Himavarns' Spirits - นิยาย Himavarns' Spirits : Dek-D.com - Writer
×

    Himavarns' Spirits

    แนวๆฮีโร่น่ะขอรับ ว่าจะเขียนเรื่องย่อ ตัวอักษรเยอะเกิน เลยกะว่า ให้ผู้อ่านอ่านเอาเองดีกว่า ช่วยติดตามด้วยขอรับ

    ผู้เข้าชมรวม

    111

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    111

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  1 ก.ย. 66 / 17:57 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    องก์ที่๑ปฐมบท
    ปืนกระบอกนั้นสีดำ...
    กระสุนที่ถูกพ่นออกมาทางปากอสูรกระบอกดำโดยการเหนี่ยวไกของเพชฌฆาต กำลังจะมาปลิดชีพ เทพพิทักษ์ หรือ แมน ณ ลานจอดรถในอาคารแห่งหนึ่ง
    เหตุผลนั้น แมนไม่รู้หรอก ทำไมเขาต้องอยู่ที่นี่ตอนนี้ มือปืนคนนั้นเป็นใคร เขาไม่รู้อะไรสักนิด
    กระสุนนั้นพุ่งเข้ามาด้วยความเร็วเกินกว่ามนุษย์ธรรมดาจะหลบได้
    แมนซึ่งเป็นมนุษย์ธรรมดา ด้วยสัญชาติญาณ จึงเอามือปัดป้อง ส่งเสียงร้องดังลั่น
    ...
     
