ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    THE LOST

    ลำดับตอนที่ #1 : โลกมายา

    • อัปเดตล่าสุด 26 ส.ค. 56


    บทที่ 1

                                                                       โลกมายา

    หลายมุมมองบนโลกล้วนแตกต่างกันด้วยสภาพสังคม  ศาสนา  และครอบครัว บางครอบครัวร่ำรวยมีเงินทองใช้ ใช้ชีวิตอยู่กับแสงสี ความบันเทิง ตรงกันข้ามกับคนกลุ่มหนึ่งในสังคม พวกเขามีชีวิตที่ต้องหาของข้างถนน ของที่ใครๆเขารังเกียจ บ้างก็ทำงานผิดกฎหมายเพื่อแลกกับเงินมาจุนเจือครอบครัวของพวกเขาและอีกหลายครั้งที่พวกเขาโดนประณามว่า ไอ้พวกสารเลว แต่คนเหล่านั้นไม่เคยรู้เลยว่าสิ่งที่พวกเขาทำไปนั้น ไม่ใช่แค่การประณามแต่มันคือ เพิ่มไฟแค้นให้ใครคนหนึ่ง

     วันที่ 31 ธันวาคม2556 เป็นวันที่ทุกคนต่างมีความสุขอยู่กับแสงสีอันตระการตาที่จะเกิดขึ้น  แต่ในสถานที่แห่งหนึ่งที่ๆทุกคนต่างพากันเรียกว่า  แหล่งกักขังเดนสังคม  ที่แห่งนี้เป็นที่คุมขังนักโทษที่ก่ออาชญากรรมและคดีต่างๆที่ร้ายแรง  และ เมฆา ก็เป็นหนึ่งในนักโทษเดนตายพวกนั้น เมื่อ12 ปีก่อนเมฆาได้ทำงานผิดกฎหมายอย่างหนึ่งนั้นก็คือการค้ายาเสพติด ความจริงเขาก็ไม่ได้อยากทำงานสกปรกอย่างนั้น แต่ด้วยความซื่อและฐานะทางบ้านที่ยากจน เขาจึงต้องทำงานนี้ แต่รู้ไหมว่าเมฆาติดคุกได้อย่างไร 

    วันที่ 30 ธันวาคม 2544

                

                    มีชายคนหนึ่งมาเสนอสิ่งที่ถ้าเป็นคุณ  คุณก็อาจจะทำมันเหมือนเมฆาก็ได้ ชายคนนั้นว่าจ้างเมฆาให้ส่งของให้เขาแต่เขาบอกเมฆาว่ามันคือกล่องขนมผิดกฎหมายโดยให้ค่าส่งของนั้นถึง 1000 บาท และด้วยความซื่อประกอบกับความโง่ของเมฆา เขารับงานนั้นแทบจะทันทีที่ชายปริศนาคนนั้นพูดจบ  เมฆารับกล่องขาวที่มีของอยู่ด้านใน แต่เขาไม่ได้ใส่ใจเลยว่าอะไรอยู่ข้างใน เขาหวังแต่ว่าเมื่อทำงานนี้จบเขาจะมีเงินมากพอที่จะพาน้องชายของเขาไปหาหมอ เมฆาเดินทางตามแผนที่ที่ชายคนนั้นให้มา จนมาพบกับตำรวจที่เดินตรวจความเรียบร้อยตามปกติ ทันใดนั้นเขาก็ฉุกคิดถึงคำพูดของชายปริศนาได้ว่า ขนมผิดกฎหมาย อย่าให้ตำรวจจับได้เด็ดขาด เมื่อเขานึกขึ้นได้เขาก็ออกอาการลุกลี้ลุกลนจนเป็นที่ผิดสังเกต นายตำรวจคนนั้นจึงเดินเข้ามาถามเขาว่า เป็นอะไรด้วยความกลัวจึงรีบตอบว่า เปล่าเมฆาตอบ  เหงื่อเม็ดเล็กผุดขึ้นเต็มใบหน้า แต่ทันใดนั้นตำรวจก็ถามแบบตรงประเด็นที่เมฆากลัว  กล่องนั่นกล่องอะไร”  ตำรวจถามพร้อมชี้นิ้วไปที่กล่องสีขาวที่เมฆาถืออยู่  ไม่ทันที่เมฆาจะตอบ ตำรวจก็ได้เอื้อมมือไปหยิบกล่องที่อยู่ในมือของเขาทันที   ทันใดนั้นสัญชาตญาณของเขาบอกให้รีบหนี เมื่อเขารวบรวมสติได้ เขาได้โยนกล่องขึ้นไปบนอากาศทำให้ตำรวจชะเง้อคอมองตาม  เมื่อสบโอกาสเขาก็กำหมัดแน่นแล้วเหวี่ยงเข้าไปที่ใบหน้าของตำรวจอย่างจัง ดัง ปั่ก!! ตำรวจคนนั้นลมลงไปนอนกองกับพื้น เมฆาใช้เสี้ยวเวลานั้นหันหลังแล้ววิ่งไปตามตรอกของซอยแคบๆที่เขาไม่คุ้นเคย เมื่อตำรวจคนนั้นได้สติกลับมาเขาก็ส่งสัญญาณวิทยุเรียกกำลังเสริม

