(DxD X Blue Archive) ภัยสังคมกับ 'เพื่อน?' มังกรแดง - นิยาย (DxD X Blue Archive) ภัยสังคมกับ 'เพื่อน?' มังกรแดง : Dek-D.com - Writer
×
NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ
  • มีการบรรยายเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรุนแรงสูง

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด

    (DxD X Blue Archive) ภัยสังคมกับ 'เพื่อน?' มังกรแดง

    คุณครูชาเล่ต์ที่ได้เกษียณจากอายุที่มากแล้ว ในวาระสุดท้ายเจ้าตัวก็ได้คิดกับตนเองว่า ‘ยังไม่ได้ใช้ชีวิตวัยรุ่นอย่างคุ้มค่าเลยนะ’ ก่อนจะสิ้นใจลง แต่ใครจะไปคิดกันว่าเจ้าตัวนั้นจะได้รับโอกาศที่ 2 กันล่ะ ?

    ผู้เข้าชมรวม

    1,929

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    64

    ผู้เข้าชมรวม


    1.92K

    ความคิดเห็น


    16

    คนติดตาม


    80
    จำนวนตอน :  6 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  2 พ.ค. 67 / 16:47 น.
    คำเตือนเนื้อหา NC

    มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ, มีการบรรยายเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรุนแรงสูง

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

     

     

    รถไฟขบวนหนึ่งที่กำลังเคลื่อนตัวไปช้าๆ ลมเย็นๆจากเครื่องปรับอากาศและแสงแดดในยามเย็น ก็มีร่างของคนคนหนึ่งนั่งอยู่พร้อมกับมองออกไปที่ข้างหน้าต่าง มันคือเมืองคิโวทอส เมืองที่ได้ชื่อว่าเมืองแห่งการศึกษา เมื่องขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยโรงเรียนมากมายกว่าหลายพันแห่ง เมื่อที่ครูคนนี้ได้ใช้ชีวิตอยู่มานานจนวาระสุดท้าย


     

    ??? “ที่นี่คงจะเป็นโลกหลังความตายสินะ…”


     

    ดวงตาสีฟ้าได้จ้องมองภาพของเมืองที่อยู่ไกลออกไป ในระหว่าที่รถไฟนั้นได้เคลื่อนตัวออกจากเมื่อง แสงอาทิตย์เริ่มมืดลง แต่เมืองตรงหน้าก็ยังเต็มไปด้วยไฟหลากสีที่ดูวุ่นวายแต่ก็สงบสุขในเวลาเดียวกัน


     

    ??? “เป็นเมื่องที่สวยมากเลยใช่ไหมล่ะคะ…”


     

    พอหันไปตามเสียง คุณครูก็ได้พบกับคนที่ได้นำพาชะตาชีวิตของตนมาอยู่ที่นี่ จากคนธรรมดาๆคนหนึ่งสู่หน้าที่ครูที่คอยสั่งสอนและปกป้องนักเรียนยิ่งชีพในเมืองที่เต็มไปด้วยความอันตรายจากอาวุธที่ทำให้คนธรรมดาตายได้หากถูกมันยิงเข้าเพียงนัดเดียว ทว่าสุดท้ายแล้วคุณครูก็สามารถผ่านมันมาได้ จนตอนนี้แม้แคล้วคลาดจากกระสุนและอาวุธสงคราม แต่มนุษย์ก็ไม่อาจจะหนีพ้นอายุไขที่จำกัดได้….


     

    ??? “ประธานนักเรียน…”


     

    ??? “สวัสดีค่ะคุณครู เจอกันอีกแล้วนะคะ”


     

    ??? “ก็นั่นสิครั้งแรกที่เราเจอกันเธอก็ไม่ยอมให้ฉันพูดเลย แล้วรอบนี่จะให้ฉันไปเป็นครูที่ไหนอีกล่ะ ?”


