ผลงานที่ถูกลืม - นิยาย ผลงานที่ถูกลืม : Dek-D.com - Writer
×

    ผลงานที่ถูกลืม

    นี่ไงหล่ะผลงานทำลืม 10 ตอน

    ผู้เข้าชมรวม

    336

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    336

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  15 พ.ค. 52 / 09:32 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    ผลงานอัปยศ3ปี รัฐบาลชวน หลีกภัย   
    ตอนที่ 1

    เมื่อวันที่  9 พฤศจิกายน 2540 นายชวน หลีกภัยได้นำพลพรรคเข้าสู่ทำเนียบรัฐบาลภาพพจน์ ความซื่อสัตย์ บวกกับทีมงานด้านเศรษฐกิจสังคมที่ประกอบไปด้วยบุคคลที่มีชื่อเสียง ส่งผลให้ คณะรัฐมนตรีชวน 2 เป็นความหวังในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจและแก้ปัญหาทุจริต คอรัปชั่น   จากวันนั้นจนถึงวันนี้ เป็นเวลาเกือบ 3 ปี ในยุค รัฐบาลชวน 2 ความคาดหวัง ความฝันของประชาชนที่ฝากไว้กับคณะรัฐมนตรีของนายชวน หลีกภัย กลับมิได้เป็นไปตามที่ฝันรัฐบาลดรีมทีมไม่เพียงแต่จะซ้ำเติมความเสียหายแก่ประเทศชาติด้วยการสร้าง ความหายนะทางเศรษฐกิจให้เลวร้ายยิ่งขึ้นแต่ยังปล่อยให้มีการทุจริตคอรัปชันอย่างมโหราฬในหลายๆ ระดับของรัฐ

    1.1 รัฐบาล กินป่า  การโกงกินภายใต้การบริหารงานของรัฐบาลชวน 2 ประเดิมกันด้วยเหตุการณ์ ประวัติ   ถนัดค้า รองอธิบดีกรมป่าไม้ หอบเงินสด 5 ล้านบาท ที่ได้จากการรับสินบนตัดไม้สักจากป่าสาละวินเข้าไปให้นายกรัฐมนตรีเพื่อบริจาคให้กองทุนไทยช่วยไทย เมื่อ กุมภาพันธ์ 2541 บทสรุปก็คือ ประวัติ ถนัดค้าถูกปลดจากรองอธิบดีกรมป่าไม้ แต่ไม่สามารถสืบค้นและจับกุมผู้บงการตัดไม้ป่าสาละวินที่แท้จริงได้

    กรณีผืนป่าท่าชนะ จังหวัดสุราษฏร์ธานี พบว่าป่าได้ถูกทำลายไป422 ไร่ ต้นไม้ถูกตัดโค่น 1,293 ต้นเมื่อเดือนมีนาคม 2543จนข้าราชการกรมป่าไม้ด้วยกันทนไม่ไหว พยายามนำข้อเท็จจริงของการทำลายป่าครั้งนี้ออกมาเปิดเผย เรื่องจริงร้อนถึงนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่เพิ่งรอดจากการไม่ถูกสั่งฟ้องในความผิดฐานไม่สั่งเพิกถอนสัมปทานพื้นที่ป่าสงวนป่าท่าชนะ และเปลี่ยนพื้นที่สัมปทาน โดยไม่ได้นำเสนอรับอนุมัติจากครม.ซึ่งพื้นที่เปลี่ยนแปลงเกิน 2,000ไร่ ความผิดครั้งนั้นถ้าชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี ไม่เล่นบทอีแอบให้นิพนธ์ พร้อมพันธ์ ไปวิ่งเต้น กับอัยการสูงสุดในขณะนั้นให้ออกคำสั่งไม่ฟ้องสุเทพ เทือกสุบรรณ ก็คงถูกดำเนินคดีอาญาอย่างแน่นอน

    การบุกรุกตัดไม้เมื่อเดือนมีนาคม 2543 สุเทพ เทือกสุบรรณ ถึงกับออกมาแก้ตัวว่าเป็นการพยายามนำเรื่องป่าท่าชนะมาเป็นประเด็นการเมือง เพื่อหวังให้ตนตายทางการเมือง แต่ข้อเท็จจริงแล้ว สุเทพ เทือกสุบรรณได้สั่งการลับผ่านอธิบดีกรมป่าไม้ ให้ข้าราชการผู้รู้ข้อมูลฉาวของตนมากที่สุดในกรมป่าไม้ยุติการเปิดเผยข้อมูลป่าท่าชนะเด็ดขาด

