ดั่งห้วงแห่งฝัน - นิยาย ดั่งห้วงแห่งฝัน : Dek-D.com - Writer
×

    ดั่งห้วงแห่งฝัน

    ข้าไม่ผิด ข้าไม่ได้ทำ ทำไมไม่มีใครเชื่อข้า

    ผู้เข้าชมรวม

    82

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    82

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  4 ธ.ค. 63 / 15:02 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    บทนำ

               จักรภพ มหานครแห่งศูนย์รวมที่เป็นเมืองเอกของเหล่าหัวเมืองสำคัญในหลายหมื่นปีก่อน  เมื่อครั้งเวทย์มนต์ยังเป็นสิ่งที่รุ่งเรือง ผู้ที่ได้รับการยอมรับคือผู้ที่สามารถแสดงเชาว์ปัญญา 3 สิ่ง  อันประกอบด้วย   1.การใช้ศาสตราวุธ   2.การใช้ปราชญา   3.การใช้มายาศาสตร์  และเหล่าหัวเมืองสำคัญที่มีความแข็งแกร่ง ปราชเปรื่อง และใช้มนตราได้คล่องแคล่ว  เมืองเหล่านั้นต่างมีลักคณาธาตุที่สืบต่อกันมาทางสายเลือดเป็นธาตุต่างๆ ประกอบไปด้วย

    ปฐพี  ธารา วายุ อัคคี อัศนี ตปนียะ รัชตะ พฤกษ์ รังสี อนธการ เวทย์ และ นิรยะ

    ปฐพี  อัคคี  อัศนี  อนธการ  นิรยะ จัดอยู่ในมายาศาสตร์ดำ  ธารา  วายุ  พฤกษ์  รังสี  เวทย์  จัดอยู่ในมายาศาสตร์ขาว

    ส่วนตปนีย์ และ รัชตะนั้น เป็นสายพลังในเชื้อพระวงค์แห่งจักรภพ ที่สืบทอดต่อกันมาอย่างยาวนานเท่านั้น


          "ผู้ที่แกร่งที่สุดเท่านั้นจึงจะยืนหยัดอยู่ได้"  เป็นคำสอนที่มีมาหลายชั่วอายุคน  คำสอนนี้แทรกซึมไปยังลูกหลานทุกเมื่อเชื่อวัน  ทำให้พวกเขาฝังใจว่าจะต้องแข็งแกร่งเหนือกว่าผู้ใด  ทุกคนต่างฝึกฝนอย่างหนักเพื่อให้ตนเองได้เป็นผู้ที่แข็งแกร่ง อนึ่งนั้น เพราะว่าผู้คนส่วนใหญ่นั้นต่างก็มีความเชื่อฝังใจว่าบุตรคนที่แข็งแกร่งที่สุดจะเป็นความหวังของวงศ์ตระกูล  บุตรชายมักจะถูกไว้วางใจมากกว่าเพราะถือเป็นความหวังหลักของวงค์ตระกูล บุตรสาวหากเก่งกล้าจะถูกให้ความสนใจมากกว่าคนที่ไม่มีความสามารถ หากมีความสามารถต่ำมักไม่ค่อยมีใครให้ความสนใจนัก 


               ในเรื่องการสมรส ส่วนใหญ่นั้นเลือกที่จะสมรสกับผู้ที่มีสายเลือดบริสุทธิ์ คือ ตั้งแต่ต้นตระกูลมีแต่สายพลังนั้นๆ  เพื่อเสริมให้สายเลือดที่จะเกิดมาแข็งแกร่ง  แต่ก็มีข้อเสียตรงที่ต่อให้แข็งแกร่งที่สุดก็จะสามารถใช้ได้แต่ลักคณาธาตุที่เกี่ยวข้องกับตนเองเท่านั้น อาจมีบ้างที่สมรสกับสายเลือดผสม คือ มีสายพลังอื่นเข้ามาเจือปน 


               มีการแก่งแย่งดึงตัวผู้ที่สามารถใช้สายพลังมากกว่า 2 สายเข้าร่วมเป็นพรรคพวกของตนเพื่อแสดงอำนาจ แต่มีน้อยมากที่สามารถใช้พลังได้คล่องแคล่วเนื่องจากข้อจำกัดในการใช้พลังของตนเอง เพราะการฝึกในสายพลังของตนเพื่อก้าวข้ามขั้นนั้นมีความยากมากอยู่แล้ว หากต้องฝึกสายพลังอื่นด้วย พลังก็จะแปรปรวนจนยากเกินควบคุม 


               แต่ก็ยังมีผู้ที่สามารถก้าวข้ามข้อจำกัดเหล่านี้ได้เช่นกัน มีผู้วิเคราะห์ได้ว่าผู้ที่ก้าวข้ามขั้นนั้น มีทั้งสายพลังพิเศษอยู่กาย เรียกว่า สายพลัง ไตรทศาลัย ที่แปลว่า สายพลังสวรรค์ แต่นอกจากนั้น พวกเขายังมีพรสวรรค์ในการทำความเข้าใจได้เร็วมากกว่าผู้อื่น สายพลังไตรทศาลัยแบ่งออกเป็นสองแบบ  1.สายพลังหลัก คือ สามารถใช้เวทย์เฉพาะในหมวดของตนเท่านั้น เช่น มีธาตุวายุสามารถฝึกพลังได้เพียงหมวดมายาศาสตร์ขาวเท่านั้น  มีธาตุอัคคีสามารถฝึกพลังได้เพียงหมวดมายาศาสตร์ดำเท่านั้น   2.สายพลังรอง คือ สามารถใช้เวทย์ได้ทั้งหมวดมายาศาสตร์ขาวและหมวดมายาศาสตร์ดำ


