ด่านเคราะห์
ความรักที่บริสุทธิ์ถูกแยกออกด้วยคำว่าหน้าที่ นางสูญเสียลูก สูญเสียคนที่รัก เพียงเพราะ "หน้าที่" ที่นางไม่ต้องการ
ผู้เข้าชมรวม
354
ผู้เข้าชมเดือนนี้
7
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ด่านเคราะห์
ความรักที่บริสุทธิ์ถูกแยกออกด้วยคำว่าหน้าที่ นางสูญเสียลูก สูญเสียคนที่รัก เพียงเพราะ "หน้าที่" ที่นางไม่ต้องการ
"1 คำนับฟ้าดิน"
"2 คำนับบิดามารดา"
"3 คำนับกับเเละกัน"
งานเเต่งงานของสองตระกูลใหญ่ฝ่ายบู๊เเละบุ๋น ต่างมีผู้คนมาร่วมเเสดงความยินดีมากมาย ตั้งเเต่สามัญชน ขุนนาง เเละคนในราชวงศ์
สองบ่าวสาวในชุดสีแดงสดยืนเด่นสง่าท่ามกลางผู้คน ใบหน้าทั้งสองต่างมีรอยยิ้มยินดีปรีดา
หนึ่งบุรุษรูปงามผู้เป็นรองเเม่ทัพ เเละหนึ่งโฉมงามเเห่งต้าหยาง ช่างเหมาะกันราวกิ่งทองใบหยก
เเต่เวลาเเห่งความสุขอยู่ได้ไม่นาน รองเเม่ทัพที่เพิ่งจัดพิธีสมรสได้ไม่นานก็ต้องจากฮูหยินเพื่อไปออกรบ ทิ้งนางเเละอีกสองชีวิตที่ยังอยู่ในท้องไว้ข้างหลัง ก้าวหน้าสู่สนามรบเพื่อเเผ่นดิน
ฮูหยินที่กำลังตั้งครรภ์ 2 เดือน เเต่มิรู้ว่านางตั้งครรภ์ เพราะความเป็นห่วงสามี จึงปลอมกายเป็นบุรุษร่วมเดินทางเคียงข้างเขา จวบจน…
"ไม่…ไม่จริง…!" หญิงสาวคนหนึ่งนอนอยู่ในกระโจมด้วยใบหน้าซีดเซียว ข้างๆนางมีบุรุษคนหนึ่งนั่งกุมมือนางไว้ ก่อนนางจะร้องไห้ออกมา
ลูกของนางเเละเขาตายเเล้ว…
หลังจากนางร่วมเดินทางมากับเหล่าทหาร เพราะร่างกายเป็นหญิง จึงอ่อนเเอ เมื่อถูกโจมตีระหว่างทางนางตกลงจากหลังม้า เเละ… แท้งบุตร นางเเท้งบุตรทั้งสอง มิใช่หนึ่ง
"เพราะข้า… ข้าทำร้ายลูก…" นางปล่อยน้ำตาออกมา เมื่อรู้ว่าท้อง นางดีใจมาก เเต่… ข่าวดีย่อมมีข่าวร้าย ในวันที่รู้ว่าท้องก็คือเวลาเดียวกับที่นางรู้ว่านางเสียพวกเขาเเล้ว
"ไม่ จื่ออิง ข้าผิดเอง ที่ดูเเลเจ้าไม่ดี" ชายหนุ่มกุมมือนางไว้ พร้อมก้มหน้าลงกล่าวเบาๆ เขาเองก็เสียใจมิเเพ้นาง เเต่เวลานี้ เขาควรปลอบโยนนาง ไม่ทิ้งให้นางจมกับความเศร้าเสียใจ
"ท่านพี่...ข้าทำร้ายลูก ข้าทำร้ายลูกของเรา" จื่ออิงกล่าวด้วยน้ำตา ตอนนี้จิตใจของนางเจ็บปวดมากเหลือเกิน
"จื่ออิง เจ้าไม่ได้ตั้งใจ อย่าโทษตัวเองอีกเลย" รองเเม่ทัพ หรือสามีของนางปลอบนาง
"ท่านรองเเม่ทัพ ท่านเเม่ทัพเรียกประชุมขอรับ" เสียงนายทหารดังเข้ามา ชางเยี่ยหรือรองเเม่ทัพลังเล เพราะหนึ่งคืองาน เเละหนึ่งคือคนรักที่กำลังต้องการเขา
"ท่านไปเถอะ ข้าอยู่ได้" จื่ออิงกล่าว ชางเยี่ยมองนางเเล้วลุกขึ้นก่อนจะเดินออกไปนอกกระโจม
ลับหลังชายหนุ่ม จื่ออิงก็ร้องไห้ออกมามากกว่าเดิม
"แม่ขอโทษ เเม่ขอโทษ หากเเม่รอท่านพ่อของพวกเจ้ากลับจากสงคราม พวกเจ้าก็จะไม่ตาย เเม่ขอโทษ" นางกล่าวซ้ำไปซ้ำมา จนนางหลับไป
