Mysterious Diary of Death บันทึกลึกลับแห่งความตาย - นิยาย Mysterious Diary of Death บันทึกลึกลับแห่งความตาย : Dek-D.com - Writer
×

    Mysterious Diary of Death บันทึกลึกลับแห่งความตาย

    เมื่อเธอ ได้ค้นพบไดอารี่เก่าๆ ที่นำพาเธอไปสู่ความฉิบหาย เธอหลุดเข้าไปอีกมิติ เเละพัวพันกับเกมส์อันตราย เธอต้องดิ้นรน ถอดรหัสข้อความจากไดอารี่ที่เป็นทางรอดเดียวที่จะนำพาทุกคนรอดจากมิติเเห่งนี้

    ผู้เข้าชมรวม

    222

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    46

    ผู้เข้าชมรวม


    222

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    2
    หมวด :  แฟนตาซี
    จำนวนตอน :  9 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  29 ต.ค. 67 / 16:45 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    Mysterious Diary of Death

    บันทึกลึกลับแห่งความตาย

    ------------------------------------------

    นิยายเรื่องใหม่ของไรทอีกเเล้ว สงสัยสินะว่าไรท์ขยันเเต่ง ดองนิยายเก่ง อันนี้ไม่เถียงเพราะผมดอง555 เเต่งไม่จบสักที ชอบดองอ่ะ ขอโทษด้วยครับ55555 เรื่องนี้ไรท์ เรื่องนี้จะคร้ายๆกับเกมส์เอาชีวิตรอด นั่นเเหละเหมือน เดสบายเดร์*** (เซ็นเซอร์ ก่อนเขาไม่ได้จ่าย555)  เรามาอ่านนิยายเรื่องนี้ให้สนุกดันดีกว่า~~จุ๊บๆ รักนะทุกคน~

    ---------------------------------------------

    ท่ามกลางความปรารถนานับล้านดวง บนดวงดาวที่ไม่มีใครเอื้อมถึงมีอาณาจักรเเห่งนึงที่คอยมอบความหวังเเละความฝัน ดวงดาวเเห่งการขอพร เหล่าทวยเทพที่คอยให้คำขอพร กับผู้คน

    ทุกอย่างเริ่มต้นจากสิกิ เทพจ้าเเห่งดวงดาว ที่เบื่อเลยเริ่มที่จะหาทาง 'เล่นสนุก' จนคนที่ตกเป็นเหยื่อของการเล่นสนุกของเขานั่นก็คือ อีฟ พร้อมกับความปรารถนาที่จะ ออก ผญภัย แม้จะมีเจตนาอันบริสุทธ์ เเต่คำขอพรของเธอกลับกลายมาเป็นฝันร้าย เพราะพบว่าตัวเองติดอยู่ใน มิติแห่งความหายนะที่กฎของที่นั่นคือการเล่นเกมส์ ที่เป็นเกมส์มรณะ เหตุการณ์ที่นำพาเธอเเละคนอื่นๆ เเทบเหมือนตายทั้งเป็น

    อย่างไรก็ตาม ชะตากรรมของ อีฟ ต้องทนทุก ทรมารกับการเอาชีวิตให้รอดจากที่นี่ เเละหาทางถอดรหัดจากสมุดไดอารี่ เพื่อหาทางออกจากที่นี่ให้ได้ เเละเธอไม่ได้อยู่เพียงลำพัง  เธอต้องหาทางร่วมมือกับคนอื่นๆให้หนีรอดจากที่นี่ 

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    ‘ ทุกคนย่อมเกิดมาเเละมีความฝันและความหวัง ’

    ภายใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืนที่มีดวงดาวระยิบระยับนับล้านดวง พ่อคนหนึ่งยืนอุ้มลูกสาวไว้ในอ้อมแขนของเขา พวกเขายืนอยู่ด้วยกันในอ้อมกอดอันเงียบสงบในสวนของพวกเขา สถานที่แห่งความสงบท่ามกลางเมือง

