นิยามรัก ตอน เธอที่เคยรัก - นิยาย นิยามรัก ตอน เธอที่เคยรัก : Dek-D.com - Writer
×

    นิยามรัก ตอน เธอที่เคยรัก

    ความรักที่เคยผ่านเข้ามา ได้ขาดหายไปจากหัวใจ เหมือนสายลมที่ผ่านมาต้องกาย แล้วก็เลยผ่านไป

    ผู้เข้าชมรวม

    518

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    8

    ผู้เข้าชมรวม


    518

    ความคิดเห็น


    3

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักดราม่า
    จำนวนตอน :  4 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  27 ก.ย. 51 / 20:56 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    รำลึกถึงเสมอ

    จากใจ....ไอรินละดา

    เหตุการณ์บางเหตุการณ์ที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป บางครั้งดีบางครั้งร้าย บางครั้ง เมื่อนึกถึงก็แอบยิ้มกับเหตุการณ์เหล่านั้นอยู่เสมอมา

    เรื่องดีๆที่ทำให้เรายิ้มได้คงหนีไม่พ้นเรื่องของความรักครั้งนั้น และ เรื่องนี้แหละที่ทำให้เราร้องไห้ได้ทุกวัน ทุกๆสถานการณ์ ไม่ว่าจะอยู่คนเดียว หรือ อยู่กับผู้คนมากมาย แต่ความเดียวดาย ถวิลหาความชุ่มฉ่ำในใจเมื่อครั้งที่เคยกันมา มันก็คงหนีไม่พ้นเรื่องความรัก ความประทับใจในวันสวยๆของเราสองคนได้เลย รักที่ไม่เคยลืมได้เลยสักวัน

    ฉันคิดถึงชายหนุ่มคนหนึ่งเสมอ ยามที่มองเห็นเกลียวคลื่นทะเลกระทบหาดทราย ครั้งแล้วครั้งเล่า สายตาไม่เคยละไป หากมีโอกาสได้กลับมานั่งมองทะเล มันต่างกันตรงที่แต่วันนี้ไม่มีเธออยู่ข้าง ๆ

    ที่เกาะช้าง จ.ตราด เมื่อครั้งอดีต

    แสงดาวที่ระยับเต็มท้องฟ้า ใครกันหนอช่างโรแมนติกเหลือเกินหอบหิ้วความรักมาเต็มกระสอบฝัน ค่ำคืนที่เต็มไปด้วยความรักใครหนอที่พาสาวเจ้ามานั่งชมจันทร์ริมทะเล แม้มองเห็นเพียงเสี้ยวจันทร์ แต่ทะเลก็ยังพอมีแสงไฟจากเรือไดหมึกให้เราสองได้ชื่นชมความงาม จนลืมเวลาว่ามันได้ผ่านไปค่อนคืน

    ท่ามกลางคืนที่เปลี่ยวผู้คน สองเรานั่งสนทนาเรื่องราวต่างๆกันจนแทบจะไม่เหลืออะไรให้เล่าสู่กันฟังแล้ว ใต้ต้นสนริมทะเล ชายหนุ่มผู้อ่อนล้าไม่รู้เพราะเหตุใด แต่ดูเขาเหมือนอ่อนไหว แต่ช่างเถอะในใจฉันไม่เคยคิดอยากรู้

    แววตาที่มองกันมันเหมือนเราสองต่างก็วางใจ ไม่มีอะไรที่จะต้องคิดหรือหวาดระแวง สองมือที่ซุกลงไปใต้ผืนทรายเหมือนเรากำลังค้นหาเรื่องราวมาเล่าสู่กันฟัง มันหมดแล้ว หมดไปกับเวลาทุก ๆ วินาทีที่อยู่ด้วยกัน

    ในความคิดของฉันวันนั้น เขาช่างอ่อนโยน ยามที่นึกถึงเหตุการณ์วันนั้นทีไร ใจถวิลหา....คนที่จากไปแล้วกับกาลเวลา จากไปไม่หวลกลับมา แม้เพียงข่าวคราวก็ไร้ซึ่งวี่แวว

    ผู้ชายคนที่นอนหนุนตักหญิงสาวในคืนเหงา ปล่อยสายตาล่องลอยมองจันทร์เสี้ยวที่กำลังจะร่วงหล่นลงสู่ทะเลลึก

