คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ยุสุเกะ พอส
บทนำ
ฉันเงยหน้ามองคนตัวโต ที่ยืนอยู่อีกฝั่งหนึ่งของรั้วด้วยความอดทน หลังจากที่ฉันต้องนั่งรอเขาเป็นชั่วโมงกว่าเขาจะเดินนวยนาดออกมาจนได้ แต่ก็อย่างว่า ..ฉันไม่ใช่คุณหนูประเภทอาละวาดบ้านแตกเมื่อรออะไรนานๆหรือเมื่อไม่ได้ดั่งใจอะไรซักอย่างหรอกนะ ฉันจึงทำเพียงแค่ ยิ้ม ใช่! ฉันแค่ยิ้ม ให้กับผู้ชายที่ฉันคาดว่า เขาน่าจะเป็นเพียงคนของพ่อ ของปู่ หรืออาจจะเป็นคนของคุณตา เยี่ยงพจมานที่กำลังเดินทางมาถึงบ้านทรายทอง
“หึ อดทนดีนี่”
คนตัวโตที่เขาเพิ่งโผล่มาให้ฉันเห็นหลังจากที่ฉันนั่งรอเขา มากว่า 1 ชั่วโมง เริ่มพูดก่อน ให้ตายเถอะ นี่คือคำพูดของคนที่ปล่อยให้คนอื่นรอเป็นชั่วโมงอย่างเสียมารยาทหรอเนี่ย
“จ้องหน้าฉันทำไม ไม่พอใจ?”
“เปล่า!” ฉันประหม่าเล็กน้อย จึงเลื่อนมือไปจับที่แว่นตาอันใหญ่ แถมยังหนาเตอะของตัวเองอย่างเคยชิน แต่จะว่าไป ฉันแค่มองหน้าเขานะ ไม่ได้จ้องหน้าซักหน่อย เขาช่างเป็นคนที่อารมณ์ร้อนจริงๆ คลับคล้ายคลับคลา ว่าฉันเคยเห็นคนแบบนี้ที่ไหน ..ไม่คุณปู่ ก็คุณพ่อ ..ล่ะมั้ง
“…นี่เธอคงไม่ใช่ไม่รู้หรอกนะ ว่ากำลังจะมาเป็นเมียฉันน่ะ!”
“รู้สิ!” คราวนี้ฉันจ้องหน้าเขาดั่งที่เขาพูดในตอนแรก เมียอย่างนั้นเหรอ ฉันถูกส่งมาอยู่เป็น “เพื่อนคู่คิด” กับเขาต่างหากล่ะ ผู้ชายคนนี้นี่ช่างไม่รู้อะไรเลยจริงๆ
“ไหน ดูหน่อย!” เขาว่าพลางดึงมืออันเย็นเชียบของฉันมาสำรวจ ก่อนจะบ่นอะไรกับตัวเองเล็กน้อย แล้ววิ่งเข้าไปในบ้าน ปล่อยให้ฉันยืนค้างอยู่นอกรั้วบ้านเหมือนกับเมื่อชั่วโมงที่ผ่านมา ที่คนของคุณพ่อที่มาส่ง แทบจะกลับไปทันทีที่ขาของฉันก้าวลงพื้นครบสองข้าง นี่ฉันกำลังจะถูกตัดหางปล่อยวัดจากคนในครอบครัวใช่ไหม
“นิ้วเธอเล็กกว่าผู้หญิงที่ฉันเคยนอนด้วยเยอะ”
ฉันเงยหน้าจากพื้นมองคนที่มายืนอยู่ตรงหน้าฉันในอีกฝั่งหนึ่งของรั้วอีกครั้ง ปรกติฉันมีประสาทสัมผัสที่เร็ว แต่ทำไมฉันถึงไม่รู้ว่าเขาเดินออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่นะ แต่ช่างเถอะ เมื่อตะกี้เขาว่าอะไรนะ คู่นอนเหรอ? น่าเกลียดจัง ฉันค่อนข้างที่จะมีอคติกับผู้ชายที่เห็นผู้หญิงเป็นของเล่นเล็กน้อยน่ะนะ ถึงแม้นี่มันจะยุคสองพันสิบสามแล้วก็เถอะ แต่ฉันยังหลงคิดอยู่เสมอว่าฉันอาศัยอยู่ในยุคเก้าศูนย์ =_=
“เอ้ะ” ร่างกายฉันออกอาการผิดปรกติเล็กน้อย เมื่อเขาเอาอะไรสักอย่างสวมลงบนนิ้วนางข้างซ้ายของฉัน!