    ขณะที่พวกเขาจ้องมองขึ้นไป ดวงตาของพวกเขาสว่างไสวด้วยความประหลาดใจ ดาวตกพุ่งผ่านท้องฟ้าพร้อมกับเปิด เสียงเพลง ด้วยเครื่องเล่นเพลงอันเล็กๆ ด้วยท่วงทำนองที่อ่อนโยน มือเล็กๆ ของลูกสาวของเขายื่นออกไปเพื่อจะคว้าดวงดาวเอาไว้ ทำเอาเขาขำออกมาเบาๆ ก่อนจะวางลูกสาวลง เเละจับมือของลูกสาวเเทน

    เหนือพวกเขา ท้องฟ้ายามค่ำคืนที่กว้างใหญ่ไพศาลแผ่ออกไปราวกับผ้าผืนใหญ่ที่วาดด้วยพู่กันอันละเอียดอ่อนของดวงดาวจำนวนนับไม่ถ้วน อากาศเย็นและสดชื่น เต็มไปด้วยกลิ่นหอมจาง ๆ ของดอกไม้บานและเสียงจิ้งหรีดที่ห่างไกล

    ในช่วงเวลาชั่วขณะนั้น เวลาดูเหมือนจะหยุดนิ่งเมื่อพ่อและลูกสาวได้แบ่งปันความผูกพันที่ถูกสร้างขึ้นในความงามเหนือกาลเวลาของจักรวาล มันเป็นเหมือนเวทมนตร์อันบริสุทธิ์ ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ถึงพลังแห่งความรักและความผูกพันที่ยั่งยืน

    และในขณะที่ดาวตกหายตัวไปในห้วงลึกของราตรี โดยทิ้งร่องรอยของละอองดาวไว้เบื้องหลัง ผู้เป็นพ่อก็กอดลูกสาวแน่นขึ้นอีกเล็กน้อย เพื่อดื่มด่ำกับความล้ำค่าของช่วงเวลานั้น เพราะท่ามกลางความเงียบสงัดของสวน ท่ามกลางเสียงเพบวที่ดังคลอเบาๆ พวกเขาพบความปลอบใจและความสุขในอ้อมกอดของกันและกัน

    ระหว่างนั้นเขากันหัวนมากระซิบด้ววความเเผ่วเบาเหมือนจะพูดกับใครบางคน...

    " คุณพร้อมที่จะ ขอพร ที่มาจากใจของคุณเเล้วหรือยัง? ท่าพร้อมเเล้ว ก็พลิกหน้ากระดาษ เลยสิ ขอให้โชคดีกับ การขอพร กับดวงดาวนะ"

    ชายคนนึงพูดออกมาก่อนจะยิ้มพร้อมกับยืนภายใต้เเสดงจันทน์ พร้อมกับกุมมือลูกสาวเอาไว้ ก่อนที่ลูกสาวขิงเขาจะชี้มือไปข้างหน้า ชี้ขึ้นไปบทน้องฟ้าที่มีดวงดาวส่องเเสง 

    "พ่อค่ะ นั่นดาวตก!"

    เด็กสาวพูดพร้อมยิ้มอย่างสดใส กอดเเขนพ่อเอาไว้ ชายคนนั้นเมื่อได้ยินสิ่งที่เด็กสาวพูเก็ยิ้มออกมา

    " ลูกลองขอพรดูสิ"

    ชายคนนั้นก็ยิ้มก่อนจะเอ่ยเเนะนำให้กับลูกสาวคนเดียวของเขาออกไป ก่อนจะลูบหัวของเธอเบาๆอย่างอ่อนโยนก่อนจะวางโคมไฟเอาไว้

    "ได้เลยค่ะ! หนูชอให้หนูนั้น...ได้ผญภัย!"