หลายวันต่อมา นางยังคงกล่าวขอโทษลูกของนาง กินน้อย เเละร้องไห้ทุกเวลาจนสลบไป ชางเยี่ยมองคนรักของเขาด้วยความรู้สึกผิด เขาปกป้องนางไม่ดี เเละยังปกป้องลูกของพวกเราไม่ได้ เขามันเเย่ที่สุด
ในค่ำคืนนั้น เขานอนกอดนางไว้ ปลอบโยนนางที่สั่นเทาเพราะร้องไห้ เเต่ก็ต้องตื่นขึ้นมา เพราะถูกฝ่ายตรงข้ามโจมตี
"หลิวไห่ คุ้มครองฮูหยิน! พานางกลับเมืองหลวงไป!" เขาออกมานอกกระโจมเเล้วบอกนายทหารคนสนิท
"ขอรับ!" หลิวไห่ตอบรับ เเล้วพาสาวใช้ที่ซื้อมาจากโรงค้าทาสเพื่อมาดูเเลนายหญิงโดยเฉพาะเข้าไปอุ้มจื่ออิงออกมา เเล้วมุ่งหน้าเข้าเมืองหลวงทันที เเต่…
ระหว่างทางพวกเขาถูกโจมตี นายหญิงที่เขาต้องปกป้องถูกช่วงชิง เขาเเละคนอื่นๆต่างบาดเจ็บสาหัส
จื่ออิงตื่นมาอีกทีก็อยู่ในห้องๆหนึ่ง เมื่อเปิดประตูออกไป ก็เจอนายทหารสองคนขวางทาง เเล้วบอกให้นางเข้าไปข้างใน นางรู้ว่าพวกเขาคือทหารเเคว้นมู่ จึงไม่กล้าวู่วามถึงจะกลัวเพียงใดเเต่ทำตามที่พวกนั้นบอก เฝ้ารอคอยให้ชางเยี่ยมาช่วยนาง จนผ่านไปหลายวัน
"เเม่นาง มีคนมาพบเจ้า!" เสียงทหารที่เฝ้านอกห้องบอกนาง
จื่ออิงเงยหน้าขึ้น มีคนมาพบข้า? ชางเยี่ยหรือ นางคิดเเล้วยิ้มออกมา ในที่สุดเขาก็มา!
แต่เเล้วนางก็ต้องหุบยิ้มลง
"จื่ออิง" เสียงอบอุ่นเอ่ยเรียกนางเเล้วตรงมาสวมกอดนางที่สกปรกเพราะไม่ได้อาบน้ำ ไม่ได้เปลี่ยนชุดมานานเพราะอยู่ในค่ายทหารไม่มีสาวใช้ ไม่มีเสื้อผ้าสตรี
"ท่าน...ท่านพ่อ ท่านมาได้ยังไง" จื่ออิงถาม ตอนนี้นางเเทบไม่อยากเชื่อ ท่านพ่อที่รักนางมากเเละจงรักภักดีต่อราชวงศ์หยางมาตลอด คงมิใช่...คนที่คิดก่อกบฏหรอกกระมัง
"เรื่องนั้นไม่สำคัญหรอก เเต่เหตุใดเจ้าถึงมีสภาพเป็นเช่นนี้!" จื่อฝางคลายอ้อมกอดเเล้วหมุนตัวบุตรสาว ก่อนจะเรียกสาวใช้ที่พามาให้พาจื่ออิงไปอาบน้ำ
เเละความจริงที่เลวร้าย ก็เกิดขึ้น ท่านพ่อของนาง หรือราชครูเเห่งต้าหยางก่อกบฏ
สงครามยังคงดำเนินไปเรื่อยๆ นางอยู่ในวังหลวงของเเคว้นมู่ เเคว้นที่เป็นศัตรูกับต้าหยาง เเละนางก็รู้ความจริงที่ว่า นางคือบุตรสาวของจักพรรดินีของเเคว้นมู่ หรือก็คือองค์หญิงของที่นี่ ท่านเเม่ที่นางคิดว่าตายไปนานเเล้ว คือคนปกครองเเคว้นมู่ที่สตรีเป็นใหญ่ เเละนางก็คือองค์หญิงรัชทายาท ผู้ที่จะปกครองเเคว้นมู่คนต่อไป
แล้วเช่นนี้...นางกับชางเยี่ย จะยังคงเป็นเช่นเดิมหรือไม่
สงครามของเเคว้นมู่เเละต้าหยางยังคงดำเนินไปเนิ่นนาน จากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็นปี เช่นเดียวกับการตามหานางในดวงใจ จื่ออิง ที่หายไปเมื่อนานมาเเล้วของชางเยี่ย
วันเวลาผ่านไปเเล้ว 4 ปี ต่างฝ่ายต่างคะนึงหากันเเละกัน เเต่หน้าที่ก็คือหน้าที่ ถึงเเม้จื่ออิงจะไม่เชื่อความจริงตรงหน้า ว่านางคือใคร มีฐานะอะไร เเต่ความจริงก็คือความจริง นางในวัย 19 ปี กลายเป็นสตรีที่เหมาะกับการปกครองบ้านเมืองคนต่อไป ด้านชางเยี่ยนั้น เเม้จะอยากออกตามหานางด้วยตนเอง เเต่หน้าที่ของเขาคือปกป้องบ้านเมือง หากเขาทำตามใจ ครอบครัวของเขาที่เมืองหลวง เเละอีกหลายร้อยครอบครัวคงต้องหายไปจากต้าหยางเเน่นอน
