[ One piece ] ลูกชายของนายน่ะพวกฉันขอนะ! - นิยาย [ One piece ] ลูกชายของนายน่ะพวกฉันขอนะ! : Dek-D.com - Writer
×

    [ One piece ] ลูกชายของนายน่ะพวกฉันขอนะ!

    จากการปรากฏตัวในสงครามมารีนฟอร์ดทำให้ความลับบางอย่างที่ปกปิดมานานถูกเปิดเผยออกมา..จนมีแต่พวกแมลงหน้าโง่ตามมายุ่งกับของรักของหวงของเขา!!

    ผู้เข้าชมรวม

    1,838

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    16

    ผู้เข้าชมรวม


    1.83K

    ความคิดเห็น


    23

    คนติดตาม


    258
    หมวด :  นิยายวาย
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  1 ก.ค. 65 / 06:29 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    ลานกว้างหน้าฐานทัพใหญ่ของกองทัพเรือที่เคยปราศจากการนองเลือดและการฆ่าฟันบัดนี้มันกลับเต็มไปด้วยกลุ่มคนมากมายที่เข้าห้ำหั่นกันอย่างบ้าคลั่ง

    ร่างกายสูงใหญ่ของชายที่ได้ชื่อว่าแข็งแกร่งที่สุดในท้องทะเลเข้าร่วมปะทะกับกลุ่มคนที่ใส่ชุดสีขาว เสื้อคลุมสลักอักษร ‘ความยุติธรรม

    เป็นสงครามครั้งยิ่งใหญ่เกือบจะที่สุดในประวัติศาสตร์และเป็นการปรากฏตัวของลูกชายวายร้ายที่โลกต่างหวาดหวั่น ‘มังกี้ ดี ลูฟี่’ เด็กหนุ่มหมวกฟางที่มีแรงใจอย่างแรงกล้าแม้ร่างกายอ่อนแอแต่ก็ยังคงดาหน้าเข้ามาร่วมสู้ในสงคราม

    เหล่าทหารมากมายต่างเข้ารุมล้อม ยืนหยัดขึ้นสู้เพียงเพราะต้องการช่วยคนที่รัก ร่างกายที่บาดเจ็บหนักหากเป็นคนอื่นคงทรุดตัวลงหมดสติเป็นแน่

    การต่อสู้ยังคงมีอยู่ตลอดจนผ่านพ้นไปได้สักพักตัวของลูฟี่สามารถที่จะเข้าไปใกล้ผู้เป็นพี่ ‘โพโตกัส ดี เอส’ เพียงแค่เอื้อมก็จะคว้าถึงหากแต่ก็ยังคงโดนขัดขวาง

    เอสมองดูมองน้องชายของตนด้วยใบหน้าที่เปรอะเปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตา แห้งกรังจนเป็นคราบติดอยู่ที่ใบหน้า ร้องเรียกตะโกนบอกให้ผู้เป็นน้องหยุดกระทำแบบนั้นเสียที

    “พอได้แล้วลูฟี่!..นายจะพาตัวเองมาทำไม!!”

    “กลับไปซะ!!”เสียงร้องตะโกนด้วยความเจ็บปวดหากแต่ไม่ได้เข้าไปในโสตประสาทของผู้เป็นน้องเลยแม้แต่น้อย ร่างกายที่เริ่มถึงขีดจำกัดกำลังต่อต้านตัวของลูฟี่ให้หยุดพักหากแต่เจ้าตัวกลับดื้อดึงจะพาตัวของเอสกลับไปให้ได้

    ยิ่งมองยิ่งเจ็บปวดอยากจะพุ่งตัวลงไปเพื่อฉุดรั้งร่างของผู้เป็นน้องให้หนีรอดออกไปจากที่นี่แต่เพราะตัวของเขามันอวดดีเกินไป..ทำให้ต้องเกิดการนองเลือดขึ้น

    แต่แล้วในที่สุดความทะเยอทะยานของลูฟี่ก็สำเร็จ เขาขึ้นมาถึงตัวของเอสได้แม้ต้องแลกกับการที่เขาซัดหมัดเข้าไปที่หน้าของผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นปู่ของตน ‘มังกี้ ดี การ์ป’ วีรบุรุษของกองทัพเรือยอมละมือลงเพื่อปล่อยให้หลานชายผ่านขึ้นไป

    หากเป็นคนอื่นการ์ปคงใจแข็งและเด็ดเดี่ยวมากกว่านี้แต่นี่มันไม่ใช่..เพียงแค่เห็นสีหน้าของหลานชายผู้เป็นที่รักทั้งสองหัวใจของเขากลับโอดครวญออกมาด้วยความเจ็บปวด

