Tekken ศึกครั้งใหม่แห่งมังกรราชันย์กำปั้นเหล็ก
Tekken หลายคนคงรู้จักในฐานะของเกมส์ต่อสู้ที่โด่งดัง ในเรื่องนี้กล่าวถึง คิง บุรุษผู้ซ่อนใบหน้าอยู่ภายใต้หน้ากากเสือจากัวร์ ผู้จะหยุด 3 ตัวร้ายที่มีส่วนพรากชีวิตของพ่อเขาไป
ผู้เข้าชมรวม
2,207
ผู้เข้าชมเดือนนี้
16
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า "เฟยหลงจ้ายเทียน" แอตลันต้า รัฐจอร์เจีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เวลา22.08น.
เมื่อยามราตรีมาเยือน แสงจันทร์สีเงินก็สาดส่องลงมายังสถานที่แห่งนี้ สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่มีการสร้างบ้านเรือนด้วยไม้หลังใหญ่ อยู่ภายใต้กำแพงหินอ่อนที่ล้อมอยู่รอบๆ เฉลียงฝั่งตะวันตกนั้น มีชายแก่วัย 60 กำลังนั่งดื่มชาอย่างสบายอารมณ์หลังจากกล่อมเด็กๆ ทั้ง 20 คนที่ซนๆ ทั้งหลายเข้าสู่นิทราได้สำเร็จ เขามองพระจันทร์สลับกับมองต้นไม้ที่อยู่รอบๆ และมองบ่อสระน้ำขนาดใหญ่ ที่เหล่าปลาแแหวกว่ายไปมาอย่างมีความสุข จนกระทั่งมีชายคนหนึ่งเดินเข้ามาหาเขา
"ท่านหวัง จินเร่ยขอรับ"ชายวัยกลางคนผมสีเงินพูดขึ้นพร้อมกับโค้งคำนับให้เขา ชายผมเงินเป็นชายที่มีตาสีน้ำตาลอ่อน สูงใหญ่ สวมชุดยูโดที่มีสัญลักษณ์ธงเกาหลีที่หน้าอก
"ว่าไง? เบ็ก"ชายชรานาม หวัง ถาม พลางลูบหนวดขาวที่ยาวถึงหน้าอกของตน
"เมื่อสักครู่ อาร์เมอร์คิงรับโทรศัพท์มาจากเพื่อนของท่านญี่ปุ่นมาขอรับ"
"ได้ความว่า?"
"จินปาจิ มิชิมะสหายของท่านน่ะขอรับ เขาเสียชีวิตแล้ว"
ชายชราหลับตาลงอย่างเหนื่อยอ่อน เพื่อนรักของตนที่มีประสบการ์ชีวิตด้วยการมานานแสนนานเสียแล้วหรือนี่...
"คนเราสังขารไม่เที่ยง...ย่อมมีสักวันที่เรากลับกลายเป็นเถ้าธุลี...คาซุยะคงยังไม่รู้เรื่องนี้ใช่ไหม"
"คิดว่างั้นขอรับ"
"พรุ่งนี้บอกให้เขารู้เถอะ...เพราะเราคงปิดเขาได้ไม่นานหรอก"
"ขอรับ"
"เขาตายเพราะอะไร..."
"โดนคนของตระกูลคาซามะสังหารขอรับ"
หวังหน้าตื่นเล็กน้อย ก่อนที่จะใจเย็นต่อ "แล้วมีอะไรอีกไหม"
"หลังจากวางสายเมื่อตะกี๊แล้ว ก็มีอีกคนโทรมา อาร์เมอร์คิง บอกว่าพรุ่งนี้จะมีเด็ก 2 คนมาจากที่ญี่ปุ่นมาด้วยขอรับ เพราะแม่ของพวกถูกฆ่า"
"เรารู้จักไหม?"
