{Fate stay night}
{Fate stay night} คับผม
ผู้เข้าชมรวม
200
ผู้เข้าชมเดือนนี้
4
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
After...
โลก
กำลังถูกย้อมด้วยสีแดงก่ำ
ที่โรงเรียน
ซึ่งบรรดานักเรียนมากกว่าครึ่งพากันแยกย้ายกลับกันไปแล้ว
ในห้องเรียนห้องหนึ่ง
บนโต๊ะตัวหนึ่ง
มีกระเป๋านักเรียนใบหนึ่งวางอยู่
โต๊ะตัวนั้นคือโต๊ะของเอมิยะ ชิโร่
ในตอนนี้ที่อยู่ภายในใจของเขาก็คือเธอคนนั้น
เธอคนที่แน่วแน่ เคร่งครัด หัวแข็ง และก็ขี้อาย
ถึงจะมีพลังแฝงอยู่ในร่างกายอย่างเหลือล้นจนสามารถต่อสู้เอาชนะในศึกชิงจอกศักดิ์สิทธิ์มาได้
แต่กับในบางเรื่องกลับไม่ประสีประสาเอาเสียเลย
เซเบอร์
เธอเป็นดั่งชั่วนิจนิรันดร์
เป็นความรวดร้าวอันงดงามที่ไม่ว่าเมื่อใดก็จะยังคงอยู่ภายในใจของเขา
ซึ่งนั่นจะก่อเกิดเป็นสีสรรพ์และเคลือบย้อมฟากฟ้า
ฟากฟ้าที่เขาเฝ้ามองอยู่เสมอ
ฟ้าที่เต็มไปด้วยเหล่าดาวอันสุกสกาว
การพบพานที่เรียกได้ว่าเป็นพรหมลิขิต
และภาพลักษณ์ของหัวใจที่แนบชิดกัน
เมื่อยามที่แสงอรุณฉายพ้นเส้นขอบฟ้า
บอกให้รู้ถึงรัตติกาลที่กำลังจะผ่านพ้น
ในใจของเขาก็รู้ว่านั่นคือช่วงเวลาแห่งการลาจาก
เพราะอย่างนั้นการที่เขาจะสื่อความรู้สึกไปให้ถึงได้
จึงต้องขึ้นไปใกล้ท้องฟ้าให้ได้มากที่สุด
แม้เพียงนิดเดียวก็ยังดี
และสถานที่เช่นนั้น-------
เมื่อเปิดประตูที่ชั้นดาดฟ้าออก
แสงสีแดงก่ำก็ส่องแยงตาเข้ามา
และที่ตรงนั้นก็มีเขาอยู่
ชิโร่ยืนอยู่ที่นั่น
ที่เขาทำมีเพียงแค่ยืนและเงยหน้ามองขึ้นไป
แต่ภาพที่ปรากฏนั่นก็ช่างดูเลือนลาง
ราวกับว่าเขากำลังจะละลายหายไป
พร้อมๆกับแสงอัสดง
ไม่ได้นะ อย่าพาเขาไป-----
ภาพที่เห็นทำให้ใจเหมือนกับถูกบีบคั้น จนเผลอส่งเสียงเรียกออกไปโดยไม่ได้ตั้งใจ
"อากาศเริ่มจะเย็นลงแล้วนะ จะกลับกันรึยังล่ะ?"
"อ๊ะ อ้าว โทซากะ นี่เอากระเป๋ามาให้ด้วยหรือเนี่ย"
เขาหันมาพูดพร้อมกับยิ้มให้
ไม่รู้ว่าเพราะแสงที่ย้อนมานั่นหรือว่าใบหน้ายิ้มๆที่แฝงไว้ด้วยความเศร้าของเขากันแน่ ที่ทำให้ตาของเราพร่าเลือน
"วันนี้ข้าวเย็นจะเอายังไงล่ะ? จะมาทานที่บ้านฉันก่อนมั้ย?"
