รุ่นพี่หน้าใสพิชิตใจเฟรชชี่หน้าหวาน - นิยาย รุ่นพี่หน้าใสพิชิตใจเฟรชชี่หน้าหวาน : Dek-D.com - Writer
×

    รุ่นพี่หน้าใสพิชิตใจเฟรชชี่หน้าหวาน

    ตายหล่ะสิ!ทำไมเวลามันเดินเร็วอย่างนี้นะ ฉันจะตกรถมั้นเนี้ย "หยู้ด....ด...ด..ด"

    ผู้เข้าชมรวม

    236

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    236

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    1
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  1 ก.ย. 66 / 17:52 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    1

     "ให้ตายเถอะทำไมเวลามันเดินเร็วอย่างนี้นะ ฉันจะตกรถมั๊ยเนี้ย"หญิงสาวหน้าตาน่ารักรูปร่างบางสันทัดวิ่งอย่างรีบร้อน พร้อมด้วยกระเป๋าเป้สีชมพูใบใหญ่ที่สะพายอยู่ข้างหลัง

    "หยู้ด...ด...ด...ด...ด"หญิงสาวคนเดิมวิ่งเข้าไปขวางรถบัสปรับอากาศคันใหญ่อย่างไม่กลัวตาย แล้วรีบวิ่งขึ้นรถอย่างรวดเร็วคนในรถต่างส่งเสียงฮือฮา เพราะเธอมาสายไปเกือบสามสิบนาที แต่ด้วยความที่เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองเธอจึงยิ้มอย่างภาคภูมิใจแล้วเดินไปนั่งข้างๆกับผู้ชายที่นั่งซึมกะทือไม่สนใจโลกภายนอก เพราะว่าไม่มีที่ไหนให้เธอได้เลือกนั่งอีกแล้ว (ก็มาสายเองนี่หน่า+_+)

         ฉันชื่อธารใส เป็นเฟรชชี่ของมหาวิทยาลัยฮาโตะ วันนี้ฉันต้องไปรับน้องนอกสถานที่ รุ่นพี่ตกลงกันว่าจะไปรับน้องที่ชายทะเลและจะไปกันทั้งหมดสี่วันสามคืน วันนี้ที่ฉันมาสายเพราะว่าเจ้าสุนัขข้างบ้านที่ฉันไม่เคยเล่นกับมันเลย วันนี้นึกสนุกอะไรขึ้นมาก็ไม่รู้วิ่งพรวดเข้ามาตะกายฉันจนเสื้อผ้าหน้าผมของฉันเละไปหมด ฉันจึงต้องไปอาบน้ำแต่งตัวใหม่ "ไอ้บ้าเอ้ย"ฉันพูดกับตัวเองเบาๆ แต่มันคงจะไปตกในรูหูของผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างๆ ฉัน

    "เมื่อกี้น้องว่าพี่เหรอครับ"ผู้ชายที่ฉันคิดว่าคงจะถอดจิตไปไหนต่อไหนแล้วหันหน้ามาถามฉัน

    "ปะ...เปล่าค่ะพี่"ฉันตอบอย่างตกใจเล็กน้อย เมื่อหันหน้ามาเจอเขา ผู้ชายอะไรโทรมอย่างกับผีตายซาก ตอนที่ฉันมานั่งก็ไม่ทันได้สังเกตเขา

    "เฮ้ย ไอ้สายฟ้าแกจะซึมอะไรนักหนาวะ คนอกหักมันต้องทำตัวให้ครื้นเครง แสดงความโสดให้สาวๆเห็นหน่อย"ผู้ชายที่ดูเหมือนว่าจะเป็นเพื่อนสนิทของผู้ชายที่ชื่อสายฟ้าเข้ามาทักเพื่อนที่นั่งซึมเหมือนไม่อยากรับรู้อะไรแล้ว แต่ตอนนี้ฉันพอจะรู้แล้วว่าผู้ชายที่นั่งข้างๆ ฉันคือนายสายฟ้า คงจะอกหักมาไม่นานเพราะลักษณะการแต่งตัวที่ซอมซ่อ หน้าตาที่ดูจืดชื่นไม่มีชีวิตชีวา และที่สำคัญฉันได้กลิ่นสาบเหมือนคนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นปีโชยเข้าจมูกฉันเป็นระยะๆ