เเละวันที่เขาพบสตรีที่รักเเละคนึงหามาตลอดจนประมาท จึงทำให้การจากลาของเขามีเพียงน้ำของคนที่เขารัก
"ท่านเเม่! ไหนท่านบอกว่าจะละเว้นเขาไง!" สตรีชุดดำที่นั่งกอดร่างชายคนรักไว้ในอ้อมกอด ร่ำไห้ออกมาพร้อมถามสตรีที่ขึ้นชื่อว่ามารดาตรงหน้าด้วยสีหน้าเจ็บปวด
"จื่ออิง จักพรรดินีไม่ควรมีจุดอ่อน" มู่เสียนบอกบุตรสาวของนางด้วยรอยยิ้ม
"เเล้วท่านล่ะ! ข้าไม่ใช่จุดอ่อนของท่านรึไง!" จื่ออิงถามมารดาของนาง
"ใช่ เจ้าคือจุดอ่อนของข้า เเต่ถ้าไม่ใช่ว่าเจ้าเป็นทายาทเพียงคนเดียวที่จะปกครองเเคว้นคนต่อไป ข้าก็ฆ่าเจ้าไปแล้วเช่นกัน" มู่เสียนตอบบุตรสาวของนางก่อนจะทิ้งดาบในมือเเล้วรับผ้าชุบน้ำจากสนมเอกของนางหรือจื่อฝางบิดาของจื่ออิงมาเช็ดคราบเลือดที่มือของนาง
"ท่านมันไม่ใช่คน…" จื่ออิงมองมารดาของนางอย่างเจ็บปวด
"ใช่ ข้ามันไม่ใช่คน" มู่เสียนมองหน้าบุตรสาวของนางแล้วตอบ ก่อนจะหันหลังเดินจากไปพร้อมสนมเอกเเละเหล่าทหาร
"ฮึก...ฮือ...ชางเยี่ยเจ้าพื้นสิ ชางเยี่ย เจ้าอย่าแกล้งข้าเช่นนี้ ชางเยี่ย ฮือ…" จื่ออิงเขย่าคนรักที่นอนจมกองเลือด ใบหน้าซีดเซียวเปรอะเปื้อนเลือด ต่อให้นางจะคิดว่าชางเยี่ยเพียงแกล้งนางเล่นดังที่ผ่านมา เเต่ความจริงก็คือความจริง คนที่นางรัก คู่ชีวิตของนาง เเละลูกของนาง ได้ตายไปแล้ว…
"ชางเยี่ย… ข้าขอโทษๆ ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเพราะข้า ฮึก… ข้ามันโง่ ข้ามันไม่ได้ความ… ชางเยี่ยได้โปรด อย่าทิ้งข้าไป ได้โปรด ชางเยี่ย ฮึก..." สุดท้ายเเล้ว นางทำได้เพียงกอดร่างไร้วิญญาณของคนรัก เเล้วร่ำไห้ตัดพ้อสวรรค์ หากนางยอมรอเขาอยู่ที่จวนดีๆ หากนางไม่หุนหันพลันแล่นหนีออกจากจวนเข้าร่วมกองทัพ ก็คงไม่ทำให้ลูกนางตาย ก็คงไม่ถูกพวกนั้นจับกลับมา เหตุใด...เหตุใดข้าจึงไม่เชื่อฟังเจ้ากันนะ… ชางเยี่ย
หลังจากที่รองเเม่ทัพที่นำทัพไปทำลายกองเสบียงของเเคว้นมู่ไม่สำเร็จ ฝ่ายต้าหยางก็ต้องเรียกประชุมด่วน ก่อนที่จะมีคนนำข่าวมาเเจ้งว่าองค์หญิงรัชทายาทของเเคว้นมู่ยกทัพมา ฝ่ายต้าหยางก็ต้องรีบระดมพล เเละส่งม้าเร็วไปขอกำลังเสริมจากราชสำนัก
ทัพของทั้งสองประจันหน้ากันในทะเลทรายที่กลายเป็นสนามรบ องค์หญิงรัชทายาทของเเคว้นมู่หรือจื่ออิงอยู่บนหลังม้าพร้อมชุดเกราะ รายล้อมด้วยเหล่าเเม่ทัพเเละนายกองมากมายคอยอารักขา
ส่วนด้านต้าหยาง นำทัพโดยชินอ๋องหยางหลิวไท่ บนหลังม้าสีดำสนิทพร้อมชุดเกราะเต็มยศ รายล้อมด้วยเหล่ารองเเม่ทัพเเละนายกองเช่นกัน
::ถามจริง ร้อนมั้ย? ใส่เต็มยศขนาดนั้น นั่นกลางทะเลทรายนะ!