"ม...มาจากตระกูลคาซามะขอรับ"เบ็กพูดอย่างตะกุกตะกัก เพราะเขา อาร์เมอร์คิง หวังและเพื่อนของเบ็กที่ชื่อโฮชิ มียอง ทั้ง 4 ผู้เป็นคนที่ดูแลสถานเลี้ยงเด็กกำพร้านั้น รู้จักตระกูลนี้ดีพอๆ กับตระกูลมิชิมะ มีความลับอีกหลายอย่างของสองตระกูลนี้
"คาซามะ?"หวังทวนคำ "จุน คาซามะตายแล้วหรือนี่...ใครเป็นคนฆ่าเธอ"
"เห็นบอกว่า...เป็นเฮฮาจิ มิชิมะขอรับ"
"เฮฮาจิ มิชิมะ?!"หวังตกใจ ก่อนจะพอนึกสาเหตุที่จินปาจิผู้เป็นพ่อของเฮฮาจิโดนสังหาร
"เห็นบอกว่า...เฮฮาจิ มิชิมะนั้นไปมีเรื่องกับพวกตระกูลคาซามะก่อน เลยพลั้งมือฆ่าจุน คาซามะตายไปน่ะขอรับ...ด้วยเหตุนี้ท่านจินปาจิ มิชิมะก็เลย..."
"สมควรอยู่..."หวังหยิบถ้วยน้ำชาขึ้นมาจิบ"แต่อย่าเพิ่งบอกคาซุยะเรื่องนี้นะ เบ็ก...ไม่งั้นเราจะทำให้สองตระกูลนี้ศัตรูกันอีกยาวแน่..."
"อาร์เมอร์คิงบอกว่าเด็กสองคนนั่นเห็นแม่ของตัวเองตายต่อหน้าต่อตาก็จริง แต่พวกเขาไม่เห็นหน้าคนร้ายขอรับ..."
"ดีแล้วล่ะ..."
"ท่านหวัง...หากสองตระกูลนี้ต้องทำสงครามกัน...มันต้องกลายเป็นสงครามร้อยวัน(สำนวนที่หมายถึงว่าสงครามที่ยาวนานจนกำหนดวันสิ้นสุดไม่ได้ เพราะทั้งสองฝ่ายสูสีกันมาก)แน่นอน...จนถึงเวลานั้น...แล้วใครจะเป็นคนหยุดยั้งสงครามนี่ล่ะครับ"
"คนหยุดยั้งหรือ?"หวังยิ้มออกในที่สุด "มีสิ...
"ใครหรือขอรับ?"
"ข้าเคยได้ยินคำทำนายมาจากแม่ของซาฟิน่าก่อนที่เธอจะเสีย...ผู้ที่หยุดยั้งสงครามนี้...มีเพียงบุรุษสวมหน้ากากเสือเท่านั้นที่จะหยุดได้...ผู้เป็นศิษย์รักและลูกรักของบุรุษที่ใส่หน้ากากพยัคฆ์ทั้งสองคน..."
"ท่านหมายถึง...คิงงั้นหรือครับ?"
