"ฮึก แม่แบมขอโทษอย่าตีแบมเลยน้ะ ฮืออ"เสียงเด็กผู้ชายร่างบางที่ร้องไห้เพราะโดนคนเป็นแม่แท้ๆตีจนตามร่างกายเป็นรอยไม้เรียว
"ฉันบอกให้แกดูแลน้องไง! แล้วทำไมกลับมาสภาพน้องเป็นแบบนี้ห้ะ มึงดูแบม!มึงแหกตาดู เพี้ยๆ!!"คนเป็นแม่ไม่ฟังเสียงประท้วงของร่างบาง แถมยังตีเขาซ้ำอีกหลายที. เหตุเกิดจากวันนี้แม่เขาต้องออกไปทำธุระข้างนอกในตอนเช้า แล้วเขาต้องดูแลน้องคนเล็กนั้นคือ" หลิน"
แต่หลินปีนเกาอี้ขึ้นไปชงโกโก้ตอนเขาซักผ้าอยู่หลังบ้าน แล้วดันทำน้ำร้อนลวกมือตัวเอง ถ้าให้พูดตามจริงมันคือความซุ่มซ่ามของหลินเองต่างหาก ร่างบางไม่ได้มีส่วนผิดอะไรเลยเหอะ แต่ที่ผิดก็คงเป็นเพียงเพราะร่างบางเป็นลูกติดของแม่เท่านั้นแหละมั้ง. เขาทำอะไรก็ผิดตลอดถ้าพ่อยังอยู่ผมคงไม่ต้องมาเป็นแบบนี้...
"ฮึก ถ้าพ่ออยู่พ่อคงไม่ปล่อยให้แม่ตีผมแบบนี้แน่!" ร่างบางหมดความอดทนกับแม่ของตัวเองตัดสินใจตะคอกผู้เป็นแม่กลับมา
" แม่พ่อแล้ว พี่แบมไม่ผิด หลินผิดเองที่ทำน้ำร้อนลวกมือตัวเอง หลินไม่ทันระวัง"ผู้เป็นน้องที่ทนดูคนพี่ ที่คนละพ่อกันและห่างกัรเพียงไม่กี่ปี จึงเดินไปอธิบายให้ผู้เป็นแม่ของตนฟัง ว่าผู้เป็นพี่นั้นไม่ได้ทำผิดอะไรเลย มันผิดที่ตนเองไม่ระวัง
"หลิน ลูกอย่าไปปกป้องมันมาก มึงถึงได้ใจแบบนี้ไง แม่สั่งให้ดูแลเรามันก็ไม่ทำ ลูกถึงเจ็บตัวแบบนี้"ผู้เป็นแม่กลับมาพูดเสียงอ่อน ซึ่งต่างจากตอนที่พูดกับร่างบางที่ตอนนี้นั่งกอดเข่าตัวสั่นอยู่ปลายเท้า
"ส่วนแก จะไปไหนก็ไป ฉันเบื่อขี้หน้าแกขึ้นทุกวันละ ไปลูกหลินเข้าบ้านกันเถอะ แม่ซื้อข้าวเที่ยงมาให้หลินด้วยน้ะ"ผู้เป็นตัดบทแบมๆ ก่อนจะเดินจูงมือลูกชายคนเล็กของตนกับสามีใหม่เข้าบ้านไปกินข้าวที่ตนซื้อมาตอนไปทำธุระตอนเช้า แล้วทิ้งให้ร่างบางนั่งกอดเข่าร้องไห้ที่พื้นแบบไม่ใยดี
"ฮึก แบมคิดถึงพ่อจัง ฮึกถ้าพ่ออยู่พ่อคงพาแบมไปอยู่ในที่ ที่ดีกว่านี้แน่"ร่างบางพูดกับตัวเองแล้วตัดสินใจเดินขึ้นห้องไปของใช้ที่จำเป็นและเสื้อผ้าเล็กน้อยที่ตนคิดว่าพอดูดีใส่ได้ใส่กระเป๋า ตั้งแต่ที่พ่อแบมเสียเมื่อ3ปีก่อน แม่เขาก็มีสามีใหม่และมีลูกด้วยกันคือน้อง'หลิน'
เมื่อแม่มีน้องหลิน แม่ก็ไม่เคยซื้ออะไรให้ผมอีกเลย ส่วนเสื้อผ้ามีใส่อยู่นี้ก็มาจากเสื้อผ้าที่สามีใหม่แม่ไม่ใส่แล้ว แม่ถึงเอามาให้ผมใส่แทน แม่จะซื้อให้ผมเฉพาะชุดนักเรียนเท่านั้น แม่บอกถ้าอยากได้อะไรก็เก็บตังซื้อเอง เพราะแม่ต้องเก็บตังไว้ให้น้องหลินเรียนหนังสือ
