ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สโนไวท์ ในเเดนเวทมนต์พิศวง

    ลำดับตอนที่ #1 : บทเริ่มต้นของเรื่องราว

    • อัปเดตล่าสุด 10 เม.ย. 57


     

    กาลครังหนึ่งนานมาแล้ว  มีราชวังสูงใหญ่ตั้งตระหง่านเหนือเชิงเขาริมทะเล  ราชวังสวยงามแห่งนี้มีราชา  และราชินีคอยปกครองบ้านเมืองอย่างยุติธรรม  แต่น่าเสียดายที่ราชาและราชินีทั้งสอง  ต่างไม่มีบุตรให้ชื่นใจเลยซักคน  ราชินีทรงอยากมีลูกสาวมาก  จึงได้เดินทางไปที่โบสถ์ศักดิ์สิทธเพื่อขอพร

    " พระผู้เป็นเจ้า  ลูกขอให้พระบิดาเมตตามอบบุตรให้ลูกและสวามี  เพื่อสืบทอดและเป็นแก้วตาดวงใจของลูกด้วย "

    ราชินีกุมมือแน่น  เรียวหน้าเงยมองรูปปั้นตัวแทนพระเยซูที่ตั้งสูงอยู่เบื้องหน้า

    ไม่นานนักพระราชาและพระราชินีก็ได้ข่าวดี  เกี่ยวกับเด็กที่กำลังเติบโตอยู่ในครรภ์ 

    ในหน้าหนาวพระราชินีได้ให้กำเนิดเด็กทารกผิวขาวราวหิมะ  ผมดำขลับ  ฝีปากแดงดุจเชอร์รี่ป่า  แต่เรื่องดีกลับมาพร้อมเรื่องร้าย  เพราะเมื่อทันทีที่พระราชธิดาได้คลอดออกมา  ด้วยร่างกายที่ไม่แข็งแรงของราชินีทำให้นางเสียชีวิตทันที

    หลังจากนั้นพระราชาก็ได้แต่เสียใจอยู่ใด้ความโศกเศร้าเรื่อยมา 

    หลังจากนั้น 13 ปี  เด็กสาวเริ่มเติบโตจนเป็นสาวแรกรุ่น  พระราชาได้ตั้งชื่อให้เธอว่า ' สโนไวท์ '  เพราะผิวที่ขาวละเอียดราวหิมะแรกฤดู

    เด็กสาวอยู่ในการปกครองของผู้เป็นพ่อเรื่อยมา  เธอไม่ได้มีสิทธิเสียงที่จะออกนอกวังได้เลยแม้แต่น้อย  เพราะความห่วงลูกสาวที่เป็นหัวแก้วหัวแหวน  และสิ่งสุดท้ายที่ยอดรักทิ้งไว้ให้อุ้มชู

    เมื่อสโนไวท์อายุเข้า 15 ปี  เธอก็ต้องตกใจกับเรื่องของพระบิดา  เมื่อพ่อของเธอกำลังจะได้แต่งงานกับสาวชาวไร่คนหนึ่ง  ซึ่งผู้หญิงคนนั้นคือแม่มดที่ใช่มนต์เสน่หาล่อลวงพ่อของเธอ  เพื่ออำนาจและสมบัติ  สโนไวท์ทั้งตกใจและเสียใจในเวลาเดียวกัน  เธอได้แต่ขังตัวเองในห้องจนร่างตนซูบผอมไร้ความงาม 

    พ่อของสโนไวท์ได้แต่กลุ้มใจเรื่องของเธอจนอาการป่วยหนัก  เหตุการณ์ดูเลวร้ายลงเรื่อยๆ  พระราชาป่วยหนักขึ้นทั้งร่างกายและจิตใจ  ความมืดเข้าครอบงำจนอาณาจักรกลายเป็นดินแดงแห่งความเหี่ยวเฉา  ว่างเปล่าและถูกทิ้งร้างไว้ในที่สุด 

    สุดท้ายพระราชาเลยทนความทรมารไว้ไม่ไหว  ลมหายใจโรยรินได้ร้องขอแม่มดเป็นครั้งสุดท้าย

    ' ปลิดชีพข้าซะ... '

    พระราชากล่าวออกมาด้วยน้ำตา  มือทั้งสองกุมมือแม่มดไว้แน่แน่น...

    แม้แต่เริ่มเดิมทีเธอจะแฝงตัวเข้ามาเพื่อยึดครองปราสาธ  และสมบัติที่มากล้นจนเต็มห้องพระคลัง  แต่มันจะมีความหมายอะไร  หากไม่มีคนสวามิภักดิ์และร่วมยินดีไปกับเธอ  เมืองที่รกร้างและว่างเปล่าเหมือนป่าช้าน่ะ  เธอไม่ต้องการเลยแม้แต่น้อย

    มือเรียวลูบไล้ใบหน้าชายตรงหน้า  เหนือสิ่งอื่นใดดวงใจของเธอได้ตกเป็นของเค้าแล้ว...

    แม่มดน้ำตาไหลรินกับการกระทะอันโง่เขราของตนเอง  น้ำตาเม็ดใสอาบไหลลงจนถึงปลายคาง 

    พระราชาส่งมีดด้ามเล็กใส่มือแม่มด  ดวงตาที่เต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าหลับลงอย่างปิติ 

    ฉึก...

    เสียงที่เป็นเครื่องบ่งบอกถึงลมหายใจสุดท้ายดังขึ้น...

    งานพระบรมศพถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย  หลังจากที่พ่อหรือพระราชาสิ้นใจลง  สโนไวท์ที่ร่าเริงสดใสได้แปลเปลี่ยนไปเหมือนเป็นคนละคน  ใบหน้าเริ่มหยาบกร่าน  ผิวพรรณเริ่มแห้งเหี่ยวจนน่ากลัว  สโนไวท์ขังตัวเองในหอคอยสูงใหญ่พร้อมทั้งข้าราชบริพาร  และทหารที่ยังคงซื่อสัตย์ต่อเธอ 

    แม่เลี้ยงเมื่อรู้ข่าวว่าเธอได้หนีไป  ก็เที่ยวตามหาตัวจนเจอ  สโนไวท์ยืนเด่นเหนือหอคอย  ผ้าคลุมตัวสีน้ำตาลเข้มคลุมรอบตัวเธอจนเห็นเพียงดวงตาสีฟ้าใส  แต่ภายในดวงตาของเด็กน้อยกลับไม่พบกับความไร้เดียงสาอีกต่อไป  เธอประกาศตัวเป็นปรปักษ์ต่อราชินี  เพราะความเชื่อของเธอที่ว่า  แม่เลี้ยงเป็นคนที่ทำให้พ่อของเธอตาย

    แม่มดเกรงกลัวความตายเหนือสิ่งอื่นใด  จึงส่งนายพรานร่างสูงใหญ่  หนวดเคราเกรอะกรัง  ที่เคยเป็นเพื่อนสนิทสมัยเด็กของสโนไวท์ให้ไปลอบฆ่า 

    แต่ทันทีที่นายพรานหนุ่มได้พบเจอกับสโนไวท์ก็ต้องตกใจเป็นที่สุด  เพราะรูปพรรณที่เปลี่ยนไปอย่างน่ากลัวของหญิงสาว 

    สุดท้ายนายพรานต้องข่มใจ  ชวนเธอออกมาที่ทุ่งหญ้ากว้างไกลจากสายตาผู้คน  นายพรานพาสโนไวท์เดินชมป่าไปเรื่อยๆ  จนในที่สุดโอกาสเหมาะก็มาถึง  โอกาสที่นายพรานพร้อมจะง้างขวานด้านใหญ่ในมือ 

    ปลายหางตาสโนไวท์สังเกตเห็นดอกไม้งามที่บานอยู่ข้างหลังเธอ  เมื่อเธอหันกลับมาเพื่อที่จะชมมันก็พบกับนายพราน  ที่พร้อมจะเอาขวานจามลงมาที่ศรีษะของเธอ  สโนไวท์ตกใจต่อภาพตรงหน้า  เธอได้ร้องขออ้อนวอนต่อเพื่อนรักสมัยเด็ก  แต่แววตาชายหนุ่มกลับไม่มีความเมตตาแต่อย่างใด  มือหนาจับด้ามขวานแน่น  แล้วลงแรงทุ่มสุดกำลังลงบนร่างคนตรงหน้า  หญิงสาวรีบหลบรัศมีจากขวานด้ามใหญ่จนร่างล้มลงบนกองเนินดิน 

    พรานหนุ่มเดินเท้ามาอย่างช้าๆ  เพื่อจะมาซ้ำหญิงสาวอีกรอบ  น้ำตาแห่งความกลัวร่างเล็กไหลพราก  ตัวสั่นเคลือดวงตามองคนตรงหน้าอย่างเว้าวอน  มือเรียวที่สั่นด้วยความกลัวตะกุยไปมาบนพื้น  ทันใดนั้นสโนไวท์ก็คลำมือไปเจอไม้ท่อนใหญ่ขนาดมือ  ใหญ่พอที่จะใช้เป็นของป้องกันตัวได้...

    เธอไม่รอช้าเมื่อเจอโอกาสเหมาะระหว่างที่นายพรานเดินมา  สโนไวท์ฟาดไม้ลงบนหน้าแข้งอีกฝ่ายอย่างแรง  จนนายพรานล้มลงไปกองอยู่กับพื้น  หญิงสาวหยัดตัวยืนขึ้นเหมือนผู้มีชัย  มือบางง้างไม้รอที่จะซ้ำคนที่นอนร้องกับพื้นอย่างโอดโอย  นายพรานมองคนตรงหน้าพร้อมร้องขอชีวิต  แต่สโนไวท์กลับมองอีกฝ่ายอย่างโกรธแค้น  ดวงตาสาวน้อยไร้ความปราณี

    มือเรียวลงไม้บนร่างคนที่ล้มอยู่2..3..4..5..6..7..8..9..10..11  เสียงไม้ที่ตีอย่างไม่ยั้งมือ  ปะปนไปกับเสียงโอดครวนกรีดร้องอย่างเจ็บปวด...

     ทันทีที่สิ้นเสียง  ลมหายใจเฮือกสุดท้ายก็หมดลงเช่นเดียวกัน  สโนไวท์มองคนบนพื้นอย่างเฉยเมย  มือทั้งสองทิ้งไม้ลงบนพื้น  เสื้อผ้าในชุดราตรีสีงามถูกอาบด้วยสีแดงสด  สีของ " เลือด "

     

    ****************************************

    ทุก 1 คอมเม้นคือกำลังใจให้ไรเตอร์เเต่งตอนต่อๆไปนะคะ 

    B B
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×