“ไม่น่าเชื่อว่ามันจะพอดี แต่ช่างเถอะ ฉันไม่หวงของ แต่อีกสามเดือนข้างหน้า ฉันจะเอาของๆฉันคืนนะ”
“…”
ฉันค่อยๆยกนิ้วนางที่มีสิ่งแปลกปลอมสวมอยู่ดูช้าๆ จะเอาคืนด้วยเหรอ แล้วถ้าฉันไม่คืนล่ะ..แต่ช่างเถอะ ของที่ไม่ใช่ของเราสักวันมันก็คงจะต้องกลับคืนสู่เจ้าของที่แท้จริงอยู่ดี
“เธอคิดว่าไอ้การโยกตัวไปมาแบบนั้น จะทำให้น่ารัก?”
โยกตัวงั้นหรอ…แล้วทำไมเขาถึงได้มีสองหัวอย่างนั้นล่ะ !!!!
ฉันมีชื่อว่า เรญ์ซายน์ ผู้หญิงที่ดันเกิดมามีพ่อเป็นมาเฟียที่ใจดีที่สุดในเมืองไทย มีแม่เป็นดาราดังที่ยังค้างฟ้า มีคุณปู่คุณย่าที่เป็นนักธุรกิจผู้เลื่องชื่อ มีคุณตาเป็นนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่พ่วงตำแหน่งทางการเมืองอีกเล็กน้อย แล้วก็มี พี่ชาย ที่หล่อเหลาอีก 2 คน แต่ก็นั่นล่ะ สิ่งที่ฉันจะบอกก็คือ อย่าหลงรักฉันเพราะพวกเขา แต่จงหลงรักฉัน เพราะฉัน “น่าหลง”
“ถ้าคุณยื่นหน้ามาอีกนิด คุณจะจูบฉันได้เลยล่ะ” ฉันรู้สึกว่าฉันกำลังจะตาย! ฉันนั่งเล่มเกมจ้องตากับ “เขา” มาครึ่งชั่วโมงแล้ว หลังจากที่ฉันฟื้นขึ้นมาจาก การเป็นลม เพราะโดนแดดโดนลมมากเกินไป แต่ฉันว่าที่ฉันเป็นลม น่าจะมาจากการขาดอาหาร..
“แล้วถ้าฉันจะจูบเธอจริงๆล่ะ”
ผู้ชายคนนี้นี่ช่างหน้าไม่อายจริงๆ ..แต่เอาเถอะ ฉันไม่ใช่คนคิดมาก ฉันถึงถูกส่งมาที่นี่ อย่าสงสัยเลยว่าฉันถูกส่งมาทำไมที่นี่ รู้แค่ว่าผู้ชายคนนี้เขาอาจจะมีความสำคัญมากพอ..มากพอที่คุณพ่อจะตัดสินใจส่งฉันมามอบให้กับเขาถึงที่โดยที่เขาไม่ต้องทำอะไรเลย!
“ฉันก็จะจูบคุณตอบ..”
ยังไม่ทันที่ฉันจะพูดได้จบประโยคดั่งที่ตั้งใจจะพูด ริมฝีปากนุ่มๆก็ทาบทับลงมาราวกับจะบดขยี้ฉันให้แหลกลาญ ฉันปล่อยให้เขายึดริมฝีปากของฉันโดยไม่ขัดขืน ฉันไม่จำเป็นจะต้องทำแบบนั้น..ฉันจูบตอบเขาอย่างเชี่ยวชาญ ..อาจจะเชี่ยวชาญกว่าด้วยซ้ำ เพราะฉันรู้สึกว่า ฉันจะเป็นผู้คุมเกมจุมพิตนี้ ในขณะที่เขา ใจเต้นแรงอย่างกับอะไรดี..ฉันกลับไม่ได้รู้สึกอะไรเลย ฉันเลื่อนมือไปจับมือของเขาขึ้นมาทาบบริเวณหัวใจของฉันอย่างเบามือ แค่นี้เขาก็น่าจะรับรู้อะไรบางอย่างแล้ว..
“คุณว่าฉันรู้สึกยังไง”
ฉันกระซิบแผ่วเบา ทว่าฉันแน่ใจว่าเขาได้ยินมันชัดเจนเชียวล่ะ และนี่ถือว่าเป็นการแสดงความรู้จักกันที่ฉันไม่ประทับใจ เพราะมันทำให้ฉันรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะกลายเป็นคนใจร้าย
“!!”
“ยินดีที่ได้รู้จักอย่างเป็นทางการ คุณ ยูสุเกะ พอส J”
“เธอมันยัยนางมาร้าย?”
