ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดั่งทัณฑ์ประกายศิต

    ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1

    • อัปเดตล่าสุด 2 ธ.ค. 56


    บทที่ 1
    ณ รัฐพีชโพช
    เจ้าชายธาม กำลังเร่งรีบแต่งกายชุดพร้อมรบ เดินออกไปพร้อมคว้าดาบประจำราชวงศ์แนบไปด้วย แต่ต้องสะดุดกับขุนนางท่านหนึ่งที่มาดักห้ามไว้
    "เราต้องไป เดี๋ยวนี้! "
    "เห็นท่าจะไม่ดีนะครับเจ้าชาย มันอันตรายเกินไป ทหารที่ทางเราส่งไปไม่มีใครรอดมาได้สักรายเดียว ถ้าเจ้าชายไป แล้วถ้าเกิด..."ขุนนางกล่าวด้วยความเป็นห่วง แต่ยังไม่ทันจบ ก็โดนเจ้าชายกล่าวกลับไป...
    "เจ้าชาย ไม่ใช่กษัตริย์ที่นั่งสั่งทหารและประชาชนให้ไปเสี่ยงอันตรายแทนตน แต่เจ้าชาย คือคนของประชาชน มีหน้าที่ทำให้ประชาชนอยู่รอดปลอดภัย คำว่าเจ้าชาย มันมีความหมายเกินกว่ากษัตริย์ "
    ธามเดินไปยังคอกม้า พร้อมลากเจ้าไลล่า ซึ่งเป็นม้าประจำพระองค์ของเจ้าชายธาม  ออกมาด้วย ลูบหัวมันสองสามที แล้วกระโดดขึ้นขี่หลังมัน
    "ไป ไปสู้ด้วยกันนะไลล่า"
    ระหว่างทางที่จะไปถึงชายแดนสามรัฐ ธามก็กำลังนึกถึงผู้เป็นดังดวงใจของตน ภาวนาขอให้เธอเป็นกำลังใจสำคัญของเขาตลอดไป 'เฟลอร์'
    "ฮี่!" เสียงม้าดังลั่นป่า เพราะไปสะดุดกับร่างสูงโปร่งและสวยสง่า ดุจดั่งเจ้าหญิงในนิยาย ธามคิดว่าเธออาจจะเป็นเจ้าหญิงจริงๆซะด้วยซ้ำ ถ้าเธอไม่มายืนดักม้าของเขาอยู่ในป่าที่อันตรายแบบนี้
    "เจ้าคือใครหรือ" ธามถาม
    "...."
    "ว่าอย่างไร ถ้าไม่มีอะไรช่วยหลบหน่อย เรารีบ.." เมื่อพูดถึงตรงนี้ ก็ใจกระตุกเล็กน้อย เพราะเธออาจจะเป็นผู้ที่สังหารทหารของเขา
    "หรือว่า เจ้าคือ.."
    วาเลนเซียร์หันมาประจันหนัากับธาม พร้อมเปิดหมวกเสื้อคลุมที่ปกปิดหน้าอยู่ขึ้น ให้เห็นถึงใบหน้าที่แท้จริงของเธอ
    "สวัสดีเพคะ ฝ่าบาท" พร้อมถอนสายบัว เงยหน้าขึ้นและกล่าวต่อ
    "ใช่คะ หม่อมฉันเอง ที่สังหารทหารของฝ่าบาท"
    ธามอึ้งไปเล็กน้อย เธอเป็นผู้หญิง แถมสวยมาก รูปร่างก็อ้อนแอ้นบอบบางแทบจะหักครึ่ง แต่นึกไม่ถึงว่าสามารถสู้กับทหารของตนได้ เขาคงประเมิณความสามารถของเธอต่ำไปจริงๆ
    "เธอเองเหรอ ต้องการอะไร อย่าให้เราต้องลงไม้ลงมือกับผู้หญิงเลย" ธามลงมาจากหลังม้าแล้วมายืนตรงหน้าหญิงสาวแสนสวย ยิ่งมองยิ่งหลง ยิ่งเห็นในระยะใกล้ยิ่งสวย
    "เจ้าชายธาม..มาถึงที่นี่เพื่อมาเจรจากับหม่อมฉัน เป็นเกียรติมากเพคะ"
    "หยุดพูดพล่าม แล้วบอกจุดประสงค์ของเจ้ามาเสียที ที่คิดจะทำเยี่ยงนี้" ธามเริ่มอารมณ์คุกรุ่นเล็กน้อย ไม่รู้เพราะเธอไม่ยอมตอบคำถามเขาหรือเพราะเสียดายความสวย แต่กลับร้ายกาจ
    "หม่อมฉันว่า ไปหาที่สบายๆคุยกันดีกว่านะเพคะ ขืนยืนตรงนี้ เดี๋ยวสักพักทหารของฝ่าบาทก็ตามมาอยู่ดี หม่อมฉันขี้เกียจจะล้างดาบด้วยเลือดเอาตอนนี้" เธอกล่าวเยาะ
    'ไม่น่าชมว่าเธอสวย ดูความร้ายกาจและความพยศสิ ไม่เป็นรองใครเลยจริงๆ' ธามคิดในใจ แล้วเดินตามเธอเข้าไปในป่า..