     ขอกำลังเสริมจับผู้ต้องสงสัย เป็นชายหนุ่มสูงราว 175 เซนติเมตร ผมสีดำ ตาคม คิ้วเข้ม ผิวสีแทนลักษณะผอมสูง                   ที่ซอย  13”     

    เมฆาวิ่งอย่างไร้จุดหมายผ่านมาไม่ถึง5นาที ตำรวจที่เรียกมาจำนวนหนึ่งได้วิ่งเข้าไปไล่ล่าเมฆาอย่างทันท่วงทีด้วยความเหนื่อยล้าและความตกใจเขาจึงพลาดท่าเสียทีให้ตำรวจจับได้ เขาคิดว่าเขาแค่ถือขนมผิดกฎหมายคงไม่มีโทษอะไรหนักหนา   แต่เปล่าเลยเมื่อตำรวจเปิดกล่องสิ่งที่อยู่ในนั้นคือยาบ้าจำนวน10เม็ด เขาตกใจมากและแทบล้มลงไปนอนกับพื้น เมฆาให้การว่า เขาไม่รู้ว่าสิ่งในนั้นคือยาบ้า เขาคิดว่ามันเป็นแค่กล่องขนมแค่นั้นมีคนจ้างเขามา เมฆาตอบทุกอย่างตามความจริง แต่ตำรวจที่ไหนจะเชื่อ เมฆาถูกตัดสินจำคุก 12 ปี ก่อนที่เขาจะได้ถูกตัดสินจำคุกนั้นเขาได้ร้องไห้ครวญครางกับตำรวจว่าน้องชายเขาป่วย ไม่มีใครดูแลน้องชายเขาแน่ถ้าเขาติดคุก  ตำรวจพูดตอบกลับไปว่า          “ คนใกล้เข้าคุกน่ะทำอะไรก็ได้เพื่อให้ตัวเองรอดจากการเข้าไปจองจำ ใครจะไปเชื่อแก ไอ้เดนสังคม สิ้นคำพูด   นายตำรวจอีกสองคนก็เข้ามาลากเมฆาไปที่กักขัง  เขาทั้งเจ็บปวดใจและเศร้าแต่มันก็สายเกินแก้เสียแล้ว….

                    วันนี้เป็นวันที่ 31 ธันวาคม 2556  เมฆาได้รับการปล่อยตัวจากสถานที่เดนตายนั่น ตอนนี้เขาอายุ 32ปีแล้ว แต่ใบหน้าของเขาช่างดูหล่อเหลาไม่เปลี่ยนแต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือดวงตาที่เต็มไปด้วยความแค้นที่ฝังลงไปถึงรากจิตใจของเขา