“นั่นคือคำจำกัดความที่ไม่ตรงกับจุดประสงค์ของเราซักเท่าไหร่นะพอส J”
“ฉันไม่ต้องการสิ่งนั้น”
“แต่ฉันคิดว่ามันถึงเวลาแล้วที่คุณควรจะได้รู้จักมันอย่างจริงจัง!”
อะไรที่ ยูสุเกะ พอส คนนี้ ไม่รู้จักน่ะเหรอ??? “รักแท้” อย่างไรล่ะ!!!! และฉันก็คือผู้รับจ้างส่งรักแท้ แลกกับ รักแท้ของฉันที่มีต่อผู้ชายอีกคน อากีร่า ฟลัว
บทที่ 1
วันนี้เวลาผ่านไปเร็วพอสมควร เพราะเมื่อไม่กี่นาทีก่อนฉันยังยืนอยู่นอกรั้วเก่าๆ และต่อมาฉันก็โดนผู้ชายที่เพิ่งเจอหน้าเป็นครั้งแรกจูบ แล้วตอนนี้ฉันก็กำลังจัดของที่ถูกส่งมาก่อนหน้านี้แล้ว ให้เข้าที่เข้าทาง โดยมี ยูสุเกะ พอส มองดูอยู่ อย่างไม่คลาดสายตา
“ฉันรู้สึกว่าฉันเหมือนนักโทษ”
“และฉันเป็นผู้คุม J”
“คงไม่มีนักโทษกับผู้คุมที่ไหนหลงรักกันหรอกนะ พอส”
ฉันพูดขณะที่มือยังสาละวนอยู่กับการนำเสื้อผ้าออกมาจากกระเป๋า เพื่อแขวนไว้ในตู้ขนาดเล็ก
“เธอนี่เป็นผู้หญิงแบบไหนกัน ครั้งแรกที่ฉันเจอเธอ ฉันยังนึกอยู่เลยว่าเธอเป็นยัยเฉิ่ม โง่ๆ คนหนึ่งที่มากดกริ่งผิดบ้าน”
“คุณไม่ควรจะมองคนจากภายนอก”
แล้วก็ไม่ควรจะด่าฉันโต้งๆ เช่นกัน นี่คือสิ่งที่ฉันอยากจะพูดที่สุดในตอนนี้ล่ะ แต่ฉันแค่คิดว่า ฉันไม่จำเป็นต้องพูด ในสิ่งที่มนุษย์ทุกคนรู้อยู่แล้วในจิตสำนึกของพวกเขา แต่สิ่งที่ฉันได้รับจาก พอส คือ การยักไหล่เพียงครั้งเดียวเท่านั้น
“เอาแว่นทุเรศๆ นั่นทิ้งไปเถอะ”
“ฉันจะเอามันออกจากหน้าฉัน ก็ต่อเมื่อคุณยอมใส่มันแทนฉันเท่านั้น”
“ว้าว นี่เป็นการถ่ายทอดรักแท้แบบไหนกัน ใส่แว่นแทนกันเนี่ยนะ?”
ฉันไม่สนใจรอยยิ้มเหยียดๆจากเจ้าของร่างที่นั่งไขว่ห้างอยู่บนเตียงของฉันอีก ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คนโง่หรอก
เขาเป็นเพียงคนที่พยายามทำให้ตัวเองดูโง่ในสายตาคนอื่นเพื่อที่จะดูคนที่โง่กว่าก็เท่านั้น ดูโหดร้ายใช่ไหมล่ะ
“คุณนอนห้องไหน?”
“ห้องนี้”
“ก็ดี”
ฉันว่าก่อนจะล้มตัวลงนอนบนเตียงนุ่มๆโดยไม่สนใจเจ้าของบ้านที่ไม่ยอมกลับห้องของตัวเองสักทีอีก ถ้าเขาอยากนอน ฉันก็จะให้เขานอนกับฉันยังไงล่ะ
“เธอจะหลับแล้ว?”