    แม้ผิดต่อกองทัพเรือแต่เขาก็ทำไม่ลง..กับครอบครัวน่ะใครจะไปทำได้ลงกัน

    เมื่อมาถึงลูฟี่ก็รีบพุ่งตัวเข้ามาหาเอสทันที หยิบกุญแจที่ ‘โบอา แฮนค็อก’ เป็นผู้ยื่นมันมาให้กับมือ พยายามที่จะไขกุญแจแต่ก็ไม่ทัน

    ผลปีศาจของ ‘เซ็นโงคุ’ เริ่มทำงานขึ้นพยายามขัดขวางตัวของลูฟี่ที่จะช่วยเอสออกมาแต่สุดท้ายก็ไร้ผล ตัวของเอสเป็นอิสระพร้อมทั้งลูฟี่และ ‘มิสเตอร์ทรี’ ที่เป็นผู้ทำกุญแจเทียมขึ้นมาเพื่อปลดปล่อยเอสจากพันธกานต์

    ร่างของสองพี่น้องร่วมต่อสู้อยู่เคียงข้างกายกัน พลัดกันรับและรุกเข้าใส่พวกทหารเรือที่ดาหน้าเข้ามาหวังจะจับกุมพวกเขาทั้งสอง

    แต่ก็เท่านั้นเมื่อพวกเขาทั้งสองได้อยู่ด้วยกันแล้วนั้นพลังก็ยิ่งทวีคูณมากขึ้นไปอีก สู้อยู่ข้างเคียงกันจนเวลาเลยผ่านมานาน ร่างสูงใหญ่ร้องตะโกนของมาเสียงดังลั่นเรียกความสนใจจากเหล่าโจรสลัดรวมถึงทหารเรือให้หันเหกลับมาสนใจ

    หนวดขาว’ ร้องบอกให้เหล่าลูกเรือของตนถอยกลับและอย่าได้หันมามองตัวของเขา เสียงร้องที่มีเพียงความเจ็บปวดและคำปฏิเสธดังสนั่นอยู่ทั่วบริเวณ

    แต่เมื่อเป็นคำสั่งตัวของพวกเขาก็ทำได้เพียงทำตามที่ผู้เป็นกัปตันหรือก็คือคนที่พวกเขาเรียกว่า ‘พ่อ’ สั่งแม้ใจเจ็บแต่ก็เลือกอะไรไม่ได้พวกเขาทั้งหมดล่าถอยออกมาแต่ก็ยังไม่ทันที่จะได้จากไปไกล

    “หนวดขาวมันก็แค่พวกขี้แพ้!”เสียงตวาดดังลั่นสนั่นไปทั่ว มีเพียงน้ำเสียงที่เหยียดหยามและเย้ยหยัน ร่างของเอสหยุดชะงักกึกก่อนจะหันหน้ากับมาเผชิญกับหนึ่งในพลเรือเอกที่เอ่ยประโยคนั้นออกมา

    ซากาซูกิ’ และเอสเข้าต่อสู้กันแม้รู้ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไรแต่ตัวของเขาก็ยังเลือกที่จะสู้..เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของผู้เป็นพ่อ

    ไม่นานก็เกิดเรื่องไม่คาดฝันซากาซูกิเปลี่ยนทิศทางการโจมตีมุ่งหน้าเข้าหาตัวของลูฟี่ที่กำลังก้มเก็บแผ่นกระดาษสีขาว ภายใต้ความตกใจของทุกคนตัวของเอสพุ่งเข้ามาบังตัวของผู้เป็นน้องเอาไว้

    เคร็ง!

    เสียงดาบกระทบเช้าหมัดลาวาที่พุ่งเข้ามาหมายปลิดชีวิตของสองพี่น้อง เอสที่โอบกอดตัวของลูฟี่เอาไว้แน่นพลันค่อยๆลืมตาขึ้นมาเมื่อไร้ซึ่งความรู้สึกเจ็บปวด

    ภาพตรงหน้าทำเอาเขาและลูฟี่ตกใจเมื่อตัวของทั้งสองคนถูกบดบังเอาไว้ด้วยร่างกายที่สูงสง่าแม้ไร้แขนข้างซ้ายแต่ยังคงแข็งแกร่ง แผ่นหลังที่ลูฟี่คุ้นเคยและรู้จักเป็นอย่างดี

    ช..แชงคูส!!”น้ำเสียงที่มีเพียงความตกใจถูกเปล่งออกมาจากตัวของลูฟี่ ใบหน้าที่เคยมีรอยยิ้มเปรอะเปื้อนแปรเปลี่ยนเป็นเรียบนิ่งจนดูน่าหวาดหวั่น

    “หยุดแค่นี้เถอะนะ..สงครามนี้น่ะควรจะพอได้แล้ว”น้ำเสียงราบเรียบถูกเอ่ยออกมาจากตัวของแชงคูส

