Oberon : Nightmare syndrome

หลังยุคภัยพิบัติ โลก หรือ เอิร์ธ คล้ายถูกมือยักษ์บีบนวดแล้วปั้นใหม่ จนเหลือพื้นที่อยู่อาศัยเพียงสี่เขตคือ ที่ราบทาราห์ แหล่งการค้าไฟเออร์บลู เมืองหลวงวินสเตอร์ และริเวอร์วอลเกาะสวรรค์  มนุษย์หลากหลายชาติพันธุ์เข้าผสมปนเปกันโดยไร้การแบ่งแยก สันติภาพที่มนุษย์ใฝ่หาจึงเกิดขึ้นมาหลังช่วงเวลาแห่งหายนะนี้เอง

โลกเข้าสู่ยุคปฏิวัติเทคโนโลยีอีกครั้ง เพราะนครแอตแลนติส นครแห่งเทคโนโลยีชั้นสูงที่เคยหายสาบสูญปรากฏตัวขึ้น นักวิทยาศาสตร์จึงได้ศึกษาเทคโนโลยีเหล่านั้นจนโลกพัฒนาแบบก้าวกระโดด เพียงระยะเวลาแค่สิบปี ระบบคมนาคมทางอากาศที่มนุษย์ปีสองพันเคยฝันถึงก็กลายเป็นเรื่องธรรมดา มนุษย์มีหุ่นยนต์คอยช่วยทำงาน นิยมฝังนาโนชิพเพื่อรายงานสภาพร่างกาย และทำสิ่งต่างๆ ด้วยเทคโนโลยีอีกมากมาย

ค.ศ. 2500 เมื่อโลกเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติและสงบสุข ธรรมชาติก็เริ่มกระทำการคัดเลือกผู้แข็งแกร่งอีกครั้ง โดยการใช้โรคที่คล้ายกับกลุ่มอาการ SADS (Sudden unexplained death syndrome) หรือโรคที่รู้จักกันในนาม โรคใหลตาย ในสมัยโบราณมาเป็นตัวคร่าชีวิตมนุษย์ แต่โรคร้ายโรคใหม่นี้ต่างไปจากเดิมคือ ใครก็ตามที่เป็นโรคจะไม่ตายในทันทีขณะหลับ แต่จะหลับเป็นเวลานานจนตายไปในที่สุด โรคนี้คร่าชีวิตผู้คนมากมายจนกระทั่งถูกเรียกอย่างแพร่หลายในอีกชื่อหนึ่งว่าไนท์แมร์ หรือฝันร้ายนั่นเอง