"ไม่เจอกันนานเเม่นางจื่ออิง" หยางหลิวไท่ทักทายอดีตฮูหยินของลูกชายเพื่อนสนิท
"ไม่เจอกันนานชินอ๋อง" จื่ออิงตอบด้วยใบหน้าราบเรียบ
"เจ้าเปลี่ยนไปมาก" หยางหลิวไท่บอก
"ข้ารู้" จื่ออิงตอบ
หลังจากกล่าวทักทายพอเป็นพิธี สงครามก็เริ่มขึ้น ทั้งสองทัพต่างสูสีกันทั้งนั้น การต่อสู้เนิ่นนานหลายวัน จวบจนเหลือเพียงเหลือเพียงชินอ๋อง จื่ออิงเเละเเม่ทัพใหญ่เเคว้นมู่ หลิวหลาง
ดูเหมือนฝ่ายจื่ออิงได้เปรียบ เเต่เปล่าเลย กองกำลังเสริมของต้าหยางเดินทางจากเมืองใกล้เคียงมาสมทบอีก1,000 นาย ฝ่ายจื่ออิงเสียเปรียบสุดๆ
"องค์หญิงท่านรีบหนีไปเถอะ" หลิวหลางบอกคนสำคัญของเเคว้นมู่ด้วยสีหน้ากังวล เขาไม่อาจชนะได้ เเต่สามารถยื้อเวลาให้องค์หญิงผู้ที่จะขึ้นครองราชย์คนต่อไปหนีไปได้
"เหอะ!" จื่ออิงหัวเราะเยาะ
"ท่านดูถูกข้ามากไปหลิวหลาง" จื่ออิงว่า กระบี่ในมือนางที่คล้ายดาบตรงน้ำหนักชี้ไปทางชินอ๋อง เเล้วยกยิ้ม
"จัดการ" เพียงคำสั้นๆเเละเบาหวิวราวพึมพำ เเต่คนที่รอสัญญาณก็ยกธนูขึ้นยิงทันที
ฉึก! ฉึก!
ลูกศรเหล็กสองอันถูกยิงเข้าไปปักตรงกลางกระหม่อมเเละลำคอของชินอ๋องทันที ร่างสูงเบิกตากว้างเพราะไม่คิดว่าจะมีไส้ศึกเเฝงตัวในกองทัพที่ส่งมาเป็นกำลังเสริม ก่อนร่างหนาจะร่วงหล่นลงจากหลังม้า กองกำลังเสริมที่เห็นดังนั้นก็ชะงักกึก ก่อนจะลงมือต่อสู้
การต่อสู้นี้ไม่ได้ยากเย็นเท่าตอนเเรก เพราะชินอ๋องได้ตายเเล้ว กองทัพอีก 900 คนของต้าหยางถูกเเม่ทัพใหญ่เเละไส้ศึกที่เเฝงตัวของจื่ออิงจัดการจนเกือบหมด ถึงจะเหลือรอดมาโจมตีจื่ออิง เเต่ประสบการณ์ถูกลอบสังหารเเละเข้าร่วมกองทัพมาสี่ปีของนางก็ทำให้นางมีฝีมือไม่ด้อยไปกว่ารองเเม่ทัพเเคว้นมู่เลย เผลอๆ อาจเท่าเทียมหลิวหลางที่เป็นเเม่ทัพใหญ่ก็ได้
หลังสิ้นสุดสงคราม ในสนามรบเหลือเพียงสตรีบนหลังอาชาท่ามกลางศพมากมาย
ใบหน้างามคล้ำแดดเหม่อมองภาพตรงหน้าเเล้วยกยิ้ม เเววตาสร้อยเศร้า ปากเล็กๆปลดปล่อยน้ำเสียงไพเราะเเต่สร้อยเศร้าร้องเพลงรักสดใสคลอไปกับบรรยากาศที่ไม่เข้ากัน ปล่อยน้ำตาไหลลงเงียบๆ นางขี้ม้ากลับเเคว้นมู่ด้วยความเชื่องช้า
"ถึงงานปักปิ่นที่รอคอย...ถึงวัยที่ออกเรือน...ถึงเวลาที่เราสองจะเคียงคู่...ข้ามผ่านวันเวลาไปด้วยกัน...ฮึก...ทำตามสัญญาเมื่อยามเยาว์...ฮึก...ถุงหอมปักด้วยความรักถูกมอบให้เจ้า..…ป้ายหยกที่เจ้าให้พร้อมคำสัญญา...ฮึก...ข้ารักษามันไว้เยี่ยงชีวา...ความรักของ...ฮึก...ของเราช่างบริสุทธิ์..…ในวันวานยังมีสองร่างเคียงคู่...ในวันนี้ข้าหวังว่าท่านจะยังจดจำสัญญา...ฮึก...ใต้ต้นท้อมีสัญญารักของชายหญิง...ใต้ผืนน้ำมีความทรงจำของพวกเขา......ใต้เเสงจันทร์มีความอบอุ่นจากอ้อม...ฮึก...กอดเจ้า...ใต้ผ้าคลุมมีใบหน้ายิ้มเเย้มของเจ้าสาว…ฮึก...ใต้ความเศร้า...ฮึก...ยังมีความสุข...ขอให้เราทั้งสองนั้นครองรักกันทุกชาติ...ทุกภพ…ฮึก...ตลอด...ไป..." ร้องจบไปก็เริ่มร้องใหม่ ถึงจะมีเสียงสะอื้นไห้ เเต่ก็ไม่ทำให้น้ำเสียงนั้นลดความน่าฟังลงเลย