    แมนสะดุ้งตื่น
    ไม่มีปืน ไม่มีมือปืน ไม่มีลานจอดรถ ไม่มีอะไรทั้งสิ้น
    มีเพียงตัวเขา และห้องพักออกจะรกสักนิดเดือนละ 3,500 บาทอันแสนรักของเขา
    เขาพักอยู่ที่หอพักแห่งหนึ่งที่ย่านดินแดง ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยที่เขาเรียนมากนัก
    วันนี้วันพฤหัสบดี เขามีเรียนช่วงบ่าย
    10.35 น. นาฬิกาปลุกเรือนเล็กบนหัวนอนบอกเวลาอย่างนั้น
    ออกจากห้อง ลงไปยังชั้นล่างสุด เพื่อหาอะไรสักอย่างกินจากร้าน และจะมากดเงินจากตู้เอทีเอ็มที่แม่เขาจะโอนมาให้
    ความจริงเขาเป็นเด็กต่างจังหวัด เกิดที่อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี      บ้านเขาพอมีฐานะบ้าง แม้จะเป็นอย่างนั้น เขาก็พยายามเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยรัฐฯ แต่โชคร้ายที่คะแนนเขาไม่ถึง จนต้องไปเรียนที่มหาวิทยาลัยเอกชน
    ข้าวหมูแดง อาหารจานโปรดยามที่เซ็งและไม่รู้จะกินอะไรดี ราคา 30 บาท ไม่ถูกไม่แพง รสชาติใช้ได้ ลูกสาวเจ้าของร้านน่ารักดี
    กินเสร็จ เดินไปตู้เอทีเอ็มข้าง 7-11 กดเงินออกมา 9,000 บาท มากโขอยู่
    กลับขึ้นห้อง เล่นเกมสักพัก อาบน้ำ แต่งตัว เตรียมไปมหาวิทาลัย
    นั่งรถมอเตอร์ไซค์ไปแค่ 10 นาที ก็ถึงมหาวิทยาลัยที่เขาเรียนอยู่ เขาตรงไปยังตึกที่เขากำลังจะไปเรียน เด็กศิลปกรรมอย่างเขามักจะมองทุกอย่างเป็นศิลปะเสมอ การใช้ชีวิตอย่างเนิบช้า ก็เป็นศิลปะอย่างหนึ่ง
    แต่วันนี้ต้องรีบไป เพราะนัดเพื่อนทำโปรเจคท์ ส่ง 4 โมงเย็น วันนี้!!!
    อ้าว ไอ้แมน มาช้าจังวะ วันนี้จะส่งโปรเจคท์ จารย์อยู่รอมร่อแล้ว เอ็งเพิ่งจะมาเนอะ
    เออ ไอ้ห่า แม่งนัด 10โมงครึ่ง เสือกมาซะเกือบเที่ยง งานจะเสร็จมั้ย
    สองเสียงนั่นเป็นเสียงของแบงค์ กับ โน้ต เพื่อนสนิทที่เข้าขากันดียิ่งกว่า ตอร์เรส กับ บีญ่า เสียอีก
    อย่าไปว่าแมนเค้าจิ แมนเค้าอุตส่าห์มาแล้วนะ กุ๊ก พูดปกป้องแมน แฟนหนุ่มสุดชีวิต
    เออ เอ็งแฟนกันหนิ ปกป้องกันดีจังนะคับเอ็ง แบงค์ประชด
    เอาน่า เอ็งสองตัวจะพูดให้มันได้หอกไรขึ้นมาล่ะเนี่ย ทำงานซะทีสิวะเฮ้ย แมนรำคาญเลยด่ากลับ แล้วทั้งสี่ก็ลงมือทำงาน
    17.55 น. นาฬิกาของกุ๊กบอกอย่างนั้น
    เรียนเสร็จแล้ว โปรเจคท์ก็เสร็จ-ส่งเรียบร้อย แมนกับกุ๊กไปเดินเที่ยวห้างด้วยกัน