    ขณะนี้ทั้งสองยืนอยู่หน้าน้ำตกแห่งหนึ่งในป่า
    ธามไม่รอช้า เริ่มกล่าวเปิดประเด็นทันที
    "เราทำตามความต้องการของเจ้าแล้ว ถึงคราวที่เจ้าต้องตอบคำถามของเราบ้าง"
    " รีบจริงเชียว นั่งพักสักหน่อยเสียเพคะ เดินมาตั้งไกล หม่อมฉันกลัวฝ่าบาทจะเหนื่อย" ...
    "แค่นี้เราไม่เหนื่อยหรอก น่าจะเป็นเจ้ามากกว่าที่จะเหนื่อย ตัวก็เล็กนิดเดียว"ธามเห็นเหงื่อเริ่มล้อมรอบใบหน้าเธอแลัว จึงถามออกไปแต่ก็ไม่มีเสียงตอบกลับมา มีแต่เสียงน้ำที่บรรเลงขึ้นให้หายจากความเงียบเท่านั้น
    'แล้วใครว่าเราไม่เหนื่อยเล่า เดินมาตั้งไกล ไม่มีหยุดพักแถมยังต้องปั้นหน้าให้ดูสวยร้ายกาจอีก' วาเลนเซียร์คิดในใจ แต่ก็ไม่พูดอะไรออกไป
    "เอาหละ หม่อมฉันเห็นฝ่าบาทเริ่มหงุดหงิดแล้ว เราเจรจาเลยก็ได้" วาเลนเซียร์กล่าวทำลายความเงียบขึ้นมา ทำให้ธามเดินมาตรงหน้าหญิงสาว แล้วกล่าวตอบ
    "ดี เราอยากจะรูัเหตุผลที่เจ้าทำแบบนี้ใจจะขาด" ธามยิ้มเยาะ
    "หม่อมฉันต้องการเส้นทางจากรัฐ..ถึงท่าน้ำที่รัฐนี้ โดยไม่ต้องหลบซ่อน และโดนทหารของฝ่าบาททำร้ายประชาชนที่รัฐ.. แค่นี้ ฝ่าบาทให้หม่อมฉันได้มั้ยเพคะ"
    "นึกว่าเรื่องอะไร ที่แท้ก็เรื่องเส้นทางการค้าขายนี่เอง เราขอชี้แจงสองประเด็น หนึ่ง คือเราไม่เคยมีคำสั่งให้ทหารทำร้ายประชาชนไม่ว่าจากรัฐไหนดินแดนไหนถ้าเขาหรือเธอคนนั้นไม่เคยทำให้รัฐเราเสียหาย และสอง เจ้าคือใคร ที่ถึงกับต้องการจะเจรจากับเราโดยตรง ขุนนาง? หรือว่าอะไรยังไง บอกเราซิ"
    "ข้อหนึ่งสิ่งที่ฝ่าบาทบอกกับหม่อมฉันมันไม่ใช่เรื่องจริง ในเมื่อทุกวันของรัฐ..มักจะมีข่าวเรื่องที่เดินทางมาถึงที่นี้แล้วถูกทหารของฝ่าบาททำร้าย และสอง เกรงว่าหม่อมฉันบอกไปแล้วฝ่าบาทจะไม่เชื่อ แล้วพาลไปว่าหม่อมฉันกล่าวเท็จ"
    ธามเขยิบเข้ามาใกล้หญิงสาวอีกนิด เพื่อจะเห็นหน้าหญิงสาวให้ชัดเจนกว่าเดิม
    "เราคือเจ้าชาย เราไม่กล่าวหาใครโดยไม่มีหลักฐานที่ชัดเจน.."
    วาเลยเซียร์อึ้งไปพักหนึ่ง เพราะน้ำเสียงที่แสดงถึงพลังอำนาจบางอย่างของเขา
    "หม่อมฉันคือ..."


