Пыль Глотаю
การแข่งขันทางอวกาศครั้งที่2 ปี 1970s มหาอำนาจอย่างอเมริกาและโซเวียตต่างแข่งขันกันสำรวจอวกาศค้นหาทรัพยากรใหม่ จนกระทั่งโซเวียตไปเจอดาวนาม Terra ขึ้นมา ส่งผลให้โซเวียตเปิดฉากการรุกรานโดยไม่สนใจสิ่งใดเลย
ผู้เข้าชมรวม
59
ผู้เข้าชมเดือนนี้
19
ผู้เข้าชมรวม
มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ, มีการบรรยายเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรุนแรงสูง, มีเนื้อหาที่เครียดหรือหดหู่มาก ซึ่งอาจกระทบต่อภาวะทางจิตใจ
สงคราม ต่างโลก กองทัพ กลยุทธ์ แอ็คชั่น การทหาร เอาชีวิตรอด แฟนตาซี เทคโนโลยี อเมริกา โซเวียต จักรวรรดิ เอาตัวรอด
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
เนื้อหาโปรย
ภายหลังจากที่สหรัฐอเมริกาได้ส่งอะพอลโล่ 11 พร้อมนักบินอวกาศ ไปเหยียบบนพื้นผิวดวงจันทร์ครั้งแรกในวันทืี่ 20 กรกฎาคม 1969 สหรัฐอเมริกานั้นได้นำเรื่องการนำดวงจันทร์เข้ามาเป็นหนึ่งในพื้นที่ของประเทศของตนเอง เข้าไปสู่สภาและมันก็ได้รับคะแนนโหวตสูงสุดให้ดวงจันทร์รวมเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐอเมริกา แม้จะมีหลายประเทสไม่พอใจก็ตามอาทิเช่น สหภาพโซเวียตในตอนนั้นรวมไปถึงสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่ไม่ยอมรับว่าดวงจันทร์เป็นของอเมริกา แต่เมื่อมติ U.N ต่างได้ลงคะแนนเป็นเสียงเดียวกันว่า ดวงจันทร์นั้นคือรัฐหนึ่งของอเมริกาไปแล้ว ทำให้ในปี 1969 ถือเป็นเส้นทางสู่ประตูการแข่งขันโครงการอวกาศครั้งที่ 2
ต่อมาในปี 1976 ภายหลังการสิ้นสุดของสงครามเวียดนาม NASA ได้คิดค้น พัฒนายานอวกาศที่ไม่ต้องใช้แท่นปล่อยจรวดรวมไปถึงการออกจากชั้นบรรยากาศโลกและเข้าสู่ชั้นบรรยากาศโลกโดยที่คนในยานอวกาศไม่เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นลำแรกของโลก ส่งผลให้โซเวียตนั้นกระโดดเข้ามาเล่นเกมส์การแข่งขันอวกาศครั้งที่ 2 โดยจะทันที หากแต่ทางโซเวียตนั้นเหนือกว่านั้นมาก โซเวียตนอกจากจะสามารถพัฒนายานอวกาศได้แล้ว โซเวียตยังสามารถสร้างสถานีอวกาศแห่งแรกของระบบสุริยะทางช้างเผือกได้ ทำให้พวกเขามีฐานส่งซัพพลายยานอวกาศเป็นแห่งแรกของโซเวียต
ในขณะที่สหรัฐอเมริกานั้นสร้างเมืองแห่งแรกบนดวงจันทร์ที่เป็นที่อยู่ของคนรวยรวมไปถึงฐานทัพของกองทัพอวกาศของอเมริกาเป็นแห่งแรกของพวกเขา ทำให้พวกเขาเองก็มีฐานเติมเสบียงและยุทโธปกรณ์เฉกเช่นเดียวกันกับโซเวียต
