นิวส์วีค นิตยสารชื่อดังของสหรัฐ
ที่วางจำหน่ายทั่วโลก ขึ้นปก 4 ผู้นำใหม่ในเอเชียรวมถึงทักษิณ
..สะดุดตาตรง หนึ่งในนั้นมีรูปของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย รวมอยู่กับ นายหม่า อิง จิ่วผู้นำหมาดๆ ของไต้หวัน นายลี เมียง บัก ประธานาธิบดีนักธุรกิจของเกาหลีใต้ และนายอันวาร์ อิบราฮิม อดีตรองนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ซึ่งนำพรรคฝ่ายค้านผงาดขึ้นท้าทายพรรคอัมโนเป็นครั้งแรก
ประเด็นที่นิวส์วีคนำเสนอ ก็คือ The Politics of Practical Nostalgiaหรือการเมืองแห่งการโหยหาอดีตที่ทำได้จริง...
ฟังชื่ออาจวกวนแต่ประเด็นของประเด็นก็คือ การเลือกตั้งที่ผ่านมาของทั้ง 4 ประเทศ (ซึ่งลงเอยด้วยความปราชัยของฝ่ายอำนาจเก่า) สะท้อนให้เห็นว่าในห้วงยามที่ปัญหาเศรษฐกิจกำลังบีบรัด ทั้งในบ้านและนอกบ้านสิ่งที่ชาวเอเชียกำลังโหยหา ก็คือ วันคืนเก่าๆ ที่เศรษฐกิจของประเทศขยายตัวอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านชาวเมืองมีการงานมั่นคง มีการเลื่อนชั้นทางสังคมและผู้นำที่สัญญาว่าจะนำ Good Old Days เหล่านั้นกลับมาก็คือคนที่ประชาชนจะเทคะแนนให้
ในเอเชียเวลานี้ ดูเหมือนว่าการกำหนดนโยบายที่มองโลกในแง่ความเป็นจริงและมีการเปลี่ยนแปลงได้เพื่อผลลัพธ์ที่สร้างความพึงพอใจให้แก่ประชาชนกำลังอยู่เหนืออุดมการณ์ และนโยบายที่ไม่ยืดหยุ่นของอำนาจเก่าในอดีต
ในประเทศไทย นิวส์วีคบอกว่าประชาชนผู้มีสิทธิออกเสียงได้ทำลายวงจรของการปฏิวัติที่ล้าหลัง โดยในอดีตนั้นผู้นำทหาร จะอยู่ในอำนาจให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วค่อยตั้งรัฐบาลพลเรือนที่เป็นพรรคพวกกันขึ้นมาสืบทอดอำนาจ แต่ในปัจจุบัน เพียงแค่ 14 เดือนหลังจากทำรัฐประหาร อดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตรฝ่ายผู้นำทหารก็ถูกกดดันโดยกระแสสังคม ให้จัดการเลือกตั้งในวันที่ 23 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งผลปรากฏว่าชัยชนะเป็นของฝ่ายที่สนับสนุนอดีตนายกฯ ทักษิณ อีกเช่นกัน
บทความของนิวส์วีค อ้างคำกล่าวของธิตินันท์ พงศ์สุทธิรักษ์ จากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งระบุว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ได้เปลี่ยนแปลงวิถีที่เคยเป็นในประเทศไทยตอนนี้กระแสทั้งในประเทศและนอกประเทศอยู่ข้างทักษิณ เนื่องจากผลงานที่ผ่านมาในสมัยเป็นรัฐบาล ที่เป็นได้ทั้งในรูปธรรม และนามธรรมมากที่สุดเท่าที่ประเทศไทยเคยมีมา
บทความของนิวส์วีคยังบรรยายต่อว่าความสำเร็จในการใช้นโยบายเศรษฐกิจ เพื่อตอบรับกระแสโลกาภิวัตน์คือปัจจัยหลักที่ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ขึ้นสู่อำนาจและเป็นเครื่องอธิบายการกลับมาของเขา
ในช่วง 5 ปี ภายใต้การบริหารของพ.ต.ท.ทักษิณ เศรษฐกิจไทยมีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว ชนบทเติบโตขึ้นและไทยเป็นเพียงประเทศเดียวในเอเชียที่สามารถลดช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวย และก้าวสู่แถวหน้าผู้นำเอเซีย
พรรคไทยรักไทยได้รับความนิยมจากการทุ่มงบประมาณด้านสาธารณูปโภค และการช่วยเหลือคนจน เช่นการจัดตั้งกองทุนหมู่บ้าน การประกันสุขภาพ และนโยบายอื่นๆ อีกมากมาย แต่ขณะเดียวกันก็ยังเปิดให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนและส่งเสริมการค้าอย่างแข็งขัน... ท้ายที่สุดก็ถูกนำมาโจมตีจากกลุ่มอันธพาลทางการเมือง
จากนั้น รัฐบาลทหารก็เข้ามาซึ่งทำให้นักลงทุนหนีหาย อีกทั้งยังชูแนวนโยบาย "เศรษฐกิจพอเพียง"ซึ่งเน้นความมีเสถียรภาพมั่นคง มากกว่าการเติบโต... ภายใต้การนำของรัฐบาลทหารเศรษฐกิจของไทยในปีที่แล้วขยายตัวเพียงแค่ 4.8% เท่านั้น โดยทำให้คนส่วนใหญ่คลั่งไคล้ เศรษฐกิจพอเพียง แบบเข้าใจผิดๆ
บทความของนิวส์วีคสรุปว่าตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่จะฟันธงว่า การเกิดขึ้นของผู้นำหน้าใหม่ที่เป็นนักปฏิบัติและมองโลกแง่ในความเป็นจริงจะเป็นการเปลี่ยนกรอบความคิดครั้งใหญ่ในเอเชีย หรือเป็นแค่แฟชั่นที่จะผ่านไปในฤดูกาลหน้า ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่า พวกเขาเหล่านั้นจะทำอะไรให้เกิดขึ้นได้จริงบ้างในทางปฏิบัติ
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น