พบรักธารน้ำตก
บัณฑิตหนุ่มจากรั้วมหาลัยชื่อดัง เสรีภาพทุกตารางนิ้ว บัณฑิตอาสาสมัคร รุ่นบุกเบิก ของอธิการบดี ที่มีรูปั้นกลางลานโพธิ์ ที่ทุกคนรักคิดถึง ติดตามดู ความรักสาวชาวดอยกัน เชิญ...
ผู้เข้าชมรวม
197
ผู้เข้าชมเดือนนี้
4
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
น้ำตกจากผาไหลลงสู่ที่ต่ำ กระทบก้อนหิน เสียงดังซัดซ่า… ฟองน้ำแตกกระจาย ละอองน้ำลอยผ่านตามแรงลม อุณหภูมิต่ำทำให้คลายร้อนผืนดินอุ้มน้ำ หล่อเลี้ยงทุกชีวิตแต่อนิจจา……
บัณฑิตหนุ่มสละความสุข ที่โลดแล่นในเมืองหลวง ตั้งแต่เกิดจนถึงวัยศึกษาเข้าสู่ปีสุดท้าย ในนามปัญญาชน ทิ้งทุกอย่างไว้ด้านหลัง มุ่งสู่ชนบทที่กันดารที่สุด เทือกเขารอยต่อสามจังหวัด ขุนเขาสูงตระหง่านจิตใจไม่เคยย่อท้อ วันแล้ววันเล่าซึมซับกลิ่นอายชนบทท่ามกลางสายลมพัดโชยตลอดเวลา ดนตรีขับกล่อมชวนเพลินที่สุด คือ เสียงเสียดสีของใบไม้ กลมกลืนกับเสียงน้ำตกตาดฟ้า กระทบก้อนหินซัดซ่า …ก้องหู เสียงหวีดของลมบน กลมกลืนดัง
โน๊ตดนตรีให้จังหวะ ลานหินกลางลำธาร นกน้อยใหญ่โชว์ลีลาเริงระบำ นำสู่จิตสงบ
“ ครู … นั่งอยู่คนเดียวไม่เหงาหรือจ๊ะ ” ส่งรอยยิ้มสาวไพรให้ใจมันฟู
ซิวหันมามองตามเสียงนั้น ใจสั่นไม่เคยได้ยินวจีที่รื่นหู
“ ขอเป็นเพื่อนคุยคงไม่ทำให้ใจหมอง ”
“ เชิญน้องจอมใจ ด้วยจิตคารวะครับผม ”
ซิวปรับจิตรองรับมิตรภาพที่ …ที่หายากยิ่ง
“ ครู ไม่เคยสนใจใครนอกจากนักเรียน ชาวดอยมานานเกือบปีแล้วนะ จอมรู้ว่าเหงาไม่กวนใจเจ้าหรอกจ้า ” ถ้อยคำหวานแผ่วเบาตามจริตหญิงชาวเขา
“ จอมมาจากหาของป่า พบโดยบังเอิน ลบกวน ผิดใจ ขอโทษด้วย สงสารที่มาอยู่บนภูเขาคงลำบาก ”
“ ต้องทนครับ สมัครใจมา ไม่ทราบว่าตาดฟ้าอยู่บนเขา ชื่อดีคิดว่าอยู่พื้นที่ราบ”
“ ชื่อเพราะคะแต่แหลมคมทุกคนที่ขึ้นมาไม่อยากจะลงจากเขา”
“ เหตุผลอากาสดี มีน้ำตก นกหนาแน่นหายากแต่แฟนจ้า” สาวเจ้าพูดแล้วแต่เอียงอาย "
ชำเรืองดูการตอบรับ กำลังออกรส เสียงเรียกหาเข้ามาใกล้….
“ ผี้ง ” ..เสียงประสานพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย หัวเราะ ชวนฟัง สองสาวกอดกันดีใจ
“ แบ่งปันคงดีนะครับ” อารมณ์คนกรุง จอมใจแอ่นอกใส่ ผึ้ง สบตาหวานตามมายาหญิง
“ หนึ่งชายสองหญิงผิดตำรา”
“ ก็เลือกเอาซิจ๊ะ ” ซิวรับมุขไม่ทัน
“ มิบังอาจ”
“ ถ้าหากโลกนี้แตก ให้เลือกหญิงสองคนจะเลือกใคร? ” ผึ้งเข้าแทรก
“ พูดโดยไม่คิด ขอทั้งสองคนครับ” ซิวฝ่าด่านออกได้ “ ลงเล่นน้ำกันเถอะครู ตะวันลับไปจะหนาวไม่ได้อาบน้ำกัน”
“ ไม่เอาอายสาว”…
“ กลัวทำไม? ไม่กอดหรอกค่ะ”
สาวเจ้าในชุดผ้าถุงนุ่งกระโจมอก ผิวเนียน ขาวเหมือนปุยยุ่น ทั้งร่าง นิ้วเรียวงาม ผมยาวปลิวตามแรงเหวี่ยงเมื่อแหวกว่ายคงต้องการให้พบเจอ เรือนกายสาวไพร ไม่แพ้สาวกรุงเทพฯ ซิวไม่กล้ามองใช้มือปิดหน้า นั่งสมาธิคอย หลับตาเหมือนฤษี บำเพ็ญเพียร
“ ครู ”…ผึ้งกระตุกแขน
“ ครู หยอกเล่นหรอกน่า อย่าเป็นจริง ”
“ คืนนี้ ครูพราน ขอให้ไปทำกับข้าวกินกันที่บ้าน”
ซิวถอนใจเหงื่อตกไม่ทันมุขสองสาว ทั้สามเดินทางกลับ….