"กับเพื่อนคนอื่นๆ ของเขา...ใช่เลย" หวังจิบชาเข้าไปอึกหนึ่ง "ถึงแม้ตอนนี้พวกเขาจะยังเล็ก...แต่ภายภาคหน้า...พวกเขาจะยิ่งใหญ่เหนือฟ้า...เจ้าคิดว่างั้นไหม"
"คิดสิขอรับ! ข้าเองก็จะสั่งสอนฮัวหลางศิษย์รักของข้าให้เก่งกาจตามคิงให้ได้"เบ็กพูดด้วยรอยยิ้มและความมั่นใจ
"มีความมุ่งมั่นดี เบ็ก"หวังยิ้มบางๆ ก่อนจะลุกขึ้น "ตามอาร์เมอร์คิงกับโฮชิ มียองมาพบกันที่ห้องประชุมที...ข้ามีเรื่องจะหากับพวกเจ้า เรื่องจินแห่งคาซามะกับคาซุยะแห่งมิชิมะ"
"ขอรับ"
วันรุ่งขึ้น ที่ลานกว้าง ข้างบ่อน้ำ
"เด็กๆ! เงียบหน่อย!"ชายแก่วัยเดียวกับหวัง จินเร่ยนามโฮชิ มียอง พูดกับเด็กๆที่กำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน เขาสั่งให้พวกเด็กๆ นั่งกันเป็นวงกลมกันอย่างเป็นระเบียบ โดยเขากับพวกผู้ดูแลอยู่นอกวงกลม "วันนี้เราจะมีเพื่อนใหม่สองคนมาที่นี่"
"เพื่อนใหม่!?"เด็กๆ ส่งเสียงอย่างตื่นเต้น
"เขาอยู่ไหนเหรอคะ คุณปู่"เด็กหญิงผิวสีน้ำผึ้ง ผมสีต้ำตาลทองเหมือนดวงตาถามผู้เป็นปู่แท้ๆของเธอ
"ใช่ๆ! เขาอยู่ไหนหรือครับ? เราอยากเจอเพื่อนจังเลย"เด็กผู้ชายผมสั้น หน้าตาเอเชียพูด
"ใจเย็นหลอ คริสตี้....อยู่นี่ไง"โฮชิชี้ไปทางข้างหลัง
ชายในชุดเกราะสีเงิน สวมหน้ากากเสือจากัวร์สีดำเดินมาพร้อมกับเด็กสองคนของตระกูลคาซามะ เด็กชายคนหนึ่ง มีผมสีดำ ผิวขาวนวล ตาสีเงิน จับมือกับน้องสาวที่อายุอ่อนกว่าตนปีเดียว ซึ่งเป็นเด็กหญิงหน้าตาน่ารัก ผมสีน้ำตาลเช่นเดียวกับดวงตา
"ทุกคน นี่คือจินกับอาซูกะ คาซามะ...นับตั้งแต่วันนี้ เขาจะมาอยู่กับพวกเรา"อาร์เมอร์คิงพูด
พวกเด็กๆ นั้นยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ด้วยความดีใจที่มีเพื่อนเพิ่ม
"แนะนำตัวเองสิ จิน อาซูกะ"อาร์เมอร์คิงพูดกับเด็กทั้งสองคนอย่างอ่อนโยน
"เอ่อ...ฉันชื่อ คาซามะ จิน...ม มาจากญี่ปุ่น"เด็กชายพูดอย่างหวาดๆ "อ อายุ 8 ขวบ...ส่วนนี่น้องสาวของฉัน...ฝ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"
"ฉันชื่อ คาซามะ อาซูกะ...น้องสาวของพี่จิน...อายุ 7 ขวบ..ฝ ฝากตัวด้วยเช่นกัน"เด็กหญิงพูดในอาการเดียวกับพี่ชาย
"ยินดีที่ได้รู้จัก!"เด็กๆ ทั้ง 20 คนตะโกนพร้อมกันอย่างจริงใจ ทำเอาสองพี่น้องปลื้มไปเลยทีเดียว