การแข่งขันทางอวกาศนั้นดำเนินมาจนถึงปี 1982 เป็นยุคทองของการสำรวจอวกาศโดยแท้ ภาพความตระการตาของอว กาศ ถูกถ่ายทอดออกมาจากภาพถ่ายของยานอวกาศจากสองชาติมหาอำนาจที่กำลังแข่งขันกันขยายพื้นที่อย่างดุเดือดบนอวกาศ โลกไม่ใช่ศูนย์กลางของมนุษย์ชาติอีกต่อไปแล้ว…
จนกระทั่งสหภาพโซเวียตได้ใช้ยาน Kinov-2 ยานขนส่งที่ใหญ่กว่าเรือบรรทุกเครื่องบินถึง 10 เท่า ฝ่าชั้นหินอุกกาบาตที่ล้อมรอบระบบสุริยะออกมาได้และเดินทางไปยังระบบสุริยะเนโอล่า ที่อยู่ข้างเคียงระบบสุริยะทางช้างเผือก พวกเขานั้นได้พบกับดาวที่คับคล้ายคับคลากับโลกแต่ใหญ่กว่า 3 เท่า พวกเขาตัดสินใจส่งคนไปสำรวจดวงดังกล่าวทันที โดยคนที่พวกเขาส่งไปก็มีทั้งพลร่ม VDV และนักวิทยาศาสตร์ โดยเมื่อพวกเขานำยาน Kinov-2 ลงจอด พวกเขาก็ค้นพบว่า
ดาวดวงดังกล่าวนั้นมีสภาพอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างยิ่งและดาวดวงดังกล่าวเองก็มีสิ่งมีชีวิตจากในตำนานต่างๆจากเทพนิยาย ทั้ง เอลฟ์ ครึ่งมนุษย์ครึ่งสัตว์ ดวาฟ ลิซาดแมน ทูต มนุษย์ และมอนส์เตอร์มากมายและด้วยเทคโนโลยีที่ในโลกนั้นที่ยังคงอยู่ในช่วงยุคกลางอยู่ แม้จะมีสิ่งเหนือจินตนาการอย่างเวทย์มนต์ แต่ทางมอสโคว์ก็ยังคงเชื่อว่ามันคุ้มค่าที่จะเสี่ยง พวกเขานั้นเริ่มศึกษาภาษาและเผยแพร่ลัทธิคอมมิวนิสต์เข้าสู่ราชอาณาจักรทอลฟิน เป็นที่แรกเนื่องจากอาณาจักรดังกล่าวยังคงถูกปกครองด้วยระบอบฟิลดัลอยู่ และไม่เกิน 1 ปี ด้วยการสนับสนุนแกนนำกบฎฝักใฝ่คอมมิวนิสต์ รวมไปถึงอาวุธอาทิเช่น ปืน รถถัง ระเบิด เครื่องยิงจรวด ประกอบกับการรบด้วยเวทย์มนต์ ทำให้ในที่สุดฝั่งกบฎคอมมิวนิสต์สามารถรกรานเข้าไปจนถึงเมืองหลวงอย่างกรุงเทลวีฟ ของทอลฟินได้ หากแต่ส่งครามครั้งนี้ยังคงดำเนินต่อไปเพราะทางฝั่งราชวงศ์สามารถหลบหนีไปสมทบกับกองกำลังขุนนางฝั่งเหนือที่ยังฝักใฝ่ระบอบกษัตริย์อยู่ โดยที่ทางกองกำลังทางเหนือได้รับการสนับสนุนจาก ศาสนจักรที่ทางศาสนจักรก็ได้ส่งอัศวินศักดิ์สิทธิ์เข้าร่วมสงครามครั้งนี้ด้วย
ผลสุดท้ายสหภาพโซเวียตนั้นเมื่อไม่เห็นทางเลือกอื่น พวกเขาจึงกระโดดเข้ามาเล่นเกมส์สงครามครั้งนี้เพื่อผลประโยชน์ของตนเองและการเผยแพร่ลัทธิคอมมิวนิสต์เข้าสู่ดินแดนนี้
ผลงานอื่นๆ ของ สหายวลาดิคอฟ ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ สหายวลาดิคอฟ
ความคิดเห็น