ถึงจุดชมวิว ดูพระอาทิตย์ตกดิน สองสาวจูงมือครูไปที่ลานหิน
“ เงาะมาตั้งแต่เมื่อไร?” สองสาวดีใจที่พบเพื่อนร่วมงานเยาวชนอีกคน เคยเรียนชั้นมัธยมที่โรงเรียนหล่มสัก มาแล้วจนจบสามสาวหนึ่งหนุ่มเกาะกลุ่มตามทางรอยเท้าคน เดินป่าลัดเลาะ ตามริมฝั่งธารน้ำตก ฝูงนกไพร เล่นอาบน้ำ
ตามลานหินบินอวดโฉมเคียงคู่ สบัดปีกไซ้ขนให้กัน
“ ครู..ดูนกมันซี ยังหาคู่คูรัก ทำไม? ไม่หาหละคะ” ผึ้งสวมวิญญาณหยอกครู ซิว ม้วนอายสามสาวฟาดลวดลายเหนือชั้น……
“ อย่าทะเล้นเจ้าจอมแก่น”ผึ้งห่วงซิวจะเขินอาย
“ อาหารเย็นนี้ ต้องการเมนูอะไร? จ๊ะ” จอมเอ่ยคำ
" อะไร ก็ได้ ครับขอเป็นฝีมือสามสาวจะกินไม่ให้เหลือแม้แต่ถ้วยชาม
“ ลีลาไม่เบานะครู” ผึ้งให้กำลังใจ
“ พวกเราขอเป็นเพื่อนใจ เป็นน้องสาวก็พอ ไม่บังอาจเอื้อมหรอกจ้า”
“ รู้ตัวดีหยิกแกมหยอกเอง”….ซิวหน้าแดงเมื่อสามสาวรุมหนึ่ง แรงปะทะเป็นรองอยู่แล้ว สามสาวถึงบ้านครู….
" กลุ่มเยาวชน รอครบทีม มีอะไร? หรือพ่อ "
ผึ้งถามครูพราน หารู้ไม่ว่าเป็นแผนรักษาความปลอดภัย ให้ครู ซิว ในการเข้าใจผิดจากชาวดอย
สักพักมือร้อยศพ แบกถุงปุ๋ยมาทิ้งลงให้ ภายในนกทุกชนิดวางเรียงราย ชาวเยาวชนช่วยกันจัดการถอนขนตามความชำนาญ ผ่านการย่างไฟกลิ่นหอมชวนชิม
อาหารเย็นเริ่มขึ้น มี อุ สาโท ย้อมใจในการเจริญอาหาร สักพักแม่บ้านครูพรานนำขันดอกไม้ พร้อมฝ้ายผูกข้อมือมาให้…
“ ขอโทษนะลูกหลาน วันนี้พ่อครูจะพาทำพิธีผูกแขนให้ครูซิว ขอเป็นพี่เป็นน้องรักกัน เสมือนออกมาจากท้องเดียวกัน เราจะมีพี่ชายที่น่ารักจากกรุงเทพฯ คอยช่วยเหลืออำนวยความสะดวก ขอให้ทุกคนทำจิตให้เป็นกุศล อำนวยพรซึ่งกันและกัน ดำเนินการได้”
" ศรี ศรี สิทธิพระพร ……..ว่า มาเย้อ ขัวญเอ้ย ……อายุ วัณโณ สุขัง พลัง ( สำนวนอีสาน )
สิ้นสุดเนื้อหานำพร ผ่านฝ้ายผูกแขนครู ซิว พรที่ให้เป็นความรู้สึกดีของชาวไพร น้ำตา ซิว เอ่อออกมาโดยมีสามสาวคอยเช็ดน้ำตา
“ ขอขอบคุณ จอม ผึ้ง เงาะ หัวหน้าเยาวชน ที่ให้กำลังใจ ดูแล ความเป็นกันเองมาตลอด ครึ่งปีแล้วขอหลั่งน้ำตาให้ความจงรักภ้กดี เสมอต้นเสมอปลาย ขอฝากชีวิตไว้ในอ้อมอกด้วย ต่อไปนี้ กำลังใจในการสอนเด็ก คงไม่เหงาอีก ” เสียง ซิว สั่นเครือ สัมผัสได้
“ นึกว่าจะเอาพวกหนูเป็นแฟน ฝังใจมานาน ” เงาะสวนกลับสร้างอารมณ์ร่วมในพิธีการ เป็นมรดกอีสานที่ครูพรานถ่ายทอด
“ เอาหละ วันหยุดยาว จะพาไปเที่ยงกรุงฯกัน ขอให้ทุกคนรักกัน ปกป้องตาดฟ้าต่อไป ”
“ อยากรู้เหลือเกินคนที่ครูจะเลือกมีคุณสมบัติใด ” จอมใจเอ่ยคำถาม
“ ก็ สวยก๋ากั่นเหมือนฉันนี่แหละ ”
“ ไม่หรอกต้องเหมือนฉัน” เงาะกับผึ้งสร้างรอยยิ้มในการสนทนา
“ คืนนี้เรานอนรวมกลุ่มทดสอบคำสัญญา ”
ผึ้งวางก้อนหินขวางทาง หนุ่ม หนุ่ม ที่ฉวยโอกาสแต๊ะอั๋ง …
เที่ยงคืน เขยครูพรานแบก เก้ง มาจากการดักยิง ที่ต้นมะขามป้อม สมุนไพร ที่มีคุณสมบัติมากมาย ทิ้งลงข้างกองไฟ หนุ่มสาวมีงานทำต่อ …..
