปลื้องผ้าที่ใส่นอนออกก็เหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างในกระจกมันน่ากลัวมาก “กรี๊ดๆๆๆ แม่จ๋าช่วยด้วย มีนาฬิกาผีเกาะอยู่ที่คอหนูช่วยด้วยๆ” ชั้นระดมเสียงทั้งแปดหลอดร้องลั่นบ้านแต่ก็ไม่มีใครสนใจขึ้นมาดูก็ใช่สิเพราะแม่ดันไปถูกหวยบนดินเลยพากันไปเที่ยวเมืองนอกทั้งครอบครัวจะว่าไปก็คือไปกันแค่สองคนนั่นแหละ แถมไปกันตั้งสองอาทิตย์ ย้ำนะตั้งสองอาทิตย์แน่ะ ทิ้งให้สาวสวยวัยรุ่นสุดเซ็กส์ต้องอยู่บ้านแต่ลำพังด้วยเหตุผลที่ว่า “ลาล่าลูกใกล้จะสอบเอ็นท์แล้วแม่ว่าลูกควรจะอยู่บ้านอ่านหนังสือนะลูก” แม่พยายามบอกชั้นอย่างนั้น โถแม่ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลยว่าอ่านไปก็เท่านั้น หมองี้ เภสัชงี้ วิศวะงี้ อักษรงี้ ไม่ติดอยู่แล้ว แต่ชั้นรู้หรอกว่ามันมีอะไรบางอย่างแอบแฝงอยู่ในทริบนี้ “พ่อกับแม่ไม่ต้องเอาน้องมาฝากหนูนะคะหนูขี้เกียจเลี้ยง” ชั้นตะโกนดักคอไปก่อนที่บุพการีทั้งสองจะขึ้นเครื่องไป แต่ก็ได้การอวยพรกลับมาเป็นค้อนขนาดใหญ่สองอัน เอ้าออกนอกเรื่องอีก สรุปแล้วที่ตกใจนะก็คือนาฬิกาปลุกรูปบั๊กบันนี่ส์มันห้อยคออยู่ต่างหากมิน่าทำไมคอมันหนักๆผิดปกติ ส่วนเรื่องที่ทำไมจะต้องมีกระต่ายอยู่เต็มห้องนะเหรอ นั่นก็เพราะว่าเราน่ะแอบหลงรักพี่กระต่ายห้องม.หกทับห้า สายวิทย์-คณิต ชายหนุ่มผิวขาว สูงร้อยแปดสิบ หนักเจ็ดสิบห้ารอบใส่รองเท้าเบอร์เก้าครึ่งใส่เสื้อไซส์แอล กางเกงเอวสามสิบหก แต่ถ้าใส่เอวสามสิบห้าจะดูดีกว่าเพราะจะพอดีตัว ชอบกินเครปใส้พริกเผาหมูหยอง ตื่นนอนหกโมงเช้าทุกวันเพื่อออกไปวิ่งวันละ สามสิบนาทีแล้วขากลับจะต้องแวะซื้อน้ำเต้าหู้ปาท่องโก๋ที่ร้านโกหลีทุกวัน รู้ไหมกว่าชั้นจะได้ข้อมูลเหล่านี้มาไว้ในดาต้าเบสเนี่ยมันลำบากแค่ไหนเสียทั้งเงินซื้อข้อมูลจากสายที่เอ่ยชื่อไม่ได้ แถมบางวันต้องสะกดรอยตามเองทั้งวัน ไม่ใช่ง่ายๆเลยนะเนี่ย ดูๆไปบางทีเราก็เหมือนพวกโรคจิตเหมือนกันนะ (เพิ่งรู้สึกตัว) ว่าแล้วเรื่องซวยๆที่ชั้นเกริ่นไว้ตอนต้นก็เกิดขึ้น (สักที) เมื่ออยู่ๆรองเท้ากระต่ายขาวน้อยของชั้นเกิดขาดมันช่างเป็นลางร้ายจริงๆ คู่นี้เป็นคู่ที่ชั้นรักมากซะด้วย และแล้วของเหลวบางอย่างมันไหลออกมาจากตาทั้งสองข้าง หัวใจของชั้นแทบจะสูญสลาย โลกนี้ไม่เหลืออะไรอีกแล้ว ชั้นเสียใจมากกับการจากไปของเจ้ากระต่ายขาวน้อย ชั้นค่อยๆ ประคับประคองมันขึ้นมาไว้แนบอกเผื่อว่ามันจะได้รับไออุ่นจากชั้น จากนั้นชั้นจึงค่อยๆ ก้มลงไปจูบลามันก่อน (นี่มันรองเท้านะ) แล้วจึงบรรจงวางมันไว้บนพรมรูปกระต่ายสีเหลืองอ่อนกะไว้ว่าตอนเย็นจะกลับมาฌาปาณกิจมัน เมื่อล่ำลากับมันเป็นที่เรียบร้อยแล้วชั้นจึงเข้าไปอาบน้ำเพื่อให้ฝักบัวมันไหลรดลงบนตัวชั้นเผื่อว่าความเศร้าจะได้สลายละลายไปกับสายน้ำนี้.........
    ชั้นวิ่งกระหืดกระหอบมาถึงโรงเรียนตอนแปดโมงพอดีขณะกำลังก้าวเข้าสู่ประตูโรงเรียน “อีกหนึ่งร้อยเมตร อีกห้าสิบเมตร อีกสามสิบบบ” ชั้นร้องบอกตัวเองทันใดนั้นเรื่องไม่คาดคิดก็เกิดเมื่อมีคนเฮงซวยหนึ่งคนมาดึงชายเสื้อชั้นไว้ “ปล่อยชั้นสิ..มันจะสายแล้วนะ” ชั้นพยายามต่อสู้ดิ้นรนกับมือมัจจุราชนั้น “ถ้าชั้นเข้าโรงเรียนไม่ทันนะแกตายแน่” ชั้นบอกอย่างอาฆาต ขณะนี้เป็นเวลาแปดนาฬิกา ประเทศไทยรวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย.......เสียงเคารพธงชาติดังขึ้นพร้อมกับเสียงสิบแปดหลอดของชั้น “แก....แก.....แกทำ  ให้  ชั้น  มา  โรง  เรียน  ไม่  ทัน  แก    ตาย” ว่าแล้วชั้นก็ขุดท่าเทควันโดทั้งหลายแหล่ขึ้นมาเพื่อชำระแค้นไม่ให้เสียแรงสายดำดั้งสอง “ตาย” ขณะที่กลับหลังมาเตะ อยู่ๆก็มีเสียงหล่อๆ ดังขึ้น “มีอะไรให้พี่ช่วยไหมครับน้อง” แค่ได้กลิ่นก็รู้แล้วว่าใครแต่นี่ได้ยินเสียงยิ่งมั่นใจได้เลยว่าต้องเป็นพี่กระต่ายชัวร์ “โอ้ย!!!ช่วยด้วยค่ะ....