"เอาล่ะ จิน อาซูกะ...ฉันขอแนะนำให้เธอรู้จักกับเด็กกำพร้าเหมือนพวกเธอนะ...เพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัวว่าพวกเธอจะไม่มีเพื่อน"เบ็กที่เดินตามมาพูด ก่อนจะหันไปทางเด็กชายคนหนึ่ง "คิง...เธอแนะนำตัวเป็นคนแรกให้สองคนนี้รู้จักได้เลย"
"ครับ อาจารย์เบ็ก"เด็กชายตาสีส้ม ในหน้ากากเสือจากัวร์ที่คลุมถึงไหล่ยิ้มแฉ่ง ก่อนจะเดินไปจับเช็คแฮนด์กับเขา "ฉันชื่อ คิง ดิเอโก้ เอลเรดิส..เชื้อสายเม็กซิโก เรียกฉันว่า คิง ก็แล้วกัน เพราะใครๆ ก็เรียกฉันอย่างนั้นเหมือนพ่อที่เป็นนักมวยปล้ำมืออาชีพที่ตายไปแล้วของฉัน อาจารย์ที่รับอุปถัมภ์ฉันคือ อาร์เมอร์คิง ที่อยู่ตรงนั้น ฉันอายุ 8 ขวบ...อยู่ที่นี่เป็นคนแรกพร้อมกับเพื่อนของฉันอีก 2 คน พวกเราส่วนใหญ่ก็เลยเรียกเราว่า พี่...ต่อจากนี้เราเป็นเพื่อนกันนะ จิน อาซูกะ"
"ขอบใจนะ คิง"สองเด็กชายหญิงยิ้ม
"ฉันชื่อเซอร์กี ดรากูนอฟ มาจากรัสเซีย เรียกฉันว่าดรากูนอฟนะ อายุ 8 ขวบเช่นกัน"เด็กชายที่มีแผลบากตรงริมฝีปากพูด เขามีตาสีเทาที่แสนจะเย็นชา แต่นิสัยกลับตรงกันข้าม เพราะเป็นเด็กที่ร่าเริงและค่อนข้างใจร้อน
"ฉันชื่อคริสตี้ มอนเทโร่ ปู่ของฉันคือคุณโฮชิ มียองนั่นไงล่ะ"เด็กผมน้ำตาลทองยาวชี้ไปที่ปู่ของตน "ใช้นามสกุลของแม่น่ะ เลยคนละนามสกุลกับคุณปู่...เป็นคนบราซิล เป็น 3 คนแรกที่อยู่ที่นี่ ฉันอายุ 7 ขวบเหมือนอาซูกะเลยล่ะ แถมเรายังมีสีตาเหมือนกันด้วยนะ"
เด็กหญิงนามอาซูกะยิ้มออก
"ฉันชื่อ ลีโอ มาจากเยอรมัน อายุ 7 ขวบ เราเป็นเพื่อนกันนะ"เด็กหญิงที่มีชื่อเป็นชายพูด เธอมีผมสั้นสีทองและมีนัยน์ตาสีน้ำเงิน
"ฉันชื่อ ซาฟีน่า 7 ขวบ ชื่นชอบการทำนายเหมือนกับคุณยายของฉันมากเลยล่ะ"เด็กหญิงตาสีดำผมสีน้ำเงินเข้มพูด
"ชื่อของฉันคือมิเกล คาบาเรลโล โรโฮ...มาจากสเปน อายุ 8 ขวบ"เด็กชายผมสีดำหยิก ตาสีน้ำตาลพูด "เรียกฉันว่ามิเกลก็แล้วกัน"
"มาร์แชล หลอ จากเมืองจีน ชื่นชอบกังฟูเป็นชีวิตจิตใจ 8 ขวบเหมือนกัน"เด็กชายผมดำสั้นตาสีเดียวกับผมพูด "เรียกฉันว่า หลอ นะ"
"พอล ฟีนิกซ์ มาจากอเมริกานี่เอง ชอบฝึกกังฟูและยูโดมาก ฉันอายุ 9 ขวบ"เด็กชายผมสีทอง ตาสีเขียวพูดพลางใช้นิ้วโป้งชี้มาที่ตน
"ชื่อ ฮัวหลาง มาจากเกาหลีกับอาจารย์
"ฉันชื่อหลิง เสี่ยวหยู 6 ขวบ มาจากเมืองจีนน่ะ"เด็กหญิงผมดำ ตาน้ำตาลพูดพลางส่งยิ้มให้เพื่อนทั้งสองเหมือนคนอื่นๆ
