เดชดาบเดี่ยวกระบี่ฟ้าผ่า - นิยาย เดชดาบเดี่ยวกระบี่ฟ้าผ่า : Dek-D.com - Writer
×

    เดชดาบเดี่ยวกระบี่ฟ้าผ่า

    เรื่องราวของ ชาติ-จีนไทย ใช่อื่นไกล พี่น้องกัน แนวกำลังภายใน ยุทธจักรแบบไทยและจีนผสานเป็นหนึ่งเดียว ถือว่าผู้เขียนขอแหวกแนว เพราะแนวกำลังภายในเป็นเรื่องที่ชอบมากที่สุดอย่างหนึ่งผู้เขียน ติดนิยาย ของโกวเล้ง กับกิมย้ง ซึ่งแปล โดย จำลอง พิศนาคะ กับ ว.

    ผู้เข้าชมรวม

    638

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    11

    ผู้เข้าชมรวม


    638

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    1
    จำนวนตอน : 0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  28 ส.ค. 60 / 12:37 น.

    แท็กนิยาย

    ยุทธจักร

    อีบุ๊กจากนิยาย ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    เดชดาบเดี่ยวกระบี่ฟ้าผ่า

     

    ของ    จ้าวเกาะดอกท้อ

     

    ณ ศาลาไร้ คุณธรรม

     

    เชิ้วเหม่งอี้ผงกศรีษะคล้ายคำนับลงสามครั้ง ต่อหน้าป้ายบรรพชน ในสถานที่ชื่อว่าสุสานดาบไร้เงา  เบื้องหน้าของเขานี่เอง ที่เหล่าจอมยุทธเรียกกันว่า สุสานไร้เงา  สุสานดาบไร้เงามีต้นกำเนิดมาจากท่านปู่โอ้วเอี้ยวอ่อง เป็นคนจากมณฑลกวานสี ทำมาค้าขายจนได้ดิบได้ดี

    หากว่าสิบกว่าปีที่ผ่านไป  สถานที่แห่งนี้กลับรกร้างว่างเปล่า เป็นที่อยู่ของอสรพิษสัตว์เลื้อยคลานที่น่ากลัว เพราะเต็มไปด้วยป่าหญ้าที่สูงท่วมหัว จะแบ่งเป็นทางเดิน  ทางเดินที่เหมือนกับว่า  ถึงสภาพจะรกร้างไร้การเหลียวแลอย่างนี้ แต่ก็ยังมีผู้มาสักการะเคารพศพในสุสานบรรพชนแห่งนี้ของเขาอยู่  เนื่องจากสังเกตรอยบนพื้นหญ้าที่ถูกย่ำจมดินจนกลายเป็นเส้นทาง ที่เดินเข้าไปในสุสานที่ว่างเปล่าแห่งนี้ได้

    ข้าพเจ้ากำลังก้าวเข้าไปในสุสานดาบไร้เงาของตระกูล  ความผิดปกติบางอย่างเกิดขึ้น  หรืออาจจะเป็นเพราะว่าข้าพเจ้าอุปาทานไปเอง 

    เสียงลมพัดใบไม้ไหว  เสียงกรีดปีกของสัตว์ที่บินอยู่ใกล้ๆไพเราะคล้ายเสียงดนตรีมากล่อมเป่าในสุสานของบรรพบุรุษของข้า ชุดที่ข้าพเจ้าสวมคือชุดสีแดง มีกระบี่เล่มหนึ่งแขวนอยู่ข้างกายติดพู่ห้อย  มันเป็นอาวุธติดตัวของข้า  นอกจากศัตรูร้ายเท่านั้นเองที่มันจะถูกกระชากออกจากฝักเร็วชั่วพริบตาเดียว แล้วสังหารคนที่อยู่เบื้องหน้าใช้เวลาไม่เกินวินาที  มันก็จบสิ้นชีวิตอย่างทันตา