“ พวกเราจัดทำ แหนม เนื้อตากแห้ง เป็นของฝากคุณพ่อครู เนื้อ นก ย่าง น้ำผึ้งป่า ติดรถไปคารวะท่าน”
“ ขอบคุณครับ พ่อคงดีใจ ได้ของฝากที่ไม่เคยพบ”
กว่าทุกอย่างจะสำเร็จ ก็เกือบรุ่งสาง ธรรมชาติชาวไพรเค้าใจสู้
วันหยุดยาวติดต่อกัน ครูพรานนำเยาวชนสาวเข้ากรุงฯตามสัญญาใจ บัณฑิตหนุ่มนำคณะเข้าบ้านพัก
“ สวัสดีค่ะ ” สามสาวแนะนำตัว
“ ผมครูพราน ที่ดูแลครูซิวครับ นำเด็กมาชมกรุงเทพฯกัน เขาเรียนรู้ ผ่านวิชาสังคม นำเขาชมความเป็นจริง”
“ ยินดีครับ ซิวส่งข้อมูลมาทางจดหมายเล่าเรื่องราวของท่านทราบแล้ว ”
“ รวย นะคะ น่าเป็น….” เงาะจอมแก่นเหมือนเดิม …555
“ ชอบ ชอบ จริงใจดีนะลูก ” ชายสูงวัยตอบรับความทะเล้นสาวชาวไพร พักผ่อนกันเดินทางเหนื่อย
หลังสามสาวเข้าพัก ผู้ใหญ่เสวนากันเหตุการณ์ บ้านเมือง การทำมาหากิน ถึงทราบว่าครู ซิว มีฐานะดีมาก มีกิจการ ถือหุ้นส่วนบริษัทหลายที่ สามารถมีตำแหน่งงานให้สามสาวได้สบาย….
เช้าวันใหม่ สาวเจ้าตื่นนอนเสร็จกิจ ส่วนตัวเข้าไปอ้อนขอ ให้ครูนำเที่ยวจากคุณพ่อ
“ คุณพ่อ ขอครูพาพาชมกรุงฯนะคะ”
“ เป็นแผนพ่อ อยู่ในใจแล้วลูก พากันดูแลเป็นเพื่อนซิว เก็บเกี่ยวความสุขตามสบาย อยากไปที่ไหน? บอกครูเขานะลูก ”
ฝ่ามือลูบหัวทุกคน ด้วยความเอนดู สายตาส่งพลังงานบวกตลอด
“ ซิว จะพาน้องไปเที่ยวที่ไหน? ตามสบายนะลูก พ่อครูจะไปเที่ยวกับเด็ก ..? ”
“ ไม่หรอกครับ ผมมาบ่อยปล่อยเขาไปอิสระเสรี”
“ ดีครับอยากฟังเรื่องราวบนภูเขา ”
ซิว นำท่องกรุงฯด้วยรถส่วนตัว ไปแห่งแรกที่วัดพระแก้ว สามสาวขอไว้ ศรัทธามาตลอด
“ อยากไปวัดทำไม? ” ซิว ถามหยั่งเชิง
“ เข้าวัดก็ขอพรแหละครู” ผึ้งสวนขึ้น
“ ไปวัดได้บุญ ” เงาะเสริม
“ ไปที่อื่นหละ ” จอมเอ่ยบ้าง
“ ก็ เสียตัวซิจ๊ะ เราเคยฟังเพลงสาวบ้านามิใช่หรือ ” จอม เจ้าหลักการ งัดไม้เด็ด
ซิว นำรถไปจอดไว้ที่จอด นำสามสาวเข้าสู่ประตูวัด พื้นที่เป็นศูนย์รวมพลังงานบวก ที่ พรหมสี่หน้าองค์มีพลานุภาพสูง สถิตย์จิตสงบเยือกเย็น คนทุกเชื้อชาติ หมุนเวียนชมความสวยงามตามที่ติดตามทางทีวี ซิว นำเข้าขอพร สามสาวนั่งที่มุมสมควร กราบพระด้วยจิตเคารพ คนดอยเขาชอบทำทานทำบุญ วันพระจะหยุด ทุกอย่าง การงาน เจริญภาวนา ฝึกจิต จนเป็นวัฒนธรรมสืบสานกันมา สามสาวนั่งสมาธิสงบนิ่ง สายตาของคนต่างชาติ มองดูสาวชาวดอย วัยแรกแย้มทำไม? น่ารักแต่งกายเรียบร้อยตามวัยสวยธรรมชาติ ไม่เติมแต่งใด ๆ เป็นธรรมชาติ ซิวเองชื่นชมอยู่ห่าง ๆ สาวเจ้าอิ่มเอม กับสมาธิจิตสงบ ก้มลงกราบแล้วออกจากประตูอุโบสถ เดินชมจนอิ่มใจ ถอนตัวออกจากประตู พบทหารยืนที่ซุ้ม นิ่งเสมือนหุ่น สาวเจ้าจ้องมอง
“ ยิ้มซิจ๊ะ น่ารักออกยืนเป็นหุ่นอยู่ได้ ” ผึ้งยังทะเล้นเก็บอาการไม่อยู่
“ บ้า.. พึ่งออกจากวัด ” เงาะสวนกับ
“ เออ น่า … ไปต่อ ครูทำหน้าที่”
อยากไปไหน? ครู ซิว ตามใจน้องสาวทดแทนจิตที่งดงามของสาวดอย เวลาแต่ละชั่วโมงรวดเร็ว เย็นแล้ว ผ่านโรงแรมห้าดาว
“ ครู ครู พาเข้าไปหน่อย ” กัดฟันพูดของเจ้าผึ้ง
“ สนับสนุน ” เงาะฟันธง
“ 555 ” กลุ่มสัมพันธ์ บนรถ กลับเข้าบ้านปลอดภัย