    กุ๊กดูของไปเรื่อยเปื่อย ร้านนู้นก็ชอบ ร้านนี้ก็อยากได้ แต่ไม่มีเงินซื้อ เลยได้แค่ดู
    เดินเสร็จ ทั้งสองก็ไปกินข้าวที่ร้านอาหารจานด่วนแห่งหนึ่ง พนักงานน่ารักดี แต่กุ๊กน่ารักที่สุด
    กินเสร็จ ออกจากร้าน ไปที่โรงหนัง
    เข้าไปในโรง เรื่องตั๋ว เขาจองไว้ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว
    หนังไม่สนุกเลย เรื่องของผีบนถนนสายเปลี่ยวตามอาฆาตคนที่ฆ่าเธอ เขาเฉยๆกับหนังอย่างนี้ เลยไม่คิดว่าจะสนุกอะไร แต่กุ๊กชอบ เลยต้องดูด้วย
    สี่ทุ่มครึ่ง ออกจากโรงหนัง
    ไปที่ลานจอดรถบนชั้น 3 ของห้างฯ มอเตอร์ไซค์ของแมนจอดไว้ที่นั่น ข้างๆรถยนต์คันหรูดูมีราคาซึ่งเจ้าของที่อาจมีเงิน เดือนพอจะซื้อรถคันนี้ได้ประมาณเดือนละคันกำลังจะขึ้นรถ
    เดี๋ยวแมนไปส่งกุ๊กนะ หิวอีกรึป่าว
    อื้อ กุ๊กไม่หิวแล้วหล่ะ แมนหิวก็ไปกินสิ เดี๋ยวเค้ารอ
    ไม่เป็นไรคับ แมนไม่หิวหรอก ขึ้นรถสิ แมนจะได้ไปส่ง
    จ้ะ สิ้นเสียงแฟนสาว เสียงปืนกระบอกหนึ่งดังขึ้น ร่างเจ้าของรถคันสีดำที่จอดอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากที่ๆทั้งสองยืนอยู่ล้มลง มือปืนยิงเขาในระยะประชิด
    กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด กุ๊กกรีดร้อง แมนอยากรีบพาแฟนสาวไปเข้าห้างก่อน แต่คงจะไม่ทัน
    มือปืนหันปืนมาทางเขา เขาพยายามร้องขอชีวิต
    กุ๊ก กลัว สับสน ไม่รู้จะทำอย่างไรดี ร้องไห้ พยายามร้องขอชีวิตเช่นกัน
    พวกมึงคงไม่เห็นสินะว่ากูทำอะไรลงไปเมื่อกี้น่ะ
    ม....ไม่เห็นครับ ไม่เห็นๆ
    แล้วมึงล่ะ!!! เห็นรึเปล่า!!!
    ไม่เห็นๆๆๆค่ะพี่
    เออ แล้วไป....ถ้าไม่เห็นกูก็ไม่ว่าอะไรแต่
    เหลือบไปเห็นหน้าตาและรูปร่างของกุ๊ก พลันมือปืนเอื้อมมือมาจับแขนของกุ๊ก
    กูจะไว้ชีวิตพวกมึงนะ แต่กูจะเอาอีสวยนี่ไปด้วย มือของชายชุดดำปิดปากกุ๊กไว้ จะตะโกนเท่าไรก็คงไม่มีใครได้ยิน
    ย...อย่านะพี่ อย่าเอาแฟนผมไปนะ
    อ้อ นี่แฟนมึงเรอะ โชคดีนี่หว่ามึงน่ะ งั้นก็แบ่งให้กูใช้บ้างแล้วกันนะ...โอ๊ย!!! กุ๊กกัดข้อมือชายชุดดำจนมันร้องลั่น
    ฤทธิ์มากนักนะอีนี่!!! สิ้นคำก็ชกท้องจนกุ๊กสลบ เหวี่ยงไปอีกทาง
    ส่วนมึงก็เรื่องมากนัก ตายซะเถอะมึง!!! ชายชุดดำหันปืนกระบอกนั้นมาทางแมน
     