เนิ่นนานหลายวัน จื่ออิงก็ถึงชายเเดนเเคว้นมู่ นางเข้าไปพักในเมืองนั้นสองวันจึงเร่งเดินทางกลับไปรายงานสถานการณ์
เมื่อต้าหยางไร้ชินอ๋อง เมื่อเเคว้นมู่ไร้แม่ทัพใหญ่หลิวหลาง ทั้งสองเเคว้นก็ส่งสานเจราจาสงบศึกชั่วคราว
ในห้องๆหนึ่งที่เย็นเยียบ มีเเท่นน้ำเเข็งอยู่กลางห้อง ในนั้นมีร่างของสตรีนางหนึ่งนอนเเน่นิ่ง ใบหน้างดงามคล้ายจื่ออิงเเต่ซีดเซียว
ตึก...ตึก...ตึก…
เสียงฝีเท้าอันแผ่วเบาดังขึ้นในความเงียบ ก่อนจะปรากฏร่างบางของสตรีใบหน้างดงามคล้ายคลึงหญิงสาวบนเเท่นน้ำเเข็งเเตกต่างเพียงใบหน้าของสตรีที่เดินมานั้นมีอายุมากกว่า
สตรีนางนั้นหยุดมองหญิงสาวที่นอนไร้ชีวิตตรงหน้า ก่อนจะยื่นมือไปลูบใบหน้าเย็นเยียบของสตรีที่นอนนิ่งอยู่บนแท่นน้ำเเข็ง นางยกยิ้มอ่อนโยนแต่เเววตาเศร้าสร้อยเเล้วกล่าวกับสตรีที่นอนนิ่ง
"จื่อชิง แม่ทำร้ายพวกเจ้าพี่น้องเเล้ว..." มู่เสียนกล่าว นางพยายามทำให้ลูกๆของนางเข้มแข็ง พยายามทำให้สมบูรณ์แบบ เเต่นางลืมไป ความสมบูรณ์แบบไม่มีจริง ตอนนั้นนางคิดเพียงว่า เสียคนพี่ ยังมีคนน้อง เเต่นางลืมคิด ลืมคิดไปว่านางอาจจะเสียทั้งสองไปก็ได้
ในวันที่นางเสียลูกสาวคนโตเพราะถูกฮ่องเต้ของต้าหยางเล่นตุกติก นางคิดเพียงเเก้เเค้นให้บุตรสาวคนโต เเต่ลืมคิดถึงจิตใจบุตรสาวคนเล็ก เมื่อวันก่อน วันที่บุตรสาวคนเล็กกลับมาตัวคนเดียวพร้อมบอกนางว่ารบชนะ
นางก็คิดเพียงจะส่งคนไปโจมตีต้าหยางต่อ เเต่บุตรสาวของนางก็กล่าวขึ้นกลางท้องพระโรง
"ท่านเเม่...ท่านเคยคิดว่าข้าเป็นลูกท่านมั้ย" จื่ออิงถามนาง
"เเน่นอน" มู่เสียนตอบเเล้วมองบุตรสาวด้วยความสงสัย
"แล้วท่านรู้อะไรเกี่ยวกับบุตรสาวคนนี้ของท่านบ้างเล่า" นางยกยิ้มถามมารดาบังเกิดเกล้า
"รู้ว่าเจ้าคือบุตรสาวข้าเเละสนมเอกก็เพียงพอแล้ว" มู่เสียนตอบ
"หึ...หึ...ท่านเเม่...ตอนที่ท่านเสียท่านพี่ไป ท่านเจ็บปวดหรือไม่" จื่ออิงถาม
"ก็ต้องเเน่อยู่เเล้ว" นางตอบ เเล้วขมวดคิ้ว บุตรสาวนางถามเช่นนี้ทำไม
"ท่านเสียเพียงหนึ่ง...ท่านยังเจ็บ ท่านยังเเก้เเค้น...เเละท่านยังเคยอยู่ดูเขาเติบโต ดูเขาเรียนรู้ เเต่ข้า...ข้าเสียบุตรทั้งที่ข้ายังไม่รู้ว่ามีพวกเขาอยู่ในท้อง ข้าเสียพวกเขาทั้งที่ยังไม่รู้ว่าเป็นหญิงหรือชาย ข้าเสียพวกเขาทั้งที่ยังไม่เคยพบหน้ากันเลยด้วยซ้ำ...ข้าเสียพวกเขาไป...เพราะสงครามที่ท่านก่อขึ้น! ยังไม่รวมพ่อของพวกเขาที่ท่านฆ่าเองกับมือ! ท่านเคยเสียใจบ้างมั้ย...ที่ฆ่าบุตรสาวท่านทางอ้อมเช่นนี้ เเต่ข้าว่าไม่หรอก เพราะแม้เเต่สิ่งที่ข้าชอบ สิ่งที่ข้าทำได้ดี ท่านยังไม่รู้เลย และจะรู้สึกเสียใจได้เช่นไร" จื่ออิงกล่าวด้วยดวงตาเเดงก่ำ
