เดชดาบเดี่ยวกระบี่ฟ้าผ่า
เรื่องราวของ ชาติ-จีนไทย ใช่อื่นไกล พี่น้องกัน แนวกำลังภายใน ยุทธจักรแบบไทยและจีนผสานเป็นหนึ่งเดียว ถือว่าผู้เขียนขอแหวกแนว เพราะแนวกำลังภายในเป็นเรื่องที่ชอบมากที่สุดอย่างหนึ่งผู้เขียน ติดนิยาย ของโกวเล้ง กับกิมย้ง ซึ่งแปล โดย จำลอง พิศนาคะ กับ ว.
ผู้เข้าชมรวม
638
ผู้เข้าชมเดือนนี้
11
ผู้เข้าชมรวม
แท็กนิยาย
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
เดชดาบเดี่ยวกระบี่ฟ้าผ่า
ของ จ้าวเกาะดอกท้อ
ณ ศาลาไร้ คุณธรรม
เชิ้วเหม่งอี้ผงกศรีษะคล้ายคำนับลงสามครั้ง ต่อหน้าป้ายบรรพชน ในสถานที่ชื่อว่าสุสานดาบไร้เงา เบื้องหน้าของเขานี่เอง ที่เหล่าจอมยุทธเรียกกันว่า สุสานไร้เงา สุสานดาบไร้เงามีต้นกำเนิดมาจากท่านปู่โอ้วเอี้ยวอ่อง เป็นคนจากมณฑลกวานสี ทำมาค้าขายจนได้ดิบได้ดี
หากว่าสิบกว่าปีที่ผ่านไป สถานที่แห่งนี้กลับรกร้างว่างเปล่า เป็นที่อยู่ของอสรพิษสัตว์เลื้อยคลานที่น่ากลัว เพราะเต็มไปด้วยป่าหญ้าที่สูงท่วมหัว จะแบ่งเป็นทางเดิน ทางเดินที่เหมือนกับว่า ถึงสภาพจะรกร้างไร้การเหลียวแลอย่างนี้ แต่ก็ยังมีผู้มาสักการะเคารพศพในสุสานบรรพชนแห่งนี้ของเขาอยู่ เนื่องจากสังเกตรอยบนพื้นหญ้าที่ถูกย่ำจมดินจนกลายเป็นเส้นทาง ที่เดินเข้าไปในสุสานที่ว่างเปล่าแห่งนี้ได้
ข้าพเจ้ากำลังก้าวเข้าไปในสุสานดาบไร้เงาของตระกูล ความผิดปกติบางอย่างเกิดขึ้น หรืออาจจะเป็นเพราะว่าข้าพเจ้าอุปาทานไปเอง
เสียงลมพัดใบไม้ไหว เสียงกรีดปีกของสัตว์ที่บินอยู่ใกล้ๆไพเราะคล้ายเสียงดนตรีมากล่อมเป่าในสุสานของบรรพบุรุษของข้า ชุดที่ข้าพเจ้าสวมคือชุดสีแดง มีกระบี่เล่มหนึ่งแขวนอยู่ข้างกายติดพู่ห้อย มันเป็นอาวุธติดตัวของข้า นอกจากศัตรูร้ายเท่านั้นเองที่มันจะถูกกระชากออกจากฝักเร็วชั่วพริบตาเดียว แล้วสังหารคนที่อยู่เบื้องหน้าใช้เวลาไม่เกินวินาที มันก็จบสิ้นชีวิตอย่างทันตา
นี่คือคมกระบี่ปลายอักษรทรัพย์สินมรดกทางปัญญาของตระกูลท่านตา พวยล้อบู้จง แห่งสำนัก ขุนเขาทะยานเมฆา เก๋งจีนสูงที่มองเห็นอยู่นั่น ถ้าคนมีรสนิยมสูงชื่นชมดอกไม้ เขาจะมองเห็นทะเลดอกไม้งามนาๆชนิดในสวนกว้างแห่งนี้ พวกดอกเบญมาศที่เบ่งบานสีเหลืองชมพูแดงขาวสะพรั่งไปหมด ตัดกับดอกเก็กฮวย ทางด้านหนึ่งก็มีดอกท้อและบ๊วยแข่งกันบานสะพรั่ง สีของมันไม่แตกต่างไปจากซากุระเท่าใดนัก จึงงามหมดจดและสถานที่แห่งนี้จะเยี่ยมชมได้เฉพาะช่วงนี้นี่เอง คือ ต้นฤดูหนาวไปจนถึงฤดูใบไม้ผลิ
ชิวเหม่งอี้ก้าวเท้าไปเรื่อย หลังจากเสร็จคำนับไหว้บรรพบุรุษณสุสาน ก็พาฝีเท้าอ้อมไปยังสุสานหิน เป็นคลองน้ำซึ่งเลี้ยงปลาเอาไว้ เส้นทางเดินมีลักษณะคดโค้ง จวบจนไปถึงเก๋งจีนที่ตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยว เสียงกวาดใบไม้ไปมาทำให้เขารู้ว่ามีผู้คนรออยู่ที่นั่น ลุงหวัง เมื่อพบว่าชายชีราคือคนเก่าแก่ของตระกูล ที่หายไปนานเกือบสามปี ไม่เคยได้พบพานเลยสักครั้ง สีหน้าของชิวเหม่งอี้ดีใจอย่างมากที่สุด ตรงเข้าไปเขย่าร่างๆ