    ฟังเสียงคลื่นกระทบฝั่ง

    นั่งชมจันทร์ริมชายหาด

    กับเรื่องราวผ่านบทเพลงรักที่มอบให้เธอในคืนนั้น

    เรือรักกระดาษ

    เรือรักกระดาษ คลื่นสาดในธารมายา

    โลกีบังตา บังใจอ่อนไหวๆเอน

    นาวาสุขสม ไม่นานก็ล่มสลาย

    อยากจูบลูบกาย ไขว่คว้าได้เพียงรูปเงา

    ห่างกัน แปรฝัน บอกรักชายอื่น

    ข้ามคืน หยิบยื่นความสาวให้ชม

    ดอกไม้กลิ่นแรง ล่อแมงตัวผู้มาดม

    แลกร่างเสพสม ยอมตรมเพื่อหารักจริง

    ยามรักหนีจาก รักฝากปวดร้าวนานา

    เก็บซ่อนน้ำตา เย็นชากับความรักลวง

    รักแสนสุดห่วง รักลวง รู้ตัวเมื่อสาย

    เสน่ห์เรือนกาย เสพได้แค่เพียง กา...มา...


    ฉันร้องเพลงจบเขาหันมามองหน้าเหมือนกำลังค้นหาคำตอบ

    ไม่นะ... ไม่ได้หมายความอย่างที่บทเพลงบอก เพียงอยากร้องให้ฟังเท่านั้น

    ฉันยิ้มเขินเพราะไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น ระหว่างสายตาที่มองมาในยามนี้

    เอะ ...ๆ หรือว่าเราร้องไม่ได้เรื่อง มันไม่ไพเราะอย่างที่ต้นฉบับเขาร้องเอาไว้ แอบคิดในใจ

    มากมายคำถาม แม้จะอยู่ในความมืดแต่ยังเห็นแววตาสดใส มันเต็มไปด้วยคำถามที่ฉันเองก็ไม่อาจจะคาดเดา เราอยู่ด้วยกันสามวันสามคืนแล้วที่เกาะแห่งนี้ และทุกๆค่ำคืนเราก็จะมานั่งที่เดิม คุยกันจนค่อนสว่าง

    เพราะจัง เพลงของใครไม่เคยได้ยินอ่ะ

    คำพูดของเขาทำให้ฉันโล่งใจ มันไม่เลวร้ายอย่างที่คิด

    มาลีฮอนน่า ไม่เคยฟังเหรอ

    ฉันถามด้วยความรู้สึกเช่นนั้นจริงๆ แปลกใจมากไม่น่าเป็นไปได้ที่ผู้ชายช่างฝันอย่างเขาจะพลาดบทเพลงในวงเหล้าแบบนี้ได้

    หรือภาพที่เราเห็นใช่ตัวตนของเขาจริง ...? มันคือภาพลวงตา

    เรือรักกระดาษไง ไม่เคยฟังจริงๆเหรอ เพลงเขาออกจะดังนะ

    อาจเป็นไปได้ที่เขาจะไม่เคยได้ยิน ที่ว่าไพเราะอาจจะเป็นเพราะเนื้อหาในบทเพลงก็อาจเป็นได้ หญิงชายยามที่ได้ใกล้ชิดกัน อะไรหรือ..? จะห้ามใจไม่ให้สนองตอบความต้องการของร่างกายซึ่งกันและกันได้

    บางทีค่ำคืนนี้ที่เราต้องอยู่กันสองต่อสอง กับ บทเพลงที่ว่าอาจจะเป็นจริงก็ได้
    ถึงแม้ความปรารถนาแรกของเราคือคู่รักที่อยากจะมาพักผ่อนยามที่เหนื่อยล้า
    เราสองก็แค่อ่อนแรงจากหน้าที่การงาน

    อ่อนแรงจากหน้าที่ๆต้องรับผิดชอบ มันเป็นความเป็นจริงที่เกิดขึ้นจริงกับทุกๆคน

    อยู่ที่ว่าใครจะมองว่ามันเป็นปัญหา หรือ บทเรียน


    ภาพ ชายหนุ่มคนหนึ่งนอนหนุนตักหญิงสาวที่กำลังร้องเพลงแสนเศร้าริมทะเล บอกเล่าเรื่องราวผ่านบทเพลงที่เธอกำลังขับกล่อมราตรีเหงาสะท้อนบางอย่างที่เราไม่รู้คำตอบ


    ไม่รู้สินะ ภาพนั้น มันเป็นภาพที่ประทับอยู่ในความทรงจำตลอดมา ไม่ว่าเวลานั้นได้ผ่านไปแล้วเกือบสิบกว่าปี แล้วก็ตาม ยามที่ฉันคิดถึงเหตุการณ์วันนั้นทีไร มันทำให้ฉันสุขใจได้ยิ้มนิด ๆ ที่มุมปากสุขใจกับความทรงจำเก่าๆ วันที่มีเธออยู่ข้างๆกาย