“ขอพรอะไร?ลูก ” พ่อซิวถาม
“ หนูขอให้ชีวิตนี้พบแต่ความดีงามพ่อ ” วจีเงาะ
“ หนูขอให้ตาดฟ้า มีแต่คนดี มีน้ำใจตลอดไป”
ผึ้งมองตาพ่อ
“หนูขอให้พบคนดีอย่างครู ซิว จ้า ”
รอยยิ้ม ของสองพ่อ อิ่มใจกับความรู้สึกดี ของลูก เพื่อน ซิว พึงพอใจ
“ขากลับ ซิว จัด ของฝากให้น้องเต็มที่ น้องขาดอะไร? จัดให้นะลูก ”
ก่อนกลับดอย ซิว นำน้องเที่ยวห้างดัง เสื้อผ้าสวยตามใจชอบมอบให้เป็นของขัวญ ของที่ระลึก ให้สามสาว
คืนวันผ่านไป การเดินทางกลับ รถบริษัท ซิว ทำหน้าที่ยานพาหนะ
“ เงาะ เราฝันเห็น ฤษีที่ถ้ำเหนือน้ำตก ทั้งสองคืน ” จอมเอื้อนเอ่ย
“เช่นกันเพื่อน ” เงาะเอาบ้าง
“ ฉันก็เหมือนกัน” ผึ้งเสริม มองหน้ากันไปมา
“ ท่านคงไม่ไว้ใจครูกระมัง ” ครูซิวร่วมวงสนทนา
“ ครูคะ .. ครบสองปี ครูกลับ ขอทำงานที่บริษัทได้นะคะ”
“ ยินดีครับ ยินดี จะได้หายคิดถึงน้อง ๆ ไง ครับ"
“ ไม่อยากเจองานแต่ง ” จอมเอาบ้าง
“ ก็ดี ซิจ๊ะ จะได้เจอให้รู้แล้วรู้รอด " ผึ้งนำเสนอ
“ นั่นไงเราว่าแล้ว” เงาะรำพันเบา ๆ
“ เอาไว้ถึงวันนั้นก่อนน้องค่อยว่ากัน ” ซิว ตัดบท
“ เตรียมเอาแรงไว้ขึ้นเขาดีกว่า ” ซิว หนีจากบทสนทนา รถส่งถึงชายภูเขา ขอตัวกลับกรุงเทพฯ
ปีนเขาอีกครั้ง “ เสียงจั๊กจั่นเรไร เสียงนกทักทาย ชนีโหย ลิงกระโดด ไม่อยู่ในอารมณ์ เพื่อน ”
ผึ้งชวนสนทนาต่อ
“ ทำไม? ” เงาะเอะใจ
“ คิดถึงกรุงเทพฯยังเที่ยวไม่อิ่มเลย ” ผึ้งตัดพ้อ
“ เอาไว้โอกาสหน้า ” ครูพรานสำทับ
ถึงบ้านสามสาวมีของฝากให้พ่อแม่ทุกคน สารข้อมูลครู ซิว ถูกถ่ายทอด จากหัวหน้าเยาวชน ทุกคนรับทราบ ยิ่งเพิ่มความรักความไว้วางใจให้ชาวดอย ส่งอาหารการกินไม่ขาด กำลังใจทำให้ครู ซิว ยืนหยัดอยู่ได้ ด้วยอานุภาพแห่งความรัก
วันพระใหญ่มาถึง สามสาวชวนครูไปทำบุญ ที่ถ้ำฤษี มีพระมาปักกดอยู่ เตรียมอาหารคาวหวานเดินทางสู่ถ้ำ พอถึงตกตะลึง พระที่ผู้เขียนเคยพบบนภูหลวงนั่นเอง ก้มลงกราบ
“ หมอมาที่นี่ ”
“ นำยารักษาหายขาดมาให้ผู้ป่วยครับ ”
“ เป็นไงไปเที่ยวกรุงเทพฯ โยม ”
“ ดีไปอย่าง แต่มันน่ากลัวสิ่งบำเรอมีมาก ทำให้หลงได้ ” จอมแน่วแน่สนทนา
“ ไม่เป็นไร สำคัญที่จิต มันร่องลอยไปก็มาที่ลมหายใจ ดังที่เคยปฏิบัติ”
สนทนาธรรม ออกรส ตามลำดับ จอมใจเหงาเก็บซ่อนไว้ไม่มิด เงาะรอจับผิดอยู่แล้ว …
“ แกคิดอะไร อยู่จอม ”
“ คิดถึงแรงอธิษฐาน ”
“ ว่าไง? โยม ” พระขอความเห็น
“ อยากหนีความวุ่นวายค่ะ หนุ่ม ๆ ชาวบ้านชวนพูดชวนคุย จีบโน่นนี่นั่น รำคาญ แต่ต้องทน กลัวภัยมืด ”
“ ลูกอย่าให้ท้ายเขาซี ” พระท่านบอกทาง
“ ตั้งแต่ครู ซิว เข้ามา พ่อครูพรานผูกข้อต่อแขนให้เป็นพี่น้องกันเบาบางลงในเรื่องนี้ แต่ก็มีหนุ่มบ้านอื่นรบกวน ”
พระหลับตานิ่งเสมือนนั่งทางใน มองตาดูหน้าด้วยแววตาพลังงานสูง ส่งกระแสจิตให้จอม รับรู้นิ่งชั่วครู่
“ ลูก หนูเป็นคนมีจิตดีจากสายเลือด กรรมดีของพ่อแม่ในสายบุญ คุ้มครองหนูอยู่ คลื่นพลังงานนั้นเอง ทำให้คนเห็นคนรัก เมตตา ”
พระ ชี้ทางให้จิตที่กำลังต่อสู้อารมณ์ แปรปวน
“ หนูอยากไปทำงานที่กรุงเทพฯ จะได้ไปหรือเปล่าหนอ ”