มีคนจะลวนลามลาล่าค่ะ” ชั้นรีบเปลี่ยนทีท่าสุดฤทธิ์ “มันเรื่องอะไรกันเห็นฉุดกระชากลากถูกันอยู่” ในที่สุดอัศวินก็ต้องมาช่วยเจ้าหญิงจากเจ้ามังกรร้าย “อ๋อ!!! ไม่มีอะไรหรอกต่ายเราเห็นสภาพน้องเขาแล้วให้เข้าโรงเรียนไม่ได้ว่ะ” นี่ก็เสียงหล่อสงสัยจะเป็นสปีชี่ส์เดียวกัน “ตั้มเองหรอทำไมล่ะ” สุดหล่อของล่าเดินเข้ามายิ่งใกล้ก็ยิ่งหล่อ และแล้วเขาก็หัวเราะเสียงดัง ชั้นเองซึ่งเป็นผู้เสียหายก็ได้แต่ยืนงงว่ามันเรื่องอะไรกัน ไม่นานพี่ตั้มที่ดึงเสื้อชั้นก็เดินมากระซิบกับชั้นว่า “พี่ว่าน้องกลับไปเปลี่ยนชุดที่บ้านก่อนเถอะ” อะไรกันวะเนี่ยชั้นเริ่มชักหงุดหงิดถึงแม้ว่าชั้นจะไม่ได้หน้าหวานแบบพอลล่า ไม่เก๋เฉี่ยวแบบซอนย่า ไม่สวยมั่นแบบลูกเกด ไม่บึ้มเอ็กซ์แบบบอลลูน แต่ก็ไม่เป็นรองใครนะนี่มันจะดูถูกรสนิยมการแต่งตัวกันเกินไปแล้ว ว่าแล้วชั้นก็สะบัดตัวให้พ้นจากพันธนาการของพี่ตั้มก่อนก้มมองสำรวจตัวเอง อู้ฮู้!!!! พระเจ้ายอดมันจอร์จมาก ชั้นออกมาได้ไงเนี่ยใส่เสื้อชุดนอนลายกระต่ายสีเขียวอ่อน(ตัวที่ใส่เมื่อคืน) ที่สำคัญมันขาดที่จั๊กกู้แร้ด้วย บวกกับกระโปรงนักเรียนสีกรมพอมันรวมกันแล้วชักอยากกระโดดให้บีเอ็มซีรี่ส์เจ็ดกระแทกตายจริงๆ ไม่รู้ว่าจะเอาหน้าไปฝากใครจริงๆ “โอเคค่ะพี่ งั้นเดี๋ยวหนูกลับบ้านก่อนแล้วกันนะคะ...ขอบคุณค่ะ” ชั้นรีบลารีบไสหัวออกไปจากที่นั้นทันที “เด็กอะไรวะเฉิ่มฉิบ .ใครได้เป็นแฟนนะอายตาย” เสียงนุ่มๆของพี่เขามันช่างบาดลึกลงไปในจิตใจของลาล่าจริงๆ ชั้นวิ่งออกไปพร้อมคราบน้ำตาที่ไหลเป็นสายอาบทั้งสองแก้ม “แวะซื้อหนังดีวีดีกลับไปดูแก้เซ็งที่บ้านดีกว่า” แล้วชั้นก็กระโดดขึ้นรถเมลล์มุ่งหน้าไปยังคลองถมเพื่อไปยังจุดหมาย.......
    “เรื่องนี้สนุกมากนะครับน้องมันแบบว่าซึ้งมาก เนี่ยพี่ดูมาหลายรอบแล้วยังซึ้งอยู่เลยไม่สนใจซื้อเก็บไว้ดูเหรอครับ” เสียงคนขายดีวีดีที่คลองถมพูดจากล่อมเราอยู่นานสงสัยกลัวเราไม่ซื้อเลยยกแม่น้ำทั้งห้าออกมา “โหน้องยิ่งใครกำลังอินเลิฟอยู่นะสุดยอด” เอาอีกแล้วมันเริ่มวกเข้าเรื่องแล้ว “หน้าตาอย่างน้องเนี่ยพี่ว่าแฟนตรึมแน่” อ่ะ!!...พอเห็นเราทำท่าจะเดินหนีก็เริ่มขุดไม้ตายออกมา “เพื่อนพี่มันเอาเรื่องนี้ไปดูกับแฟนที่บ้าน ปรากฏว่าแฟนมันชอบมาก จากที่ทะเลาะกันอยู่ดูไปดูมาคืนดีกันซะงั้นแถมรักกันมากกว่าเดิมอีก....อ่ะ...