การป้องกันไฟฟ้าดูด ในภาวะน้ำท่วม - การป้องกันไฟฟ้าดูด ในภาวะน้ำท่วม นิยาย การป้องกันไฟฟ้าดูด ในภาวะน้ำท่วม : Dek-D.com - Writer

    การป้องกันไฟฟ้าดูด ในภาวะน้ำท่วม

    การใช้ไฟฟ้าในช่วงน้ำท่วมคร่า

    ผู้เข้าชมรวม

    218

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    218

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  16 พ.ย. 54 / 17:33 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
     
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
       

      ภัยที่เกิดจากธรรมชาติ ที่ล่าสุดตอนนี้ เกี่ยวกับน้ำท่วมทำความเดือดร้อน ในพื้นที่บริเวณมีน้ำไหลผ่านสร้างความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สิน และนอกจากโรคภัยต่างๆที่มากับน้ำท่วมแล้ว ภัยจากกระแสไฟฟ้าก็เป็นหนึ่งอันตรายที่ควรระมัดระวัง สิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ ด้วยความระมัดระวัง และไม่ประมาท

      ผศ.ดร.นพพร ลีปรีชานนท์ อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ร่างกายคนเสมือนเส้นทางเดินไฟฟ้า มีอานุภาพร้ายแรงเมื่อไฟฟ้าไหลต่อเนื่องอย่างครบวงจร ซึ่งผู้หญิงและคนที่มีรูปร่างอวบมีโอกาสเสี่ยงถูกไฟฟ้าดูดมากกว่าผู้ชาย เนื่องจากปริมาณน้ำในตัวมีมาก และมีความชื้นในตัวสูงที่จะเป็นตัวนำไฟฟ้าได้เป็นอย่างดี

      เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีบริเวณความชื้นมาก ควรระมัดระวังในการใช้งานเป็นพิเศษ เช่น บริเวณบ่อปลา ปั๊มน้ำ เครื่องซักผ้า ตู้กดน้ำ เครื่องทำน้ำอุ่น เป็นต้น ตัวอย่างเช่น เครื่องซักผ้าที่เกิดไฟฟ้ารั่วโดยไม่ติดตั้งสายดิน ขณะเดียวกันผู้ใช้งานไม่สวมใส่รองเท้า ทำให้กระแสไฟฟ้าไหลครบวงจร โดยไหลผ่านตัวคนลงสู่พื้น ส่งผลต่อการเต้นของหัวใจ และทำให้เสียชีวิตได้หากไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างถูกวิธี

      กรณีเกิดไฟฟ้ารั่วตอนน้ำท่วมฉับพลัน อันดับแรกให้รีบสับสวิตช์ลงเพื่อป้องกันการเกิดไฟฟ้ารั่ว ความเข้มข้นของกระแส ไฟฟ้าขึ้นอยู่กับการกระจายของกระแสไฟฟ้า ถ้าใกล้กับจุดที่ไฟฟ้ารั่วกระแสไฟฟ้าก็จะมีความเข้มข้นมาก ห่างออกไปก็จางลงไปตามลำดับ การที่จะพิสูจน์ว่ามีกระแสไฟฟ้ารั่วหรือไม่นั้นห้ามเอาหน้ามือสัมผัส เพราะโดยธรรมชาติของคนเมื่อโดนไฟฟ้าดูดก็จะกำมือลง ร่างกายจะหดตัวกำแน่น ทางที่ดีควรใช้หลังมือสัมผัส

      อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าหลังโดนน้ำท่วมถ้าจะนำมาใช้ควรจะตรวจสอบให้แน่ใจก่อน ว่าอยู่ในสภาพที่ยังใช้การได้อยู่หรือไม่ สิ่งแรกต้องทำให้แห้งก่อนที่จะเสียบปลั๊ก หากไม่แน่ใจควรให้ช่างผู้ชำนาญมาตรวจสอบก่อน แต่ถ้าอุปกรณ์เหล่านั้นเกิดความเสียหายมาก ก็ไม่ควรเสี่ยงที่จะนำมาใช้งาน

      วิธีป้องกันตัวเองเพื่อไม่ให้เกิดไฟฟ้าดูด หากจะเสียบปลั๊กอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ต้องมั่นใจว่าร่างกายแห้งสนิทไม่เปียกชื้น บริเวณเต้ารับควรดูแลรักษาให้แห้งอยู่เสมอ หากไม่แน่ใจก่อนเสียบปลั๊กก็ควรสวมรองเท้า สิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ ด้วยความระมัดระวัง และไม่ประมาท

      ก่อนเกิดเหตุ ควรมีการป้องกันไม่ไปสัมผัสกับกระแสไฟฟ้าที่รั่ว และห้ามใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่โดนน้ำท่วมมาแล้ว ถ้าบริเวณที่มีความเสี่ยงต่อไฟฟ้ารั่วหรือมีโอกาสเกิดไฟรั่วได้ง่ายควรติด ตัวเบรกเกอร์ป้องกันไว้ก่อน