    เบื้องหลังการตัดไม้ครั้งนี้ ในทางการสืบสวนสอบสวนต้องดำเนินการหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ แต่อธิบดีกรมป่าไม้ที่ซึ่งเป็นคนของสุเทพ เทือกสุบรรณ ได้ดำเนินการเพียงแค่ยึดไม้เท่านั้น โดยไม่มีการสืบสาวหาผู้กระทำผิดใดๆ ทั้งที่รู้ว่ากลุ่มผู้ที่ลักลอบตัดไม้ครั้งนี้เป็นกลุ่มนายทุนท้องถิ่นที่มีสายสืบพันธ์ทางผลประโยชน์กับสเทพ เทือกสุบรรณอย่างลึกซึ้ง และถ้าสืบสวนไปมากกว่านี้ก็จะเป็นการนำไปสู่การรื้อฟื้นคดีป่าท่าชนะ ซึ่งจะได้ตัวผู้กระทำผิดซ้ำสองถัดจากกรณี สปก.4-01 คือ สุเทพ เทือก

    1.2 SDH ฮั้วเพื่อพรรคพวกตน  จากนั้นเดือนมิถุนายน 2541 รัฐมนตรีพรรคประชาธิปัตย์โชว์ผลงานผลาญ งบประมาณชาติ ในกรณีโครงการสื่อสัญญาณความเร็วสูงหรือ SDH มูลค่าหมื่นล้านบาทขององค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย หน่วยงานในสังกัด กระทรวงคมนาคมที่ สุเทพ เทือกสุบรรณนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการฯ เตรียมการ ฮั้วการประมูลของเอกชน 8 รายไว้ล่วงหน้าแต่บังเอิญคนในพรรค ทนความอดสูไม่ไหว ทวี ไกรคุปต์ หนึ่งในสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ จึงขุดคุ้ยก่อนจะถูกสาวไส้ต่อด้วยฝีมือพรรคฝ่ายค้าน

    ภายหลังหลักฐานต่างๆออกมายืนยันว่า สุเทพ เทือกสุบรรณ มีส่วนรู้เห็นกับขบวนการ ฮั้ว ในฐานะผู้เซ็นต์อนุมัติ ทำให้สุเทพ เทือกสุบรรณ ต้องระงับโครงการดังกล่าวไว้ชั่วคราว ไม่เพียงไม่มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบความผิดปกติที่ เกิดขึ้นในโครงการเท่านั้น แต่ปัจจุบัน SDH อยู่ระหว่างนำมา รีไซเคิลใหม่อีกครั้ง โดยเปลี่ยนชื่อจาก SDH เป็นโครงการ TNEP หรือโครงการขยายข่ายทศท. พ.ศ.2538-2541ซึ่งเป็นที่เคลือบแคลงและสงสัยว่าเป็นโครงการที่จะเก็บเกี่ยวหาเงินเข้าพรรคไว้เป็นทุนสำหรับการเลือกตั้งครั้งใหม่

    เสี้ยวนาที่สุดท้ายในวันที่ 9พฤศจิกายน 2543ก่อนที่จะนายกฯ ชวนจะประกาศยุบสภาเพียง 5 ชั่วโมงองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยในยุคที่ สุเทพ เทือกสุบรรณ รมต.คมนาคมได้เปิดไฟเขียวให้ สมบัติ อุทัยสาง ประธานคณะกรรมการ ทศท. และสุธรรม มลิลา ผอ.ทศท. ทายาท สุเทพ เทือกสุบรรณ เซ็นสัญญาพร้อมจัดหา และติดตั้งอุปกรณ์โครงการขยายโครงการข่ายสัญญาณความเร็วสูงทั่วประเทศ(SDH.ที่แปลงโฉมเป็นTNEP. นั่นเอง)มูลค่าถึง 7,500 ล้านบาท

    1.3 ผักสวนครัว รั้ว กิน ได้  กันยายน 2541 มีการขุดคุ้ยให้สาธารณนรับรู้ถึงความผิดปกติของโครงการผักสวนครัวรั้วกินได้ ซึ่งเป็นความรับผิดชอบของวิรัช รัตนเศรษฐ์ รมต.ช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จากพรรคชาติไทย ที่นำเงิน งบประมาณ 500 ล้านบาท มาจัด ซื้อเมล็ดพันธุ์พืชผักสวนครัว เช่น มะเขือเปราะ พริกขี้หนู บวบ เป็นต้น เพื่อนำไปให้ชาวบ้านปลูกไว้กินเองโครงการนี้ถูกตรวจสอบพบว่า ใช้วิธีพิเศษ ในการจัดซื้อ เมล็ดพันธุ์พืชกล่าว คือเมล็ดพันธุ์ที่จัดซื้อภายใต้วิธีพิเศษ มีราคาที่แพงกว่าเมล็ดพันธุ์พืชชนิดเดียวกันที่ขายอยู่ตามท้องตลาดอย่างต่ำ 2เท่าเป็นผลให้ต้องสูญเสียงบประมาณแผ่นดินหลายร้อยล้านบาทโดยเปล่าประโยชน์

