********************************************************
ณ ดินแดนแห่งหนึ่งที่ผู้คนไม่เชื่อในพระเจ้า เมื่อมนุษย์เริ่มมีจิตคิดเหิมเกริมขึ้นทุกวัน สำคัญว่าตัวเองนั้นมีพลังกำลังและสติปัญญาสูงส่งเหนือกว่าเผ่าพันธุ์ใดๆบนโลก ลุ่มหลงในพลัง จนถึงขนาดกล้าคิดตั้งตนขึ้นเป็นพระเจ้าเสียเอง ด้วยเหตุนี้ พระผู้สร้างจึงพิโรธโกรธามนุษยชาติอย่างหนัก ขนาดที่ออกปากสาปแช่งให้เผ่าพันธุ์มนุษย์ไม่อาจทนอยู่ได้อย่างเป็นสุข จำต้องทุกข์ทรมานจากโรคภัยและหายนะมากมายที่ทรงบันดาลขึ้นมาด้วยแรงพิโรธของพระองค์เอง
ด้วยบัญชาจากโทสะของพระผู้เป็นเจ้า เหล่าทวยเทพได้ถ่ายทอดคำสั่ง แพร่กระจายคำสาปเหล่านั้นลงไปยังสู่โลกเบื้องล่าง ลงทัณฑ์สาปแช่งมนุษย์ให้ล้วนประสบกับทุกขเวทนาต่างๆและเคราะห์กรรมไม่รู้จบ ผู้คนต่างอดอยากและหิวโหย ผืนท้องนทีแห้งผาก ผืนแผ่นดินทุกหนแห่งล้วนประสบกับความแร้นแค้นด้วยสภาวะมลพิษ นับวันโลกาก็ยิ่งเหี่ยวเฉา ค่อยๆแตกสลายไปในท้ายที่สุด
เหตุฉะนั้น.. มนุษย์จึงหันมาร่วมแรงร่วมใจเป็นหนึ่งเดียวกันเป็นครั้งแรก ช่วยกันสรรหาสารพัดวิธีเพื่อที่จะขอขมาลาโทษ หาทุกหนทางที่จะบรรเทาความเกรี้ยวโกรธของพระผู้สร้าง ต่างมีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือพยายามปกป้องชีวิตของเผ่าพันธุ์ตนและโลกใบนี้เอาไว้จากมหาภัยพิบัติที่เกิดขึ้น หวังที่จะกอบกู้ดินแดนและชีวิตอันแสนสุขของพวกตนกลับคืนมาอีกครั้ง
ร้อยปีผ่านไป แต่ไม่มีวิธีใดเลยที่ได้ผล..
กาลเวลาผ่านพ้นไป.. จากที่เคยเชื่อมั่นศรัทธาว่าวันหนึ่งมนุษยชาติจะสามารถลบล้างคำสาปและความพิโรธของพระเจ้าไปได้ แต่เมื่อแผ่นดินยังคงแห้งแล้ง ลำธารยังแห้งผาก ความหิวโหยและโรคร้ายยังคงตามหลอกหลอนเบียดเบียนไม่ห่าง ความเชื่อและความหวังของมนุษยชาติที่ครั้งหนึ่งเคยมีอยู่เต็มล้นใจ นับวันก็ยิ่งริบหรี่ร่อยหรอลงไปทุกขณะ จนกระทั่งมันสูญสลายและดับมอดไปทั้งหมด เหลือไว้เพียงความสิ้นหวังไร้ทางออกในหัวใจของผู้คนเหล่านั้น..
