ร้ายรักวัยรุ่นวุ่นนัก โดย mamablue
รักสดใสหนุ่มหัวเกรียนสาวผมเปีย ซ่านิดนิด ฮาหน่อยๆ เรียบร้อยไม่มีอ่ะ..... แต่รวมๆแล้ว น่ารัก เอ็กซ์พอเป็นพิธี หุหุ
ผู้เข้าชมรวม
137
ผู้เข้าชมเดือนนี้
9
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ตอนที่ ๑ คนเขียนเล่าเรื่อง
คุณอายุเท่าไหร่ ฉันเงยหน้าขึ้นมองไปที่เสียงพูดนั้นแล้วก็ยิ้มที่มุมปาก จ้างให้ก็ไม่บอก อะอะ เรื่องอะไรฉันต้องบอกด้วย เปล่าหรอกค่ะ...... เด็กหนุ่มคนนั้นเขาไม่ได้ถามฉันสักหน่อย อันที่จริงแล้วน่าจะเรียกเขาว่าเด็กน้อยมากกว่าเพราะคะเนจากหน้าตาแล้วอายุเขาคงประมาณสิบสามสิบสี่เท่านั้น ยังวัยรุ่นอยู่เลย เขาว่ากันว่า วัยรุ่นวุ่นนัก จริงใช่ไหมนะ ฉันมองไปที่หญิงสาวที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเด็กชายคนนั้นพร้อมกับสายตาชื่นชม สวยทีเดียวล่ะ เห็นครั้งแรกก็ดึงดูดสายตาฉันให้มองตามอย่างเคลิ้มฝัน แม่สาวคนนั้น ตาโต ผมดำ ผิวงาม รูปร่างอรชรอ้อนแอ้น สมส่วนไปหมด บนร่างสวยที่ห่มด้วยผ้าสีสันสดใส ดูดีมีรสนิยมและหน้าตาที่แต่งไว้จัดจ้านตามเทรนสมัยใหม่ ดูสวยคมและแข็งแรงเสียนี่กระไร งามเหมาะเจาะไปเสียทุกสัดส่วน งามแต้ๆเลยนะเจ้า
“ คุณแม่ครับ ” ฉันมองดูเพลินจนลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเรียกเสียงดังจนฉันตกใจ “ ครับลูก ” ฉันขานรับเบาเบา “ กินได้แล้ว ถ้าไม่รีบกินลูกขอนะ มองอะไรอยู่ได้ตั้งนานอาหารมาตั้งนานแล้ว ” “ เอาไปได้เลย กินให้อิ่มนะ ” ฉันพลั้งปากพูดออกไป “ อะ อะ แซวเล่นๆ ให้ลูกจริงๆเหรอ ถ้างั้นก็ไม่เกรงใจแล้วนะครับ กินเลยนะ อ้ำ.....อร่อย ” นี่ล่ะฉัน อดกินไปตามเคย ก็แบบนี้ทุกครั้ง อะไรที่ให้เขาได้ฉันก็ไม่เคยขัดใจ ก็เขาน่ะ ลูกชายสุดที่รัก กี่ครั้งกี่หนแล้วที่ฉันยอมอดเพื่อให้เขาอิ่ม ยอมเหนื่อยเพื่อให้เขาสบาย ยอมทนอดหลับอดนอนดูแลเขาในยามป่วยไข้ ยอมทุ่มเวลาและทุ่มเทเงินทองเพื่อให้เขาประสบความสำเร็จในชีวิตของเขา ยอมเสียมารยาทตะโกนเชียร์ลั่นสนามในยามที่เขาชิงชัย อะไรจะทำได้ขนาดนี้ถ้าไม่เป็นเพราะว่า ฉันรักเขา เพราะรักกัน ฉันจึงทำได้แทบทุกอย่างเพื่อเขา