ลุงหวัง.. ลุงจริงๆ ลุงยังไม่ตาย ชายชราผมสีดอกเลาทิ้งไม้กวาดในมือ เมื่อเงยหน้าอันฝ้าฟางจ้องชายหนุ่มผู้งามสมเป็นจอมยุทธ สืบทายาทผู้เป็นเจ้านายตระกูลฟาง เสียดายนายท่านและฮูหยินจบชีวิตลงเพราะคนโฉดชั่ว อสุนีบาตฟาดสังหารในคราวนั้น ผู้เฒ่าหวังเมื่อเห็นนายน้อยร่างจริง ไม่ใช่เงาและภูติวิญญาณก็เบะสีหน้าคล้ายจะร้องไห้ เหมือนตื้นตันอย่างหนัก
ฟ้าดินคุ้มครอง ตระกูลฟางยังมีนายน้อย โอสวรรค์ยังปรานีแกละล่ำละลักเอ่ยเช่นนั้น ด้วยชุดสีเทาที่ดูเก่าคร่ำคร่า ข้าดีใจเหลือเกิน ที่สวรรค์เมตตา ขอวอนให้นายน้อยช่วยกอบกู้ชื่อเสียงของตระกูลฟางชิวเหม่งอี้นิ่งเงียบ ถ้อยคำนั้นจับใจยิ่งนัก
ทราบดีถึงการตายของบรรพบุรุษรวมทั้งบิดามารดา แต่มิทราบว่าผู้ใดเป็นตัวการ เมื่อพบเห็นผู้เฒ่าหวังซึ่งเป้คนเก่า แก่ของบิดามารดาและอยู่ในเหตุการณ์ครั้งนั้นด้วย อดถามไม่ได้ ท่านพ่อท่านแม่ ของฆ่า ถูกผู้ใดสังหาร ท่านลุงหวัง โปรดช่วยชี้แนะบอกความจริงแก่ข้าด้วย หันสีหน้าไปทางผู้สูงวัยเอ่ยกล่าวเป็นคำถาม
เจ็ดอสรพิษนกยูงดำ กับพรรคพวกของมัน รวมทั้ง เฒ่าอสุนีบาตแห่งเกาะฟ้าลั่น คืนนั้นพระจันทร์แรม พวกมันจู่โจมเมื่อตอนสองยาม.. ทุกสิ่งทุกอย่างก็เป็นอย่างที่นายน้อยได้ทราบภายหลัง
ชิวเหม่งอีซบใบหน้าลงกับพื้นหินอ่อนโต๊ะเบื้องหน้า หลังจากชั่งใจ สำรวจดูทุกสิ่งทุกอย่างเสร็จแล้ว กำลังนั่งรอข้าทาสผู้ซื่อสัตย์ ที่หวนกลับมาปัดกวาดบริเวณสุสานของบรรพบุรุษ เป็นเรื่องไม่คาดคิดว่า ปีนี้เขาจะได้เจอกับท่านลุงหวัง ซึ่งหายสาบสูบไปในคราวที่เกิดเรื่อง แล้วตั้งแต่เกิดเรื่อง ท่านลุงหวังไปพักอยู่ที่ไหนเอ่ยกล่าวเสียงเนิบหากแต่สายตาจับอยู่ที่ใบอ่อนของกิ่งหลิวกับบ๊วยขาว
หลบหนีไปอยู่กับชาวนาผู้หนึ่ง ชื่ออาแซ ที่ตำบลบักเลี้ยมทำให้ชิวเหม่งอี้ผงกศีรษะ สุภาษิตจีนบอกว่า บุญคุณต้องทดแทนแค้นยังต้องชำระ เห็นทีเขาจะต้องเปลี่ยนแปลงใหม่ เพราะใจยังไม่อยากจะฆ่าคน ไม่มีเหตุผลอันใดที่จะต้องฆ่า หรือว่าจะต้องฆ่าเพราะความแค้นเสียแล้ว
นิ่งไปครู่เหลือบมองดูฟ้า กระบี่ข้างกายยังซ่อมคมอยู่ในฝัก ไม่ห่างนอกกาย เนื่องจากเป็นอาวะประจำกาย ถอนหายใจสักครู่ถึงเรื่องยุ่งยาก งั้นเสร็จจากนี้ ลุงหวังต้องกลับไปอยู่กับชาวนาเช่นเดิมลุงหวังพยักหน้า ชิวเหม่งอี้ละความสนใจไปทางด้านอื่น เขาเคารพบรรพบุรุษเสร็จแล้วก็ต้องไป
แล้วนายน้อยล่ะ
ข้าคนพลัดบ้านไร้ถิ่นที่ จะมีทางไหนนอกจากรอนแรมเป็นพเนจรผู้สูงวัยกว่าครางที่ชะตากรรมของนายน้อยเป็นเช่นนี้ โธ่นายน้อย นี่ท่านนายท่านกับฮูหยินยังอยู่ นายน้อยคงไม่ถึงกับขนาดนี้
ว่าได้หรอกหรือ ลุงหวัง สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ข้าตั้งใจเอง หากท่านพ่อท่านแม่ยังอยู่กับตาม ถ้าหากข้าชอบสิ่งนี้ก็ต้องเป็นไปแบบนี้..เข้าใจคำว่าชะตาชีวิตมั๊ย ผู้อาวุโสหวังจึงเงียบกริบ
เพียงไม่นานนักชิงเหม่งอี้ก็อันตรธานตนหายไปจากที่นั่น หลงเหลือเพียงความว่างเปล่า กับดนตรีธรรมชาติของกอไผ่สีทองที่เสียดเบียดกับสายลมพลิ้ว
ผลงานอื่นๆ ของ ดอกหางนกยูงสีส้ม ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ดอกหางนกยูงสีส้ม
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ความคิดเห็น