    ปืนกระบอกนั้นสีดำ
    กระสุนที่ถูกพ่นออกมาทางปากอสูรกระบอกดำโดยการเหนี่ยวไกของเพชฌฆาต กำลังจะมาปลิดชีพ เทพพิทักษ์ หรือ แมน ณ ลานจอดรถในอาคารแห่งหนึ่ง
    เหตุผลนั้น แมนไม่รู้หรอก ทำไมเขาต้องอยู่ที่นี่ตอนนี้ มือปืนคนนั้นเป็นใคร เขาไม่รู้อะไรสักนิด
    กระสุนนั้นพุ่งเข้ามาด้วยความเร็วเกินกว่ามนุษย์ธรรมดาจะหลบได้
    แมนซึ่งเป็นมนุษย์ธรรมดา ด้วยสัญชาติญาณ จึงเอามือปัดป้อง ส่งเสียงร้องดังลั่น
    ....
                ...
    แมนตื่นมาอีกครั้ง
    ที่นี่ไม่ใช่ห้องของเขา มันเป็นห้องสีขาวที่มีแสงไฟสว่าง
    พยายามขยับตัวเพื่อลุกขึ้นมา แม้ทำไม่ได้ก็ตาม สิ่งที่เขาเป็นห่วงมากที่สุดตอนนี้คือกุ๊ก
    คุณเทพพิทักษ์ เป็นยังไงบ้างครับ...
    ค...คุณคือ... แม้จะพยายามเพียงใด เสียงที่เปล่งออกมาก็แผ่วเบาเกินไป สายตาของเขาเห็นเพียงร่างเงาของมนุษย์ผู้หนึ่ง
    ไม่ต้องห่วง ผมไม่ทำร้ายคุณ เราช่วยคุณไว้ ตอนนี้คุณอยู่ที่โรงพยาบาล วางใจได้ มือปืนนั่นก็ถูกจับไปแล้ว
    อ...เอ่อ....
    ส่วนเรื่องแฟนคุณไม่ต้องห่วง เธอไม่เป็นไรแล้วหล่ะ
    เขาจะเชื่อ หรือไม่เชื่อคำพูดชายคนนี้ดี แล้วทีสำคัญ ชายคนนี้เป็นใครกันแน่
    ผมอยากให้คุณรับอุปกรณ์นี้จากเราไปนะ ชายคนนั้นวางกล่องใบหนึ่งไว้บนหัวเตียง
    จงใช้มันให้เป็นประโยชน์ที่สุด ขอย้ำว่า ให้เป็นประโยชน์ที่สุด มีปัญหาอะไรให้ติดต่อผมตามที่ผมให้เบอร์ไว้ 
    อึก...ค...คุณ...
    ผมไปก่อนนะ คุณเทพพิทักษ์ มีอะไรค่อยคุยกันก็แล้วกัน
    ชายคนนั้นเดินออกไปจากห้องอย่างเงียบเชียบ เขาก็กำลังจะหลับไปอย่างเงียบเชียบเช่นกัน
    ...
     