ลูกชายฉัน วัยสิบสาม อายุคงใกล้เคียงกับเด็กน้อยที่นั่งจีบสาวอยู่ไม่ไกลจากที่เราแม่ลูกนั่งรับประทานอาหารกัน เขายังมีสภาพเป็นเด็กชายไร้เดียงสาเอาแต่กินและเล่นเกมในอินเตอร์เน็ต เพื่อนหญิงสักคนก็ไม่เคยเอ่ยให้ฉันได้ยินให้ระคายหูแม่ ยังวิ่งเล่นกับน้องๆเป็นเด็กเล็กๆ เล่นกับน้องหมาน้องแมวแถวบ้านไปตามเรื่อง แม้อายุเขาจะเข้าข่าย เด็กชายวัยรุ่นแล้วก็ตาม ฉันหันกลับไปมองเด็กน้อยและหญิงสาวคู่นั้นอีกครั้ง ไม่ได้ตั้งใจเสียมารยาทฟังพวกเขาสนทนากันแต่เป็นเพราะว่าเรื่องที่เขาคุยกันอยู่น่าสนใจ และฉันก็นั่งใกล้เสียจนได้ยินชัดถ้อยชัดคำทุกประโยค เรื่องราวของพวกเขาเป็นจุดเริ่มต้นของนวนิยายเรื่องใหม่ที่ฉันคิดเค้าโครงเรื่องได้ในเวลานั้น ฉันตั้งชื่อเรื่องว่า ร้ายรักวัยรุ่นวุ่นนัก
ตอนที่ ๒ เป็นหนุ่มแล้วครับผม
“แม่ครับ” เสียงตะโกนดังขึ้นพร้อมเสียงทุบของดัง ปั๊ก “โอ๊ย ........................” ตามด้วยเสียงร้องอย่างตกใจของเด็กสาววัยกระเตาะ
“ พี่โจ๊ก เจ็บนะ อะไรเนี่ยมาทุบเค้าทำไม ”
“ ก็พี่ไม่ให้เข้ามาเล่นอะไรในห้องนี้ ห้ามหลายหนแล้วนะ ทำไมไม่เชื่อกันบ้าง นี่มันพื้นที่ส่วนตัว ห้องข้าใครอย่าแตะ เข้าใจไม๊ ไอ้เด็กสมองกวง ” พี่ชายใส่เกียร์ห้าด่าไม่ยั้ง
“ บ้าไปแล้วนะพี่โจ๊ก ใครให้พี่เอาคอมฯ มาไว้ในห้องนอนล่ะ เค้าก็ต้องเข้ามาสิ เค้าใช้ทำงานส่งครู ไม่เห็นเหรอไง ถ่างตาดูบ้างสิพี่ ตีหัวน่ะมันเจ็บนะ”
น้องสาวร่ายยาวเป็นตับด้วยอารมณ์พอๆกันกับพี่ชาย
“ไอ้เด็กบ้าปัญญาอ่อน พี่ไม่ให้เข้าก็ห้ามเข้าสิ นี่ห้องพี่ ออกไปเดี๋ยวนี้นะ ไม่ออกไปจะจับแก้ผ้าอุ้มประจานซะเลย ”
“กลัวตายล่ะเล่นมุกนี้มาตั้งกะห้าขวบไม่เบื่อหรือไง ” น้องสาวเถียงไม่ลดละ พี่ชายเก็บของน้องที่วางไว้ยื่นใส่มือแล้วดันหลังพาไปที่ประตูก่อนผลักอย่างแรงจนแม่น้องสาวหัวทิ่มพ้นห้องออกมา เซสะเปะสะปะไปชนแม่ที่รีบเดินมาดูล้มไปด้วยกัน