แต่แล้วประกายความหวังเหล่านั้นกลับถูกจุดขึ้นใหม่อีกครั้ง เมื่อมีคำทำนายจากผู้หยั่งรู้คนหนึ่งว่าการที่จะสามารถกอบกู้โลกใบนี้ให้กลับมาเป็นดั่งเดิมได้ มีเพียงแค่วิธีเดียวเท่านั้น
'ออกตามหาตัวผู้ที่เป็น 'เมสสิยาห์' รวบรวมผู้ศรัทธาออกเดินทางไปยังหอคอยแห่งพระเจ้า เผชิญความยากลำบากและฝ่าฟันอุปสรรคอันตรายมากมาย พิสูจน์ตนให้พระเจ้าเห็น และเป็นตัวแทนมนุษย์ที่จะรับ 'พรทั้งเก้าประการ' จากพระองค์'
หลังจากคำทำนายได้ถูกประกาศออกไป ทางราชอาณาจักรก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ พวกเขาไม่รีรอ ส่งคนมากมายให้ออกตามหาเมสสิยาห์ในคำทำนายไปจนทั่วตั้งแต่ดินแดนทางเหนือจรดลงแผ่นดินใต้ จากตะวันออกสู่ทิศตะวันตก และทั้งหมดที่มนุษยชาติจะทำได้ก็มีเพียงฝากความหวังสุดท้ายของพวกเขาเอาไว้ที่เมสสิยาห์และคณะผู้ศรัทธาที่จะปรากฎตัวขึ้นในสักวันหนึ่ง ว่าหลังจากได้รับพลังเหล่านั้นแล้ว คนผู้นั้นจะช่วยเหลือเยียวยาโลกใบนี้ แก้ไขในสิ่งที่ิผิดพลาด คลี่คลายคำสาปร้าย และจบความทุกข์ทรมานทั้งมวลของมนุษยชาติที่ดำเนินมาอย่างยาวนานนี้ลงเสียที
********************************************************
แนะนำตัวละคร
อารีน
"ถ้ามีทุกๆคนอยู่ด้วยล่ะก็ ฉันน่ะ.."
ไค
"พวกเราจะแบ่งปันทุกข์สุขไปด้วยกัน"
ริเอลล์
"จะขอรับพลังนั่นเอาไว้เอง"
สองพี่น้อง ฟลอร่า โพซี่
"ยังอ่อนหัดอยู่นะ.. พวกเธอน่ะ"
"บ้าเอ้ย! จะไม่ยอมแพ้เธอแน่!"
แฟมเมทต้า
"นี่เป็นการเต้นส่งท้าย ลาก่อน ขอให้พวกเจ้าโชคดี"
เอมิล
"แด่เมสิยาห์.."
มาวี่
"ขอเล่นเพลงนี้ส่งท้ายให้พวกเธอทุกคน ลาก่อนนะ.."
ฝาแฝดโรแวน-เทนเทน
"ถ้ายังไม่พร้อมกันล่ะก็ ฉันจะขอรับพลังนั่นไปเองแล้วกันนะ<3"
"ขอโทษนะ.. และ ลาก่อน"
ปริ๊นส์
"พวกเธอ.. จะไปได้สักกี่น้ำกันนะ?"
ยูริลล์
"ก็แค่คนที่อาศัยอยู่แถวนี้น่ะ.."
เซบาสเตียน (เซบบี้)
เคนด้า
"ถ้าอยากมีชีวิตรอดไปถึงวิหารนั่น.. อย่าขวางทางกันเป็นใช้ได้ =)"
ซาลีน่า
"..ลูกแม่ น้องพี่"
********************************************************
คุยก่อนอ่านกับนักเขียน
สวัสดีค่ะ กวินโนเวียร์หน้าเก่า เจ้าเดิม ครั้งนี้ก็ดองเรื่องเก่าๆมาเปิดเรื่องใหม่อีกตามเคย(ฮา) โดยนิยายเรื่องนี้เราอ้างอิงบางส่วนมาจากโรลของเรากับคู่โรล โดยที่ได้แรงบันดาลใจส่วนหนึ่ง(ความจริงก็เกินครึ่ง..) มาจากเพลง Blessed Messiah and the Tower of AI ของ Vocaloid นะคะ โดยเนื้อหาส่วนมากยังคงเดิม แต่เปลี่ยนจากคณะของมิคุเป็นตัวละครเราแทน และจะมีตัวละครมาเพิ่มอีกต่างหาก(อุบไว้ก่อน ไม่บอกว่าใครมีบทอะไรนะเออว์--) รายละเอียดปลีกย่อยที่ไม่มีในเพลงเราก็เสริมเติมเข้ามาด้วยจินตนาการอันล้นเหลือ(?) เพราะฉะนั้นถ้าเปิดเพลงคลอไปด้วยก็จะได้อารมณ์มากขึ้นค่ะ
ปล. นี่นับว่าเป็นการสปอยเนื้อเรื่องล่วงหน้ารึเปล่านะ? 555
^
แปะเพลงเขาซะหน่อย ฟังไปด้วย อ่านไปด้วย ได้อารมณ์ดีนะคะ><
ความคิดเห็น