"กิลด์"
สมาคมที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อรวบรวมผู้คนที่มีความฝันร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นการผจญภัย การปกป้อง การค้าขาย หรือแม้กระทั่งช่วยเหลืองานเบ็ดเตล็ดทั่วไป ในปัจจุบัน "กิลด์" ถูกแยกออกเป็นสองประเภทหลักคือ:
"กิลด์การค้า"
เน้นไปทางการค้าขายแลกเปลี่ยน สมาชิกส่วนใหญ่ไม่ถนัดการต่อสู้ ทำให้เกิดความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับกิลด์นักผจญภัยที่ช่วยคุ้มครองพวกเขาและสินค้าระหว่างการเดินทาง
และ
"กิลด์นักผจญภัย"
กลุ่มผู้ที่ถนัดการต่อสู้ แต่ไม่ค่อยมีหัวทางการค้า ทว่าความร่วมมือกับกิลด์การค้าทำให้ทั้งสองฝ่ายสามารถพึ่งพาซึ่งกันและกันได้ แม้จะยังมีกิลด์บางกลุ่มที่พยายามขูดรีดอีกฝ่ายอยู่เสมอ
จนในที่สุด กิลด์ประเภทที่สามก็ได้ถือกำเนิดขึ้น
"กิลด์แห่งความมืด"
กิลด์นอกกฎหมายที่ก่ออาชญากรรมทุกรูปแบบ ตั้งแต่ปล้น ฆ่า ค้าทาส ปลุกปั่นสงคราม ไปจนถึงการค้ายาเสพติด พวกเขาคือจุดเริ่มต้นของ "Guild War" ครั้งแรก ไฟสงครามแผ่ขยายไปทั่วทุกสารทิศ ทำลายชีวิตผู้บริสุทธิ์มากมาย และทำให้หลายอาณาจักรต้องยื่นมือเข้ามาแทรกแซง ทว่า สงครามยืดเยื้อนานถึงหนึ่งปี
กระทั่งในท่ามกลางความมืดมิดของสงคราม ธงสีน้ำเงินจรัสแสงได้โบกสะบัดขึ้นกลางสนามรบ กลุ่มนักผจญภัยที่รวมตัวกันภายใต้แสงจันทร์สีเลือด พวกเขาคือความหวังสุดท้ายที่ปรากฏในห้วงเวลาที่เลวร้าย
นักผจญภัยผู้กล้าหาญทั้ง 7 คน ปกปิดใบหน้าด้วยหน้ากากตัวตลกร้องไห้ แต่ละคนสวมชุดคลุมสีดำสนิท ยกเว้นชายและหญิงคู่หนึ่งที่สวมเสื้อคลุมยาวสีขาว ตะเข็บปักด้วยเส้นไหมทอง หญิงสาวคนนั้นถือดาบเก่า ๆ ไร้คมที่ดูเหมือนจะหักได้ทุกเมื่อ แต่เธอกลับใช้อาวุธนั้นอย่างเชี่ยวชาญ ทั้งเจ็ดคนต่อสู้อย่างดุเดือด และในที่สุด แสงสีน้ำเงินก็แผ่กระจายไปทั่วสนามรบ ยุติสงครามกิลด์ด้วยชัยชนะของกิลด์นักผจญภัย
"กิลด์ผู้พิทักษ์" ตำนานที่เคยสั่นสะเทือนวงการนักผจญภัยทั่วโลก อาณาจักรต่าง ๆ ล้วนรับรู้ถึงความยิ่งใหญ่ของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นภารกิจล่ามังกร หรือการหยุดสงครามกิลด์ ภายใต้การนำของหัวหน้ากิลด์ ผู้ได้รับฉายาว่า "ดาบปีศาจแห่งสงคราม" เขาคือผู้ที่สามารถต่อกรกับศัตรูนับไม่ถ้วนและนำกิลด์ไปสู่ชัยชนะครั้งแล้วครั้งเล่า
แต่...นั่นเป็นเพียงเรื่องราวในอดีต
ปัจจุบัน "หัวหน้ากิลด์" ผู้ยิ่งใหญ่คนนั้นกลับใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย นั่งเหยียดกายบนเก้าอี้ตัวโปรดในห้องทำงาน จิบชาช้า ๆ สายตาเหม่อมองท้องฟ้านอกหน้าต่าง
"พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน..."
