ฝ่าวิกฤติโควิดล้างโลก
ฉันคว้าไรเฟิล.22คู่ใจมาประทับไหล่ แล้วยิงแสกหน้าไอ้ผีร้ายที่กระโจนเข้ามาตัวแรก เฮ่ย!!! ทำไมมันไม่ตาย? ฉันยิงซ้ำเข้าที่กลางหัวมันอีกครั้งจนสมองเละๆไหลออกมา เฮ้อ โลกจะเป็นแบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่กัน
ผู้เข้าชมรวม
174
ผู้เข้าชมเดือนนี้
7
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
: : ฟิคชั่นเรื่องนี้แต่ขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ไม่กี่ยวข้องกับบุคคลใดทั้งสิ้น : :
ข่าวด่วน!
วันอาทิตย์ที่ 6 กันยายน พุทธศักราช 2563 เวลา 6 นาฬิกา 33 นาที แถบข่าวด่วนวิ่งแทรกเข้ามาในรายการข่าวเช้าของโทรทัศน์ทุกช่อง
"สวัสดีค่ะ เมื่อสักครู่เราได้รับข่าวที่น่าตื่นเต้นและน่ายินดียิ่งของมวลมนุษยชาติเลยก็ว่าได้ค่ะ ล่าสุดนายแพทย์อาคม เบิกเนตรได้แถลงอย่างเป็นทางการแล้วว่าเชื้อไวรัสอุบัติใหม่สามารถยับยั้งเชื้อ corona2019 ได้ถึง 96% วัคซีนป้องกันและยารักษาคงคงไม่ไกลเกินเอื้อมอีกต่อไปค่ะ"
______________
แอนตี้โคโรนาหรือATCไวรัส คือชื่อที่พวกเราเรียกกันตอนนั้น มันถูกพบโดยบังเอิญจากเลือดผู้ป่วยรายหนึ่งซึ่งมีอาการทรุดหนักแต่ไม่กี่วันต่อมากลับตรวจไม่พบเชื้อ นายแพทย์อาคม เบิกเนตร อาจารย์แพทย์จากโรงพยาบาลแนวหน้าของไทยได้ทำการนำเลือดของเขามาวิเคราะห์อย่างละเอียด ปรากฏว่าในเลือดของเขามีไวรัสอุบัติใหม่ที่กินเชื้อโควิดเป็นอาหารเหมือนๆกับที่เชื้อเอดส์กินเม็ดเลือดขาว
หลังจากข่าวนี้สะพัดออกไป ตอนนั้นผู้คนต่างก็ดีอกดีใจและเริ่มมีความความหวังว่าวิกฤติโควิด19ที่ชาวโลกต้องเผชิญมาเกือบ 1 ปีเต็ม มีผู้เสียชีวิตกว่า8แสนและผู้ติดเชื้อที่เหยียบหลักสิบล้าน ในที่สุดก็จะสามารถหาทางออกได้เเล้ว
เช้าวันต่อมาหลังจากมีการแถลงอย่างเป็นทางการ มิตรประเทศที่มีอิทธิพลทั้งหลายต่างก็ส่งสารลับมาขอบ้าง บังคับบ้างให้ไทยส่งมอบATCไวรัสให้ แต่ที่น่าตกใจที่สุดคือค่ำวันนั้น เวลา 19 นาฬิกา 1 นาที เรือพิฆาตติดตั้งระบบขีปนาวุธ 2 ลำจอดปิดอ่าวไทยและเรือเล็กอีก 4 ลอยลำอยู่ในฝั่งทะเลอันดามัน 48 นาทีต่อมามีสารส่งถึงนายกรัฐมนตรีไทย เนื้อหาในสารกล่าวว่า หลังจากที่ไทยค้นพบATCไวรัส ทางประธานาธิบดีของประเทศนั้นเกรงว่าประเทศมหาอำนาจอื่นจะเข้าโจมตีเพื่อปล้นเอาATCไวรัส ท่านประธานาธิบดีจึงส่งเรือรบมาช่วยป้องกันประเทศ และยังใจดีขอพาตัวทีมวิจัยของนายแพทย์อาคมกลับไปยังประเทศตนเพื่อให้มีความปลอดภัยยิ่งขึ้น ขอให้ไทยรีบดำเนินการด้วยความไม่ชักช้าด้วยเพื่อป้องกันไม่ให้ATCไวรัสตกไปอยู่ในมือของใครที่ไม่น่าไว้วางใจ