    ท่ามกลางแสงที่จางหายไปในยามพลบค่ำ เขาและลูกสาวของเขา ตัวของ อีฟยืนอยู่ข้างถนน ใบหน้าของพวกเขาสว่างไสวด้วยแสงอันนุ่มนวลของไฟ ข้างทาง พวกเขาใช้เวลาทั้งคืนมาดู ดวงดาว ดื่มด่ำกับความงามของธรรมชาติ

    ขณะที่พวกเขาเตรียมออกเดินทาง ดวงตาของอีฟเป็นประกายด้วยความตื่นเต้นขณะที่เธอจับมือพ่อของเธอไว้แน่น 

    ด้วยความปรารถนาที่ส่งออกไปในตอนกลางคืนเขา และ อีฟ จึงปีนขึ้นไปบนรถ เครื่องยนต์ส่งเสียงฮึดฮัดเบาๆ เมื่อพวกเขาเริ่มเดินทางกลับบ้าน อาก

    ปริ๊ยนนนนนนนนนนน!!!

    แต่ขณะที่พวกเขาเดินไปตามถนนในชนบทที่คดเคี้ยว อันเงียบสงบของพวกเขาก็พังทลายลงด้วยเสียงแตรของรถพ่วงที่วิ่งมา ในเสี้ยววินาที ก็เกิดเสียง โลหะชนกับโลหะ เสียงกระแทกดังกึกก้องสะท้อนผ่านความเงียบสงัดในยามค่ำคืน

    เมื่อ เขาก็พบว่าตัวเองติดอยู่ท่ามกลางซากรถที่บิดเบี้ยว ความเจ็บปวดแล่นผ่านร่างกายราวกับเศษกระจก ความตื่นตระหนกของเขาในขณะที่เขาค้นหา อีฟ อย่างบ้าคลั่ง จิตใจของเขาหมกมุ่นอยู่กับความกลัว ....กลัวที่จะเสียลูกสาวของเขาไป

    จากนั้น ท่ามกลางซากปรักหักพัง เขาเห็นเธอ—ลูกสาวคนสำคัญของเขา นอนนิ่งไม่ไหวติงและซีดเซียว ร่างเล็ก ๆ ของเธอประคองอยู่ในซากปรักหักพังราวกับตุ๊กตาที่แตกหัก เขาน้ำตาไหลขณะที่เขาเอื้อมมือไปหาเธอ เสียงของเขาสั่นด้วยความปวดร้าวเมื่อเขาเรียกชื่อเธอ

    แต่ไม่มีการตอบสนอง มีเพียงความเงียบน่าขนลุกในยามค่ำคืนที่ปิดล้อมพวกเขาไว้ราวกับผ้าห่อศพที่หายใจไม่ออก ในช่วงเวลาแห่งความสิ้นหวังนั้น เขาจึงเข้าไปหาลูกสาวด้วยความทะลักทุเลก่อนจะกอดเธอเอาไว้เพือป้องกัน ไม่ให้เธอได้รับอันตารายมากกว่านี้

    ในขณะที่เขาดึงร่างที่อ่อนแอของเธอมาไว้ในอ้อมแขนของเขา เขาก็รู้สึกไท่ดีเเละหลัยตาลงกอดลูกสาวเอาไว้

    เขาก็อยู่เเบบนั้นทั้งคืนทนกับควาทร้อนของไฟ...รถที่ปกคลุมพวกเขา ไม่นานที่ไฟสงบลงพร้อมกับพวกเขา ผ่านคืนที่มืดมนที่สุดและไปสู่แสงสว่างของวันใหม่ ....

    เเต่เเลกมาด้วยลมหายใจสุดท้ายของเขาด้วยเช่นกันคำขอสุดท้ายที่เขายังไม่ได้ขอ....

    ‘ขอให้ ลูกใช่ชีวิตเเทนในส่วนของพ่อและขอให้ลูกมีความสุข พ่อจะอยู่เคียงข้างลูกเสมอนะ’

    ------------------------------------

    ภายในทั้งห้อง ได้มีร่างนักเขียนที่เขียนนิยายของตัวเองอย่างมันใจ เธอรวมผมสีดำเอาไว้  กำลังตั้งใจนิยายที่ยังเขียนไม่เสร็จ เธอสวมเหมือนเสื้อคลุมหนาๆเพื่อกันควาทหนาวเย็น