“เอาอีกแล้วนะโจ๊ก แม่บอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่ารังแกผู้หญิง นี่ก็น้องลูกนะ ลูกคนนี้นี่ยังไงนะ บอกสอนอะไรไม่เคยทำตามแม่เลย” แม่ทำทีบ่น
“แม่ก็แบบนี้ บ่นว่าแล้วก็เลยตามเลยไม่เห็นจัดการให้เป็นเรื่องเป็นราวสักที ลูกเจ็บฟรีตลอดเลยนะ ” แม่น้องสาวต่อว่าแม่ “ฮึ .. แม่รักลูกไม่เท่ากัน ” เอาละสิ งานเข้าแม่เต็มๆ
“พี่เขาวัยรุ่นน่ะลูก อารมณ์แปรปรวนอย่าไปถือสาหาความเขาเลยนะ นึกถึงตอนที่เขาดีๆเอาไว้ ”
แม่พยายามไกล่เกลี่ยให้หมดเรื่อง ทว่าครั้งนี้แม่น้องสาวเกิดอยากจะเอาเรื่องพี่ชายขึ้นมาบ้างความที่โดนทำร้ายมาหลายที แล้วแม่ก็ไม่จัดการให้เสียที “ไม่รู้ล่ะ ถ้าคราวนี้แม่ไม่เด็ดขาด ให้พี่โจ๊กยืดคอมฯไปใช้คนเดียว ลูกจะหนีออกจากบ้าน”
แร๊ง ซะไมมีอะ โอ๊ยโย๋ เอาไงดีล่ะแม่ชักปวดหัวแล้วสิพี่น้องคู่นี้คิดบัญชีรายวันทุกวันสิน่าทำใจดีสู้เสือ(ลูก)รีบเอาใจว่า “แหม แหม แม่มณีหยาดฟ้า อย่ามาพูดแบบนี้รู้ไม๊เด็กผู้หญิงหนีออกจากบ้านน่ะ กาลี ผู้ชายดีดีเขาไม่เอาทำเมีย” “แม่ .....” ลูกสาวทำเสียงสูงปี๊ด “ช่างไอ้ผู้ชายดีดี ก่อนเถอะ... ไปจัดการไอ้พี่ชายตัวดีให้เอาคอมฯมาให้หนูเลย โอ๊ย ชีวิต ทำไมต้องเจอแบบนี้ด้วยนะ มีพี่ก็งี่เง่า แม่ก็มาติงต๊องอีก ”
“เอะอะโวยวายอะไรฮ่ะ ไอ้แจ๋มแจ่มแจ๋ว” พ่อเดินมาทักทายสองแม่ลูกที่ดึงกันลุกยืนทุลักทุเล “โอย... สะโพกหักแล้วมั้งนี่ไอ้คุณโจ๊กพักนี้มันเป็นอะไรนะดูหงุดหงิดงุ่นง่านพิลึกละพ่อ” แม่บอกพ่อที่พึ่งเดินมาถึงพลางเดินไปหยิบแก้วมารินน้ำเย็นส่งให้ “ดื่มน้ำเย็นก่อนจ๊ะพี่จ๋าพี่มาเหนื่อยๆ” “รู้ได้ไงเนี่ยว่าเหนื่อย เออ กำลังหิวน้ำอยู่พอดีเลย แม่เนี่ยน่ารักจัง รู้ใจพ่อไปซะหมดเลย นังหนู.......” พ่อหันมาหาแจ๋ม “ทะเลาะอะไรกันอีกล่ะวันนี้ ฮึ ไอ้แจ๋มแจ่มแจ๋ว ” ลูกสาวค้อนตาคว่ำที่โดนพ่อล้อ “ พ่อ .... แจ๋มโตแล้วนะ ล้อแบบนี้ทุกทีเลย ”