    "น้องครับ พี่รบกวนฝากไอ้สายฟ้ามันด้วยนะครับ"แล้วผู้ชายที่เป็นเพื่อนนายสายฟ้าก็เดินจากไปโดยไม่รอฟังคำตอบ

    เอาแล้วไงล่ะความซวยมาเยือนฉันจนได้ ฉันต้องดูแลไอ้หมอนี่ทั้งๆ ที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน #_#

    "น้องชื่ออะไรครับ"นายสายฟ้าถามชื่อฉันอย่างเย็นชา

    "ธารใสค่ะ"-_0

    "ชื่อน่ารักดีนะครับ"

    "ขอบคุณค่ะ"^_^

    "พี่ชื่อสายฟ้านะครับ"

    "ทราบแล้วค่ะ"

    "น้องไม่ต้องดูแลพี่หรอกครับ พี่พอจะดูแลตัวเองได้ ถ้าพี่ไม่ไหวพี่จะเรียกน้องเอง"

    "ค่ะ" ฉันดีใจที่สุดก็คำพูดประโยคสุดท้ายของนายสายฟ้านี่แหละ

    รถบัสปรับอากาศวิ่งไปเรื่อยๆและในที่สุดฉันก็ถึงทะเล ฉันรอให้ทุกคนลงจากรถให้หมดก่อนเพราะฉันไม่ชอบไปเบียดเสียดกับใคร แต่พอถึงคราวที่ฉันจะลงฉันก็ต้องมานั่งปลุกนายสายฟ้าที่หลังจากสนทนากับฉันจบก็ผล็อยหลับไปเมื่อไรก็ไม่รู้

    "พี่สายฟ้าตื่นได้แล้วค่ะ"ฉันเขย่าไหล่นายสายฟ้าเบาๆ แต่ก็ยังไม่ตื่น

    "พี่สายฟ้าตื่น ตื่น ตื่น ได้แล้ว"คราวนี้ฉันเปลี่ยนเป็นตะโกนใส่หูเขา นายสายฟ้าทำท่าเหมือนจะตื่น แต่เขากลับเขามารวบตัวฉันลงไปนั่งที่ตักแล้วพูดพร่ำถึงใครซักคน

    "ดาวีอย่างทิ้งผมไปนะ ดาวี ดาวีอย่างทิ้งผม โอ๊ย!"นายสายฟ้าไม่ทันได้พร่ำต่อเพราะฉันได้ใช้กำลังเฮือกสุดท้ายเอาศอกพุ่งเข้าสู่ท้องของนายสายฟ้าอย่างเต็มแรง คราวนี้คงจะตื่นได้ซักที่สินะ ไอ้พี่ลามก O_O!

    2

    "ถึงทะเลแล้วเหรอเนี้ย"สายฟ้าพูดพร้อมกับทอดสายตาไปทางทะเลที่มีคลื่นกระฝั่ง

    "พี่คะ จะปล่อยได้ยังคะ"ฉันมองตาค้อนใส่นายสายฟ้า

    "อ้าว แล้วน้องมานั่งบนตักพี่ทำไมล่ะ"สายฟ้าปล่อยมือที่โอบฉันอยู่ หลังจากที่เขาปล่อยฉันเขาก็โดนกำปั้นสวยๆของฉันไปอีกหนึ่งที

    "นอนละเมอเพ้อฝันอยู่ยังไม่รู้อีก แล้วยังมาหาว่าธารไปนั่งบนตักพี่ น่านั่งเหลือเกินนะตักของพี่อ่ะ"ฉันตวาดใส่เขาเต็มที่โดยไม่คิดจะเบรกหายใจจนกว่าจะตวาดจบไปเลยทีเดียว

    "เหรอ งั้นพี่ก็ขอโทษแล้วกันนะครับ"นายสายฟ้ายอมรับความผิดที่เขาได้ทำกับฉัน เมื่อนายสายฟ้าขอโทษฉันแล้ว ฉันก็เดินลงจากรถไปยังกลุ่มเฟรชชี่ที่กำลังยืนฟังรุ่นพี่พูดถึงเรื่องอะไรอยู่ก็ไม่รู้ แต่ฉันไม่จำเป็นต้องรีบร้อนเพราะเดี๋ยวฉันก็เข้าไปถามเพื่อนๆในกลุ่มนั้นก็ได้