    *****

    งานเลี้ยงย่อมมีเลิกรา ถึงเวลาที่เราสองต้องเดินทางกลับบ้านกันซะที อยู่ด้วยกันหลายวัน มีความสุขมากยามที่อยู่ด้วยกัน หลายวันแม้เราจะมีโอกาสทำอะไรตามใจ แม้บรรยากาศจะเป็นใจให้เลยเถิด แต่เราไม่ได้ก้าวข้ามม่านประเวณีซึ่งกันเลย แม้สถานที่และโอกาสจะเป็นใจสักเพียงใดก็ตาม นี่คงเป็นหนึ่งในความประทับใจที่ฉันมีให้กับผู้ชายคนหนึ่ง คนที่ฉันรักเขาเข้าแล้วตั้งแต่วันนั้น

    เราเดินเงียบๆไม่ได้พูดจากันเหมือนกับว่าการเดินทางกลับจากพักผ่อนคราวนี้ จะเป็นการเดินทางจากกันชั่วนินิรันดร์ มันเศร้าเกินกว่าที่จะเอ่ยคำลา สายฝนเริ่มโปรยลงมาบางๆ แสงแดดยามเช้าส่องแสงสีส้มตัดกับสายฝน ทำให้ท้องทะเลสวยไปอีกแบบ มันสวยเพราะฉันไม่เคยได้เห็นภาพเช่นนั้นมาก่อน อยากหยุดทุกอย่างไว้ตรงนั้น แล้วดึงเขากลับมายืนอยู่ข้างๆกัน ฉันไม่อยากก้าวเท้าเดินไปจากที่ตรงนั้น แผ่นดินที่ล้อมรอบไปด้วยน้ำทะเลสีคราม ทะเลที่โอบกอดเราสองให้ได้อยู่ด้วยกัน เราคงไ่มีวันพรากจาก

    ฉันไม่สามารถก้าวเดินให้ทันเพื่อเดินเคียงกันอย่างที่ควรจะเป็น มันเหมือนจะหมดแรงที่จะก้าวเท้าไปหน้าเพื่อลาจากกัน

    ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา จู่ ๆ ก็เดินเร็วโดยไม่สนใจว่าฉันจะเดินตามมาทันหรือเปล่า จิตใจของเขาตอนนั้นมันเกิดอะไรขึ้น หรือเราไม่ได้เป็นคนที่เขาประทับใจอย่างที่ควรจะเป็น

    เขาทิ้งฉันให้เดินตามโดยไม่ยอมหันกลับมามอง เหมือนฉันไม่ได้มีตัวตน
    เพียงไม่ถึงนาที แต่ฉันรู้สึกเหมือนนานแสนนานที่จะก้ามตามคนที่เดินห่างออกไป

    หรือว่าฉันเองเดินช้าไป เขาเลยรำคราญที่จะรอ ในเวลานั้นฉันเพียงแค่หาเหตุผลเข้าข้างตัวเอง

    แต่....คนรักกันเขามีแต่จะเดินคลอเคลียกันไม่ใช่เหรอ ฉันแอบน้อยใจลึก ๆ ทำไมนะ ทำไมเขาต้องทำอย่างนั้น ฉันทำอะไรให้เขาไม่พอใจอย่างนั้นเหรอ

    หัวใจฉันตอนนั้นมันเจ็บร้าวเกินที่จะบรรยาย ฉันไม่อยากให้เราสองคนเดินจากกัน จากกันแบบไม่เข้าใจ หรือแค่จบกันง่าย เพราะมันคงไม่ง่าย... ขนาดนั้น

    ที่ปลายสะพาน เขายืนนิ่ง สะพานปลาไม้เก่าๆยามที่มีสายฝนโปรยลงมาบางๆตัดกับแสงอาทิตย์ที่ส่องกระทบน้ำทะเลใส มีเสน่ห์ให้ชวนมอง เขายังยืนนิ่งก้มมองพื้นทราย ฉันตามมาถึงหยุดยืนอยู่ข้างๆ ไม่มีคำพูดอะไร ต่างก็เงียบ เขาก้าวลงไปที่โป๊ะเรือ ฉันยังยืนงงอยู่ที่ปลายสะพาน สับสนไปหมดกับสิ่งที่ผ่านมา