อ่ะ น้องทำหน้าแบบนี้ไม่เชื่อพี่ล่ะสิ” คนขายรีบพูดดักคอ แหมพูดซะอย่างกับรู้ใจเราแค่ทำหน้าพะอืดพะอมนิดเดียวเอง “ถ้างั้นเอาเรื่องนี้ก็ได้” มันหันไปหยิบเรื่องที่สองออกมาให้ดู โถยังไม่ละความพยายาม “เรื่องนี้นะน้องนางเอกตายตอนจบ...แต่มันเป็นแบบว่า แบบว่า พระเอกรักนางเอกมากขนาดตายไปแล้วก็ยังรักอยู่ ประมาณตายกี่ชาติก็ขาดเธอไม่ได้อย่างนั้นเลย” เบื่อจริงๆ เลยพวกเงินเดือนห้าพันแต่ทำงานอย่างกับได้สักสองหมื่น “อ่ะหรือถ้ายังไม่ถูกใจต้องเรื่องนี้พี่ว่าน้องต้องชอบชัวร์ ถ้าไม่ชอบพี่นอนให้เหยียบเลย” โห!!..ท้ากันขนาดนี้สงสัยวันนี้ได้เหยียบคนฟรีแล้ว “”นี่! เรื่องนี้เลย เรื่อง Be with you” เรื่องซึ้งๆ ประทับใจมากเรื่องนี้นะพี่ขายดีมาก น้องรู้จักหรือเปล่า” แหมกำลังจะได้ถกกระโปรงแล้วเหยียบยอดอกคนขายซีดีซะแล้ว ถ้าไม่ใช่ว่าเคยมีคดีกับเรื่องนี้มาก่อนนะ “เอาก็ได้พี่ แผ่นนี้เท่าไหร่” สงสัยถ้าวันนี้ไม่ซื้อมัน  เราคงไม่ได้กลับบ้านแน่ “แผ่นละแปดสิบครับน้อง” พอเขาพูดจบเราก็รีบยัดเงินให้เขาไปแปดสิบบาทพอดี “เอาไปเลยพี่ไม่ต้องทอน เกรงใจ” กวนอวัยวะเบื้องล่างมันหน่อยดีกว่า “ขอบคุณนะครับโอกาสหน้าเชิญใหม่นะครับ” อ้าว!นึกว่าวันนี้จะได้เรื่องแล้วเชียวอุตสาห์หาเรื่อง  ว่าแล้วกลับบ้านดีกว่า “น้องๆ เดี๋ยวก่อน” ไอ้คนขายมันวิ่งตามเรามาทำไมสงสัยจะมาเอาเรื่อง เอาว่ะกำลังคันไม้คันมืออยู่พอดี ว่าแล้วก็ตั้งท่าเตรียมพร้อม “โอ้...โอ้ ...น้องเป็นไรพี่มาดีนะครับ....พี่เห็นน้องมาตั้งนานแล้วนะ” ตายแล้วหรือว่าจะมาสารภาพรักเพิ่งเคยเจอกันแค่สิบห้านาทีกับสามสิบวินาทีเอง แล้วก็พูดกันไม่กี่ประโยค โห!!..เรานี้เสน่ห์แรงจริงๆ “คือ...พี่อยากจะบอกน้องว่า คือว่า ” เขาทำท่าแบบ กล้าๆ กลัวๆ เอาแล้วเริ่มเข้าเรื่องแล้ว “คงไม่ได้หรอกค่ะพี่...พอดีหนูมีแฟนแล้ว แล้วแฟนหนูนะก็โหดมาก ที่สำคัญหน้าภูธรอย่างพี่น่ะไม่ใช่สเปคหนูหรอก” เรารีบตอบไปก่อนอย่างไว้เชิง...