    "เธอๆเมื่อกี้พี่เขาพูดเรื่องอะไรเหรอฉันมาฟังไม่ทัน"ฉันเข้าไปถามผู้หญิงตัวเล็กๆที่สะพายกระเป๋าเป้ใบใหญ่กว่าตัวเอง ใส่แว่นหนาเป็นเอกลักษณ์ (แต่ก็ดูน่ารักดี) เพราะท่าทางดูเป็นมิตรกับคนอื่นที่สุดแล้ว

    "เมื่อกี้พี่เขาให้...อ้าวยัยธาร"ผู้หญิงตัวเล็กๆคนนั้นหันมาตอบก่อนจะมีอาการดีใจเหมือนรู้จักกับฉันมาก่อน แต่ว่าฉันคงจำเขาไม่ได้จึงได้แต่นิ่ง

    "จำฉันได้ป่าว ต้นหลิวไงจำได้ยัง"ผู้หญิงที่บอกฉันว่าตัวเองชื่อต้นหลิวเขย่าไหล่ทั้งสองข้างเบาๆ ฉันพยายามนึกอยู่นานก็จำได้

    "อ๋อที่แท้ก็เธอเองเหรอ เงินที่ยืมฉันไปสามร้อย เมื่อไรจะคืน"นี่เป็นคำสนทนาแรกของฉันที่มักใช้ทักยัยต้นหลิวเป็นประจำ ยัยต้นหลิวคือเพื่อนรักสมัยมัธยมต้น แต่พอขึ้นมัธยมปลายยัยต้นหลิวก็ต้องย้ายไปเรียนที่โรงเรียนในเมือง เนื่องมาจากพ่อของยัยต้นหลิวต้องย้ายไปทำงานในเมืองนั่นเอง แต่ก็ไม่นึกว่าจะได้มาอยู่ด้วยกันอีก

    "ยัยธารแกนี่ไม่เปลี่ยนเลยนะ"

    "สวยยังไงก็สวยยังงั้นใช่มั้ย แต่แกเปลี่ยนไปนะ"

    "อะไรที่ฉันเปลี่ยน"ต้นหลิวถามอย่างงงๆ

    "ก็แกใส่แว่นหนากว่าเดิมหน่ะสิ" @_@ 

    "ขอบคุณนะยัยเพื่อนเลิฟ"ต้นหลิวพูดงอนๆ

    "ล้อเล่นหน่า แกดูดีกว่าเก่ามากจากคนที่มีสิวเต็มหน้าตอนนี่ก็เป็นคนหน้าใสอมชมพู ทรงผมที่เคยไว้หน้าม้าก็ไม่มีให้เห็นแล้ว"ฉันพูดง้อยัยต้นหลิวที่เป็นคนงอนง่ายแต่หายเร็ว

    "แน่นอนอยู่แล้ว ที่เป็นได้ขนาดนี้ก็เพราะยัยน้องสาวแก่แดดของฉันนั่นแหละมันแนะนำฉันมา ต้องขอบคุณมันจริงๆ"ต้นหลิวเอ่ยพร้อมกับสะบัดผมที่ยาวสลวยไปมาอย่างมั่นใจ

    "ฉันล่ะเชื่อน้องแกเลย"

    "ยัยธารฉันว่าเรารีบไปช่วยพวกเขากางเต็นท์เถอะ ก่อนที่พวกเราจะไม่มีที่จะนอนกัน"ยัยต้นหลิวบอกแล้ว แล้วก็ดึงตัวฉันไปยังกลุ่มเพื่อนๆยัยต้นหลิวที่มีประมาณสี่ห้าคน

    "นี่พวกแกฉันขอแนะนำเพื่อนฉันให้รู้จัก"เพื่อนๆของยัยต้นหลิวหันมามองฉันเป็นตาเดียว ฉันสวยมากรึไงยะ

    "นี่คือ ธารใส เพื่อนเก่าของฉัน"ยัยต้นหลิวแนะนำฉันให้พวกเพื่อนๆของมัน

    "สวัสดีนะทุกคน"นี่เป็นคำทักทายคำแรกของฉัน

    "หวัดดี"เพื่อนๆของยัยต้นหลิวประสานเสียงพูดพร้อมกัน (เหมือนนัดกันมาเลย)

    "ฉันชื่อแจนนะ ยินดีที่ได้รู้จัก"ผู้หญิงที่ดูเหมือนเด็กเรียนที่สุดทักทายกับฉันเป็นคนแรก ด้วยหน้าตาที่ยิ้มแย้มและเป็นกันเองที่สุด