    เขายื่นหน้าเข้ามาใกล้ ๆ แล้วกระซิบข้างหูเบา ๆ

    จูบทีนะ

    พูดจบเขาก็ทำเลย ไม่สนกับคำตอบ

    ท่ามกลางสายฝนที่โปรยลงมากระทบกับน้ำทะเลสีคราม งามตานัก
    ปลายสะพานไม้เก่าๆ บันทึกความทรงจำของเราเอาไว้ตลอดกาล เป็นอีกภาพในความทรงจำที่ฉันยอมรับกับตัวเองเสมอมาเป็นภาพที่สวยงามประดุจหนึ่งจิตกรได้บรรจงแต่งแต้มเอาไว้เพื่อเป็นอนุสรความรักของคนสองคน

    ********

    คือเหตุผลที่เขารีบเดินออกมาเพื่อให้พ้นจากสายตาผู้คน สิ่งที่เกิดขึ้นทำเอาฉันเขินไม่รู้ว่าจะจัดว่างตัวเองไว้ในท่าไหน มันทำตัวไม่ถูก ความน้อยใจที่เกิดขึ้นมะลายไปการกระทำทั้งหมดของเขาเขาคว้ามือฉันเดินออกไปรอเรือที่กำลังจะเข้าเทียบท่า ทั้งที่รู้ว่ามีสายตาอีกหลายคู่จับจ้องเราอยู่ แต่เราก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ คุยกันเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

    ใจหายนะ เราต้องเข้ากรุงเทพฯแล้วเหรอ ขอบคุณนะที่มากับเรา เรามีความสุขมาก มีความสุขที่สุดมีเธออยู่ด้วย

    เขาพูดขึ้นมาทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ไม่มีเค้ารางว่าจะหวานได้ขนาดนี้ ลงเข้าใจผิดไปตั้งมากมายแต่การกระทำของเขาเมื่อสักครู่ที่ผ่านมาเปลี่ยนความคิดเราหมดสิ้น กลายเป็นความทรงจำที่ฝั่งลึกอยู่ในใจตลอดมา ไม่ว่ามันจะผ่านไปแล้วนานแค่ไหนก็ไม่เคยลบเลือนไปจากใจได้
    การจากกันครั้งนั้น หลังจากที่เรากลับเข้ากรุงเทพฯ เราพบกันน้อยลง น้อยมาก มากกว่าที่ควรจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเรามันคือความรัก
    ฉันเชื่อว่าสิ่งที่สัมผัสนั้นมันคือความรัก การแสดงต่อกัน มันคือความรัก มันต้องเรียกว่าความรัก ฉันแน่ใจว่าเรารักกัน
    แค่มองตากันเราก็รู้ว่าเราต้องการอะไร มีความสุขยามที่ได้นั่งทานข้าวด้วยกัน ฟังเรื่องราวที่เราต่างก็ไม่ได้รู้ว่าจริงหรือเปล่า ยอมทนนั่งฟังเรื่องราวที่อีกฝ่ายเล่าอย่างไม่เบื่อหน่าย เพียงแค่ได้ยินเสียงของกันและกัน ได้มองตากันก็มีความสุข
    ตลอดเวลาฉันยังเชื่อว่าเรามีความสุข

    *****

    จากที่เจอกันน้อยลง ก็กลายเป็นหายหน้า หายเสียง เขา...หายไปกับกาลเวลา จากหนึ่งอาทิตย์ที่ยาวนาน กลายเป็นเดือนที่ต้องทุกข์ทน จนเป็นปีที่ไร้สีสัน วันเวลาของฉันหมดไปกับการรอคอย รอคอยเหตุผลที่เดินจากกันโดยไม่บอกลา ไม่มีการบอกเล่าถึงความรู้สึก หรือบอกเหตุผล
    อะไรก็ได้ฉันพร้อมที่จะรับฟังและยินดีที่จะเดินไปจากความทรงจำเก่า ๆ นั้นทันที แต่การรอคอยของฉันมันว่างเปล่า ตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคม 2538 เป็นต้นมา จวบจนทุกวันนี้

    เขาทิ้งภาพเหล่านั้นให้ฉันระลึกถึงเพียงเดียวดาย ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาฉันก็รู้ว่าตัวเองได้รักผู้ชายคนนั้นไปแล้วจนหมดใจ แต่ความรักของฉันไม่มีตัวตนของเขาอยู่ แม้จะผ่านเวลายาวนานแล้วก็ตาม ฉันยังคิดถึงและรู้สึกว่าภาพเหล่านั้นพึ่งผ่านไปเมื่อวันวาน มันเป็นภาพที่ประทับอยู่ในความทรงจำของฉันตลอดมา

    เป็นสิ่งเดียวที่เหลืออยู่ให้ได้ระลึกถึงเธอที่เป็นที่รัก

    แด่เธอที่จากไปกับกาลเวลา

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น