    นี่คือคมกระบี่ปลายอักษรทรัพย์สินมรดกทางปัญญาของตระกูลท่านตา  พวยล้อบู้จง  แห่งสำนัก ขุนเขาทะยานเมฆา  เก๋งจีนสูงที่มองเห็นอยู่นั่น ถ้าคนมีรสนิยมสูงชื่นชมดอกไม้ เขาจะมองเห็นทะเลดอกไม้งามนาๆชนิดในสวนกว้างแห่งนี้ พวกดอกเบญมาศที่เบ่งบานสีเหลืองชมพูแดงขาวสะพรั่งไปหมด   ตัดกับดอกเก็กฮวย  ทางด้านหนึ่งก็มีดอกท้อและบ๊วยแข่งกันบานสะพรั่ง สีของมันไม่แตกต่างไปจากซากุระเท่าใดนัก จึงงามหมดจดและสถานที่แห่งนี้จะเยี่ยมชมได้เฉพาะช่วงนี้นี่เอง คือ ต้นฤดูหนาวไปจนถึงฤดูใบไม้ผลิ

     

    ชิวเหม่งอี้ก้าวเท้าไปเรื่อย  หลังจากเสร็จคำนับไหว้บรรพบุรุษณสุสาน  ก็พาฝีเท้าอ้อมไปยังสุสานหิน เป็นคลองน้ำซึ่งเลี้ยงปลาเอาไว้  เส้นทางเดินมีลักษณะคดโค้ง  จวบจนไปถึงเก๋งจีนที่ตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยว  เสียงกวาดใบไม้ไปมาทำให้เขารู้ว่ามีผู้คนรออยู่ที่นั่น   “ลุงหวัง”  เมื่อพบว่าชายชีราคือคนเก่าแก่ของตระกูล ที่หายไปนานเกือบสามปี  ไม่เคยได้พบพานเลยสักครั้ง สีหน้าของชิวเหม่งอี้ดีใจอย่างมากที่สุด  ตรงเข้าไปเขย่าร่างๆ

    “ลุงหวัง..   ลุงจริงๆ ลุงยังไม่ตาย”  ชายชราผมสีดอกเลาทิ้งไม้กวาดในมือ  เมื่อเงยหน้าอันฝ้าฟางจ้องชายหนุ่มผู้งามสมเป็นจอมยุทธ   สืบทายาทผู้เป็นเจ้านายตระกูลฟาง  เสียดายนายท่านและฮูหยินจบชีวิตลงเพราะคนโฉดชั่ว   อสุนีบาตฟาดสังหารในคราวนั้น    ผู้เฒ่าหวังเมื่อเห็นนายน้อยร่างจริง  ไม่ใช่เงาและภูติวิญญาณก็เบะสีหน้าคล้ายจะร้องไห้ เหมือนตื้นตันอย่างหนัก

    “ฟ้าดินคุ้มครอง ตระกูลฟางยังมีนายน้อย   โอสวรรค์ยังปรานี”แกละล่ำละลักเอ่ยเช่นนั้น  ด้วยชุดสีเทาที่ดูเก่าคร่ำคร่า   “ข้าดีใจเหลือเกิน ที่สวรรค์เมตตา  ขอวอนให้นายน้อยช่วยกอบกู้ชื่อเสียงของตระกูลฟาง”ชิวเหม่งอี้นิ่งเงียบ ถ้อยคำนั้นจับใจยิ่งนัก

    ทราบดีถึงการตายของบรรพบุรุษรวมทั้งบิดามารดา   แต่มิทราบว่าผู้ใดเป็นตัวการ เมื่อพบเห็นผู้เฒ่าหวังซึ่งเป้คนเก่า แก่ของบิดามารดาและอยู่ในเหตุการณ์ครั้งนั้นด้วย อดถามไม่ได้    “ท่านพ่อท่านแม่ ของฆ่า ถูกผู้ใดสังหาร ท่านลุงหวัง  โปรดช่วยชี้แนะบอกความจริงแก่ข้าด้วย” หันสีหน้าไปทางผู้สูงวัยเอ่ยกล่าวเป็นคำถาม