ร่างบางเดินออกมาจากบ้าน เดิมมาตามข้างถนนมาเรื่อยๆแบบไม่มีจุดหมายปลายทาง เขาคิดแค่ว่าเขาต้องได้ออกมาจากบ้านหลังนั้น ซึ้งเขาไม่ได้คิดเลยว่าออกมาแล้วจะหางานอะไรทำได้บ้าง อายุเขาก็พึ่งจะ 14 ปี
ตังติดตัวมีอยู่แค่ 500 เพราะแม่จะให้ 500 ต่อ 2สัปดาห์ ค่ารถไปกลับค่าข้าวเช้า-กลางวัน อุปกรณ์การเรียนที่เขาต้องซื้อเองอีก
ร่างบางเดินมาเรื่อยๆจำได้แค่ว่าตนยังไม่ได้ทานอะไรเลยตั้งแต่ตื่นมา จนตอนนี้ก็จะบ่ายแล้ว จึงตัดสินใจแวะมินิมาร์ทเพื่อหาอะไรกินรองท้อง
ต่อ
"ฮัลโหล ว่าไงครับคุณมาร์ค บุหรี่อย่างเดียวน้ะครับ ครับอีก 10 นาที่เดี๋ยวเข้าไปครับ" ลีเพซ ชายร่างสูงใส่สูตร ทำหน้าที่เป็นบอดีการ์ดของคุณต้วน
วางโทรศัพท์ลงบนเบาะข้างคนขับที่ว่างอยู่ หลังจากได้รับคำสั่งจากคุณมาร์คให้ซื้อบุหรี่ผู้เป็นเจ้านายก่อนเข้าบ้าน
@mini mart
"เอาบุหรี่ซองนึงครับ" ลีเพซเดินเข้ามายังเค้าเตอร์แล้วสั่งบุหรี่กับพนักงานในมินิมาร์ท ระหว่างรอพนักงานหาบุหรี่ก็ได้ยินเสียงสนทนาที่ดังเข้ามาในหูของลีเพซ..
"พี่ครับ ไม่มีตำแหน่งว่างจริงหรอครับ พี่ลองหาดูอีกทีได้ไหมอ้ะครับเผื่อจะมีอยู่บ้าง"ร่างบางที่ยืนรอพนักงานเวฟข้าวกล่องที่ตนซื้อ ก็ยืนถามพี่พนักงานไปด้วยเผื่อมีตำแหน่งว่างตนจะได้ทำ
"นี่น้องพี่ก็บอกว่าไม่มีไง ถึงมีก็ไม่ให้ทำหรอกครับตัวถึงเค้าเตอร์รึยังเถอะ
กลับไปเรียนดีกว่าไปน้อง"แล้วก็ตอบกลับมาด้วยพนักงานคนเดิม พร้อมยื่นถุงที่ใส่กล่องข้าวที่เวฟเสร็จแล้วไปให้ร่างบาง
"...ครับ..."ร่างบางยืนมือไปเอาถุงข้าวที่เวฟเสร็จแล้วมาถือแนบอกไว้ เดินออกจากมินิมาร์ทไป
"คุณคะ บุหรี่ได้แล้วค่ะ"
"อ่อ ครับนี่ครับ ขอบคุณครับ"ลีเซฟที่มัวแต่ยืนมองบทสนทนาที่มีเด็กน้อยมาขอพนักงานมินิมาร์ทหาตำแหน่งว่างเพื่อที่ตนจะได้เข้ามาทำงาน เพลินจนลืม
บุหรี่ที่ตนสังพนักงานไป ร่างสูงจ่ายตังค่าบุหรี่แล้วหยิบของออกจากมินิมาร์ท
ลิเซฟเดินออกมาจากมินิมาร์ทแล้วสายตาก็ไปพบกับเด็กน้อยที่ขอพนักงานมินิมาร์ทหาตำแหน่งที่ว่างให้ตนทำ นั่งอยู่ตรงฟุตบาทกับสุนัขตัวผอมแห้งอีกตัว