"อืม เอาอย่างนั้นดีมั้ยน้า"
"งั้นเดี๋ยวแวะซื้อของที่ย่านการค้าก่อนกลับละกัน"
"ถ้าอย่างนั้นชั้นจะเป็นคนเลือกของ ส่วนชิโร่ก็ถือนะ"
"ได้เลย"
เสียงฝีเท้าของเราทั้งคู่ดังก้องอยู่ภายในตัวอาคารเรียน
ชิโร่เดินอยู่ข้างหน้าเรา
-----ไม่ใช่สิ
เราต่างหาก ที่เดินอยู่ข้างหลังชิโร่
หลังจากที่จบศึกชิงจอกศักดิ์สิทธิ์มา เราก็ทำแบบนี้มาตลอด
จะไม่เดินนำหน้า หรือเดินเคียงข้างเด็ดขาด
แม้แต่ในตอนที่เราจะเป็นฝ่ายชวนออกมาเองก็ตาม
นั่นก็เพราะว่าข้างกายของเขานั้น
จวบจนบัดนี้ก็ยังคงมีภาพเงาของหญิงสาวผู้งดงามตราตรึงอยู่
คนที่ยังยึดติดอยู่กับภาพนั้นอาจจะเป็นฝ่ายเราเองรึเปล่านะ
ส่วนชิโร่พอหันกลับมาเห็นก็ทำหน้าเหรอหรา
และรีบชะลอฝีเท้าลง เพื่อรอให้ตามมาทัน
จากนั้นก็ออกเดินต่อ
แต่เราก็ยังเดินอยู่ข้างหลังของเขา
เป็นแบบนี้ซ้ำไปซ้ำมา
จนสุดท้ายก็ไม่วายต้องมีปากมีเสียงกัน
บางทีก็จากชิโร่
บางทีก็จากเรา
และในวันนี้
ก็นึกว่าจะเป็นเหมือนอย่างทุกที
"เข้ามาสิ โทซากะ"
"รบกวนหน่อยนะคะ"
พอเข้าไปตามคำเชิญ ก็เห็นว่าตรงประตูทางเข้ามีรองเท้าวางเรียงอยู่3คู่
"กลับมาแล้วเหรอ---" อาจารย์ฟุจิมุระยื่นหน้าออกมาทักทายจากห้องรับแขก
"กลับมาแล้วเหรอคะ" ตามมาด้ายซากุระ
"กลับมาแล้วเหรอชิโร่---!!" อิริยากล่าวทักทายอย่างร่าเริงพร้อมกับวิ่งแท็คเกิลใส่ชิโร่อย่างทุกที
"แล้วก็หวัดดีริน กลับมาแล้วเหรอ"
นี่เห็นเราเป็นของแถมรึไง
โต๊ะทานข้าวตัวเล็กๆกับจำนวนคนมากขนาดนี้ ทำให้เวลานั่งต้องนั่งแบบที่เรียกกันว่าเข่าชนเข่ากันเลย แต่เราก็ไม่ได้เกลียดแบบนี้นักหรอก
ถึงชิโร่จะเคยมีพูดขึ้นว่าจะซื้อมาเปลี่ยนใหม่ดีไหม แต่พอเราคัดค้านก็ปล่อยเอาไว้ตามเดิม
ว่ากันตามตรง
เราอาจจะอ่อนแอลงแล้วก็เป็นได้
ในบ้านอันโอ่โถง
บนโต๊ะอันหรูหรา
และอาหารส่วนของเราคนเดียวที่วางอยู่บนนั้น
ไม่มีทั้งคนที่จะบอกขอเติมข้าวด้วยได้
ไม่มีทั้งคนที่จะชมว่าจานนี้อร่อยจัง
ไม่ว่าจะผ่านการปรุงแต่งมาอย่างดีแค่ไหน
มันก็เป็นแค่อาหารเย็นชืดที่มีอุณหภูมิสูงเท่านั้น