                    เมฆาเดินตามทางที่คุ้นเคยถึงแม้สิ่งรอบข้างมันเปลี่ยนไปมันดูดีจนเขาเองก็สงสัยว่าเขามาถูกทางรึเปล่า ถ้าให้พวกคุณเดาเชื่อว่าคุณอาจเดาไม่ถูกว่าเมฆากำลังจะไปไหน  แต่จะเฉลยให้ก็ได้ เขากำลังเดินทางกลับสลัมโทรมๆของเขา  เมื่อเขาเดินมาถึงที่ๆเขาเคยอยู่เขาพบว่ามันกลายเป็นโรงแรมหรูสูงเฉียดฟ้า เขาจึงเดินเข้ามาที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งใกล้กับโรงแรมเพื่อมาสั่งอาหารมากินและสอบถามเรื่องราว  เขามีเงินติดตัวอยู่ สองร้อยกว่าบาท เมื่อเขากินข้าวเสร็จเขาจึงเรียกพนักงานมาจ่ายเงินและได้สอบถามพนักงานว่า  น้องครับแต่ก่อนตรงนี้มันเป็นสลัมนี่ครับแล้วทำไมตอนนี้ถึงเป็นแบบนี้ได้ล่ะครับ”  เมฆาถามด้วยใบหน้าที่ค่อนข้างเป็นมิตร เด็กเสริฟอาหารพูดด้วยความแปลกใจว่าทำไมชายคนนี้ถึงถามเขาเรื่องนี้ทั้งๆที่ข่าวก็ออกจะดัง  เด็กเสริฟคนนั้นตอบเมฆาว่าอ้าวพี่ ไปอยู่ไหนมาเนี่ยถึงไม่รู้ว่าสลัมนั่นน่ะถูกไฟไหม้เขาว่ามันเป็นการไล่ที่น่ะพี่แต่ตำรวจจับไม่ได้  คนที่อยู่ไหนสลัมโดนไฟครอกตายหมดเลยนะพี่ เนี่ยเพิ่งมีนายทุนต่างชาติมาซื้อที่แล้วสร้างโรงแรม  ผมยังขนลุกไม่หายเลยพี่ตายกันทั้งสลัมไม่มีใครรอดเลยสักคนผมว่าไอ้โรงแรมนี้แน่ๆเลยที่เป็นคนวางเพลิง สิ้นคำพูดของเด็กเสริฟเมฆาเหมือนคนล้มทั้งยืน เขาไม่มีที่ไป เขาไม่มีน้องชาย ไม่มีพ่อแม่ เพราะพวกเขาตายหมดแล้ว  เขาวางเงินบนโต๊ะร้อยบาทแล้วเดินออกจากร้านด้วยสายตาที่เหม่อลอย อย่างไร้จุดหมาย เขาเสียใจมาก แต่เพราะชีวิตถ้ายังไม่ตายก็ต้องสู้ต่อ เมื่อเขาคิดได้เขาจึงไปสมัครงานที่โกดังแห่งหนึ่งด้วยตำแหน่ง รปภ  แต่ว่าเขาเคยเป็นคนที่ถูกติดคุกเพราะข้อหาค้ายามาก่อนจึงไม่มีที่ไหนรับเขาเลย ซ้ำยังด่าเขาด้วยวาจาอันหยาบคาย  ตอนนี้เมฆาหมดหวังและไร้ที่ไป เขาเดินตามทางของถนนมาเรื่อยเห็นหญิงสาวคนหนึ่งกำลังด่าและทำร้ายคนเก็บขยะอย่างไม่ใยดี จึงทำให้เขาเกิดความคิดว่า เมื่อตอนเขาเด็กเขาก็เคยเก็บขยะและเคยโดนดูถูก เขาเคยสัญญากับตัวเองว่าเขาจะโตขึ้นและทำให้คนพวกนั้นยอมรับในตัวของเขาให้ได้ แต่มันก็คงเป็นไม่ได้เพราะตอนนี้งานทำเขายังไม่มีเลย ในขณะนั้นเองคำพูดของคนที่ดูถูกเขาก็ดังกึกก้องขึ้นมาในสมอง   ไอ้สารเลว  ไอ้เดนนรก  ไอ้ชั่ว ….     ทันทีไฟแค้นก็ถูกประทุขึ้นมา เมฆาพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา แต่เปี่ยมด้วยความแค้น  คนอย่างพวกแกคนที่ดูถูกคนที่ต่ำกว่าตายซะได้ก็ดี  ทันใดนั้นเขาเหลือบไปเห็นเหล็กแหลมที่ถูกทิ้งไว้ข้างทางเขาเอื้อมมือไปคว้าเหล็กนั่นและเก็บเข้าชายกางเกงอย่างใจเย็นแต่สายตาของเขากลับตรงกันข้ามดวงตาของเขาเหมือนมีไฟทีสะสมมานานนับ10กว่าปี เขาเดินไปที่หญิงสาวนั่นและพูดว่า