     

    ประธาน “หุๆ ไม่ใช่หรอกนะคะ ถ้าเกิดฉันยัดหน้าที่อะไรซักอย่างให้คุณไปอีก ตัวฉันเองก็คงไม่ต่างอะไรกับมารร้ายที่ไร้ซึ่งหัวใจหรอกนะคะ รอบนี่น่ะฉันมาเพื่อที่จะได้ขอบคุณค่ะ สำหรับทุกสิ่งที่คุณได้ช่วยเมืองนี้ไว้ ช่วยเหล่านักเรียนมากมายให้เติบโตมาเป็นผู้ใหญ่ที่ดี”


     

    “ทั้งหมดนั้นก็เป็นเพราะคุณครู ผู้ใหญ่คนเดียวที่ฉันไว้ใจ…”


     

    “น่าเสียดายจังที่พวกเราไม่ได้เจอกันให้มากกว่านี้”


     

    “ถ้าหากมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นอีกครั้งล่ะก็ ไว้พวกเรามาเจอกันใหม่นะคะ”


     

    “ลาก่อนนะคะแล้วก็ขอบคุณสำหรับทุกอย่างค่ะคุณครู”


     

    รถไฟได้เคลื่อนตัวออกจนเมืองใหญ่ได้ลับสายตากลายเป็นเพียงจุดเล็กๆจุดเดียวทามกลางแสงไฟมากมายที่สองสว่าจากในความมืด ร่างของเด็กสาวผมสีฟ้าที่เคยนั่งอยู่ฝังตรงข้างมก็ได้หายไปราวกับที่ผ่านมาเป็นเพียงภาพลวงตา…

     


     

    ตัวของคุณครูนั้นได้แอบใจหายพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ มันเป็นน้ำตาที่เต็มไปด้วยความตื้นตันเมื่อได้นึกย้อนถึงภาพของเด็กสาวที่ตนได้สั่งสอนนั้นเติบโตมาเป็นผู้ใหญ่ที่ยอดเยี่ยม ปนความเสียใจที่ตนไม่อาจจะอยู่กับพวกเธออีกแล้ว


     

    ??? “แก่จนป่านนี้แล้วก็ยังร้องไห้ออกมาเหมือนเด็กอีกนะตัวเรา…”


     

    ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะที่ตนนั้นได้เริ่มนึกย้อนกลับไปในวัยเด็กและอยากหวนกลับไปใช้ชีวิตแบบนั้น มันไม่อาจจะเป็นไปไม่ได้แล้วก็ตาม แต่คุณครูคนนี้ก็ยังคงฝันถึงการกลับไปใช่ชีวิตเช่นนั้น ยิ่งนานวันเข้าความคิดเช่นนี้ก็ยิ่งมากขึ้น เรื่อยๆ  ตั้งแค่เมื่อไหร่กันที่ภายในใจนั้นสวดอ้อนวอนต่อสิ่งที่ไม่มีอยู่จริงอย่างพระเจ้า ราวกับพวกงมงายที่เคยเป็นศัตรูกันเมื่อครั้งอดีต…


     

    ??? “เรายังใช้ชีวิตวัยรุ่นไม่คุ้มเลย…”


     

    สายลมนั้นได้พัดผ่านไปตามแรงจากรถไฟที่เคลื่อนไปข้างหน้าอย่างไร้จุดหมาย ราวกับความฝันแสนสงบอันไร้จุดสิ้นสุด มันถึงเวลาที่ต้องปล่อยวางได้แล้วคุณครูได้หลบตาลง เอนหลังลงบนเบาะที่นั่งอย่างช้าๆ และปล่อยตัวปล่อยใจของตนให้พักผ่อน 


     

    เสียงของรถไฟได้เคลื่อนตัวไปช้าๆ ก่อนจะเริ่มเบาลง เรื่อยๆ จนในที่สุด มันก็ได้เงียบลง ไปพร้อมกับท้องฟ้าไร้แสงจันทร์ที่มืดสนิท แสงไฟจากเมืองใหญ่นั้นก็ไกลเกินกว่าแสงนั้นจะส่งมาถึงแล้ว


     

    “ลาก่อนนะ ถ้าหากปาฏิหาริย์มีจริงล่ะก็ ไว้พวกเรามาเจอกันใหม่”


     


     

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น