แต่ที่นี่ทุกๆอย่างล้วนแล้วแต่อบอุ่น
ซึ่งผู้ที่ให้สิ่งนี้แก่เราก็คือชิโร่
และทุกๆคน
บ้านเอมิยะ
ที่ที่มีซากุระ อาจารย์ฟุจิมุระ อิริยา ชิโร่
และเป็นที่ที่เซเบอร์เคยอยู่
ความอบอุ่นที่ได้สัมผัสนั้น
มันช่างหอมหวาน
และโหดร้าย
แม้ทุกอย่างจะจบลงไปแล้ว
แต่บางสิ่งก็ยังดูคลุมเครือ
ทว่าในขณะเดียวกัน
มันก็ได้นำมาซึ่งความสบายใจด้วย
"ริน? มัวเหม่ออะไรของเธออยู่น่ะ"
อิริยากระซิบเรียกเราที่นั่งเท้าแขนอยู่บนโต๊ะคิดอะไรต่อมิอะไร ชิโร่ไปเปลี่ยนเสื้อ ซากุระไปเตรียมน้ำชาในครัว ส่วนอาจารย์ฟุจิมุระนั่งจ้องโทรทัศน์ชนิดไม่วางตา
"อืม...ก็ไม่มีอะไรนี่ แค่คิดว่า...เธอทักชั้นว่ากลับมาแล้วเหรออยู่ทุกทีเลยน้า...อะไรทำนองนี้ล่ะ"
"อ๋อ ชั้นก็แค่อยากพูดแบบนั้นก็เลยพูดออกไปเท่านั้นนั่นแหละ ไม่มีอะไรมากหรอก"
"งั้นเหรอ"
"งั้นสิ"
อิริยานี่ไม่แน่ว่าบางทีอาจจะเป็นเด็กดีกว่าที่คิดล่ะมั้งนี่
อย่างน้อยๆก็ว่านอนสอนง่ายกว่าเราเยอะ
แถมเผลอๆจะมีความคิดความอ่านดีกว่าผู้ใหญ่บางคนแถวนี้ซะอีก
"ขอบใจนะ อิริยา"
"จะ จู่ๆพูดอะไรของเธอน่ะ"
"ก็แค่อยากพูดขอบคุณก็เลยลองพูดออกไปดูเท่านั้นเอง"
"ฮึ่มม เชอะ ถ้างั้นไม่คิดจะลองทำตัวว่าง่ายๆต่อหน้าชิโร่เค้าดูบ้างล่ะ?"
-----ใช่ ถูกต้องเลยล่ะอิริยา
แต่ว่านะ
ถ้าทำแบบนั้นแล้ว
ที่ปลายทางนั้นจะมีที่สำหรับเราอยู่รึเปล่านะ?
เพราะว่าที่ตรงนั้นน่ะ
มีตัวตนที่ชั้นไม่มีทางเอาชนะได้เลยอยู่เชียวนะ อิริยา
"...ริน ที่เธอคิดจะประชันกับเซเบอร์น่ะมันก็ผิดมาตั้งแต่ต้นแล้วล่ะ ตัวชั้นก็มีเรื่องที่มีแค่ชั้นที่ทำได้อยู่ รินเองก็มีเหมือนกันไม่ใช่เหรอ? เพราะพวกเราอยู่ในที่ที่สามารถเอื้อมถึงและสัมผัสชิโร่ได้นี่นา" อิริยากล่าวขึ้นราวกับจะอ่านความคิดของเราเมื่อครู่ออก
แต่ว่า-----
ขณะที่เรากำลังคิดที่จะพูดออกไป
อิริยาก็ชิงพูดต่อซะก่อน
"ความทรงจำยังไงซะมันก็เป็นได้แค่ความทรงจำ ความฝันพอเราตื่นขึ้นมามันก็ควรที่จะจบ แต่ถ้ายังยังมีใครที่ยังละเมอต่ออยู่อีกล่ะก็ มันก็ต้องมีใครซักคนจัดการตบหน้าปลุกให้ตื่นสิ จริงมั้ย?"