    ไร้ซึ่งเสียงของการตอบรับมีเพียงใบหน้าที่แสดงออกถึงความหงุดหงิดและเสียงกัดฟันกรอดที่เล็ดรอดออกมา แววตามองมาที่ตัวของแชงคูสอย่างคาดโทษ

    พร่ำบอกว่านี่ไม่ใช่เรื่องที่ตัวของแชงคูสจะเข้ามาเกี่ยวข้องหากยังไม่หลบไปจะฆ่าเสียให้ตายแต่ถึงกระนั้นตัวของแชงคูสก็ยังคงนิ่งสงบไร้ซึ่งรอยยิ้ม แรงกดดันถูกส่งผ่านออกมาจากร่างกายของเขา

    เมื่อมองสบก็รู้กันแม้ไร้ซึ่งคำพูด หากคนตรงหน้ายังไม่หยุดตัวของเขาเองก็จะไม่ทนอีกต่อไปเช่นกัน เป็นแววตาที่ดุดันเสียจนเซ็นโงคุต้องเอ่ยปากร้องห้ามตัวของซากาซูกิให้ถอยออกมา

    แม้ไม่ชอบแต่ก็จำใจยอมลดละและถอยออกมา มองด้วยสายตาที่มีเพียงโทสะส่งมอบให้คนเบื้องหน้าที่หันหลังให้ตนแล้วกลับไปมองตัวของเด็กทั้งสอง

    “สงครามนี้ได้จบลงแล้ว”แม้เป็นเพียงน้ำเสียงที่ไร้ซึ่งการตะโกนแต่กลับรับรู้ได้ทั่วทั้งผืนดิน

    แชงคูสหันกลับมามองที่ตัวของลูฟี่ก่อนจะเดินไปหยิบหมวกที่อยู่ไม่ไกลจากจุดที่ทั้งสองพี่น้องนั่งกอดกันอยู่ เดินตรงมาสวมใส่เอาไว้บนหัวของลูฟี่ดังเดิม

    รอยยิ้มกว้างปรากฏขึ้นบนใบหน้าอีกครั้งก่อนจะหันไปมองที่หนวดขาวซึ่งผู้แข็งแกร่งที่สุดก็ราวกลับรับรู้ได้ถึงความต้องการ เสียงอันเปี่ยมล้นไปด้วยอำนาจเอ่ยปากบอกว่าสงครามได้ยุติลงแล้ว

    เช่นเดียวกับชีวิตของหนวดขาว..บาดแผลมันสาหัสจนเกินไปไม่ว่าพยายามจะรักษาเท่าไหร่มันก็ไม่กลับคืนเดิมจนในท้ายที่สุด

    ชายที่แข็งแกร่งที่สุดในท้องทะเลก็สิ้นลมหายใจลง ภายใต้ความเศร้าโศกเสียใจก็ปรากฏร่างของเด็กคนหนึ่งเดินผ่าวงล้อมที่มีทั้งหยาดน้ำตาและหยาดเลือดผสมปนเปกัน เดินตรงมาทางแชงคูสที่กำลังจดจ้องไปที่ร่างของหนวดขาว

    กึกๆ

    แรงกระตุกเบาๆที่ชายเสื้อพลันให้ร่างของแชงคูสนั้นก้มลงมามองก่อนจะพบกับเด็กน้อยผมสีแดงขลับ ดวงตาแววโรจน์ราวกับอัญมณีส่องประกาย ใบหน้าจิ้มลิ้มที่ทั้งสวยและน่ารักในเวลาเดียวกัน หยาดน้ำตาที่เอ่อคลอออกมาเป็นสัญญาณบอกว่าคนตัวเล็กกำลังจะงอแง

    “แชงค์..”เป็นคำพูดที่เต็มไปด้วยน้ำเสียงของความงอแง แชงคูสมองร่างของเด็กน้อยก่อนจะระบายยิ้มอ่อนออกมา แขนแกร่งโอบอุ้มร่างของเด็กน้อยขึ้นมาแนบชิดแผ่นอกแกร่ง

    กดหัวกล่อมตัวของเด็กน้อยคนนี้ให้หลับลงตามเดิม ปลอบประโลมใจของเด็กน้อยที่กำลังงอแงเพราะตื่นขึ้นมาไม่เจอหน้าของคนที่ตนคุ้นเคย

    “นอนต่อเถอะนะ..ลูก”แม้เอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบาแต่เพราะความเงียบจึงทำให้คนในบริเวณนี้ได้ยินกันอย่างชัดแจ๋ว

    ลูก!!!?

     

     

    #พี่แชงค์โคตรหวงลูก

     

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น