ผึ้งถามแทนเพื่อน พระท่านทำหน้าที่ถ่ายทอดจิต วิทยาธรรม แรงอธิษฐานจากองค์ฌานทำนายว่า…
“ พรสวรรค์มีมาแต่กำเนิด คิดดี ทำดี จะแสวงหาอะไรจะสมหวัง ”
“ แต่มีอีกคนจะมุ่งสู่ทางอื่น ”
พระทิ้งปริศนา เอาไว้ ให้พรขอตัวจำวัด หนุ่มสาวหันหลังกลับบ้าน ที่ทำไร่ของสามสาวอยู่ติดกับบริเวณนั่นเอง ครู ซิว ขอเข้าไปศึกษาหาข้อมูลพืชไร่ ที่ทำกินรวบรวมสารนิพนธ์ บริเวณทำกินสามสาวขอบเขตติดต่อกัน
“ มิน่าหละ สามสาวสนิทสนมกันมาก ”
ครู ซิว หลุดคำรำพันที่เก็บซ่อนไว้มานานเขาสามคนมีอะไรเหมือนกันมาก พืชไร่ เจริญเติบโต ข้าวโพด ลูกเดือย เขียวขจี ฟักแฟง แตงไทย เต็มพื้นที่ ยอดฟักทองอวบใบสวย
“ ครู ขอบคุณครับที่กรุณาเด็กมัน เมื่อเขาเล่าให้ฟัง มีความหวังมาก มองเห็นแสงสว่างทางชีวิต อยากให้ลูกมีที่พึ่ง มีงานทำ เป็นหลักแหล่ง พ่อแม่ส่งเรียนได้เท่าที่ทราบ กราบขอบพระคุณครูมาก ”
สามสาวย่างเนื้อเก้งตากแห้ง นกที่โดนกับดัก หอมฟุ้งตามลมโชย ภูเขามีสายลมอ่อนตลอดวัน ความชื้นจากไอน้ำตกให้ความเย็นสม่ำเสมอ อากาสสดชื่น เมื่อความสมบูรณ์ทำให้พืชไร่งามตา …." มองอะไร ? …ทำไม? ใจลอย"
เงาะแซวด้วยเสียงเพลงกระแซะเพื่อน ในขณะที่จอมใจ เหม่อมองสายน้ำไหล …
“ ชีวิตเราก็เหมือนสายน้ำนั่นเอง”
“ ไปบวชชีเพื่อน” เงาะเอาบ้าง
“ คอยดู ” จอมฝากคำทิ้งทวน
“ ครูว่าเราทานข้าวกันดีกว่าครับ”
" รับรองทุกคนมีงานทำแน่ หุ้นส่วนบริษัทให้ความหวัง
“ รักษาเนื้อ รักษาตัว อย่าตกหลุมรักหนุ่ม ๆ ก็แล้วกัน ”
“ ทำไม? ครู ”
“ นั่นแหละคือ กำแพงกั้น มีรักมีทุกข์ ไปไหนไม่ได้ ”ครูให้ความหมายนิยามชีวิต ครู ซิว เก็บเกี่ยวผ่านอ่าวอารมณ์ ความรู้สึกเต็มที่ หลังสามสาวขอตัวไปทำงาน นอนทอดอารมณ์ ไปตามสีเขียวของเทือกภูเขา เพชรบูรณ์ ภูเปลือย หลังเขาที่ขวางกั้นทางลง เสียงนกโพระดก เป็นจังหวะ เป็นโน๊ตดนตรี นกเขาคูหารักไม่ขาดสาย เคลิ้มหลับ
“ เจ้าหนูรู้ตัวนะว่าเราบำเพ็ญบุญ"
“ ไม่มีใครรังแก ตาดูอยู่ จิตบริสุทธิ์ให้เข้าใจว่า บุญนำพา ให้มาหนุนส่งชาวไร่ ชดเชยชาติที่แล้ว ”
“ มีหรือตา ”
“ ไม่เชื่อก็อย่าลหลู่ ลูก ”
“ ตามาจากไหน? ” ซิวถาม
“ ในถ้ำนี้เองลูก ”
“ ตื่น ตื่น ครูคุยกับใครเป็นตุเป็นตะ ” ผึ้งปลุก
ซิวมองซ้าย ขวา “ ฤษีท่านคุยอยู่ที่นี่ไปไหนหละ ”
“ จริง จริง นะ "ย้ำคำ
สามสาวหัวเราะเฮ ชอบใจ
“ เจอแล้วซี ” ผึ้งค้อนเข้าให้
" บอกแล้วไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ ซิว งง เป็นไก่ตาแตก
“ มันเป็นจริง ไม่ได้นอนหลับยังเห็นพวกน้องทำงานกัน ” ซิว แย้งไม่หยุด
“ นั่นการสำแดงเดชของท่านหละ ”
เป็นครั้งแรกในชีวิต ที่เจอ ซิวครุ่นคิด
“ จะเจออีกหลายหนก่อนจะครบเทอมสองปี คอยดู " เงาะให้ความหวัง
“ ไม่ฝันนะเงาะ ท่านมาจริง ๆ ”
“เออ… น่า ใจเย็นครูไม่มีใครเถียง”
สองครั้งสองครา ยังให้ความงุนงงกับฤษี ซิว จำติดตา รูปร่าง หน้าตา หนวดเคา สีของผ้า น้ำเสียง ในขณะที่ครูนิ่ง
“ กลับบ้านกัน ”
จอมดึงความสนใจ ถึงบ้านครูพรานหลังอาหารเย็น ซิวเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟัง
“ ครู ซิว จะยังเจออีกมาก อิทธิฤทธฺิ์ ไพรอยากรู้อยากเจอะไร จะได้เจอ สำหรับคนจิตสะอาดบริสุทธิ์ ”
“ คงทราบซินะ ว่าครูมีคุณสมบัติสื่อกับเทพ ที่ดูแลเทือกเขานี้ ”
“ อย่าเหลิงตามปัจจัยปรุงแต่ง ทำใจให้สงบแล้วจะพบสิ่งดีงามครู ”
นาน ๆ ที่ครูพราน จะก้าวก่ายจิตคนอื่น นอกจากความรู้สึกดี กาลเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เมื่อครู ซิว คุ้นเคย สัมผัสจิตใจชาวบ้าน สีเขียวของใบไม้ อากาสบริสุทธิ์ มีแต่ความจริงใจ สัมผัสได้ด้วยตนเอง ชอบจิตใจที่งดงามอยู่ในศีล ในธรรม คำสอนพุทธะอย่างแนบแน่น วันพระคือวันหยุดทำงาน แต่ราชการหยุดสัปดาห์ละสองวัน ….
วันหยุดยาวสามสาวชวนครู ซิวชมอ่าวน้ำตกใต้ ห่างจากกหมู่บ้านไปประมาณ สองกิโลเมตร ไม่มีคนต่างถิ่นเข้าถึง ทางลงลาดชันเกือบเก้าสิบองศา นอกจากพรานไพรที่หาล่าสัตว์ ได้สัมผัส มีทางออกเฉพาะ ลัดเลาะตามธารน้ำตกนั่นเอง
“ แหล่งสุดท้ายในการศึกษาของครูจ้า ”
“ ลำบากจะทนครับ จะได้เก็บทุกอย่างเอาไว้ในใจ ”
“ ดู ปลาแหวกว่ายน้ำ ในอ่าวน้ำตก มันเกาะกลุ่ม หลากสีสวยนัก "
“ อยากเป็นปลาจะไม่ยอมให้ครูพรากไป ”
“ ให้สัญญา ถ้าจะไปทำงานที่กรุงเทพฯ จะดูแลสามสาวให้ดีที่สุด ”
“ ครูพบอะไร บ้างคะ ”
“ ความสวยงามของน้ำตก ภูเขาสองลูกขนาบซ้าย ขวา ชีวิตไหลไปตามเวลา เหมือนน้ำตกไหลแต่ไม่ขาดสาย ”
“ ครูคะ ฟังเพลงใต้ร่มมะลุลี ซิคะ ใจหนูอยู่ในอารมณ์นี้ ” จอมเปิดเพลงในเทปที่เตรียมมาดังเบา ๆ คลอไปกับเสียงน้ำตกไหลกระทบฝั่ง
“ จอมคงไม่มีโอกาส ได้พบใครที่มีทุกอย่างเช่นครู พึงพอใจทุกอย่าง นี่คือชายที่อยู่ในฝัน คงไม่มีวาสนาได้เจอ ”
" ยอมรับอยู่ใกล้ใจมันฟู เข้าข้างตนเองตลอดมา ที่พบเจอ ถูกชตา"
“ ครูก็เหมือนกัน ใจมันคิด เสียดายที่เราเกิดคนละที่ คนหนึ่งอยู่กลางกรุงฯ คนหนึ่งอยู่บนดอย ”
“ นอนคิดทบทวนสมัครมาทำไม? จิตมันหาเหตุผล คงเป็นเพราะบุญที่เคยทำร่วมกัน”
จอมแอบรักอยู่คนเดียว เกือบสองปี ในที่สุด วันนั้นก็มาถึงในไม่ช้า
“ ครูคะ เสียงใต้ร่มมะลุลี ให้ถือเสียว่า น้ำตกสูงไหลลงกระทบอ่างน้ำใหญ่ที่รองรับ จิตนาการให้เสมือนว่าร่มไม้ต้นนั้น ใจขณะนี้ อยากจะร้องให้ แต่อดใจไว้ มันตื้นตัน ”
จิตใจคนไม่ใช่ก้อนหิน สาวสวยคนหนึ่งเปิดใจคงเก็บมันไม่อยู่ ครูซิวเช่นกัน หวั่นไหวในจิตที่คิดบวก ในอุ่นไอรัก บริสุทธิ์ ซ่อนไว้มิบังอาจแสดงออกให้ครูสะเทือนใจ ในความเป็นไปได้ยาก เหมือนเข็ญครกขึ้นเขา
“ เสมือนละครเวทีกลางธารน้ำตก แอบรักเขาข้างเดียว”…จอมน้ำตาไหลออกมารับกับอารมณ์ ฝันมันก็มีสุขใจได้สำหรับสาวชาวไพร …
“ ขอโทษครู อยาก ให้รับรู้ว่าหนูฝันอยากพบชายเช่นครู พอพบเข้าจึงเป็นทาสของจิต อย่าคิดมาก เหตุเกิดจากหนูเอง”
“ น้องรัก ครูรับใจไว้ในความทรงจำ จะคอยช่วยเหลือหางานที่มั่นคงในชีวิต อยากเห็นหนูมีความสุขสัญญา ” นิ้วก้อยเกี่ยวรัก ซับน้ำตาด้วยความผูกพัน
จอม เปิดเพลงฟังซ้ำ เสียงเพลงรักไม่สมหวัง ดังก้องธารน้ำตก เงาะ ผึ้ง นำผักสด จากสองฝั่งรำธาร เต็มแรงรับได้ เตรียมเลี้ยงส่งครู ซิว ในวันพรุ่ง …