    รู้สึกตัวอีกที เขายังอยู่ที่เดิม
    ตอนนี้สายตาเขาเป็นปกติแล้ว พยายามมองไปยังสิ่งต่างๆ รอบห้อง
    เจอเพื่อนๆ ทั้งแบงค์ โน้ต และเพื่อนสนิทคนสำคัญ กุ๊ก
    เฮ้ย ไอ้แมนมันตื่นแล้วว่ะ แบงค์ กุ๊ก มาเร็วๆ
    เสียงโน้ตตะโกนโหวกเหวกด้วยอารมณ์ดีใจ มันไม่เคยดีใจอะไรด้วยเสียงอันดังอย่างนี้มาก่อน
    ไอ้แมน เอ็งตื่นแล้วหรอวะ ดีว่ะๆ ข้าเอาของฝากมาให้เอ็งด้วยนะเว้ย
    แบงค์ที่ภายนอกดูเกเรแต่ภายในเป็นคนรักเพื่อนที่สุดคนนี้ ชอบช่วยเหลือเพื่อนๆยามลำบากประจำ
    แมนจ๋าฟื้นแล้วๆ เป็นอะไรมั่งรึป่าวอ่ะแมน
    แมนไม่เป็นไรแล้วหล่ะ กุ๊กล่ะ เป็นอะไรรึป่าว
    ไม่จ้า เค้าไม่เป็นไรเลย
    โธ่ ไอ้ห่า เพื่อนอุตส่าห์เป็นห่วง ชื้อของมาให้ พอหญิงทักเสือกหันไปคุยกะหญิงก่อน
    ไรวะ เรื่องของกู กูจะคุยกับแฟนกูก่อนอ่ะ มีปัญหาป่ะ
    อ้าว ไอ้ห่านี่ ยังไม่ทันลุกได้ปากก็เสียแล้วนะเอ็ง ระวังเดี๋ยวเอ็งจะเสียชีวิตตามปากนะคับ
    ทั้งสี่หัวเราะ พลันแมนก็นึกอะไรได้
    กุ๊ก แล้วกุ๊กรู้รึป่าวว่าใครช่วยพวกเราไว้อ่ะ
    อืม...เค้าไม่รู้หรอก แต่เห็นหมอบอกว่ามีคนกลุ่มนึงเค้ามาช่วยพวกเราไว้อ่ะ แล้วพวกเค้าก็จ่ายค่ารักษา พยาบาลแล้วก็ค่าห้องเดี่ยวให้แมนด้วยนะ เค้าก็สงสัยอยู่ว่าเป็นพวกอาจารย์รึป่าว ว่าแต่แมนมีอะไรรึป่าวจ๊ะ
    ป...ป่าวคับแมนพยายามยันกายขึ้นนั่ง พลันไปเห็นอะไรบางอย่าง ลักษณะเป็นกล่องใบเล็ก มีกระดาษลักษณะคล้ายนามบัตรแนบไว้ด้วย
    แมนสงสัย แต่ได้เพียงนิ่งเงียบ
    แมนจ๋า เป็นอะไรรึป่าว
    ป...ป่าวคับ ไม่มีอะไร
    อยู่คุยกันนานพอสมควร ทั้งสามก็แยกย้ายกันกลับ
    ตอนนี้เขาสงสัยทุกอย่าง ทำไม พวกนั้น ที่กุ๊กพูดถึงต้องช่วยเขากับกุ๊กไว้...
    ...แล้วกล่องนั่น มันคืออะไร...
    แมนลังเลว่าจะโทรไปตามเบอร์โทรศัพท์ในนามบัตรนั้นดีรึไม่
    ถ้ามันเป็นพวกต้มตุ๋น แล้วมันจะทำทำไม...
    ตัดสินใจ หยิบโทรศัพท์ กดเบอร์ในนามบัตรที่แนบมากับกล่องใบนั้น
    โทรออก รอสัญญาณ...
    ...
    ...
     สวัสดีครับ คุณเทพพิทักษ์
    เอ่อ สวัสดีครับ คุณคือ....
    อ้อ ผมลืมแนะนำตัวไปวันนั้นสินะครับ ผมชื่ออนันต์ครับ เป็นเจ้าของบริษัท มิสติค วู้ดส์ จำกัด มหาชน
    ...
    คงจะยังงงว่ามันเกิดอะไรขึ้นสินะครับ
    ใช่ครับ งงที่สุดเลย
    อืม มันอาจจะเกินรับสักนิดนึงนะครับ คือว่า เราน่ะ เป็นบริษัทที่เพิ่งจะตั้งขึ้นใหม่ ซึ่งเรากำลังจะทำอุปกรณ์ชนิดหนึ่ง และเนื่องจากเราเพิ่งจะตั้ง เราจึงต้องการกลุ่มเป้าหมายทดลองมาทดลองใช้อุปกรณ์ของเรา
    อืมครับ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเรื่องของผมล่ะ
    ฟังก่อนครับ แต่บังเอิญ วันนั้นผมกับผู้ติดตามไปเดินเที่ยวห้างฯเดียวกับคุณ แล้วอยู่ในลานจอดรถบริเวณเดียวกับคุณพอดิบพอดี เราจึงเข้าช่วยคุณ
    อ้อ แล้วก็แลกกับการที่ผมต้องเป็นผู้ทดลองใช้อุปกรณ์อะไรนั่นของคุณสินะ
    ไม่ผิดครับ แต่คุณควรลองใช้ดูสักนิด มันคือสิ่งที่ดีที่สุดที่เราควรจะมอบให้กัน
    แมนคุยต่อ ...แล้วมันคืออะไรล่ะคุณ
    เป็นอุปกรณ์ที่ผู้ใช้สามารถสวมใส่วิญญาณของสัตว์หิมพานต์ที่เราเข้าไปวิจัยในป่า....
    แมนวางสายไปแล้ว บ้าไปแล้วว่ะ แมนคิด
    เหลือบไปมองกล่องที่ชายคนนั้นให้ เปิดดีมั้ยนะ
    ตัดสินใจ ลองเปิดออกดู
    ข้างใน เป็นของที่มีลักษณะคล้ายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน
    อะไรหว่า แมนคิด เอ็มพี 3 เอ็มพี 4 ก็ไม่ใช่ เครื่องเล่นเกมของซักบริษัท ก็คงไม่ใช่รูปร่างอย่างนี้ ดูเหลี่ยมๆ แต่จับถนัดมือดี มีลายสิงโตด้วย สวยดีแฮะ...
    ช่างมัน นอนก่อนดีกว่า ดึกแล้ว
    ปิดไฟ ปิดตา ล้มตัว นอนหลับ
    ฝันร้ายคืนนั้น มันคงจะไม่เกิดขึ้นอีก เหตุการณ์ร้ายก็คงจะไม่เกิดขึ้นอีกแล้ว...
    ...
     
    อนันต์โทรหาเลขาคนสวยของเขา
    คุณพิชารัตน์ ตอนนี้ผมติดประชุมอยู่ ช่วยติดต่อบอสของเราให้ที...
    ค่ะ คุณอนันต์ พิชารัตน์ฟังพร้อมกับจดไปพลาง...
    ว่าตอนนี้ เราได้ พระเอก ของเรามาแล้ว...
    จริงเหรอคะคุณอนันต์!!! ได้ค่ะ คุณอนันต์ เดี๋ยวดิฉันจะติดต่อให้เดี๋ยวนี้ล่ะค่ะ...
    สิ้นเสียงอันสุดปิติของเลขาคนสวย โทรศัพท์ถูกวาง อนันต์คิดในใจ อีกไม่นานหรอก คุณเทพพิทักษ์ อีกไม่นาน... 
     

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น