          เข้ารับการทดสอบพลัง

    ช่วงแรกเริ่ม

          ช่วงอายุ 6-10 ปี  ต้องเข้ารับการทดสอบครั้งที่ 1  เพื่อดูว่ามีธาตุอะไรอยู่บ้าง  จะได้ทำการฝึกสอนได้ถูกต้อง  ช่วงนี้จะไม่มีการส่งลูกหลานเข้าสำนักใดๆทั้งสิ้นเนื่องจากยังไม่มีความพร้อมทั้งทางด้านกายภาพและพลังภาพ  จะทำการเรียนรู้ที่บ้านของตนเองโดยผู้ฝึกสอนคือบุคคลในครอบครัว

    ช่วงเข้าสถานศึกษา

          ช่วงอายุ 11-15 ปี ต้องเข้ารับการทดสอบครั้งที่ 2  เพื่อเข้าเรียนในสำนักศึกษา  สำนักศึกษาต่างๆจะมาเข้าร่วมชมการทดสอบเพื่อคัดเลือกคนที่จะสร้างชื่อเสียงให้แก่สำนัก  หากมีสำนักศึกษาเลือกผู้ทดสอบมากกว่า 1  ผู้ทดสอบสามารถเลือกสำนักได้  ในช่วงนี้จะเกิดความวุ่นวายเป็นอย่างมากเนื่องจากหากพบผู้ที่ต้องการ  ทุกสำนักจะพยายามเกลี้ยกล่อม จูงใจ คนผู้นั้นให้เข้าสำนักของตน  หลายครั้งมีการโต้เถียงอย่างรุนแรงและลงท้ายด้วยการใช้กำลังห้ำหั่นกัน

    ช่วงจบสถานศึกษา

          ช่วงอายุ 16-20 ปี  จะมีการทดสอบพลังอีกครั้งเพื่อดูการพัฒนาศักยภาพของตนเองว่าก้าวหน้าแค่ไหน จะมีการค้นหาและเลือกตัวบุคคลที่เก่งกาจเพื่อรับเป็นพรรคพวกของตนเอง  ยิ่งเก่งกาจมากจะยิ่งได้รับสิทธิ์และการดูแลอย่างดีเพื่อผูกใจนำไว้ใช้งานนั่นเอง


    ลำดับความสำคัญของแต่ละชนชั้นอาชีพ

         ชนชั้นสูง

    แพทย์โอสถ/ผู้หลอมโอสถ ( มีความสามารถในการรักษาและการปรุงยา ผู้คนในความเกรงใจเนื่องจากเป็นผู้รักษา /แพทย์โอสถสามารถปรุงยาที่เป็นผงหรือเป็นน้ำ /หากพัฒนาตนเป็นผู้หลอมโอสถได้จะยิ่งเป็นที่ต้องการตัวอย่างมากเนื่องจากผู้หลอมโอสถนั้นมีน้อยและโอสถเม็ดหรือเม็ดยาที่ได้จากการหลอมจะมีค่ามาก

    ปราชญ์ ( เป็นผู้ที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญในสิ่งต่าง ผู้คนเคารพ นับถือ )

    ผู้ใช้เวทย์ ( เชี่ยวชาญการใช้เวทย์มนต์ในศาสตร์ต่างๆ เช่น อักขระ รักษาเยียวยา )

    นักรบ ( แข็งแกร่ง กล้าหาญ เดินสายผจญภัย รับงานคุ้มกัน ค้นหาสิ่งของต่างๆ )

    ราชวงศ์ ( มีอำนาจ ยศศักดิ์ เงินตรา )

    ขุนนาง ( มีอำนาจรองจากราชวงศ์ รับใช้กษัตริย์ แก้ปัญหาต่างๆของบ้านเมืองและประชาชน )

         

    ชนชั้นกลาง

          ทหาร ( รับใช้ราชวงศ์ ดูแลความสงบสุขและความปลอดภัยของบ้านเมืองและประชาชน )

          ผู้ทำการค้ารายใหญ่/รายย่อย ( ทำการค้าสินค้าต่างๆ การขนส่งระหว่างอาณาจักร )

          ประชาชนทั่วไป ( ทำมาหากินอย่างสุจริต ดำรงชีพอย่างปกติสุข )


    ชนชั้นต่ำ

          ขอทาน/คนเร่ร่อน/คนไร้บ้าน ( ไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นหลักแหล่ง รับจ้างทำงานทั่วไปแล้วแต่จะมีผู้จ้าง ส่วนใหญ่ไม่มีงานทำ ไม่มีสิทธิ์มีเสียง ผู้คนทั่วไปไม่เห็นอยู่ในสายตา)

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น