"นี่แกตัวผอมจัง กินอะไรมั้งหรือป่าวเนี่ย อะฉันแบ่งให้"ร่างบางยกมืออันข้อนข้างป้อมของตนขึ้นไปลูบหัวเจ้าสุนัข แล้วตักข้าวที่ตนซื้อมาจากมินิมาร์ทไปวางไว้ตรงหน้าเจ้าสุนัขเพื่อให้มันกินได้สะดวก
"กินให้หมดน้ะ ฉันอุส่าแบ่งข้าวฉันให้นายเลยน้ะ เห้อ..เกิดเป็นแกนี่มันดีเน้อะ
วันๆมีแต่นอน หิวข้าวก็คุ้ยตามขยะก็พอกินได้แล้ว แต่ฉันนี่สิ คุ้ยขยะแบบนายไม่ได้ นอนบนพื้นไม่ได้ ฉันต้องทำงานเอาเงินมาซื้อข้าวกินิีก แถมต้องเรียนด้วย ให้ตายเหอะ! เกิดเป็นนายก็ดีจริงๆ"ร่างบางพูดแล้วก็ถอยหายใจเฮือกใหญ่ออกมา แล้วตักข้าวคำใหญ่ๆเข้าปากไปด้วย
"นี่เด็กน้อย สนใจไปทำงานกับลุงป่าว" ลีเซฟที่ยืนดูเด็กน้อยตั้งแต่เดินออกจากมินิมาร์ทมา ก็ได้ยินที่เด็กน้อยพูกแล้วรู้สึกสงสารขึ้นมาอย่างอดไม่ได้
เด็กพึ่งจะตัวเท่านี้แท้ๆ ทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย พ่อแม่สมัยนี้แย่กันจริงๆ เสียแรงคลอดออกมาแล้วแท้ๆแล้วก็ไม่เลี้ยงดูแลลูกให้ดีๆกัน ปล่อบทิ้งขว้างแบบนี้ได้ไง
"ฮะ!? ลุงพูดจริงหรอครับ ขอบคุณมากน้ะครับลุง ขอบคุณครับ! แกได้ยินไหม ฉันได้งานแล้วเย้ๆ! เดี๋ยวฉนทำงานเก็บตังได้แแล้วจะกลับมาเลี้ยง
หมูทะเลยสัญญา"เด็กน้อยตรงหน้าเขาลุกขึ้นยืนจากที่นั่งอยู่ฟุตบาท แล้วก็โดดขอบคุณเขาใหญ่ ทั้งก้มทั้งยกมือไหว้ แล้วยังหันไปคุยกับเจ้าสุนัขที่นอนตัวลีบอยู่ข้างตนอีกว่าถ้าทำงานได้ตังแล้วจะกลับมาเลี้ยงข้าว เห้อมเด็กน้อยจริงๆ
ลีเซฟมองภาพเด็กน้อยตรงหน้าแล้วเรียกมาขึ้นรถเพื่อพาไปหาคุณมาร์คที่บ้าน ระหว่างทางมาเด็กน้อยตรงหน้าก็นั่งตัวรีบไม่พูดไม่จานั่งตัวเกร็งซึ่งต่างจากเด็กน้อยตรงที่อยู่หน้ามินิมาร์ทจริงๆ
"นี่เด็กน้อยนายเป็นอะไร ไม่ตื่นเต้นหรือไง?"ลีเซฟหันไปถามเด็กน้อยที่ตั้งแต่ขึ้นรถมาก็นั่งเงียบมาตลอดทาง
"ผะ..ผมลืมไปว่าไม่ควรมากับคนเเปลกหน้า แม่เคยบอกไว้" แบมพูดแล้วก็ขยับตัวไปชิดริมประตูฝั่งตัวเองทันที
"ฮ่าๆๆ นี่นายก็ยังอุส่าจำได้อีกเน้อะ ขึ้นรถมากับฉันขนาดนี้แล้ว"พูดแล้วก็ขำยกใหญ่
"ฉันไม่ทำอะไรนายหรอก พอไปถึงบ้านเดี๋ยวฉันจะให้แม่บ้านพานายไปอาบน้ำแล้วฉันจะพาขึ้นไปหาคุณมาร์ค ทาครีมทาแป้งหอมๆละ คุณมาร์คชอบเด็กสะอาดไม่ชอบเด็กสกปรก เข้าใจใช่ไหม?"ลีเซฟสั่งเด็กน้อยที่นั่งอยู่ตรงข้างตนเพราะเลี้ยวรถเข้าบ้านมาแล้ว
"คะ..คุณมาร์คคือใครหรอครับ แล้วดุไหม น่ากลัวหรือป่าวครับ?"