"จากนี้ข้าขอถอนตัวจากตำแหน่งนี้เเละขอตัดขาดจากราชวงศ์!" นางกล่าวทิ้งท้ายก่อนจะหันหลังออกจากท้องพระโรง มู่เสียนมองตามหลังบุตรสาว นางไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าน้ำตานางไหลอาบเเก้มตอนไหน รู้ตัวอีกทีนางก็วิ่งตามบุตรสาวนางออกจากท้องพระโรงเเล้ว เเต่สิ่งที่นางเห็น มีเพียงความว่างเปล่า…
"แม่ขอโทษ...เเม่ขอโทษ" นางได้เเต่ร่ำไห้พร้อมบอกออกไปเเล้วมองหาร่างของบุตรสาวคนเล็ก พร้อมสั่งให้คนออกตามหา เเต่สุดท้าย...ก็ได้เพียงความว่างเปล่า จื่ออิงทิ้งนางไปแล้ว…มู่เสียนในชุดจักรพรรดินีทรุดตัวลงกับพื้น จื่อฝางสนมเอกของนางรีบมาพยุงนางขึ้น เเล้วปลอบโยนนาง
…
"แม่ทำผิดต่อพวกเจ้ามากเหลือเกิน" มู่เสียนกล่าวเสียงสั่น น้ำเม็ดเล็กหยดลงบนเเก้มขาวซีดของจื่อชิง มู่เสียนร่ำไห้ไร้เสียง
ทางด้านจื่ออิง
นางใช้วิชาตัวเบาเร้นออกไปทางหลังวัง เเล้วขี่ม้าที่ขอร้องให้ท่านพ่อของนางเตรียมให้พร้อมเสื้อผ้าเเละถุงเงิน นางขี่ม้าไปเรื่อยๆ จนออกจากเมืองหลวง นางก็ยังไม่หยุด จนวันเวลาผ่านไป 3 วัน นางมาหยุดตรงหน้าหลุมศพของคนที่นางรัก
"ชางเยี่ย...ข้ามาหาเจ้าตามสัญญาแล้ว…" นางคุกเข่าตรงหน้าป้ายหลุมศพเเล้วเอ่ย ยกมือที่เริ่มคล้ำเเดดเเละหยาบกร้านไปลูบแผ่นหินที่สลักชื่อคนที่นางรักตรงหน้า น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าไหลรินอาบเเก้ม
"ข้ามาหาเจ้าเเล้ว…" นางยิ้มทั้งน้ำตาเเล้วลูบชื่อที่สลักด้วยตัวนางเองด้วยความรัก
"เมื่อไหร่ข้าจะได้พบเจ้าอีกนะ"
"เจ้ารู้มั้ย...ตลอดเวลาที่ผ่านมา ตลอดเวลาที่ข้าทำหน้าที่ในฐานะองค์หญิงรัชทายาท...ข้าเหนื่อยเเค่ไหน ข้าท้อมากเท่าไหร่ ข้ากลัวมากขนาดไหนตอนที่ถูกลอบสังหาร เเต่เพราะเจ้า...เพราะเจ้าทำให้ข้ามีเเรงขึ้นมาต่อสู้กับพวกขุนนางเฒ่านั่น เพราะเจ้าทำให้ข้ากัดฟันสู้มาจนถึงตอนที่เจ้า...ตอนที่เจ้าไม่อยู่เเล้ว ฮึก…" จื่ออิงสูดหายใจเข้าลึกๆ พยายามยิ้มให้คนที่นางรัก ถึงแม้เขาจะไม่อยู่เเล้วก็ตาม
"ข้ารักเจ้านะ...ข้าอยากได้ยินเจ้าพร่ำบอกรักข้าอีกครั้ง...เเต่...ข้าคงหวังมากไปสินะ"
"ไม่เป็นไร ขอเเค่เป็นเจ้า...ข้ายอมได้ทั้งนั้น" จื่ออิงยิ้มอีกครั้ง ถึงเเม้น้ำตาจะไหลเป็นทางจนมองไม่ชัด
"ชางเยี่ย…ข้าขอโทษที่พาเจ้ากลับต้าหยางไม่ได้ ข้าขอโทษที่ไม่ได้ทำพิธีให้เจ้า ข้าขอโทษ...ที่ทำให้ลูกของเรา...ตาย…"
"เเต่จากนี้ไป เจ้าก็จะไม่ต้องมาเสียใจเเละคอยดูเเลข้าเเล้วนะ ข้าจะพยายามอยู่ให้มีความสุข ใช้ทุกวินาทีเเทนเจ้า จนวันสุดท้าย...เจ้าอย่าลืมข้าล่ะ" จื่ออิงกล่าว เเล้วลุกขึ้น