“ ตาแดงทั้งสองคน มีอะไร? ”
“ ไม่อยู่ด้วยต่อยกันหรือไง ? ” เงาะะจับอาการได้
กลับกันเถอะ ปีนเขาอีกคั้ง จนถึงพื้นที่ราบ
“ ครูรังแก จอมหรือ ”
“ ไม่หรอกเราเองแหละหลงรักเขา ” คำถามคำตอบที่ผึ้งรับทราบ
“ ความรักมันไม่ได้ซื้อหา เราไม่ว่าเป็นเสรีภาพ ที่จิตเราพิจารณาเอง ถูกใจก็รัก ไม่ถูกใจก็วางเฉย ไม่เห็นเป็นไรเลย ”
“ จริงมั้ยครู ”
“ ครับสารภาพมีความรู้สึกซ่อนไว้ ฝ้ายผูกข้อมือเตือนใจเสมอ เราคือพี่น้องกัน”
“ ไม่อยากห่างกายแต่ประเพณีขวางกั้น ”
สามสาวส่งครูกลับที่พัก ความสวยงามทั้ง เรือนกาย น้ำใจ น้ำคำ ติดหูติดตาตลอดเวลา ชีวิตคนเดียวเรียนรู้อยู่ท่ามกลางเทือกเขา พบแต่สิ่งดีงามของธรรมชาติ ไม่อยากจะจากเสียแล้ว ความหวังของครอบครัวที่หวังผลสำเร็จมีค่าสูงยิ่ง น้ำตาไหลอาบแก้มทั้งคืน หลับไม่ลงหนังตาตรึง เรื่องราวทั้งหมด ฝังอยู่ใต้จิตสำนึก หมดแรงใจ ดูเวลาตีสี่แล้ว คิดถึงบ้านที่กรุงเทพฯ สับสนจนหลับไป …
" ครู…ครู ..เงาะกระตุกขา ให้ตื่นนอน
“ ขี้เเซาจัง ”
“ ตาแดงเสียความหล่อหมดเลย เป็นอะไร? ”
“ สับสนน้อง ดูจิต ตามจิตไม่ทัน หลงระเริงไปตามอารมณ์ปรุงแต่งทั้งคืน ติดตาติดใจ ไปหมด ”
นี่แหละหนอ .. ตักเตือนผู้อื่นตั้งพันหน ง่ายกว่าตักเตือนตนหนึ่งครั้ง 555"
เงาะสวนหมัดตรงเข้าปลายคางครูมองเห็นดาวกลางวัน สามสาวเตรียมอาหาร ชาวบ้านเข้าสมทบ ทุกอย่างพร้อมบ่ายโมง ผ้าขาวม้าเต็มเอวครู
ชาวบ้านนำพร ทีสดใสมอบให้ ชายหนุ่มยิ่งน้ำตาไหล ทำใจไม่ได้ ไม่อยากจะจากผืนดินอุดมสมบูรณ์ น้ำใจงาม ธรรมชาติอิ่มเอมมาสองปี ซึมซับจับจิต ชนิดตราตรึง ฝังจำ เยาวชนหนุ่มสาวคนเฒ่าคนแก่ เห็นน้ำตาครู สุดอัดอั้น เป็นนาทีแห่งน้ำตารัก รวมหมู่หาดูได้ยาก สมัยนี้
“ พี่น้องที่รัก … วันนี้เรามาแสดงความยินดีเลี้ยงส่งครูด้วยใจรัก สองปีที่ท่านให้กำลังใจ เป็นเพื่อน สอนเด็กนักเรียน น้ำใจงาม หายากยิ่งนัก แม้แต่คนบ้านเรายังไม่มีใครขึ้นมาหาชาวภูเขา ท่านเรียนรู้ภาษาอีสานที่นี่ ให้ความรัก สอนเด็กลูกหลานเราด้วยความอดทน บัดนี้ครูทิ้งไว้แต่ความดีงาม ให้พวกเราจดจำ ขอภาวนาให้ครูโชคดีตลอดไป …”
ครูพรานร่ายยาวผูกใจชาวบ้าน ฝากให้ครู ซิว เป็นทางการ งานเลี้ยงเลิกรา …ไป ท่ามกลางกลิ่นไอแห่งความรัก … ชาวบ้านเดินทางกลับ ทิ้งสามสาวไว้ช่วยงานบ้าน เก็บสิ่งของเข้าที่ตั้ง … “ พ่อครู วันนี้โต้รุ่งนะคะ ” เงาะขอสนับสนุนจากครูพราน
“ มีอะไร ก็เปิดใจกันลูก ความห่างเหินกำลังทำงาน ” น้ำคำครูพรานมีแต่ให้ ลานก้อนหินกว้างข้างบ้านครูพราน เป็นพื้นเวทีภาคเช้า …. อารมณ์ก่อนหน้านั้น ยังตราตรึง คืนวันพระใหญ่จันทร์เต็มดวง ปรกคลุมพื้นที่ สีเขียวของใบไม้ ท้องฟ้าประดับดาว เสมือนหลอดไฟบนหลังคาสายลมโชยนำความเย็นสู่ลานหิน ไออุ่นจากกองไฟให้พลังงาน ครอบครัวครูพรานบ้านใกล้ชิดรวมตัว อาหารจานโปรด เนื้อย่าง สัมตำ แหนมหมูป่า นำเสริบด้วยมือสามสาว เสียงพิณจากครู สีไพร ขวัญใจชาวบ้าน บรรเลงเพลงขับกล่อมไม่แพ้สตรูริโอ แอร์ธรรมชาติผ่านไออุ่นกองไฟ ….