    ในที่สุด วิรัช รัตนเศรษฐ์ ในฐานะรัฐมนตรีที่เซ็นอนุมัติโครงการต้องจำนนต่อหลักฐาน และข้อเท็จจริง แต่รัฐบาลทำได้เพียงกดดันให้วิรัช รัตนเศรษฐ์ ลาออกจากเก้าอี้รัฐมนตรีช่วย ทั้งน้ำตา และถึงวันนี้ยังไม่สารถหาผู้ทำความผิดมาลงโทษตามกฎหมาย และไม่ได้รับการเอาใจใส่ติดตามจากผู้นำรัฐบาลแม้แต่น้อย

    1.4 ทุจริตยา การหากินบนคราบน้ำตาของผู้ยากไร้  เดือนพฤศจิการยน 2541 โครงการของงบประมาณจัดซื้อยาให้กับโรงพยาบาลทั่วประเทศ วงเงิน 1,400 ล้านบาทโดยการอนุมัติ รักเกียรติ สุขธนะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขพรรคกิจสังคม ถูกเปิดโปงออกมา โดยที่ นายกรัฐมนตรีชวน หลีกภัย ผู้ซื่อสัตย์ ออกมาปกป้องอย่างออกหน้าออกตา

    ข้อมูลต่างๆ ที่ปรากฎทั้งราคาในการจัดซื้อยาเวชภัณฑ์ที่แพงกว่าปกติและผลิตภัณฑ์บางชนิดที่ไม่ได้คุณภาพมาตรฐานกดดันให้ รักเกียรติ สุขธนะต้องยอมลาออกจากเก้าอี้รัฐมนตรีไปอีกคนอย่างไม่ค่อยเต็มอกเต็มใจนัก รวมไปถึง การปลดนพ.ปรากรม วุฒิพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในขณะนั้นออกจากตำแหน่ง เพราะมีข้อมูลพัวพัน กับขบวนการจัดซื้อยาแพงตลอดจนการลงโทษข้าราชการระดับสูงในกระทรวงสาธารณสุขอีก 3-4 คนวมทั้งการขึ้นบัญชีดำรายชื่อบริษัทขายยาและเวชภัณฑ์ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ (ป.ป.ป.)

    ส่วนนักการเมืองอย่าง จิรายุ จรัสเสถียร ที่ปรึกษา ธีระวัฒน์ ศิริวันสาณฑ์ อดีตรมช. สาธารณสุขที ถูกล่าวหาว่ามีส่วนร่วมในการทุจริต เพราะมีเงิน 31 ล้านบาทมาจากการเล่นพนัน เมื่อครั้งที่ไปเที่ยวออสเตรเลีย

     

    ตอนที่ 2

    2.1 ปล่อย คนโกง ให้ลอยนวล คนในรัฐบาลชวนคดโกงงบประมาณแผ่นดินยังไม่พอ กระทั่งการเลือกตั้งก็มีเรื่องฉาวโฉ่ไม่แพ้กันซึ่งมีทุกระดับ ตั้งแต่โครงสร้างระดับบนจนถึงระดับล่างกลางปี 2542 ปฎบัติการ โกง ครั้งมโหฬารในการเลือกตั้งสมาชิกเทศบาลนคร จังหวัดสมุทรปราการถึงขั้นต้องให้มีการเลือกตั้งครั้งใหม่ สูญเสียงบประมาณไปโดยเปล่าประโยชน์เพราะผลที่ออกมาไม่สามารถหาคนโกงมาลงโทษได้ เนื่องจากนายวัฒนา อัศวเหม เป็นบิดาของหัวหน้าผู้สมัครทีมหนึ่ง ซึ่งในขณะนั้นนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้มีบุญคุณต่อพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้สามารถจัดตั้งรัฐบาลชวน 2 เป็นผลสำเร็จ บุญคุณย่อมต้องทดแทน เป็นเหตุให้ ข่าวการปฏิบัติ การโกงเลือกตั้งหายเงียบไปอีกครั้งหนึ่ง