    “เจ็ดอสรพิษนกยูงดำ กับพรรคพวกของมัน รวมทั้ง เฒ่าอสุนีบาตแห่งเกาะฟ้าลั่น  คืนนั้นพระจันทร์แรม  พวกมันจู่โจมเมื่อตอนสองยาม..   ทุกสิ่งทุกอย่างก็เป็นอย่างที่นายน้อยได้ทราบภายหลัง”

    ชิวเหม่งอีซบใบหน้าลงกับพื้นหินอ่อนโต๊ะเบื้องหน้า  หลังจากชั่งใจ สำรวจดูทุกสิ่งทุกอย่างเสร็จแล้ว  กำลังนั่งรอข้าทาสผู้ซื่อสัตย์ ที่หวนกลับมาปัดกวาดบริเวณสุสานของบรรพบุรุษ  เป็นเรื่องไม่คาดคิดว่า ปีนี้เขาจะได้เจอกับท่านลุงหวัง  ซึ่งหายสาบสูบไปในคราวที่เกิดเรื่อง   “แล้วตั้งแต่เกิดเรื่อง ท่านลุงหวังไปพักอยู่ที่ไหน”เอ่ยกล่าวเสียงเนิบหากแต่สายตาจับอยู่ที่ใบอ่อนของกิ่งหลิวกับบ๊วยขาว

    “หลบหนีไปอยู่กับชาวนาผู้หนึ่ง ชื่ออาแซ   ที่ตำบลบักเลี้ยม”ทำให้ชิวเหม่งอี้ผงกศีรษะ  สุภาษิตจีนบอกว่า บุญคุณต้องทดแทนแค้นยังต้องชำระ เห็นทีเขาจะต้องเปลี่ยนแปลงใหม่ เพราะใจยังไม่อยากจะฆ่าคน  ไม่มีเหตุผลอันใดที่จะต้องฆ่า หรือว่าจะต้องฆ่าเพราะความแค้นเสียแล้ว

    นิ่งไปครู่เหลือบมองดูฟ้า   กระบี่ข้างกายยังซ่อมคมอยู่ในฝัก ไม่ห่างนอกกาย  เนื่องจากเป็นอาวะประจำกาย  ถอนหายใจสักครู่ถึงเรื่องยุ่งยาก   “งั้นเสร็จจากนี้ ลุงหวังต้องกลับไปอยู่กับชาวนาเช่นเดิม”ลุงหวังพยักหน้า    ชิวเหม่งอี้ละความสนใจไปทางด้านอื่น   เขาเคารพบรรพบุรุษเสร็จแล้วก็ต้องไป

    “แล้วนายน้อยล่ะ”

    “ข้าคนพลัดบ้านไร้ถิ่นที่  จะมีทางไหนนอกจากรอนแรมเป็นพเนจร”ผู้สูงวัยกว่าครางที่ชะตากรรมของนายน้อยเป็นเช่นนี้    “โธ่นายน้อย   นี่ท่านนายท่านกับฮูหยินยังอยู่  นายน้อยคงไม่ถึงกับขนาดนี้”

    “ว่าได้หรอกหรือ ลุงหวัง สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ข้าตั้งใจเอง หากท่านพ่อท่านแม่ยังอยู่กับตาม  ถ้าหากข้าชอบสิ่งนี้ก็ต้องเป็นไปแบบนี้..เข้าใจคำว่าชะตาชีวิตมั๊ย”  ผู้อาวุโสหวังจึงเงียบกริบ

    เพียงไม่นานนักชิงเหม่งอี้ก็อันตรธานตนหายไปจากที่นั่น หลงเหลือเพียงความว่างเปล่า กับดนตรีธรรมชาติของกอไผ่สีทองที่เสียดเบียดกับสายลมพลิ้ว

     

     

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    คำนิยม Top

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    คำนิยมล่าสุด

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    ความคิดเห็น