เช้าวันต่อมามีการส่งสารตอบกลับจากไทยว่าจะส่งตัวทีมวิจัยและATCไวรัสแต่โดยดี แต่มีข้อเสนอว่า สถานการณ์โรคระบาดที่เป็นอยู่ยังคงไม่น่าไว้วางใจ ทางไทยจึงเสนอขอรับเรือดำนำประจัญบานที่มีประสิทธิภาพที่สุด 2 ลำไว้ใช้ในกิจการของไทยเอง พร้อมครูผู้ฝึกสอนที่ผ่านการตรวจว่าปลอดเชื้อโควิดแล้ว ทั้งนี้เพื่อป้องกันและรักษาความมั่นคงของประเทศอย่างถาวร
4 วันหลังจากนั้นได้มีการส่งทีมวิจัยATCไวรัสขึ้นเครื่องบินของกองทัพจากประเทศยักษ์ใหญ่ใจดีและมีการเซ็นสัญญาส่งมอบเรือดำน้ำพร้อมๆกันในเวลา 10 นาฬิกาตรง
นายแพทย์อาคม เบิกเนตรได้ร่วมมือกับทีมวิจัยของประเทศยักษ์ใหญ่ทำการศึกษา ต่อยอด จนกระทั่งในที่สุด วัคซีนโควิด19 ตัวแรกที่สามารถป้องกันเชื้อโคโรนา ได้ 99% ก็ถูกนำออกทดลองในมนุษย์ ผู้กล้าหนึ่งหมื่นกับอีกสี่คนได้รับการฉีดวัคซีนตัวทดลองและผลที่ออกมาพบว่า ทั้งหนึ่งหมื่นสี่คนนั้นเกิดภูมิต้านทานไวรัสโคโรนา2019ทุกคน
มันเป็นความสำเร็จที่น่าภาคภูมิใจ ATCวัคซีนได้ถูกนำไปจดสิทธิบัตรและแจกจ่ายให้แต่ละประเทศก่อนหลังตามกำลังทุนทรัพย์ ส่วนประเทศไทยเองก็ได้รับวัคซีนในราคามิตรภาพ
ไม่นาน ATCวัคซีนก็ได้ถูกกระจายไปทุกประเทศทั่วโลก ทุกคนได้รับการฉีดวัคซีนและภูมิคุ้มกันกันถ้วนหน้า โดยไม่รู้เลยว่าสิ่งที่ตามมานั้นน่ากลัวขนาดไหน
________________________
ตึง! "ทำไมคุณทำแบบนี้ คุณก็รู้ว่าวัคซีนมันยังไม่สมบูรณ์" แฟ้มเอกสารสีเขียวเล่มใหญ่ถูกวางกระแทกลงตรงหน้าชายผมทองในชุดกาวน์คนหนึ่ง
"ทำไมจะต้องโกรธเกรี้ยวขนาดนั้นล่ะ ผู้คนทั้งโลกชื่นชมyouนะ"ชายผมทองยิ้มมุมปากมองหน้าชายอีกคนที่ยืนอยู่หน้าโต๊ะ
"แต่คุณก็รู้ว่ามันมีข้อผิดพลาด"ชายผมดำร่างเล็กพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังขึงขัง
"99.99% youจะเอาอะไรอีกเล่า"
"แล้วอีก 0.01% ล่ะ"
"mr.อาคม คุณควรจะดื่มด่ำกับชื่อเสียงและคำชมของทุกๆคนเอาไว้นะ"
"ก่อนที่จะไม่มีโอกาส" ชายผมทองลุกขึ้นเดินไปเปิดประตูพลางทำท่าทางสื่อว่า ออกไปได้แล้วผมกำลังยุ่ง
"... "
"อ้อ นี่ตั๋วเครื่องบิน ไฟลท์บินกลับบ้านพรุ่งนี้เที่ยว 10 am."ชายผมทองในเสื้อกาวน์ยื่นซองกระดาษให้คนที่กำลังจะเดินออกไป
"..."ชายผมดำรับมาอย่างไม่เต็มใจ
"คุณไม่จำเป็นต้องคิดอะไรทั้งนั้น หลังจากนี้...เราจะรับช่วงต่อเอง"
ผลงานอื่นๆ ของ ZIOOZ ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ZIOOZ
ความคิดเห็น