“ไอ้แจ๋มเอ๋ย สำหรับพ่อนะยังไงก็เห็นลูกเป็นเด็กอยู่ดีล่ะ ไว้โตแล้วหาฝาละมี ได้แล้วค่อยมาบอกกะพ่อว่าลูกโตแล้ว มีคนมาดูแลแทนพ่อกับแม่ พ่อสัญญาเลยนะถ้าวันนั้นมาถึง ถึงลูกไม่ขอพ่อก็จะให้ จะเลิกล้อเล่นลูกแบบนี้ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ” พ่อยกมือทำท่าทำทางประกอบคำพูด เลียนแบบดาราเกาหลี อินเทรนสุดๆ ไอ้แจ๋มของพ่อก็เลยยิ้มออกมาได้ เมื่อพ่อฮัมเพลงของดา อินโดฟีน ขึ้นมาเบาๆประกอบท่าทาง “แม่ว่าไม๊แม่ ถ้าเหนื่อยแล้วสุขใจแบบนี้พ่อยอมเหนื่อยนะให้ทุกคนอยู่กันอย่างมีความสุข เหนื่อยยังไงพ่อก็ยอม ” แม่มองมาที่พ่อด้วยสายตาเปี่ยมไปด้วยความรัก
“จริงจ๊ะพ่อ โชคดีจังที่เรามีลูกๆ น่ารัก พี่น้องปองดอง สามัคคีรักใคร่กันดีไม่มีปัญหาเหมือนบ้านอื่นเขา” พ่อยักคิ้วให้แม่เป็นเชิงหยอกเย้า แม่ก็ทำเป็นเล่นหูเล่นตาพราวแพรวเหมือนสาวรุ่นๆทั้งๆที่อายุของแม่น่ะปาเข้าไปตั้งสี่สิบปลายๆแล้วเลยวัยทีนมาตั้งนาน ฮิฮิ “ หมั่นไส้ รักกันนักรักกันหนาพากันหนี”
แม่ลูกสาวคนดีเอ่ยขึ้นด้วยความคะนองปาก “ อ้าว โว้ยเฮ้ย ไอ้แจ๋ม ไปกินรังแตนมาทั้งรังหรือไง ไอ้ลูกคนนี้นี่พ่อแม่จะจู๋จี๋กันดันมาขัดคอ”
“ก่อนจะจู๋จี๋กันต่อนะ ช่วยเบรกไว้ก่อน แล้วไปจัดการไอ้พี่โจ๊กให้หนูหน่อยสิพ่อ เนี่ยเอาคอมฯไปใช้แล้วไม่ยอมเอามาคืนที่เดิม พอแจ๋มจะใช้ก็ต้องเข้าไปใช้ในห้องเค้า เมื่อก่อนก็ไม่เห็นจะว่าอะไร ทำไมเดี๋ยวนี้ดุนักก็ไม่รุ๊ พ่อ”
แจ๋มเอ่ยพลางยื่นหน้าไปหาพ่อแล้วพูดเบาๆว่า “ดุยังกับหมาแม่ลูกอ่อนยังไงยังงั้นเลย ฮิฮิ” “งั้นรึ ” พ่อทำหน้าครุ่นคิด “รึมันจะเป็นหนุ่มเต็มตัวแล้ว เลยรู้สึกอายน้องไม่อยากให้เข้าไปยุ่มย่ามในห้องมัน เดี๋ยวไปเห็นอะไรอะไรที่มันไม่เหมาะไม่ควรจะต้องเห็นเข้า ลูกจะตกใจนา ไอ้แจ๋มนา ” พ่อบอกงั้นแม่เลยสงสัยถามพ่อว่า “พ่อ ไอ้ อะไรอะไร ของพ่อน่ะ หมายความว่ายังไงยะ” “ ก็อะไรอะไรที่แม่เห็นของพ่ออยู่ประจำนั่นล่ะ แหมแม่ก็ ทำเป็นไม่เข้าใจ ”
พ่อบอก แม่ร้อง “อ๋อ .... อุ้ย พ่อ พูดออกมาได้ไม่กระดากปาก อายลูกมันมั่งสิ พ่อเนี่ย พูดอะไรก็ไม่รู้ ” แม่อายม้วนต้วนขึ้นมาเชียว “โอ้ย พ่อแม่ จนหนูจะโตเป็นสาวแล้วยังจีบกันไม่เลิกเลยเหรอ อายฟ้าดินซะมั่งเหอะ พิลึก รักกันอยู่ได้ พ่อแม่เพื่อนๆ หนูไม่เห็นมีใครเป็นแบบนี้เลย”