    เเอ๊ดดดด

    เธอเงินหน้าขึ้นมามองผู้คนหลายคนที่เจ้าในในห้องขอวเธอ เธอยิ้มออกมาอย่างสดใสเมื่อเห็นพวกเขา ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยรอยยิ้ม พวดเขาคือนักอ่านที่เข้าในอ่านนิยายเรื่องนี้ ผู้รับชม จินตนาการของเธอ

    ขณะที่พวกเขาเดินรอบๆ ห้อง สายตาของพวกเขาก็มาสบตา กับเธอ เธอก็ทักทายพวกเขา ให้พวกเขาเข้าในในที่ของเธออย่างเป็นมิตร ขณะที่ผู้มาเยี่ยมเริ่มทยอยเข้ามาในห้อง พวกเขาเข้าสู่อาณาจักรแห่งนวนิยายที่ยังเขียนไม่เสร็จ กระตือรือร้นที่จะค้นพบเรื่องราวที่มาจากจินตนาการของผู้เขียน

    ด้วยการทักทายอันอบอุ่น เธอต้อนรับผู้มาใหม่แต่ละคน รอยยิ้มของเธอเริ่มจริงใจมากขึ้นทุกครั้ง “ไม่เป็นไร” เธอพูด น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความสุข "ขอบคุณที่อ่านนวนิยายเรื่องนี้!"

    ขณะที่ผู้มาเยือนอ่านต้นฉบับที่ยังเขียนไม่เสร็จซึ่งกระจัดกระจายอยู่ทั่วห้อง หญิงสาวก็เข้ามาหาพวกเขาด้วยรอยยิ้มที่สดใส  “อย่าลังเลที่จะสอบถามเกี่ยวกับเรื่องราวในนิยานเรื่องนี้ ” เธอกล่าว คำพูดของเธอเต็มไปด้วยความกระตือรือร้นอย่างแท้จริงที่จะเชื่อมต่อกับผู้ชมของเธอ “หรือจะให้คำแนะนำก็ได้ แต่กรุณาอย่าใช้คำหยาบคายหรือคำสาปแช่ง”

    ด้วยเหตุนี้ เธอก็กลับมานั่งที่โต๊ะ นิ้วของเธอชี้ไปที่คีย์บอร์ดขณะที่เธอเตรียมที่จะดำดิ่งสู่โลกแห่งนิยายของเธออีกครั้ง

    นิ้วของนักเขียนเต้นไปบนคีย์บอร์ด เสียงฮัมอันแผ่วเบาของคอมพิวเตอร์ดังไปทั่วทั้งห้องพร้อมข้อความที่ไหลบนหน้าจอ หลงไปกับจังหวะความคิดของเธอ เธอแทบจะไม่สังเกตเห็นการกะพริบเล็กๆ น้อยๆ ของจอภาพ ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนจางๆ 

    แต่ในขณะที่เธอยังคงพิมพ์ต่อไป เมื่อเขียนเสร็จเธอก็หยุดพิมพ์....ก่อนจะวางมือลงจากเป็นพิมพ์ โดยมีข้อความ ที่มีตัวอักษรสีแดงตัวหนา คำเตือนวาบไปทั่วจอภาพ 

    [ เตือนเนื้อหา : มีความพยายามในการฆ่าตัวตาย ,การสูญเสียเสียอวัยวะ , มีเลือด เศษเนื้อ นํ้าหนอง เเละการกระชากใส่ , มีการใช้ความรุนเเรงรูปเเบบต่างๆ, การกินเนื้อเผ่าพันธุ์เดียวกัน , มีอาการทางจิต, มีการสูญเสีย ,มีความเชื่อสิ่งเหนือธรรมชาติ ,เนื้อหามีคำหยาบคาาย , ฆ่าตัวตาย , โลกเหนือธรรมชาติ มีการทารุณกรรม]

    "การเตือนในส่วนของเนื้อหาที่ มีความละเอียดอ่อน ซึ่งอาจกระตุ้นให้นักอ่านบางคนที่มีประสบการณ์ไท่ดีอาจจะไปดระตุ้นเเผลใจของพวกเขา"

    เธอหันมาบอกก่อนจะกลับมาบ กก่อนจะหันมาพิมพ์เป็นพิมพ์ที่คอมตามเดิม

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น