    2.2 ยืมหลังบ้านนายกฯเป็นแหล่งค้า ซีดีเถื่อน  ตุลาคม 2542 มีการเปิดโปรงขบวนการค้าซีดีเถื่อน ซึ่งคนของรัฐบาลได้ใช้ บ้านพิษณุโลก อันเป็นบ้านพักของนายกรัฐมนตรี เป็นสถานที่เก็บซีดีเถื่อน ก่อนกระจายสู่ท้องตลาด จนขยายผลสู่การทลายแหล่งผลิตซีดีเถื่อนแหล่งใหญ่ในบริเวณท่านน้ำเมืองนนท์ ร้านที่ตรวจพบซีดีเถื่อนเป็นของส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล สังกัดกลุ่มงูเห่า และตรวจสอบพบว่าเครื่องมือผลิตซีดีเถื่อนถูกนำเข้ามาโดยผิดกฎกรมศุลกากรในกรณีซีดีเถื่อน รัฐบาลนายชวน หลีกภัยได้แสดงให้เห็นความเชี่ยวชาญในการจัดการทำให้เรื่องเงียบหายอยู่ในฐานะของรัฐบาลที่ปกป้องผู้กระทำผิดอย่างเห็นได้ชัด

    2.3 เงินกู้ไร้ที่มา 45 ล้านบาท ปฏิบัติการรุกอุทยาน เอามาสร้างเป็นบ้าน 3 หลัง  นอกจากนี้พิจารณาของคณะกรรกมการป้องกันและปราบปราม การทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณีกู้เงิน 45 ล้านบาทจากบริษัทAAS Auto service จำกัด ของพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยว่า เป็นการจงใจแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินที่เป็นเท็จ เพราะไม่มีที่มาที่ไปของเงินชัดเจน ก็สะท้อนถึงการทุจริตคอรัปชันที่กลาดเกลื่อนในรัฐบาลชวน 2 ได้อย่างแจ่มชัด ทว่าการตัดสินลงโทษไม่ได้มาจากการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ

    กรณีของพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ยังมีเรื่องคฤหาสน์ 3 หลังในพื้นที่ป่าเมืองกาญจนบุรี เหนือเขื่อนศรีนครินทร์ที่กรมป่าไม้ตรวจสอบพบว่าบุรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติเป็นการจับจองที่ดินสาธารณะโดยมิชอบที่เกี่ยวโยงกับ ประหยัด เวสสบุตร ปลัดจังหวัดกาญจนบุรี และ ดิเรก อุทัยผล อดีตผู้ว่าราชการกาญจนบุรี ซึ่งล้วนเป็นคนไกล้ชิดของพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์

    กระทั่งถึงวันนี้ก็ ยังไม่สามารถหาข้อสรุป นำผู้กระทำผิดกฎหมายมาลงโทษได้ ล่าสุดอัยการได้สั่งฟ้องผู้ต้องหา 3 คน คือ ปราจีน เวสสบุตร, จุฑามาศ เวสสบุตร ,ธวัช ศรีกรวิไล แตกต่างจากกรณีซื้อขายตำแหน่งสำนักงานรพช.ที่ถูกเปิดโปงในเดือนกันยายน 2541 เริ่มต้นจากการจับกุม น.อ.ธาตรา ธารบุญ จากนั้นขยายผลสู่การจับกุม จ.ส.ต.สุวิทย์ มลธุรัชคนขับรถของเสธ.หนั่น และ สันติ เกรียงไกรสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เพราะผลตรวจสอบพบว่ามีการอ้างชื่อ ฉวีวรรณ       ขจรประศาสน์ ภรรยา พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์เข้าไปเกี่ยวข้อง


    ตอนที่ 3

    3.1 รัฐบาลเล่นกล เบี้ยว แม้กระทั่งชาวบ้าน  กรณีม๊อบเขื่อนปากมูลและฝายราษีไศล เป็นความทุกข์ยากของประชาชนในเขตโครงการที่เดือดร้อนจาการต้องถูกอพยพและขาดรายได้จากการประมง เนื่องจากไม่ปฏิบัติตามพันธะสัญญาในโครงการต่อเนื่องซึ่งรัฐบาลเดิมเคยสัญญาไว้ รัฐบาลชุดนี้ยังปัดความรับผิดชอบและไม่ใส่ใจต่อความทุกข์ยากของประชาชนปล่อยให้ประชาชนรอคอยการแก้ปัญหามานนานถึง14 เดือน โดยไม่ยอมเจรจา ไม่ยอมพบ ส่งแค่ตัวแทนรัฐบาลที่ไม่มีอำนาจตัดสินใจมารับฟังปัญหา และท้ายสุดก็แก้ปัญหาไม่ได้