เป็นคำพูดที่ทุกคนในกิลด์คุ้นเคย
นักผจญภัยรุ่นใหม่ที่เข้ามาในกิลด์ต่างงุนงงกับท่าทางเฉื่อยชาและคำพูดของหัวหน้ากิลด์ บ้างตั้งคำถามว่าเขายังมีความสามารถอยู่หรือไม่ บ้างก็เชื่อว่าตำนานของเขาเป็นเพียงเรื่องแต่งเพื่อเพิ่มชื่อเสียงให้กิลด์
แต่ยังมีไม่กี่คนที่รู้ความจริง ในยามที่ความมืดเข้าครอบงำ และเมื่อศัตรูที่เกินกว่าจะแข็งแกร่งปรากฏขึ้น หัวหน้ากิลด์ผู้นี้ยังคงยืนหยัดในสนามรบ พร้อมดาบไร้คมในมือ ดาบที่ไม่มีใครล่วงรู้ถึงพลังที่แท้จริงของมัน...
และตำนานนั้น...ยังคงรอวันที่จะถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้ง
" เดี๋ยวเถอะ! ลีดเดอร์คะ! "
เสียงของหญิงสาวในชุดเครื่องแบบสีขาว เสื้อแขนยาวมีปกคอสูง สายคาดเอวสีแดง ตามแนบเย็บถูกด้ายสีทองร้อยทับดูสวยงามรวมถึงชายเสื้อด้านหน้าก็มีการใช้ด้ายสีทองเย็บตามรอยดูสวยงามเช่นกัน แต่ด้านหลังของตัวเสื้อได้ปล่อยยาวลงมาปกปิดขาของเธอจากด้านหลังช่วยคุ้มกันไม่ให้แอบสอดส่อง โดยส่วนหางของเสื้อนั้นจะมีสีดำผิดจากส่วนหน้าที่เป็นสีขาว กระโปรงทรงเอสั้นเหนือหัวเข่าขึ้นมาเล็กน้อยแต่ยังมีถุงน่องและรองเท้าสีดำที่ยาวขึ้นมาเกือบถึงหัวเข่าช่วยให้ยังดูมีความเรียบร้อยอยู่ เส้นผมสีบลอนเงารวบเป็นหางม้าพร้อมกับแว่นตาสีดำช่วยเสริมการมองเห็นให้ดวงตาสีฟ้าได้เห็นภาพลีดเดอร์จอมอู้ของเธอกำลังทำตัวไม่เหมาะสมอีกแล้ว
" เอ๋..? ลิซ่า.. ลีดเดอร์น่ะไม่ได้กำลังอู้นะ แต่กำลังมองไปถึงอนาคตอันแสนไกลต่างหากล่ะ! "
พอกล่าวจบเจ้าตัวก็ยิ้มอย่างภาคภูมิใจ
" คุณควรออกไปทำงานได้แล้วนะคะ สมาคมเรียกตัวไปหลายครั้งแล้วเรื่องงานที่ไม่คืบหน้าซักทีนั่นน่ะ "
" ก็ส่งคนไปช่วยแล้วนี่นา แล้วทำไมลีดเดอร์ผู้น่าสงสารจะต้องไปเองด้วยล่ะ "
เธอแสดงสีหน้าดูกังวลออกมาก่อนจะหยิบใบรายงานที่ลงตราประทับของอาณาจักรอาร์คและสมาคมกิลด์
" สมาคมกิลด์ "
หลังจากเหตุการณ์ Guild War กิลด์การค้าและกิลด์นักผจญภัยได้จัดตั้งกลุ่มตัวแทนเพื่อสร้างจุดร่วมของการแก้ปัญหาหรือที่เรียกอีกชื่อว่า " สภาสมาคมกิลด์ "
" อาณาจักรอาร์ค "
อาณาจักรเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ทางตอนกลางของทวีปและเป็นที่ตั้งของกิลด์ผู้พิทักษ์หรือที่รู้จักกันในนามของ " Guardian "
" เอาน่า~ เดี๋ยวฉันในวันพรุ่งนี้ก็ไปเองนั่นแหละ~ "
เขายังคงสบายใจและค่อยๆเอนกายลงบนพนักพิงก่อนจะจิบชาร้อนๆอย่างสบายใจไม่รู้ร้อนรู้หนาว
" ไม่ใช่ว่าวันก่อนคุณก็พูดแบบนี้หรอคะ? เมื่อวานก็ด้วย "