“อ้าว โว้ยเฮ้ย! แล้วมันไม่ดีตรงไหนล่ะ ไอ้แจ๋มแจ่มแจ๋วเอ๋ย หรือลูกอยากให้พ่อกับแม่ตีกันล่ะ ไอ้ลูกคนนี้นี่ ” พ่อหัวเราะอารมณ์ดี มองหน้ายู่ยี่ของแจ๋มพลางคิดหาวิธีคุยกับโจ๊กแบบลูกผู้ชาย “ มันเป็นอะไรของมันนะ ปกติมันรักน้องจะตาย ไหงเป็นงี้ไปได้นะ ไอ้ลูกโจ๊กมันมีมุมทุเรศทุเรศแบบนี้ตั้งกะเมื่อไหร่นิ” พ่อนิ่งคิดอยู่ในใจ
โจ๊กเปิดประตูห้องก้าวออกมาพอดี
“แจ๋ม พี่ขอโทษนะ เมื่อกี้นี้น่ะ มาเดี๋ยวพี่เอาคอมฯออกมาให้ใช้นะ รอแป๋บนึงนะ ” พูดเสร็จก็มาดึงแขนน้องลุกออกไปด้วยกัน พ่อกับแม่มองตามภาพนั้นด้วยความคุ้นเคย นี่ล่ะวิธีง้อน้องของโจ๊ก ตบหัวแล้วลูบหลัง แม่คนโดนกระทำพอพี่ง้อก็หายงอนทุกครั้งไป จะมีก็ครั้งนี้ล่ะ ที่เกิดจะไม่หายงอนซะที
“อ้าว .. ไหนบอกไม่ให้เข้าห้องไง แล้วจูงเค้ามาทำไมเนี่ย ” เสียงแจ๋มโวยวายดังลั่น “ไม่เข้า ยังไงก็ไม่เข้า ต่อไปนี้นะ ห้องใครห้องมัน ตัวใครตัวมัน คอยดู” คนพูดหน้าง้ำหน้างอ คนง้อเลยหน้าเจื่อนไปเลย
“แจ๋ม” พี่ชายเรียกไว้ “ไม่เข้ามาแล้วจะยกคอมฯออกไปไงล่ะ เข้ามาเถอะ พี่ขอโทษแล้วไง”
"ขอโทษแล้วเค้าหายเจ็บไหมล่ะ ดูซิเนี่ยหัวปูดเป็นลูกมะพร้าวแล้วมั้ง คอยดูนะจะฟ้องนางฟ้า” แจ๋มยังงอนอยู่
“อย่านะแจ๋ม เสียภาพพจน์พี่หมด อย่าฟ้องน้องนางฟ้าของพี่นะ โธ่! แจ๋ม พี่ขอโทษแล้วไง” โจ๊กโอดครวญ
“ขอโทษแล้วไง ก็ไม่หายเจ็บอยู่ดีน่ะล่ะ ตอนทำล่ะไม่คิด” “โอ้ย... แจ๋ม ถ้าคิดทันแล้วพี่จะทำไหมล่ะ พลั้งมือไปแค่นิดเดียวเอง งอแงไปได้น่า” แจ๋มแบมือโจ๊กร้อง “อ๋อ !ไอ้น้องบังเกิดเกล้า ลำเลิกบุญคุณใช่ไหมนี่ ขอตังค์พ่อกับแม่ก็ได้ ไหงต้องมาไถพี่ล่ะ” “ขอตังค์พ่อกับแม่มันไม่เท่ ขอพี่เงี้ย...อวดเพื่อนได้ พี่ชายเราใจดี ดีดี๋ดี ไม่เคยตีน้องเลยสักแอะ” แจ๋มลอยหน้าลอยตา “ให้ไม่ให้ จะให้ก็รีบให้ ชักช้าเดี่ยวเปลี่ยนใจ แม่จ๋า.. เห็นโทรศัพท์มือถือหนูไม๊ วางไว้แถวๆ ที่แม่นั่งคุยกับพ่อน่ะ หยิบให้หนูหน่อยสิแม่ ” แจ๋มเร่งกลัวพี่ชายไหวตัวทันว่าหายโกรธนานแล้ว ก็ตั้งแต่ขอโทษครั้งแรกนั่นล่ะแต่ที่ทำฟอร์มจัดเพราะกะจะเอาคืนพี่ตัวแสบ