พูดจบอิริยาก็ยิ้มแป้นให้กับเรา
"แต่เรื่องตบให้ตื่นนี่ชั้นคงไม่ไหวเพราะสูงไม่พอ ดังนั้นก็จะยกหน้าที่นี้ให้รินก็แล้วกัน"
หวา สุดยอดเลยแฮะเด็กคนนี้ ยอมเค้าเลย
พอเราทำสีหน้าประมาณนี้ออกไปให้เห็น
คุณพี่สาวร่างเล็กก็แอ่นอกอย่างภาคภูมิใจ
"ฮึ สำนึกบุญคุณด้วยล่ะ"
"จ้า พูดอีกทีก็ได้เอ้า ขอบใจนะ อิริยา"
พอพูดจบก็เผลอคว้าตัวเข้ามากอด
ถึงร่างกายนี้จะเล็ก
แต่ภายในนั้น
จะต้องมีจิตใจที่เป็นผู้ใหญ่กว่าเราหลายเท่าอยู่แน่ๆ
ขอฟันธงเลย
"ปะ เปล่าพูดเพื่อรินซะหน่อย ที่พูดนี่เพื่อชิโร่เค้าตะหาก"
ถึงอย่างนั้นก็ยังอยากจะบอกขอบคุณอยู่ดี
แถมบุญคุณคราวนี้ท่าทางจะมากซะจนไม่มีทีท่าว่าจะใช้คืนได้หมด
เพราะอย่างนั้นอย่างน้อยๆ
ก็ขอให้กอดหน่อยเถอะน่า
นะ...
"วันนี้เห็นว่ารุ่นพี่โทซากะจะมาทำให้สินะ...คะ เอ๋? ทำอะไรกันคะนั่น?"
ตาย โดนซากุระเห็นเข้าจนได้
แถมยังโดนอาจารย์ฟุจิมุระที่หันมาตามเสียงของซากุระเห็นเข้าด้วยอีกคน
เอาเถอะ ไม่โดนชิโร่เห็นเข้าอีกคนก็บุญแล้วมั้ง
"เอ่อ คือแบบว่า..."
"...ก็ ประมาณว่าไม่เป็นไรแล้วนั่นแหละ ทั้งสองคน"
อิริยาพูดพร้อมกับตบหลังเราเบาๆก่อนจะแยกตัวออก
ซากุระที่ยังคงไม่เข้าใจกับคำพูดที่คลุมเครือของอิริยาก็ได้แต่เอียงคอและทำหน้างงๆ
ส่วนทางด้านอาจารย์ฟุจิมุระที่สายตากลับไปทางโทรทัศน์แล้ว-----
"งั้นเหรอ ไม่เป็นไรแล้วสินะ" ก็พึมพำออกมาด้วยน้ำเสียงที่แค่ฟังก็รู้แล้วว่ากำลังอมยิ้มอยู่ ไม่ได้ฟังทั้งหมดซักหน่อยทำมาพูดเหมือนรู้ดี
"ใช่ เพราะอย่างนั้นฝากจัดการเรื่องมื้อเย็นด้วยนะริน ...แต่ต้องเอาไว้หลังจากไปล้างหน้าซะก่อนนะ"
เอ๊ะ? อ้าว? หวาๆๆๆๆ ทำไมเราถึง-----กำลังร้องไห้อยู่ล่ะเนี่ย
ซากุระที่ยังคงทำหน้าเหรอหราเพราะไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไรเหมือนกับจะส่งเสียงเรียกเราหรือพูดอะไรซักอย่างนี่แหละ แต่เราก็รีบสปีดไปที่ห้องน้ำอย่างรวดเร็วเลยไม่ได้ฟัง แถมระหว่างทางยังเกิดสวนทางกับชิโร่เข้าอีก สีหน้าของชิโร่ตอนนั้นดูเหมือนจะตกใจเอามากๆ แต่ก็ช่างมันไว้ก่อนล่ะ ตอนนี้
พอมาดูหน้าตาของตัวเองในกระจก ก็เห็นว่าหน้าตาเลอะเทอะด้วยคราบน้ำตาเต็มไปหมดชนิดที่ว่าดูไม่ได้เอาซะเลยทีเดียว
Fate / After night
ผลงานอื่นๆ ของ {SaBeR} ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ {SaBeR}
ความคิดเห็น