" ไม่เลยๆ ตัวฉันในวันก่อนกับเมื่อวานน่ะมันเป็นพวกใช้ไม่ได้ แต่ตัวฉันในวันพรุ่งนี้น่ะ จะต้องเป็นคนที่พวกเธอเฝ้ารอคอยแน่นอน! อื้มๆ! "
เลขาสาวที่เห็นที่ทีแบบนั้นเธอจึงตะคอกเสียดังลั่น
" ไปทำงานซักทีเถอะค่ะ!!!! "
จนแล้วจนรอดลีดเดอร์ผู้น่าสงสาร(ในความคิดของเขาเอง) ก็ต้องฝืนสังขารออกจากสำนักงานใหญ่อย่างเลี่ยงไม่ได้
" ช่วยไม่ได้ล่ะนะ... งั้นก่อนอื่นก็ต้องไปทำงานที่กิลด์สินะ... "
เขาอมยิ้มเล็กน้อยก่อนจะนึกถึงเรื่องงานมาก่อนเป็นอันดับแรก ว่าแล้วเขาก็ตักเค้กแสนอร่อยเข้าปาก
เพียงลิ้มรสของชั้นเค้กที่สอดแทรกไปด้วยผลไม้รสเปรี้ยวอมหวานก็ทำให้เขารู้สึกดีจนสีหน้าล้นไปด้วยความสุข
" อา~~~~ ถ้าจะเป็นของหวานก็ต้องร้านนี้นี่แหละ~~ "
" วันนี้ก็ว่างอย่างงั้นหรอครับคุณลีดเดอร์ "
เจ้าของร้านดูท่าเป็นคุณลุงใจดีก็เดินมาเสริฟพายให้กับเขาอย่างเป็นมิตร
" ใช่แล้วล่ะครับ! เพราะงั้นหายห่วงได้เลยล่ะครับ~! "
ว่าแล้วเขาก็ตักพายนั้นเข้าปากต่อทันที
" โอ้! งั้นเห็นแก่ที่พยายาม คุณลุงแถมชาให้ถ้วยนึงแล้วกันนะ! "
" ว้าว!! ขอบคุณมากครับคุณลุง!! "
หลังจากเสวยสุขกับของหวานอย่างสบายใจจนพุงกางชายหนุ่มก็เดินมานั่งลงที่ม้านั่งของสวนสาธารณะใจกลางเมือง ร่มไม้ที่ปกคลุมตัวเขาทั้งยังโพยพัดความร่มเย็นและสงบสุข เสียงของเด็กๆที่อยู่รอบตัวของเขาทำให้ความสงบได้มาเยือน สิ่งที่เคยปกป้องในวันนั้นเป็นเช่นนี้นี่เองงั้นหรือ?
หากว่ามือคู่นี้นั้นเปื้อนเลือด กายานี้นั้นอาบไปด้วยโลหิต หรือเต็มไปด้วยบาดแผลในวันนั้นสุดท้ายแล้วก็เพื่อสิ่งเหล่านี้นี่เองหรือ?
ขณะที่สายตาที่ทอดยาวปิดลงเส้นผมสีดำสนิทยังคงปลิวสไวไปตามลมก็หยุดลงปลุกให้เขาคิดออกถึงสิ่งที่เขาในตอนนี้สมควรทำ
" ใช่แล้ว... สิ่งที่เราควรทำตอนนี้ไม่ใช่มามัวโอ้เอ้... "
เขาลุกขึ้นด้วยสีหน้าอันแน่วแน่น ปณิธานอันแรงกล้าได้นำพาเขามาสู่ที่ๆเขาสมควรจะมาตั้งแต่แรกเพื่อสะสางเรื่องราวที่ทำให้เขาต้องออกมาทนแดดทนร้อนอยู่ข้างนอกและกินของหวานอย่างสงบสุข
" เรื่องก็เป็นอย่างที่เล่ามานั่นแหละนะ ฝากด้วยล่ะ โนเอล~ "
เขาจบลงที่ห้องพักของลานฝึกนักผจญภัยหน้าใหม่ของกิลด์ผู้พิทักษ์ เบื้องหน้าของเขาคือหญิงสาวผมสีขาวไว้ผมยาวถึงโคนคอ แม้จะใส่เครื่องแบบเฉกเช่นเดียวกันกับลิซ่า แต่เธอกลับมีต่างหูรูปไม้กางเขนห้อยที่หูซ้ายเพียงอย่างเดียว
" ห๊ะ? นี่นายพูดอะไรของนายน่ะ "
เธอทำหน้าฉงุนงง
" ก็แบบว่านะ ฉันถูกพวกเบื้องบนเรียกมาเมื่อเช้าน่ะ แต่แบบว่างานล้นมือจนไม่รู้จะทำอะไรก่อนเลย เพราะงั้น โนเอลช่วยไปแทนทีสิ "