เด็กน้อยนั่งพยักหน้าตามที่ลีเซฟสั่ง แล้วถามถึงบุคคลใหม่ที่ลีเซฟบอกจะพาไปหา
"ไม่รู้สิ้ ถ้านายทำตัวน่ารักไม่ดื้อ เขาอาจจะไม่ดุก็ได้น้ะ" ที่จริงคุณมาร์คไม่ใช่คนดุอะไรด้วยซ้ำออกจะใจดีต่างหาก แต่เขาพูดไม่รู้ไปเพราะอยากดูปฏิกิริยาของเด็กน้อยตรงข้างว่าจะทำตัวยังไง
"ครับ น้องแบมเข้าใจแล้ว น้องแบมจะเป็นเด็กดีฮะ" พูดแล้วก็ยกนิ้วขึ้นมาสองนิ้วทำท่าลุกเสือที่ตนเคยเรียนมาตอนประถมขึ้นมาทาบลงตรงหางคิ้ว
"ดีมากก ไปอาบน้ำกับพี่ฮานิน้ะ เดี๋ยวพี่ฮานิพาขึ้นไปหาฉันบนห้องคุณมาร์ค ฝากด้วยฮานิ" ฮานิคนใช้ประจำบ้านพยักหน้าแล้วเดินจูงือเด็กน้อยเข้าบ้าน ส่วนลีเซฟก็เดินขึ้นไปหามาร์คที่ห้องทำงานชั้นสอง
"มาแล้วครับคุณมาร์ค นี่ครับ"ลีเซฟยื่นถุงบุหรี่ที่ตนซื้อมายื่นให้มาร์ค
"เอ่อ คุณมาร์คครับ ผมมีคนนึงอยากให้คุณมาร์คเจอด้วยครับ เดี๋ยวอีกสักพักคงขึ้นมา" มาร์คละมือจากเอกสารขึ้นมาพยักหน้า แล้วก็ก้มหน้าลงไปทำงานต่อ เมื่อลีเซฟเห็นเจ้านายพยักหน้าก็กระตุกยิ้มมุมปาก
"ก็อก ก็อก "เสียงเคาะประตูดังขึ้น พร้อมกับเด็กน้อยหน้าหวาน ร่างบาง ปากอวบสีชมพูแก้มอูมๆปรากฏตัวขึ้น
"นี่มันก้อนอะไรเนี่ย.." ร่างสูงละมือจากเอกสารตรงหน้าแล้วเดินมาดูเด็กน้อย อย่าละเมียดละไม นี่มันก้อนอะไรเนี่ยทำไมน่ารักแบบนี้ดูแก้มนั้นสิ อยากรู้จริงๆเลยในแก้มอูมๆนั้นอมอะไรไว้ แล้วดูปากสิโดนผึ้งต่อยมาหรือไงอะไรจะบวมจนหน้าจุ๊บอะไรเบอนั้น
" แบมแนะนำตัวสิ นี่คุณมาร์คเจ้านายคนใหม่ไง" ลีเซฟเอ่ยบอกเด็กน้อยให้แนะนำตัวเองกับมาร์คต้วน
"สะ..สวัสดรครับ ผมน้องแบมแบมครับ เอ่อ..ปีนี้น้องแบมอายุ 14 แล้ว
แล้ว..แล้ว.."เด็กน้อยที่ไม่รู้ว่าจะแนะนำอะไรอีกดีนิกจากชื่อและบอกอายุของตนแล้ว
" นี่แหละครับ คนที่ลีเซฟบอกอยากให้คุณมาร์คเจอ คุณมาร์คว่าไงครับ"
ลีเซฟที่ขำกับท่าทางเงอะๆของเด็กน้อย แล้วก็อดไม่ได้ที่จะถามเจ้านายต่อว่าจะเอาไงกับเด็กน้อยตรงหน้านี้
ลีเซฟเล่าตั้งแต่ตอนที่ตนเจอแบมที่ร้านมินิมาร์ทที่มาร์คให้ตนแวะซื้อบุหรี่ให้
โดยมีเด็กน้อยนั่งตาแป๋วกินคุกกี้กับโกโก้ร้อนที่บอกให้ฮานิเอาขึ้นมาให้ มองมาทางเขาสองคนที่คุยกันเป็นระยะๆ
"เฮ้อ..เออ น้องแบมต่อไปนี้เรียกฉันว่าป๋ามาร์คน้ะ เพราะต่อไปนี้ฉันคือป๋าของนาย เข้าใจไหมครับ" แม้ว่าเด็กน้อยตรงหน้ายังงุนงงกับสรรพนามที่ร่างหน้าบอกให้ตนเรียกแค่ไหน เด็กน้อยก็ยังพยักหน้าตอบรับพร้อมเคี้ยวคุกกี้ที่ฮานิเอามาให้ไปด้วย
ลีเซฟบอรดี้การ์ดมาร์ค
ฮานิ
เรื่องแรกของไรท์ฝากติดตามด้วยเน้อ
อย่าลืมเม้นให้ด้วยน้ะ
(เดี๋ยวมาแก้คำผิดอีกรอบ)
ความคิดเห็น