"ชื่อ สตีฟ ฟ็อกซ์ ชอบมวยมากเป็นพิเศษ บ้านเกิดฉันก็อยู่ในอเมริกาเหมือนพอลนั่นล่ะ"เด็กชายผมสั้นสีทอง ตาสีฟ้ายิ้มให้
"ฉันชื่อนีน่า วิลเลียม มาจากไอร์แลนด์ อายุ 8 ขวบ"เด็กหญิงผมทองยาว ตาสีฟ้าพูดพลางขยิบตาให้ทั้งสอง "ฉันอยู่ที่นี่กับน้องเหมือนเธอสองคนนั่นล่ะ"
"ใช่ๆ เพราะฉะนั้นชื่อของฉันคือ แอนนา วิลเลียม อายุ 7 ขวบ"เด็กหญิงผมสั้นสีน้ำตาล ตาสีฟ้าพูด "ยินดีที่ได้รู้จักเธอสองคนนะ"
"ฉันชื่อลิลลี่ โรชฟอร์ท อายุ 6 ขวบ มาจากโมนาโค"เด็กหญิงผมสีทองยาว ตาสีฟ้ายิ้มให้แก่สองพี่น้อง
"เล่ย วู่หลง จากจีน อายุ 8 ขวบ ฝันว่าสักวันต้องเป็นตำรวจให้ได้"เด็กชายผมดำยาว ตาสีน้ำตาลพูด พลางทำตาเป็นประกาย
"โอฮาโยโกซาอิมัตสึ"เด็กชายผมสีเงิน ตาสีดำโค้งให้ทั้งสอง "ลี เชาลัน 8 ขวบ จากแดนปลาดิบหรือญี่ปุ่น ยินดีที่ได้พี่น้องร่วมบ้านหลังคาเรือนเพิ่มอีกสองคน"
"ฉันชื่อจูเลีย ชาง เป็นคนอเมริกาเหมือนกับพอล...อายุ 7 ขวบ"เด็กหญิงผมน้ำตาลยาวเหมือนดวงตายิ้มหน้าบาน
เด็กชายผิวคล้ำ ผมสีน้ำตาลยาวประบ่า ตาสีดำชี้นิ้วมาที่ตน "ฉันคือเอ็ดดี้ กอร์โด 8 ขวบ มาจากบราซิล ยินดีที่ได้รู้จัก"
"ส่วนฉันชื่อบรูซ เออร์วิน เป็นคนอเมริกา แต่ชื่นชอบของไทยรวมทั้งศิลปะการต่อสู้หรือภาษาด้วย อายุ 8 ขวบ"เด็กชายผิวคล้ำเช่นเดียวกับเอ็ดดี้พูด เขามีผมสีต้ำตาลสั้นติดหนังหัว และมีตาสีเขียว
"แล้วเธอล่ะ ชื่ออะไร"อาซูกะหันไปถามเด็กชายผมสีดำยาวประบ่า ที่กำลังยืนยิ้มและหลับตา
"คาซุยะ มิชิมะ"เขาพูดพร้อมกับลืมตาขึ้นมา จึงทำให้รู้ว่าสีตาซ้ายของเขานั้นเป็นสีแดงเพลิง! "มาจากญี่ปุ่นเหมือนกับพวกนาย อายุ 8 ขวบ"
"มาจากญี่ปุ่นเหมือนกัน? ดีจังเลยนะ"อาซูกะยิ้มให้เขา ทำเอาหน้าแดงไปเลยทีเดียว
"และพวกเราทั้งหมดนี้คือเพื่อนหรือยิ่งกว่านั้นคือพี่น้องกันทั้งหมด"เด็กชายนาม คิง พูด "เฟยหลงจ้ายเทียนหรือที่เรียกกันว่าโรงรับเลี้ยงเด็กมังกรผงาดฟ้า ขอต้อนรับ คาซามะ จิน...คาซามะ อาซูกะ"
เด็กมาใหม่ทั้งสองยิ้มอย่างดีใจ ก่อนจะพูดพร้อมกันว่า "ขอบคุณมากนะ"
แล้วพวกเขาทั้ง 22 คน ก็พากันไปเล่นด้านหลังกัน เพราะมีสถานที่กว้างขวางมาก และพวกเด็กๆ ที่อยู่กันมาก่อนนั้นมีธรรรมเนียมว่าจะนำเด็กใหม่มาทัวร์ทั้งโรงฝึกและสถานเลี้ยงเด็ก...