เขายิ้มร่าอย่างหน้าระรื่นขณะกำลังโยนภาระให้เพื่อนในกิลด์ของตน
" เดี๋ยวสิ เขาเรียกลีดเดอร์ไม่ใช่ตัวแทน แถมปกติเลออนต้องเป็-- "
" งั้นไว้เจอกันน้าาา~ "
เธอยังไม่ทันปฏิเสธเขาก็เดินออกไปอย่างเบิกบานไม่รู้ร้อนรู้หนาวทันที
บรรยากาศที่ชวนปวดหัวแต่ก็เป็นความสนิทสนมกันของทั้งสองคนที่ให้ผู้ที่กำลังฝึกอยู่หลายคนดูไม่พอใจ สายตาที่มอง ลีดเดอร์ ของพวกเขาเริ่มเกิดความสั่นคลอน
" หมอนั่นเนี่ยนะลีดเดอร์ของGuardian "
" ได้ข่าวว่าลีดเดอร์ตัวจริงตายไปในสงครามเลยทำให้เขาได้เป็นลีดเดอร์น่ะสิ "
" ฉันได้ยินมาว่าลีดเดอร์คนก่อนเป็นคนที่แกร่งมากขนาดสู้กับมังกรได้อย่างสูสีเลยเชียวนะ "
" โฮ้ย!! ใครบอกให้หยุดฝึกกันฮะ!!! หวดลมกันอีกคนละ3000รอบเลย!!! "
" ปีศาจหรือไง!! "
ยิ่งได้ยินเรื่องไม่น่าฟังเท่าไหร่โนเอลก็เริ่มเหลืออดกับการกระทำของเหล่าเด็กใหม่ยิ่งขึ้น ถึงกระนั้นเธอก็ทำได้เพียงแค่เพิ่มบทลงโทษ แต่ท่ามกลางความไม่ไว้วางใจที่เพิ่มพูลขึ้นเรื่อยๆ ลีดเดอร์ที่ควรเป็นศูนย์รวมของคนในกิลด์อย่างเขาถึงไม่สนใจอะไรเลยล่ะ? แต่ว่า ถึงใบหน้าจะยิ้มแย้มขนาดนั้น ทำไมกันนะ? ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าเขากำลังเศร้าอยู่?
เวลาล่วงเลยมาจนฟ้ามืดท้องถนนที่เคยมีแสงจากฟากฟ้าสาดส่องกลับทดแทนด้วยแสงที่ส่องสว่างจากอัญมณีเวทย์มนต์ในกล่องกระจกที่เรียกว่าโคมไฟ
เขาเดินตัดผ่านผู้คนที่คับขั้งในโดยมีจุดมั่งหมายคือบ้านอันแสนอบอุ่นของเขา สองเท้าเดินลัดเข้าซอยเงียบๆก่อนจะหยุดลงกลางคัน
" เหนื่อยหน่อยนะ~ ตามมาทั้งวันคงลำบากน่าดูเลย "
คำพูดลอยๆของเขาทำให้ชายคนหนึ่งโดดลงมาจากหลังคา ใบหน้าถูกปกปิดมิดชิด ผ้าคลุมปกปิดร่างกายมิดชิดแต่กลับรู้สึกถึงสายตาที่จับจ้องมาตลอดเวลา
" ถ้ายอมกลับไปดีๆจะขอบคุณมากเลยล่ะ ยังไงก็ฝากด้วยน้า~ "
เขายิ้มออกมาก่อนจะเดินต่อพร้อมโบกมือลา แต่กลับถูกลอบโจมตีโดยการปามีดให้พุ่งเข้ามาใส่อย่างเต็มแรง แทนที่มีดเล่มนั้นจะปักเข้ากลางแผ่นหลังอันเฉื่อยชาก มันกลับหายไปพร้อมกับชายคนนั้นไม่เหลือแม้แต่ร่องรอย
ชายปริศนาลุกลี้ลุกลนก่อนจะหันหลังไปพบกับเขาที่ปรากฏตัวอีกครั้ง ใบมีดคมกริบค่อยๆทางลงบนต้นคอที่ตอนนี้เปิดช่องว่างจากความตกใจอย่างช้าๆ สายตาที่ราวกับกำลังมองลึกเข้าไปในจิตวิญญาณผิดกับความเฉื่อยชาเมื่อครู่อย่างสิ้นเชิง แรงกดดันมหาศาลราวกับภูเขาทั้งลูกกำลังทับลงบนร่างอันเปราะบางจนสองขาอ่อนล้าล้มลงแววตาที่เคยจ้องจะเอาชีวิตเขานั้นสั่นไหวราวกับมันได้มองเห็นอำนาจที่ไม่อาจหยั่งถึง