เอาวะคนแรกในรอบ 18 ปี “คือพี่จะบอกน้องว่ากระโปรงน้องมันขาดแล้วเห็นหมดเลยพี่เลยรีบมาบอกกลัวน้องจะกลับบ้านทั้งอย่างนั้นแหละ” โอ้พระเจ้าทำไมถึงกลั่นแกล้งลูกอย่างนี้ “ช่างมันถอะพี่พอดีหนูมันพวกชอบโชว์น่ะ” ตายแล้ว!!! พูดออกไปได้ยังไงเนี่ย “โอเคน้องถ้างั้นพี่ไปก่อนล่ะ” มันมองเราด้วยสายตากึ่งหวาดกลัวกึ่งสมเพชมันดูยังไงก้อไม่รู้ ว่าแล้วแค่เสี้ยววินาทีมันก็หายวับไปเลยสงสัยจะกลัวเรามาก “ซวยจริงๆโว้ย....วันนี้ทำไมมีแต่เรื่องซวยๆ วะเนี่ย” เฮ้อ!!! บ่นไปก็เท่านั้น วันนี้นะมันช่างอุดมไปด้วยเรื่องเฮงซวยแต่เช้าเลยว่าแล้วก็ขอเล่าเรื่องละลึกชาติกันสักหน่อย.........
    ในห้องนอนสีชมพูหวานจ๋อยเต็มไปด้วยเครื่องตบแต่งรูปกระต่ายไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็มีแต่กระต่ายทั้งผ้าปูที่นอนเอย โปสเตอร์ติดผนัง หวี แปรงสีฟัน ยาสีฟัน ไดร์เป่าผม กิ๊บ  และอื่นๆที่ภายในห้องนอนพึงจะมีและไม่พึงมี ที่นี่ทุกอย่างล้วนเป็นกระต่าย นี่ยังไม่นับตุ๊กตาทุกเวอร์ชั่นเป็นร้อยๆตัว ไม่ได้โกหกนะเป็นร้อยๆตัวจริงๆ ไอ้ที่น่ารักก็จะเอาไว้กอดบนเตียงแต่ไอ้ที่ไม่น่ารักก็ยังงงอยู่ว่าซื้อมาทำไมพวกเกรดนี้ก็จะวางไว้แอบๆหน่อยเพราะบางทีก็กลัวกับไอ้ความไม่น่ารักของมันเหมือนกัน  .........ปิ๊บๆๆๆๆๆ เสียงนาฬิกาปลุกเตือนเมื่อถึงเวลา 7.00 น. ชั้นงัวเงียหลับตาคลำหาต้นตอของเสียงปิศาจยามเช้านี้ มันเคยอยู่ตรงนี้นี่หว่าแต่คลำเท่าไหร่ก็ไม่เจอสักที เฮ้อ!!!!ถ้าไอ้เรื่องที่เค้าบอกว่าการถอนหายใจหนึ่งครั้งจะทำให้ชีวิตสั้นไปหนึ่งปีมันเป็นเรื่องจริงนะชั้นว่าชั้นคงเหลือเวลาในชาตินี้อีกไม่กี่วันหรอก เพราะวันๆนึงถอนหายใจไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง เอ้า!!! นอกเรื่องอีกแล้ว เผลอเป็นไม่ได้เชียวชอบชวนออกนอกเรื่องอยู่เรื่อย เอาสั้นๆเลยแล้วกันไม่รู้ว่านาฬิกาปลุกมันอยู่ที่ไหน ในที่สุดก็ทนไม่ไหวใช้พลังเฮือกสุดท้ายที่มีเกร็งลมปราณแล้วตั้งสมาธิไปที่ดวงตาทั้งสองข้างแล้วเบ่งอย่างแรง .....ฟี้~~~~)โอ้โล่งท้อง) มีอย่างอื่นออกมาแทน  ปิ๊บๆๆๆๆๆ ส่วนไอ้เสียงเวรนี่ก็ไม่หยุดสังทีดังตั้งนานแล้วมันน่าจะมีคนคิดนาฬิกาปลุกแบบไร้เสียงบ้างจะได้ไม่ต้องรำคาญแบบนี้ ?!?!?!?!?!