คุณครับดูถูกเด็กคนนั้นทำไมครับเขาทำอะไรผิด  หญิงสาวหันมาแล้วตอบว่า  ก็ไอ้เด็กโสโครกนี่มันน่ารังเกียจขัดลูกหูลูกตาหญิงสาวตอบอย่างไม่ใยดีแต่ยังไม่จบแค่นั้น หญิงสาวได้จบบทสนทนาด้วยคำว่า แกมาเสือกอะไรด้วย  คำพูดที่หญิงสาวไม่ได้คิดหน้าคิดหลัง เหมือนเป็นการ สุมฟืนใส่กองไฟในใจของเมฆา  เมื่อเมฆาได้ยินคำนั้น เขาก็บีบคอหญิงสาวและกดให้ล้มลง เมฆาพูดกับเด็กจรจัดที่เห็นเหตุการณ์พร้อมหยิบเงินที่เขามีอยู่ทั้งหมดและว่า พี่ให้น้องคนเก่ง ไม่ว่าใครจะว่าน้องยังไงน้องต้องสัญญาว่าน้องจะเข้มแข็ง แต่ตอนนี้ไปจากที่นี่ก่อนนะเด็กจรจัดคนนั้นยังเด็กเขาคงไม่เข้าใจในสิ่งที่เมฆาพูด เด็กคนนั้นยื่นมือไปรับเงินจากเมฆา   สายตาที่เมฆามองเด็กน้อยตนนั้นช่างอ่อนโยนและบริสุทธิ์ เมื่อเด็กคนนั้นเดินหายลับไปจากทาง  เมฆากลับมามองหญิงสาวคนนั้นด้วยสายตาชิงชังและอาฆาต ตอนนี้หญิงสาวถูกเมฆาบีบและกดลงให้นอนลงกับพื้น เธอพยามร้องขอชีวิต เธอพูดว่า อย่าทำอะไรฉันเลย ฉันกลัวแล้ว อย่าทำฉันเลยนะ”   เมฆาตะคอกกับไปด้วยอารมณ์โกรธและชิงชัง  มึงหุบปาก!! ตอนนี้มึงทำเป็นมาขอชีวิตจากกู แต่ตอนมึงด่าเด็กคนนั้น มึงเคยคิดบ้างมั้ย คนอย่างมึงไม่สมควรมีชีวิตอยู่บนโลก!!!”   สิ้นเสียงของเมฆาเขาลงไปนั่งคร่อมร่างของหญิงสาวพร้อมหยิบเหล็กแหลมจากกระเป๋า เมฆาค่อยๆจับเหล็กแหลมเสียบจากแก้มด้านซ้ายของหญิงสาวทะลุมายังอีกฝั่งอย่างช้าๆ หญิงสาวกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด เมฆาจึงดึงเหล็กออกจากแผลอย่างรวดเร็วทำให้เกิดรอยแผล ฉีกขาด หญิงสาวกรีดร้องอย่างเจ็บปวดอีกครั้ง  เลือดสีแดงข้นไหลทะลักออกมาจากรอยแผลอย่างมากมาย เมฆามองด้วยสายตาเหยียดหยาม เขาเอื้อมมือเข้าไปจับหน้าอย่างแผ่วเบาของหญิงสาวพร้อมพูดกับเธอว่า ฉันรู้ว่าแกทรมาน เอาเถอะอย่างน้อยเธอก็เป็นคนเหมือนกับฉัน ฉันจะช่วยให้แกตายเร็วขึ้นเอง!”  สิ้นเสียงของเมฆา เขาก็ใช้เหล็กแหลมที่ชุ่มเลือดทิ่มลงไปกลางหน้าผากของหญิงสาวอย่างไร้ความปราณี คราวนี้หญิงสาวไม่มีโอกาสได้ร้องครวญคราง  เพราะเมื่อเหล็กนั่นเจาะผ่านหัวของเธอมาเธอก็ไม่สามารถรู้สึกอะไรได้อีกเลย…  เมฆายืนขึ้นและเดินออกมาห่างจากร่างของหญิงสาวไม่เท่าไหร่ เขาก็พูดกับตัวเองว่า แกทำถูกแล้วเมฆาไอ้คนพันนั้นอยู่ไปก็รกโลกเมฆาเดินเข้าไปหยิบเงินจากกระเป๋าหญิงสาวซึ่งมีอยู่มากพอประมาณ  และเขาก็ทำสิ่งหนึ่งด้วยการควักเหรียญบาทจากกระเป๋าของเขาไปใส่ไว้ในมือหญิงสาวอย่างฉันให้แก  เมฆาพูด เขาไม่สะพรึงกลัวร่างที่ตายอย่างน่าเวทนาซึ่งมาจากฝีมือของเขา  ตอนนี้เขาพบกับสิ่งที่ทำให้เขาสามารถมีชีวิตอยู่ได้โดยได้ทำตามความต้องการและแค้นของเขา เมฆาได้พูดว่า                                                           