' เกร๊ง! '
เสียงทิ้งมีดลงบนพื้นดังขึ้นในความมืดก่อนที่เขาจะคลี่ยิ้มออกมาเเฉกเช่นก่อนหน้านี้แล้วเดินจากไป
" กลับมาแล้วคร๊าบบบ~~~ "
เขาเปิดประตูกิลด์อย่างรวดเร็วก่อนจะพุ่งตัวไปชั้นสองทันที สองมือเปิดประตูห้องส่วนตัวออกอย่างรวดเร็วและพุ่งเข้าไปทิ้งตัวลงบนที่นอนอย่างสบายใจ
" อ๊าาห์~ หมอนจ๋า~ เตียงจ๋า~ "
เขาดื่มด่ำไปกับความบรรเทิงที่มีชื่อว่าการพักผ่อนหลังจากออกไปเที่ยวเล่นมาทั้งวัน มันชั่งเหนื่อยล้าเหลือเกินจริงๆเลย เพียงไม่นานที่ได้สัมผัสเตียงนุ่มๆกับหมอนหอมๆเขาก็หลับไปอย่างสบายใจราวกับเรื่องในวันนี้เป็นเพียงแค่ความฝันเพียงชั่วครู่
" เรื่องวุ่นๆแบบวันนี้.. หวังว่าพรุ่งนี้..จะมีคนทำจ..บ... "
เพียงเขาตกลงสู่ห้วงแห่งความฝันอันเงียบสงบเพื่อรอรับวันใหม่
แต่ท่ามกลางความสงบเสงี่ยมของเสียงรอบกายและสายลมที่พัดผ่านห้องของเขาในยามค่ำคืนนั้นกลับมีเส้นแสงสีแดงตัดผ่านความมืดอยู่แสนไกล เหนือในท้องนภาอันกว้างใหญ่ เสียงคำรามดังกึกก้องไปทั่วท้องนภา กลุ่มคนที่อยู่บนกำแพงเมืองเหลือบไปมองต้นทางของเสียงคำรามอย่างช้าๆ
" มันมาแล้วสินะ.. "
เส้นผมสีฟ้าปลิวลู่ไปตามลม แผ่นหลังเอนไปด้านหน้าพร้อมใช้สองแขนเท้ารั้วกำแพงราวกับกำลังรอบางอย่าง ชุดเครื่องแบบสีขาวของกิลด์Guardianของกลุ่มคนทั้ง4คนแม้จะดูคล้ายกับของโนเอล แต่กลับมีผ้าคลุมไหล่ซ้ายสีดำอยู่ที่ไหล่ยาวลงมาถึงครึ่งแขนของแต่ละคน เขายิ้มออกมาเล็กๆก่อนจะออกคำสั่งแก่คนอื่นๆ
" บาฟ ไปเตรียมการป้องกันไว้ให้พร้อม โซล แจ้งข่าวให้วังหลวงทราบ แกรนเดล เตรียมอุปกรณ์เวทย์มนต์เอาไว้ให้เรียบร้อย "
เขากล่าวจบก็หันหลังเดินจากทั้ง3คนไปโดยไม่กล่าวอะไรต่อ
" แล้วนายจะไปไหนล่ะ เลออน " โซลกล่าว
" ฉันจะไปแจ้งข่าวให้สภากิลด์ในเมืองรู้ แล้วก็ ดูเหมือนลีดเดอร์ของเราจะยังมีปัญหากับพวกนั้นอยู่ล่ะนะ " เลออนกล่าวตอบก่อนจะยกยิ้มขึ้นมา
" หึๆ.. จริงๆเล๊ย... เจ้าหมอนั่น ขี้เกียจขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ... " บาฟหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะกล่าวขึ้น
" เอาเถอะ พวกเราต้องเตรียมการรับมือกับมันนะ แถมเรื่องของลีดเดอร์เองเราก็สาบานกันเองแล้วนี่ จะไม่ให้เขาต้องสู้อีกน่ะ " แกรนเดลกล่าวก่อนจะเดินเข้าไปตบบ่าโซลและบาฟ
" ใช่ ไม่ว่ายังไงพวกเราก็ต้องรักษาคำสัญญาที่ให้กับเขาเอาไว้ให้ได้ " เลออนกล่าวจบก็ใช้มือจับที่สัญลักษณ์รูปโล่ห์บนเสื้อของตน
" ต้องปกป้องเขา... ปกป้องอีเดน... "
ความคิดเห็น