(ใช้อะไรคิดเนี่ย) “เออๆๆ ตื่นแล้วเงียบซะที” ชั้นบอกกับมันหวังว่าถ้ามันรู้ว่าชั้นตื่นแล้วจะได้เลิกปลุกซะที  แต่เอ๊ะ!! เสียงมันเงียบไปจริงๆ โอ้สวรรค์ ช่างเมตตากับลูกบันดาลให้ลูกคุยกับนาฬิกาปลุกรู้เรื่อง ชั้นเริ่มรู้สึกว่าตัวเองมีค่าก็วันนี้แหละ (เรื่องที่คุยกับนาฬิกาปลุกเนี่ยนะ) “เช้านี้สงสัยจะนอนตกหมอนแฮะ รู้สึกคอมันตึงๆ ยังไงก็ไม่รู้” ชั้นบ่นกับตัวเองแต่ช่างมันเถอะไปอาบน้ำดีกว่าขณะกำลังจะเปลื้องผ้าที่ใส่นอนออกก็เหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างในกระจกมันน่ากลัวมาก “กรี๊ดๆๆๆ แม่จ๋าช่วยด้วย มีนาฬิกาผีเกาะอยู่ที่คอหนูช่วยด้วยๆ” ชั้นระดมเสียงทั้งแปดหลอดร้องลั่นบ้านแต่ก็ไม่มีใครสนใจขึ้นมาดูก็ใช่สิเพราะแม่ดันไปถูกหวยบนดินเลยพากันไปเที่ยวเมืองนอกทั้งครอบครัวจะว่าไปก็คือไปกันแค่สองคนนั่นแหละ แถมไปกันตั้งสองอาทิตย์ ย้ำนะตั้งสองอาทิตย์แน่ะ ทิ้งให้สาวสวยวัยรุ่นสุดเซ็กส์ต้องอยู่บ้านแต่ลำพังด้วยเหตุผลที่ว่า “ลาล่าลูกใกล้จะสอบเอ็นท์แล้วแม่ว่าลูกควรจะอยู่บ้านอ่านหนังสือนะลูก” แม่พยายามบอกชั้นอย่างนั้น โถแม่ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลยว่าอ่านไปก็เท่านั้น หมองี้ เภสัชงี้ วิศวะงี้ อักษรงี้ ไม่ติดอยู่แล้ว แต่ชั้นรู้หรอกว่ามันมีอะไรบางอย่างแอบแฝงอยู่ในทริบนี้ “พ่อกับแม่ไม่ต้องเอาน้องมาฝากหนูนะคะหนูขี้เกียจเลี้ยง” ชั้นตะโกนดักคอไปก่อนที่บุพการีทั้งสองจะขึ้นเครื่องไป แต่ก็ได้การอวยพรกลับมาเป็นค้อนขนาดใหญ่สองอัน เอ้าออกนอกเรื่องอีก สรุปแล้วที่ตกใจนะก็คือนาฬิกาปลุกรูปบั๊กบันนี่ส์มันห้อยคออยู่ต่างหากมิน่าทำไมคอมันหนักๆผิดปกติ ส่วนเรื่องที่ทำไมจะต้องมีกระต่ายอยู่เต็มห้องนะเหรอ นั่นก็เพราะว่าเราน่ะแอบหลงรักพี่กระต่ายห้องม.