“ค่ะ”
“ให้ตาย..เธอเป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำให้ฉันรู้สึกว่าตัวเองไม่มีเสน่ห์นะเนี่ย J”
“…”
ฉันไม่ตอบ แต่หลับตาลงช้าๆ ปล่อยให้ความมืดค่อยๆคืบคลานเข้ามา แต่ก่อนที่จะถึงเวลานั้น ฉันรับรู้ได้ถึงการล้มตัวลงนอนเบาๆของพอส ก่อนที่แขนหนักๆ จะพาดมาที่เอวของฉัน แล้วมีเพียงลมหายใจอุ่นๆรดที่ต้นคอ ฟลัว ยังไม่เคยมีโอกาสได้ใกล้ชิดกับฉันขนาดนี้มาก่อน..ฉันได้แต่หวังว่าความใกล้ชิดจะไม่นำมาซึ่งความผูกพันอันลึกซึ้ง เกินกว่าที่ฉันจะถอนตัวกลับได้…พระเจ้า ขอให้อย่าเป็นเช่นนั้นเลย เพราะฉันคงจะรู้สึกผิดต่อ ฟลัว ไปตลอดชีวิต
“ตื่นได้แล้วค่ะ”
ฉันพูดจาเนิบนาบ ก่อนจะแตะที่ตัวคนไม่ยอมตื่นเบาๆ ไม่น่าเชื่อว่านั่นได้ผล เขาค่อยๆลืมตาขึ้นก่อนจะหลับตาลงไปอีกครั้งอย่างรวดเร็ว เพราะโดนแสงจากผ้าม่านสีทึบที่ฉันจัดการเปิดไว้ต้อนรับแสงตอนเช้าแยงตา..
“หมอนข้างที่คุณกอด มันสำคัญกว่าผู้หญิงที่เดินมาหาคุณถึงเตียงเชียวเหรอ J”
“คุณว่าอะไรนะ!”
คุณเชื่อไหม..ว่าผู้ชายคนนี้เด้งขึ้นจากเตียงทันทีที่ฉันพูดจบประโยค ทำให้ผ้าห่มกองลงมาที่เอว เผยให้เห็นร่างกายช่วงบนที่ไร้ซึ่งผ้าสักชิ้นปกปิด และไม่แน่ว่าท่อนล่างอาจจะเหมือนกัน -_-
“ความจริงแล้ว ฉันไม่จำเป็นที่จะต้องมาปลุกคุณด้วยซ้ำ”
“…..ความจริงแล้ว ฉันควรจะนอนกับเธอที่ห้องนั้นต่างหากล่ะ!”
พอสว่าอย่างเริ่มจะหัวเสีย แต่นั่นก็เป็นนิสัยปรกติของเขาอยู่แล้ว จากฐานข้อมูลที่ฉันได้มาน่ะนะ
“แล้วทำไมคุณไม่นอนล่ะ”
“เธอ..จำไม่ได้เหรอยัยสมองกลวง ว่าเธอถีบฉันตกเตียงตั้งกี่ครั้ง? นี่ถามจริงเถอะคืนแรกของคู่ใหม่ปลามันอย่างเราเนี่ยเราควรจะทำอะไรกัน นั่งถีบอีกฝ่ายจนตกเตียงเนี่ยนะ พระเจ้า ..ไม่มีผู้หญิงคนไหนทำแบบเธอแน่ๆ ช่วยบอกฉันที ว่าฉันไม่ได้ฝันไป”
ฉันถอนหายใจต่อหน้าเขาอย่างเปิดเผย ฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะทำร้ายเขาซักนิด ก็แค่ไม่ชินที่มีผู้ชายมานอนกอดข้างๆ แถมกอดแน่นอย่างกับอะไรดี นี่เขาหวังอะไรกับฉันนอกจากความสัมพันธ์เชิงชู้สาวรึเปล่า เช่น อยากฆาตกรรมฉัน..ด้วยการกอดให้ฉันหายใจไม่ออก
“ทำฉันข้าวต้มไว้ให้คุณแล้ว เสร็จธุระส่วนตัวแล้ว ตามลงไปนะคะ”
“อะไร นี่เข้ามาแล้วจะออกไปง่ายๆเหรอ แล้ว..นี่เธอยังมาถอนหายใจอะไรเห้อๆ ห้าๆ ทิ้งไว้ในห้องฉันอีก เก็บออกไปด้วยล่ะ อยากจะไปก็รีบๆไปซะ ฉันชักจะเบื่อขี้หน้าเธอเต็มที”
เขาว่าก่อนจะม้วนตัวเองกับผ้าห่มสีดำของตัวเองแล้วกลิ้งไปอยู่อีกฝั่งหนึ่งของเตียง ทำปากยื่นๆ .. ฉันถอนหายใจทิ้งไว้ในห้องเขาอีกครั้ง …เขาช่างแตกต่างจากเมื่อวานซะเหลือเกิน ตอนแรกฉันนึกว่าเขาจะเป็นผู้ชายประเภท โหด ดิบ เถื่อน เหมือนในละครน้ำเน่าซะอีก แต่พอมาคิดอีกที คนที่ฉันพบเมื่อวานอาจจะเป็นเพียงละครฉากหนึ่งที่เขาต้องการที่จะให้ฉันเห็น บางทีเขาก็เป็นแค่ผู้ชายที่ยังไม่รู้จักโตเท่านั้นเอง..