"ข้าไปก่อนนะ เเล้วข่าจะมาเยี่ยมใหม่" นางส่งยิ้มให้เขาเเล้วขึ้นหลังม้าขี่ออกไป
จากวันนั้นก็ผ่านมาเเล้ว 30 ปี จื่ออิงในวัย 60 ปีก็เเก่ตายด้วยโรคชรา ทางด้านราชวงศ์มู่ก็ให้กำเนิดทายาทคนใหม่ถึงจะเป็นชายเเต่ก็ให้ขึ้นครองบังลังก์ เพราะเป็นทายาทคนเดียวที่เหลือ
ความสัมพันธ์ของสองเเคว้นก็เป็นเช่นเดิม มีสงครามเรื่อยมา เพราะฮ่องเต้พระองค์เดิมของต้าหยางได้ลบหลู่องค์หญิงรัชทายาทของเเคว้นมู่ด้วยการย่ำยีนางจนตาย เมื่อทางเเคว้นมู่ได้รับร่างไร้วิณญานของจื่อชิงพี่สาวของจื่ออิงก็ลอบส่งคนมาสร้างความเสียหายเล็กๆน้อยๆ เป็นการประกาศสงคราม ก่อนจะยุให้คนในเเตกกันจนก่อกบฏ โดยมีสนมเอกจื่อฝางหรืออดีตราชครูเเห่งต้าหยางเป็นผู้นำในการก่อกบฏ
พิธีศพของจื่ออิงถูกจัดขึ้นเเบบเล็กๆ ธรรมดา เเต่มีผู้ร่วมงานไม่ธรรมดา เพราะมีฮ่องเต้ พระสนมเอกจื่อฝางเเละขุนนางที่ใกล้ชิดมาร่วมงาน สุดท้ายก็ทำตามปรารถนานางที่ขอไว้ก่อนตาย คืออยากอยู่ข้างๆคนที่นางรัก หรือก็คือชางเยี่ย
สุดท้ายความรักของทั้งสองก็จบลง ความรักในชาตินี้ช่างจบได้น่าเศร้านัก เเต่ใครจะรู้เล่า นี่เป็นเพียงด่านเคราะห์นึงของเทพทั้งสององค์ที่ลงมาจุติเท่านั้น
"คาราวะท่านเทพธิดา" เสียงเซียนชั้นต้นที่รับใช้เทพธิดาผู้ดูแลสระน้ำอมฤตของสวรรค์ดังขึ้น ก่อนที่ร่างที่นอนเเน่นิ่งไปหลายเดือนจะลืมตาขึ้น
"อืม" เสียงไพเราะตอบสาวใช้ ก่อนจะลุกขึ้นนั่ง ใบหน้างดงามหมดจดขมวดคิ้วเล็กน้อยพลางยกมือลูบขมับ
"ข้าเผชิญด่านเคราะห์นานเท่าใด" เสียงหวานใสกังวานถาม
"2 เดือนเพคะ" สาวใช้ตอบ เทพธิดาคนงามหรือจื่ออิงธิดาองค์เล็กของเง็กเซียนฮ่องเต้ เทพธิดาที่ดูเเลสระน้ำอมฤตของสวรรค์ขมวดคิ้วอีกครั้ง
"ครั้งนี้นานเสียจริง" นางพึมพำก่อนจะลุกไปเเต่งตัวเเล้วเตรียมเข้าเฝ้าเง็กเซียนฮ่องเต้
…
"ท่านพ่อ" จื่ออิงในชุดสีชมพูกรีบบัวย่อกายให้บุรุษสูงศักดิ์ตรงหน้า
"รู้สึกเช่นไรบ้าง" เง็กเซียนฮ่องเต้ถามบุตรสาวคนเล็กด้วยความห่วงใย
"ดีขึ้นกว่าตอนรู้สึกตัวเเล้วเพคะ" จื่ออิงยิ้มตอบ
"งั้นหรือ" เง็กเซียนฮ่องเต้ยิ้มอ่อนโยนก่อนจะเดินมาลูบหัวบุตรสาว ทั้งคู่คุยกันอีกเล็กน้อย จื่ออิงจึงขอตัวกลับ
"ฝ่าบาท เทพชางเยี่ยขอเข้าเฝ้าพะย่ะค่ะ" องครักษ์หน้าตำหนักเข้ามารายงาน
"อืม ให้เข้ามาเถอะ" ผู้เป็นใหญ่ของสวรรค์เอ่ยอนุญาต จื่ออิงจึงน้อมกายแล้วเดินออกมา
"องค์หญิง" ชางเยี่ยก้มหัวให้อีกฝ่าย
"ท่านเทพ" จื่ออิงย่อกายเล็กน้อยเป็นการตอบรับ ทั้งคู่ยิ้มให้กันก่อนจะต่างฝ่ายต่างเดินจากกันไป
เทพซือมิ่งมองดูทั้งสองเเล้วยกยิ้ม ก่อนจะอันตรธานหายไป
เรื่องบางเรื่อง ให้มันลืมมันไปก็ดีกว่าจดจำไว้ไม่ลืมดีกว่า…
จบ!!