หกทับห้า สายวิทย์-คณิต ชายหนุ่มผิวขาว สูงร้อยแปดสิบ หนักเจ็ดสิบห้ารอบใส่รองเท้าเบอร์เก้าครึ่งใส่เสื้อไซส์แอล กางเกงเอวสามสิบหก แต่ถ้าใส่เอวสามสิบห้าจะดูดีกว่าเพราะจะพอดีตัว ชอบกินเครปใส้พริกเผาหมูหยอง ตื่นนอนหกโมงเช้าทุกวันเพื่อออกไปวิ่งวันละ สามสิบนาทีแล้วขากลับจะต้องแวะซื้อน้ำเต้าหู้ปาท่องโก๋ที่ร้านโกหลีทุกวัน รู้ไหมกว่าชั้นจะได้ข้อมูลเหล่านี้มาไว้ในดาต้าเบสเนี่ยมันลำบากแค่ไหนเสียทั้งเงินซื้อข้อมูลจากสายที่เอ่ยชื่อไม่ได้ แถมบางวันต้องสะกดรอยตามเองทั้งวัน ไม่ใช่ง่ายๆเลยนะเนี่ย ดูๆไปบางทีเราก็เหมือนพวกโรคจิตเหมือนกันนะ (เพิ่งรู้สึกตัว) ว่าแล้วเรื่องซวยๆที่ชั้นเกริ่นไว้ตอนต้นก็เกิดขึ้น (สักที) เมื่ออยู่ๆรองเท้ากระต่ายขาวน้อยของชั้นเกิดขาดมันช่างเป็นลางร้ายจริงๆ คู่นี้เป็นคู่ที่ชั้นรักมากซะด้วย และแล้วของเหลวบางอย่างมันไหลออกมาจากตาทั้งสองข้าง หัวใจของชั้นแทบจะสูญสลาย โลกนี้ไม่เหลืออะไรอีกแล้ว ชั้นเสียใจมากกับการจากไปของเจ้ากระต่ายขาวน้อย ชั้นค่อยๆ ประคับประคองมันขึ้นมาไว้แนบอกเผื่อว่ามันจะได้รับไออุ่นจากชั้น จากนั้นชั้นจึงค่อยๆ ก้มลงไปจูบลามันก่อน (นี่มันรองเท้านะ) แล้วจึงบรรจงวางมันไว้บนพรมรูปกระต่ายสีเหลืองอ่อนกะไว้ว่าตอนเย็นจะกลับมาฌาปาณกิจมัน เมื่อล่ำลากับมันเป็นที่เรียบร้อยแล้วชั้นจึงเข้าไปอาบน้ำเพื่อให้ฝักบัวมันไหลรดลงบนตัวชั้นเผื่อว่าความเศร้าจะได้สลายละลายไปกับสายน้ำนี้.........
    ชั้นวิ่งกระหืดกระหอบมาถึงโรงเรียนตอนแปดโมงพอดีขณะกำลังก้าวเข้าสู่ประตูโรงเรียน “อีกหนึ่งร้อยเมตร อีกห้าสิบเมตร อีกสามสิบบบ” ชั้นร้องบอกตัวเองทันใดนั้นเรื่องไม่คาดคิดก็เกิดเมื่อมีคนเฮงซวยหนึ่งคนมาดึงชายเสื้อชั้นไว้ “ปล่อยชั้นสิ..มันจะสายแล้วนะ” ชั้นพยายามต่อสู้ดิ้นรนกับมือมัจจุราชนั้น “ถ้าชั้นเข้าโรงเรียนไม่ทันนะแกตายแน่” ชั้นบอกอย่างอาฆาต ขณะนี้เป็นเวลาแปดนาฬิกา ประเทศไทยรวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย.......เสียงเคารพธงชาติดังขึ้นพร้อมกับเสียงสิบแปดหลอดของชั้น “แก....แก.....