“เธอรู้ไหมว่าหน้าเธอจืดซะยิ่งกว่าเต้าหู้เน่าซะอีก”
ฉันเงยหน้าขึ้นมองคนที่กำลังตั้งอกตั้งใจตักข้าวต้มเข้าปาก ..หน้าฉันก็เป็นแบบนี้มาตั้งแต่แรกแล้ว ฉันมีผิวขาวซีด ฉันไม่เคยแตะลิปสติก ไม่เคยแต่งหน้า..แต่มันดูเน่าตรงไหน
“แล้วนายรู้ไหม ว่าหน้านายมันเข้มซะจนเหมือนโจรป่า”
“หน้าอย่างฉันเนี่ยนะโจรป่า เฮอะ เธอนี่มันไร้รสนิยมจริงๆ”
เขาว่าก่อนจะเบะปากอย่างเปิดเผย แววตาเหยียดดูถูกลึกๆ แต่เขาก็ทำเพียงเท่านั้น และเพียงแวบเดียว
“แล้วรสนิยมของนายเป็นแบบไหนล่ะ สวย?” เขามองสบตา มุมปากเหยียดยิ้มนิดๆ ราวกับจะบอกว่า ‘แน่นอน’
“ปรกติฉันไม่เคยคบใครที่มองทางไหนก็ไม่มีจุดเด่นเหมือนเธอหรอกนะ เพราะฉะนั้นเธอจงภูมิใจได้เลย..”
“ปรกติฉันก็ไม่เคยคบใครที่ทำตัวไร้ค่าเหมือนนายมาก่อนเช่นกัน กรุณาภูมิใจไว้ด้วย”
ฉันพูดแทรกขึ้นโดยไม่ปล่อยให้เขาพล่ามเรื่องไร้สาระอีกต่อไป ฉันกำลังสับสนขั้นรุนแรง และฉันไม่เคยเป็นเช่นนี้มาก่อน มอบความรักให้เขาอย่างเต็มที่ นี่คือหน้าที่ของฉันงั้นเหรอ บ้าที่สุด!
“ว้าว นี่เธออารมณ์เสียเพราะรับไม่ได้ใช่ไหมเนี่ย J”
“ก็คงจะอย่างนั้น ไม่มีคนปรกติที่ไหนที่รู้สึกเกลียดใครแล้วมานั่งทำหน้าซื่อ ยิ้มแย้มเหมือนนายกันหรอก”
ฉันพูดตามตรง เพราะการโกหกไม่ใช่วิสัยของฉัน..แต่เขาก็ตอบกลับมาเพียงแค่ เสียงหัวเราะที่ค่อนไปทางหัวเราะเยาะ เท่านั้น
“นี่เธอเกลียดฉันเหรอ”
ดวงตาเขาหลุบลง ราวกับกำลังคิดอะไรบางอย่าง และแน่นอน ไม่ใช่เรื่องดี
“ไม่มีความจำเป็นที่ฉันจะต้องโกหกนาย”
“แต่เธอมีหน้าที่มอบความรักทั้งหมดที่เธอมีให้กับฉัน อย่าลืมสิสาวน้อย”
มืออยู่ไม่สุขของพอส ย้ายมาแตะที่ริมฝีปากของฉันเบาๆ และยังคงวนเวียนอยู่อย่างนั้น ให้ตาย..ฉันไม่อาจที่จะเป็นคน ‘แสนดี’ อะไรนั่น ตามคอนเซปของ ‘คนที่ส่งฉันมา’ ได้อีกต่อไป ฉันปัดมือเขาทิ้งอย่างไม่ใยดี คนแบบนี้..เทียบกับฟลัว คนรักของฉันไม่ได้เลยสักอย่าง แต่ทุกคนก็ยังเลือกที่จะยกฉันให้เขา..ฉันไม่เคยรู้สึกสงสารตัวเองเท่านี้มาก่อน
“ฉันจะมอบความรักให้นาย ก็ต่อเมื่อนายมอบความรักทั้งหมดของนายมาให้ฉัน ไม่เคยมีของฟรีในโลก พอส ถึงแม้ว่าวันหนึ่งฉันจะให้ความรักของฉันแก่นาย แต่ฉันก็ไม่ใช่ผู้หญิงของนายอยู่ดี ”
“งั้น…เธอเป็นผู้หญิงของ อากีร่า..ฟลัว งั้นสิ J”
!!!!!!!
ความคิดเห็น