โรงฝึก? ใช่ ที่นี่นอกจากจะเลี้ยงเด็กๆ ให้เป็นคนดี จนกว่าจะมีพ่อแม่บุญธรรมมารับไปเลี้ยงดูแล้ว ยังจะสอนให้เด็กๆ นั้นฝึกการต่อสู้เพื่อให้เป็นคนที่เข้มแข็งอีกด้วย โดยการต่อสู้ที่จะสอนนั้นจะสอนกังฟู มวยปล้ำ คาราเต้ การต่อสู้ผสมผสานการเต้นแบบคาโปเอร่า วิชาหักกระดูกคนและยูโดเป็นหลัก รองลงมาก็จะสอนการหลบหลีกอย่างว่องไวและการต่อสู้ที่ใช้อาวุธจำพวกกระบอง ดาบ เคียว ธนู หน้าไม้ ดาวกระจาย ขวาน กระบองสองท่อน กระบองสามท่อนและมีด
"ท่านหวัง"อาร์เมอร์คิงเดินไปผู้สูงวัย "ถ้าเกิดสมมติว่า...คาซามะกับมิชิมะรู้เรื่องที่ผู้เคารพของพวกเขาโดนฆ่าจากอีกฝ่าย เราจะทำยังไงดีล่ะขอรับ...คำทำนายที่แม่ของซาฟีน่าบอก...มันจะเกิดขึ้นตอนที่พวกเขาโตขึ้น..."
"เราคงปิดพวกเขาไม่ได้นานหรอกนะขอรับ"โฮชิเสริม พลางมองไปยังเด็กๆ พูดคุยหยอกล้อกันอย่างสนุกสนาน พอนึกถึงอนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้นตามคำทำนายแล้วก็อดเวทนาไม่ได้ ที่เด็กๆ พวกนี้ต้องมาฆ่ากันเอง
"ท่านหวัง...เรารับเลี้ยงสองคนนี้ได้ก็จริงอยู่...แต่ถ้าเราไม่ให้จินหรือคาซุยะคนใดคนหนึ่งฝึกอาวุธละขอรับ? มันน่าจะได้ผล"
"...เรายับยั้งคำทำนายไม่ให้เกิดขึ้นไม่ได้ เบ็ก..."ผู้สูงวัยลูบเคราของตนเอง"นอกจากจะทำลายมันด้วยมือของพวกเราเอง"
"ท่านหวัง! นี่ท่านหมายความว่าเราจะสอนจินกับคาซุยะงั้นหรือขอรับ?!"เบ็กถามด้วยความตกใจ
"คาซุยะ เป็นเด็กที่มีความมุ่งมั่นสูง เจ้าคิดหรือว่าเราจะไปห้ามให้เขาเลิกฝึกได้กระทันหัน"
"เรื่องนั้นข้าเห็นด้วยกับท่านขอรับ"อาร์เมอร์คิงบอก "แต่จินล่ะ? ถ้าเราไม่สอนจินซะ"
"เจ้าทนได้หรือ? เพื่อนๆ ของตัวเองได้รับการฝึก แต่ตัวเองต้องมานั่งทำงานบ้านอย่างเดียว"
คำถามนี้ทำให้ผู้เป็นลูกศิษย์ทั้ง 3 ของเขานิ่งไป
"ถ้าเราไม่ฝึกเขา ยังไงเขาก็ต้องฝึกด้วยตัวเอง...เราห้ามไม่ได้"หวัง จินเร่ยถอนใจ ก่อนจะมองท้องฟ้าสีคราม "เมื่อสวรรค์กำหนดโชคชะตาเช่นนี้แล้ว...ข้าก็ขอน้อมรับด้วยความเต็มใจ...ข้ามิต้องการฝ่าฝืน"
ศิษย์ทั้ง 3 ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนปลงว่า "ช่างมันก็แล้วกัน"
*****
เนื้อเรื่องที่แต่งขึ้นนี้ อาจจะมีผิดจากเนื้อเรื่องของเกมส์ที่เป็นจริงบ้าง ก็ขออภัยนะคะ
ผลงานอื่นๆ ของ Blind Justice ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Blind Justice
ความคิดเห็น