แกทำ  ให้  ชั้น  มา  โรง  เรียน  ไม่  ทัน  แก    ตาย” ว่าแล้วชั้นก็ขุดท่าเทควันโดทั้งหลายแหล่ขึ้นมาเพื่อชำระแค้นไม่ให้เสียแรงสายดำดั้งสอง “ตาย” ขณะที่กลับหลังมาเตะ อยู่ๆก็มีเสียงหล่อๆ ดังขึ้น “มีอะไรให้พี่ช่วยไหมครับน้อง” แค่ได้กลิ่นก็รู้แล้วว่าใครแต่นี่ได้ยินเสียงยิ่งมั่นใจได้เลยว่าต้องเป็นพี่กระต่ายชัวร์ “โอ้ย!!!ช่วยด้วยค่ะ....มีคนจะลวนลามลาล่าค่ะ” ชั้นรีบเปลี่ยนทีท่าสุดฤทธิ์ “มันเรื่องอะไรกันเห็นฉุดกระชากลากถูกันอยู่” ในที่สุดอัศวินก็ต้องมาช่วยเจ้าหญิงจากเจ้ามังกรร้าย “อ๋อ!!! ไม่มีอะไรหรอกต่ายเราเห็นสภาพน้องเขาแล้วให้เข้าโรงเรียนไม่ได้ว่ะ” นี่ก็เสียงหล่อสงสัยจะเป็นสปีชี่ส์เดียวกัน “ตั้มเองหรอทำไมล่ะ” สุดหล่อของล่าเดินเข้ามายิ่งใกล้ก็ยิ่งหล่อ และแล้วเขาก็หัวเราะเสียงดัง ชั้นเองซึ่งเป็นผู้เสียหายก็ได้แต่ยืนงงว่ามันเรื่องอะไรกัน ไม่นานพี่ตั้มที่ดึงเสื้อชั้นก็เดินมากระซิบกับชั้นว่า “พี่ว่าน้องกลับไปเปลี่ยนชุดที่บ้านก่อนเถอะ” อะไรกันวะเนี่ยชั้นเริ่มชักหงุดหงิดถึงแม้ว่าชั้นจะไม่ได้หน้าหวานแบบพอลล่า ไม่เก๋เฉี่ยวแบบซอนย่า ไม่สวยมั่นแบบลูกเกด ไม่บึ้มเอ็กซ์แบบบอลลูน แต่ก็ไม่เป็นรองใครนะนี่มันจะดูถูกรสนิยมการแต่งตัวกันเกินไปแล้ว ว่าแล้วชั้นก็สะบัดตัวให้พ้นจากพันธนาการของพี่ตั้มก่อนก้มมองสำรวจตัวเอง อู้ฮู้!!!! พระเจ้ายอดมันจอร์จมาก ชั้นออกมาได้ไงเนี่ยใส่เสื้อชุดนอนลายกระต่ายสีเขียวอ่อน(ตัวที่ใส่เมื่อคืน) ที่สำคัญมันขาดที่จั๊กกู้แร้ด้วย บวกกับกระโปรงนักเรียนสีกรมพอมันรวมกันแล้วชักอยากกระโดดให้บีเอ็มซีรี่ส์เจ็ดกระแทกตายจริงๆ ไม่รู้ว่าจะเอาหน้าไปฝากใครจริงๆ “โอเคค่ะพี่ งั้นเดี๋ยวหนูกลับบ้านก่อนแล้วกันนะคะ...ขอบคุณค่ะ” ชั้นรีบลารีบไสหัวออกไปจากที่นั้นทันที “เด็กอะไรวะเฉิ่มฉิบ .ใครได้เป็นแฟนนะอายตาย” เสียงนุ่มๆของพี่เขามันช่างบาดลึกลงไปในจิตใจของลาล่าจริงๆ ชั้นวิ่งออกไปพร้อมคราบน้ำตาที่ไหลเป็นสายอาบทั้งสองแก้ม “แวะซื้อหนังดีวีดีกลับไปดูแก้เซ็งที่บ้านดีกว่า” แล้วชั้นก็กระโดดขึ้นรถเมลล์มุ่งหน้าไปยังคลองถมเพื่อไปยังจุดหมาย.......
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น