    ใครที่ดูถูกและทำชีวิตกูพินาศพวกมึงต้องชดใช้อย่างสาสม

                    ขณะนี้พบร่างของหญิงสาวนอนจมกองเลือด  ตำรวจสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นโจรปล้นแต่หญิงสาวผู้นี้ขัดขืนจึงถูกฆ่าปิดปาก แต่ที่น่าสงสัยคือ ที่มือซ้ายของผู้ตายมีเงินอยู่1บาทโดยที่มายังไม่ทราบโดยแน่ชัด …  เสียงข่าวดังขึ้นจากโทรทัศน์กลางร้านอาหารแห่งหนึ่ง  ตามาด้วยเสียงผู้คนวิจารณ์กันอย่างสารพัด  ไอ้โจรนั่นต้องเป็นโรคจิตแน่ๆเลยถึงฆ่าได้โหดเหี้ยมขนาดนี้   เสียงชายคนหนึ่งคุยกับเพื่อนของเขา  ในขณะเดียวกันเมฆาก็เดินมาซื้ออาหารที่ร้านนั้นพอดี  เขาสั่งอาหารและยืนรออยู่  พ่อค้าเห็นเมฆายืนนิ่งไม่พูดอะไรจึงเปิดบทสนทนาด้วยข่าวที่กำลังเกิดขึ้น  คนสมัยนี้มันเลวจริงๆนะครับเอาเงินเขาไปไม่พอยังฆ่าเขาอีกไอ้โจรนั่นมันคงใจชั่วช้าสามานมาก  พ่อค้ากล่าวกับเมฆา แต่แทนที่เมฆาจะตอบเขากลับแสดงสีหน้าไม่พอใจ จึงทำให้พ่อค้าต้องปิดบทสนทนาในตอนเดียว  เมฆายืนมองโทรทัศน์ที่กำลังประกาศข่าวซึ่งเกิดจากฝีมือของเขาเอง คนพันนั้นตายซะได้ก็ดี  เมฆายื่นเงินพร้อมกับรับกล่องอาหารโดยไม่สนใจเงินทอน เขาเดินลัดเลาะซอยเข้ามา จากถนนใหญ่ที่มีผู้คนพลุกพล่านในตอนนี้มีเพียงเขาที่เดินอยู่บนถนนที่สองข้างทางเต็มไปด้วยหญ้ารกและสูงปกปิดไฟจากถนนใหญ่จนเกือบหมด จนมาถึงบ้านหลังหนึ่งที่สภาพบ้านทั้งเก่าและทรุดโทรมอย่างมากเขาเดินเข้าไปในบ้าน ที่นี่คือที่กบดานของเขา ในบ้านหลังนั้นเต็มไปด้วย บุคคลที่เขาต้องการแก้แค้นเขาไม่มีเงินมากพอที่จะซื้อกล้องถ่ายรูปแต่เขาก็สามารถวาดรูปได้อย่างยอดเยี่ยม หนึ่งในนั้นเป็นรูปของ ประธานบริษัท
    ผู้ก่อตั้งโรงแรมที่ทับสลัมของเขานั่นเอง

                   

     

     


                                                         

                   

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×