    3.2 ผลาญงบประมาณเพื่อประโยชน์พวกพ้อง  ล่าสุดการจัดสรรงบประมาณประมาณประจำปี 2544 ได้สะท้อนให้เห็นถึงการมุ่งหาผลประโยชน์ของคนในพรรคร่วมรัฐบาลโดยไม่สนใจว่า เงิน นั้นมาจากภาษีของประชาชนโดยการเร่งรีบอนุมัติผ่านงบประมาณปี2544 และฉวยโอกาสโค้งสุดท้ายของการจัดสรรงบประมาณอนุมัติโปรเจคยักษ์ซึ่งใช้เงินมหาศาลเช่นโครงการสร้างไซโล 66 แห่งทั่วประเทศภายใต้วงเงิน 10,800 ล้านบาทของ ประภัตร โพสุธน ซึ่งได้รับการอนุมัติโดยไม่ต้องพิจารณารายละเอียด

    ไม่เพียงเท่านี้รัฐบาลชุดนี้ยังแสดงให้เห็นถึงการใช้อำนาจในทางมิชอบโดย ประภัตร โพธสุธน มีคำสั่งใช้ชะลอการใช้เงินกู้เพื่อปรับโครงสร้างภาคการเกษตรจากธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) ในวงเงิน 600 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยให้เหตุผลว่าโครงการที่ดำเนินการไม่โปร่งใสหลายโครงการมีปัญหา หลังจากนั้นก็ได้ให้คณะรัฐมนตรียกเลิก มติครม.เศรษฐกิจเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2543 ที่ระบุให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศณษฐกิจและสังคมแห่งชาติตรวจสอบโครงการที่มีมูลค่าเกิน 500ล้านบาท เพื่อพิจารณาความเหมาะสมของโครงการ

    การยกเลิกมติครม. ดังกล่าวดูเหมือนเป็นการสมยอม ครม. ทั้งคณะ ที่ใช้เงินกู้เอดีบี โดยไม่คำนึงถึง ความถูกต้อง ทั้ง ๆ ที่เงิน 600 ล้านเหรียญสหรัฐเป็นเงินที่กู้มาและต้องจ่ายดอกเบี้ย แต่รัฐบาลชุดนี้กลับใช้เพื่อหวังผลทางการเมืองมากกว่าเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน

    แม้แต่ม.ร.ว.จัตุมงคลโสณกุลผู้ว่าราชการธนาคารแห่งประเทศไทย ยังไม่เห็นชอบกับพฤติกรรมของรัฐบาล โดยได้ออกมาพูดว่า รัฐบาลไม่จำเป็นต้องรีบผ่านงบประมาณเพราะถึงแม้ว่างบประมาณปี 2544 จะล่าออกไป แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เพราะหากผ่านไม่ทัน ก็สามารถใช้งบปีที่แล้วก่อนได้อยู่แล้ว จนกว่างบใหม่จะเสร็จ ซึ่งปฏิบัติเช่นนี้กันมาโดยตลอด การพูดของผู้ว่าธนาคารชาติเป็นการตอกย้ำถึงความไม่พอไม่ชอบมาพากลในกลไกการจัดสรรงบครั้งนี้อย่างชัดเจน

    ระยะเกือบ3ปี ภายใต้การบริการของรัฐบาลชวน2จึงนับเป็นยุดของ ขบวนการโกงกินบ้านเมือง ที่มีฐานเงิน อำนาจ และความชอบธรรมอยู่ในมือในการกระทำทุจริตฉ้อฉลหลากหลายรูปแบบ โดยไม่ได้คำนึงถึงผลเสียหายต่อส่วนรวม

     

    ตอนที่ 4

    4.1 ครม. ชวนดื่มกินงบผูกพัน 6.5 หมื่นล้านบาท จนหยดสุดท้าย  หลังจากนายชวน หลีกภัย ประกาศยุบสภาไปเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2543 ขบวนการผลาญงบก็ยังไม่ลดละ ครม.ชุดของนายชวน ที่เป็นครม.รักษาการ ได้มีมติอนุมัติงบประมาณผูกพัน เป็นจำนวนเงินสูงถึง 64,653.1 ล้านบาท ไปเมื่อวันที่ 21 พฤศจิการยน 2543 ที่ผ่านมานี้ มีรายการใหญ่ๆที่ครม. อนุมัติคือ

    4.1.1 รายการค่าก่อสร้างและปรับปรุงระบบคมนาคม ของกระทรวงคมนาคมด้วยวงเงินสูงถึง 33,051.3 ล้านบาท หรือ 51.1 เปอร์เซ็น ของวงเงินของผูกพันทั้งหมด นาย สุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นรมต. คมนาคม

    4.1.2 รายการขออนุมัติงบผูกพันข้ามปีงบประมาณ

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น