    "ฉันชื่อดรีม"ส่วนผู้หญิงคนนี้ก็มาทักฉันมาดหญิงห้าวสาวหล่อ ท่าทางจะขี้หลีซะด้วย

    "ส่วนฉันชื่อจิ๊กซอร์นะ"ผู้หญิงที่มาทักฉันเป็นคนที่สามคนนี้ก็ออกแนวเปรี้ยวจี๊ด

    "ฉันชื่อเอมนะ"คนนี่ก็เหมือนจะตามชาวบ้านไม่ทัน (ถ้าให้พูดภาษาชาวบ้านก็ซื่อบื้อ)

    "ส่วนอิฉันก็ชื่อลูกหล้านะ"คนนี้ท่าทางจะเด็กบ้านไกล คงจะอยู่แถงทางภาคอีสาน ลักษณะการพูดบ่งบอกได้ดี

    "ไอ้หลิวแกรีบมาช่วยฉันหน่อยได้มั้ย"ผู้หญิงที่ชื่อดรีมตะโกนมาแต่ไกล

    "เออๆ รู้แล้วหน่า"ยัยต้นหลิวตอบอย่างรำคาญ

    "นี่ธาร เธอช่วยหยิบเชือกเส้นนั้นให้หน่อยสิ"แจนตะโกนเรียกฉัน

    "อืมได้ๆ"ตอนนี้ทุกคนกำลังวุ่นวายกับการกางเต็นท์เป็นอย่างมากถึงมากที่สุด และแล้วในที่สุดเต็นท์ของกลุ่มเราก็เสร็จเป็นกลุ่มแรก พวกเราจึงได้สิทธิพิเศษจากพวกรุ่นพี่ให้ลงไปเล่นน้ำทะเลได้ก่อน จนทำให้บางกลุ่มถึงกับอิจฉาตาร้อนผ่าวกับเป็นแถว

    "ดีจังเลยนะ ที่กลุ่มเราเสร็จก่อนกลุ่มอื่นๆ"เอมพูดขณะที่เตรียมของไปเล่นน้ำทะเล

    "นี่ดรีมเธอไม่เล่นน้ำเหรอ ไม่เห็นเตรียมของเลย"ฉันถามยัยดรีมที่นั่งสีหน้าเครียดตั้งแต่เข้ามาในเต็นท์แล้ว

    "ไม่อ่ะ ฉันไม่ค่อยสบาย ขืนไปเล่นมีหวังได้เป็นผีเฝ้าชายหาดแน่ๆ"ดรีมตอบฉัน
    "เธอไม่เป็นอะไรมากใช่มั้ยดรีม ฉันอยู่เป็นเพื่อนเธอได้นะ"ฉันถามอาการของดรีมอย่างเป็นห่วง
    "เธอไปเล่นน้ำเหอะ เดี๋ยวฉันนอนพักสักหน่อยก็คงจะหาย"ดรีมตอบแล้วก้มตัวลงนอนอย่างช้า
    "ถ้าเป็นอะไรก็ตะโกนเรียกเต้นท์ข้างๆละกันหล่ะ ฉันไปผูกมิตรมาแล้ว ทั้งด้านซ้ายและด้านขวา"
    "แกนี่สุดยอดจริงๆเลยนะยัยธาร แค่แป้บเดียวก็สามารถผูกมิตรได้รอบทิศ ผิดกับยัยจิ๊กซอร์ที่สร้างศัตรูได้รอบทิศภายในนาทีเดียว"ต้นหลิวพูดชื่นชมฉัน
    "เฮ้ย!!!ยัยหลิวแกจะมาว่าฉันฝ่ายเดียวก็ไม่ได้นะ ก็คนพวกนั้นเขามองฉันก่อน ฉันก็เลยถามเขาว่า มองทำไมเหรอ ฉันว่ามันก็ไม่เห็นผิดตรงไหนเลย"จิ๊กซอร์พูดค้าน
    "แกนี่จริงๆเลยนะ ไม่ยอมรับผิดเลยว่าแกไปหาเรื่องเขาชัดๆ"ดรีมที่นอนฟังอยู่นานตอบขึ้นมาบ้าง จนพวกเราถึงขั้นกระหยิ่มยิ้มชอบใจอยู่ไม่ใช่น้อย

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น