      ระหว่างที่เกิดเหตุ บุคคลที่มาช่วยไม่ควรจะไปสัมผัสร่างกายผู้เคราะห์ร้ายโดยตรง ควรหาฉนวน เชือกแห้ง เสื้อแห้ง ๆ ดึง หรือ ผลักออกไป และสิ่งสำคัญควรรู้จักการปฐมพยาบาลเบื้องต้นที่เหมาะสม โดยปกติผู้ที่ถูกไฟฟ้าดูดจะหมดสติ กล้ามเนื้อเกร็ง เราต้องปั๊มหัวใจหรือผายปอด โดยการเป่าปาก   

      “การเสียชีวิตที่เกิดจาก  กระแสไฟฟ้าส่วนใหญ่เกิดจาก ไฟฟ้าช็อตตายอย่างฉับพลัน และไฟฟ้ารั่วปริมาณกระแสไฟฟ้าวิ่งเข้าสู่หัวใจเกินค่ามาตรฐาน”

      การช่วยเหลือผู้เคราะห์ร้ายจากการถูกไฟฟ้าดูด คือเมื่อมีผู้ถูกไฟฟ้าดูดห้ามเอามือไปสัมผัสโดยตรง ให้สวมรองเท้าแล้วนำวัสดุที่เป็นฉนวนป้องกันไฟฟ้า เช่น ผ้าแห้งกระชากหรือดันตัวผู้ถูกไฟฟ้าดูดออกไป ถ้าเราสัมผัสตัวผู้ประสบภัยโดยตรงไม่มีเครื่องป้องกันกระแสไฟฟ้าก็จะวิ่ง เข้าสู่ตัวเราอีกคน ลักษณะแบบนี้ทางเทคนิคเรียกว่า แบบขนาน ทำให้ทั้งสองคนเสียชีวิตเร็วขึ้น เหมือนเป็นการแบ่งความแรงของไฟฟ้ากันคนละครึ่ง เพราะความต้านทานรวมลดลง กระแสไฟฟ้าจะแบ่งไหล วิธีการช่วยชีวิตแบบเร็วที่สุด คือการสับสวิตช์เบรกเกอร์ หรือสับตัวต้นทางทิ้งไป โดยปกติทางการแพทย์ศึกษามาแล้วว่าคนที่ถูกไฟฟ้าดูดประมาณ 0.01-0.04 วินาที แล้วสับสวิตช์เบรกเกอร์ทันจะปลอดภัย ถ้าเกินกว่านั้นจะทำให้เสียชีวิตทันที แต่ละคนระยะเวลาการเสียชีวิตจะเฉลี่ยกันไป คนอ้วนมีโอกาสเสียชีวิตเร็วกว่าปกติ

      ปัจจุบันมีเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดที่มีคุณสมบัติทนต่อน้ำท่วม โดยจะมีค่ามาตรฐานสากล สังเกตได้จากรหัส IP ที่ติดไว้ด้านข้างเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยแสดงด้วยตัวเลขสองหลัก ตัวเลขหลักแรก  บอกการป้องกันการกระแทกจากของแข็ง ตัวเลขหลักที่สองบอกการป้องกันของเหลว เช่น น้ำ หากตัวเลขสองหลักมีค่าสูงสามารถ ป้องกันฝุ่นละอองได้

      ตัวอย่างเช่น IP56 สามารถป้องกันของแข็งได้ระดับ 5 และสามารถป้องกันน้ำได้ระดับ 6 ซึ่งเป็นค่ามากที่สุด ทนทานต่อความเค็มของน้ำทะเล 

      นพ.อรรถ นิติพน ศัลยแพทย์ทั่วไป โรงพยาบาลกรุงเทพ กล่าวว่า คนไข้ที่ถูกไฟดูดส่วนใหญ่มีอยู่ 2 กรณีคือ

       

      1. มีอาการหมดสติ การปฐมพยาบาลเบื้องต้นควรตรวจดูว่ายังมีลมหายใจหรือไม่ โดยการจับชีพจรหรือฟังการหายใจ หากคนไข้ถูกไฟดูดนานกว่า 5 นาที มีโอกาสเสียชีวิตสูง ซึ่งควรปฐมพยาบาลเบื้องต้นควรตรวจดูในช่องปากและจมูก ไม่ให้สิ่งใดตกค้างและทำการผายปอดและปั๊มหัวใจ และต้องนำส่งโรงพยาบาลทันที
      2. คนไข้ที่มีสติ อาจมีกล้ามเนื้อภายในสุก โดยควรตรวจดูบริเวณข้อพับต่าง ๆ ซึ่งหากมีการผิดปกติพับงอไม่ได้ต้องไปพบแพทย์ทันที


      “หมอมักพบคนไข้ที่ถูกไฟดูดเกิดอาการหัวใจขาดเลือด โดยคนไข้เจ็บหน้าอกและมีอาการหายใจไม่เต็มที่ อาการเหล่านี้อย่าประมาทควรไปพบแพทย์ทันที”

      อย่างไรก็ตาม การป้องกันที่ดีที่สุดคือ การไม่ประมาท เพราะนั่นอาจหมายถึงอีกหลายชีวิตที่ต้องเสียไป

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×