    วาเลนเซียน์อาศัยความว่องไวเข้าไปคว้าดาบออกมาจากข้างลำตัวธาม แล้วเอาจ่อที่คอของธามทันที
    "หม่อมฉันคือใครฝ่าบาทไม่จำเป็นต้องทราบหรอกเพคะ แต่ว่าตอนนี้ สิ่งที่ฝ่าบาทต้องทำให้รอดจากความตายด้วยดาบของราชวงศ์ตนเองก็คือ พาหม่อมฉันกลับวังฝ่าบาทเดี๋ยวนี้!" วาเลนเซียร์กล่าวชัดเจนทุกคำทุกพยางค์เพื่อบอกจุดประสงค์ที่แท้จริง
    การกระทำที่ว่องไวมากของเธอนั้นทำให้ธามตกใจไม่น้อย และเสียงของเธอที่ขู่นั้น ไม่ให้ความรู้สึกกลัวเลยสักนิด มันเหมือนกับลูกแมวขู่ฟ่อๆ น่ารักมากกว่าน่ากลัวตั้ง
    เยอะ และ จริงอยู่ เขาไม่อยากตายดัวยดาบของตนเอง จะพุ่งเข้าไปก็กลัวดาบจะตวัดกลับเข้าหาเธอเอง อาจจะทำให้เธอเจ็บตัวได้ ถ้าเป็นคนอื่นเขาจะไม่ลังเลที่จะพุ่งเข้าไปเอาดาบเลย แต่พอมันเป็นเธอก็เหมือนมีบางสิ่งบางอย่างบอกเขาไว้ว่าอย่าทำอะไรเธอ เขาจึงนิ่ง และดูเกมของเธอต่อไป คำถามต่อมาคือ ทำไมเธอต้องให้เขาพาไปที่วังและไม่ยอมบอกชื่อของเธ...อเอง
    "ได้ เราจะพาเธอไปที่วังของเรา.." ยังพูดไม่ทันจบธามก็เข้าไปรวบเธอจากทางด้านหลังแล้วหักข้อมือเธอเพื่อให้เธอปล่อยดาบลงไปที่พื้น เขายกเธอขึ้นแล้วพาดเข้ากับบ่าของเขาเอง และไม่ลืมก้มลงไปเอาด้ามเก็บเข้าที่เดิม
    "แต่ก่อนอื่นขอเก็บดาบก่อน เล่มนี้มันหายาก" ธามกล่าวพร้อมหัวเราะอย่างมีความสุข พลอยทำให้คนที่อยู่บนบ่าหงุดหงิดไปโดยที่ทำอะไรไม่ได้เลย
    'เราประเมิณความสามารถเขาต่ำไปแล้ววาเลนเซียร์เอ้ย'
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×