อยากให้เเต่งเป็นเรื่องยาวมั้ย…??
หากใครไม่เก็ต...
ทั้งคู่เเค่เผชิญด่านเคราะห์ร่วมกันในโลกมนุษย์ เเละไม่สมหวัง นางเอกคือองค์หญิงของเเคว้นมู่ที่ถูกเลี้ยงดูที่ต้าหยางโดยคุณพ่อคนเดียว ตกหลุมรักเเละเเต่งงานกับพระเอก หลังเเต่งงานได้ไม่นานพระเอกก็ต้องเข้าร่วมสงครามเพราะมีตำเเหน่งเป็นรองแม่ทัพ นางเอกที่อยากตามพระเอกไปเลยเเอบหนีออกจากบ้านเข้าร่วมกองทัพ เเต่ระหว่างทางถูกโจมตีทำให้ตกจากหลังม้าเเท้งลูกแฝดวัย 2 เดือน จากนั้นกองทัพถูกโจมตี ระหว่างทางพานางเอกกลับบ้านก็ถูกทหารฝ่ายศัตรูก็ชิงตัวนางเอกมาได้ เเละนางเอกก็รู้ว่าตัวเองเป็นใคร เพราะอดีตองค์หญิงรัชทายาทหรือพี่สาวของนางตายไปเมื่อ 1 ปีก่อนเพราะฮ่องเต้ต้าหยาง นางเลยกลายเป็นองค์หญิงรัชทายาทเเทนเเละเพื่อล้างเเค้นให้พี่สาวกับเพื่อจะได้กลับไปหาพระเอกได้อีกครั้งนางเอกเลยยอมทำตามที่เเม่บอก 3 ปีผ่านไป นางเอกเข้ามาตรวจกองทัพพร้อมเเม่ของนาง เเละพระเอกดันบุกมาโจมตีวันนั้นพอดี เเม่นางเอกเลยจัดการเชือดพระเอกต่อหน้านางเอก หลังจากนั้นนางเอกก็ฝังศพพระเอกเเล้วยกทัพโจมตีทัพของต้าหยางเเล้วชนะ เหลือรอดคนเดียว จากนั้นก็กลับวังไปตัดขาดสัมพันธ์กับพ่อเเม่ เเม่ก็เพิ่งรู้ตัวว่าทำให้ลูกสาวเจ็บปวดเเค่ไหนเลยเพิ่งรู้ว่านางละเลยมากเท่าไหร่เเต่ก็สายไปแล้ว นางเอกขี่ม้าไปที่หลุมศพพระเอก บอกเล่าเรื่องราวชีวิต บอกรัก แล้วบอกลา ก่อนจะตายในวัย 60 ปี เเล้วถูกฝังข้างๆหลุมศพพระเอก เเล้วนางเอกก็กลับสู่สวรรค์ อยู่ในฐานะองค์หญิงเล็กผู้ดูเเลสระน้ำอมฤต เเล้วก็เจอกับพระเอกที่กลับขึ้นสวรรค์ก่อนนางเอก 30 วัน หรือเท่ากับ 30 ปีบนโลกมนุษย์ หรือก็คือ ขึ้นสวรรค์มาตอนที่โดนเเม่นางเอกเชือด เเละทั้งสองที่มีตัวตนบนโลกมนุษย์ ก็เป็นเเค่เรื่องราวที่พวกเขาไม่เคยรับรู้เพราะผิดกฎสวรรค์ที่จะไปดูเรื่องราวในด่านเคราะห์ที่มีเทพซือมิ่งเป็นผู้กำหนดชะตากรรม เเละชีวิตบนสวรรค์ของทั้งสอง ก็เป็นเเค่คนที่รู้จักกันเเต่ไม่สนิทกัน เเค่นี้ค่ะ จบ!
เรื่องนี้เป็นนิยายดราม่าเรื่องเเรกที่เเต่ง อาจไม่ดราม่ามาก หรือไม่ดราม่าเลย แล้วคือเเบบ เเต่งยากมากเพราะเเต่งไปสามบรรทัด บรรทัดที่สี่ดันเฮฮาเลยทำให้เเต่ไงก็เเค่นี้ เเต่สนุกนะคะที่ได้เเต่งเเนวดราม่า เอาจริงนะ ตอนเเต่งแอบร้องไห้นิดนึง555 เเต่ขอบคุณทุกคนมากนะคะที่เข้ามาอ่าน ถามอีกรอบ อยากให้ทำเป็นเรื่องยาวมั้ย?
ผลงานอื่นๆ ของ 0887867152 ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ 0887867152
ความคิดเห็น