“เอ้า อยู่นี่ อยู่นี่ มาเอาไปสิแจ๋มเอ๋ย จะคุยก็รีบคุยเข้าล่ะโทรไปช้าเดี๋ยวเพื่อนเข้านอนไปแล้วเลยอดคุยกันพอดี ”
แม่เสริมด้วยความสะใจกะจะแกล้งลูกชายเล่นซะให้เข็ด พักนี้เพี้ยนนัก เอาเลยแจ๋มลูกแม่เอาซะให้เข็ด
“แม่คร๊าบบบบบ ทำไมทำงี้ล่ะแม่ ” โจ๊กครวญ “ พ่อ พูดอะไรบ้างสิ ” โจ๊กหันไปหาพ่อขอความช่วยเหลือ พ่อยิ้มที่มุมปากก่อนกระชากเสียงออกมา “สมควรแล้วล่ะไอ้คุณโจ๊กเอ๋ย เคลียร์กันเอาเองล่ะกัน เรียนผูกก็ต้องเรียนแก้เอาเองสิอย่ามาเดือดร้อนพ่อ” พ่อลุกขึ้นยืน “ไปอาบน้ำดีกว่าจะได้สบายตัว แม่จ๋า ตามพ่อมาสิ เราไปจู๋จี๋กันต่อในห้องเนอะแม่เนอะ เผื่อจะมีน้องให้ไอ้โจ๊กมันเลี้ยงอีกสักคน ไปแม่ไปลุกตามมาเร็ว มาขัดหลังให้พ่อหน่อย” พ่อเร่งแม่
“อ้าวแล้วไม่จัดการเร๊อะ” แม่ถามพลางลุกเดินตามพ่อไป “ลูกมันโตแล้วน่า ให้เค้าตัดสินใจเองบ้างเถอะ”
แม่ยังไม่หายห่วง “ไม่อยู่ดู เดี๋ยวลูกตีกันตายล่ะพ่อ” แม่เดินมาพูดข้างๆพ่อที่เดินรอรออยู่ “โจ๊กมันเป็นพี่ มันรู้คิดน่ะแม่น่ะไม่งั้นมันไม่ขอโทษน้องหร๊อก แม่ไม่รู้รึแกล้งไม่รู้ ลูกเราน่ะ เค้ารักกันนักหนา เป็นยังงี้มาแต่ไหนแต่ไร เตรียมกลุ้มใจไว้เถอะ ไอ้แจ๋มมันจะซื้อคานทองนิเวศน์อยู่ก็เพราะพี่ชายมันนั่นแหล่ะใครที่ไหนจะรักแจ๋มเท่าโจ๊กฮึแม่ฮึ พูดก็พูดเถอะแม่ นี่เราอยู่ด้วยกันมานานจนลูกมันเป็นหนุ่มแล้วนะ นานจังนะแม่นะ” พ่อเอ่ยขึ้น
“อ้าวแล้วมันเป็นยังไงล่ะพ่อ หรือพ่อรักแม่น้อยลง แอบไปมีกิ๊กมีกั๊ก อะไรหรือเปล่าเนี่ย วันนี้พูดแปลกๆแฮะ พูดไม่ค่อยเข้าหูแม่เล้ย จริงๆเชียวพ่อ นี่ๆอย่าเดินหนีสิ มาเคลียร์กันก่อนสิพ่อ ” แม่หยุดเดินทำท่าคิด ก็จริงของพ่อนะ
วันเวลา เข็มนาฬิกาเดินไปไม่หยุดยั้ง เร็วเสียจนแม่ไม่ทันสังเกตว่าลูกๆโตจะเป็นหนุ่มเป็นสาวกันซะแล้ว
“โตเป็นหนุ่มแล้วสินะ......โจ๊กลูกแม่ ” แม่พึมพำก่อนเดินเข้าห้องนอนไป
....................................................
ผลงานอื่นๆ ของ Pran\'s Wons ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Pran\'s Wons
ความคิดเห็น