“ ถามจริง พวกหนูรัก ครู ซิว ระดับไหน? ”
ครูพรานขอความรู้สึก
“ รวมทุกอย่าพ่อครู มันหลงระเริงตามจินตนาการ ” จอมนำทางสองสาว
“ ใช่เลย ที่่ ทีเล่นทีจริง ท่าทาง ก๋ากั่นนั่นคือ ฉากนอก ในส่วนลึก พูดไม่ออก บอกไม่ถูกทั้งรัก ทั้งชังระคนไป ”
“ ชังก็เพราะตนเองเป็นเด็กบ้านป่า อาภัพการศึกษา ต่ำ ”
“ รักหรือ เพราะจิตมันร้องขอทุกวัน อยากเจอ อยากพบ อยาก …หลายอย่าง สับสนมันเกิดอะไรพ่อ ..”
ผึ้งเงาะสลับกันตอบคำถาม
“ สมัยพ่อรักแม่ หละขอเป็นวิทยาทานบ้าง ”
จอมเอ่ยคำขอ ครูพรานนิ่งอึ้ง ไม่คิดว่าจะแหลมคมจากคารมย์สาวดอย
“ พ่อหรือ รักใครชนเลย ไม่อยากเสียเวลา อย่าเอาเป็นตัวอย่างไม่ดี ”
“ รักนวล เสนอตัว …อ๋อ สงวนตัว นั่นแหละคือผู้ดี ”
"สมัยหนุ่มถูกด่า แสบ ๆ ก็มาก เพราะความดื้อรั้น "
“ มิฉนั้นไม่มีแม่บ้านสองคน ”555 เสียงฮาพร้อมๆกันไม่ได้นัดหมาย หมัดเด็ดครูพรานใช่ย่อยเสียเมื่อไร เรียกเสียงฮา ท่ามกลางจันทร์ฉาย ให้เด็กได้พักอารมณ์
“ ครู ซิว หละคะ ที่มหาลัยเป็นไงบ้าง”
“ น้องขอไม่ตอบคำถามคงไม่ว่านะ ขอพักใจ รัก และคิดถึง ให้ผ่อนเบาลง บ้างมันตื้นตัน น้ำตายังตกใน ขอนะครับ” ครู ซิว ตกอยู่ในอ่าวอารมณ์ภาคเช้า …
“ ความรัก มันมีอานุภาพสูงยิ่ง แผ่ปรกคลุมทั้งโลก ทุกอณู ห่อหุ้มเปลือกโลกเอาไว้ ”
“ มันคือ เมตตาธรรม เป็นดวงตาด้านหนึ่งของพรหมสี่หน้า ..”
“ เป็นพลังงานบวก อยู่ในความว่างที่เรามองไม่เจอ ถ้าจิตเราดี จะสัมผัสได้ เหมือน เครื่องรับ วิทยุ ที วี นั่นเอง ” ครูพรานร่ายเวทมนต์ แล้วขอตัวพักนอน
“ ครูคะ…. ที่มหาลัย หนุ่มสาวเค้าจับมือ ถือแขนกันไม่เห็นเป็นไร ? ”
“ วัฒนธรรมตะวันตกเขารับมาเร็ว ความเจริญด้านต่าง ๆรวดเร็วมาก ตามไม่ทัน ไม่เหมือนบ้านเราเป็นธรรมชาติ ”
“ หลั่งน้ำตาเพราะ ความจริงใจนี่แหละ มันงดงามไม่ทราบว่าจะหาที่ไหนได้อีก เมื่อค้นพบ… พบที่นี่จึงคิดมาก ถูกจริตครู หวังว่าน้องคงเก็บใจรักเอาไว้ "
“ บริษัทเขียนจดหมายมา แล้วบอกนำน้องเข้าทำงาน บอกลา คุณพ่อคุณแม่ เตรียมใจเตรียมตัว กลับไปพร้อมครู ทำงานกันเลยตกลงไหม? ”
“ เฮ … เฮ ขอบพระคุณจ้า ทุกอย่างรอคำตอบพร้อมแล้ว ”
“ รอคำ… คำ นี้ น้ำตาจะได้เหือดแห้งสักที ”
ในที่สุดพลังงานอานุภาพ แห่งความรัก ก่อเกิดจากแรงอธิษฐาน ฤษี ทำนายเอาไว้ สามสาวเข้ากรุงเทพฯ โดยความอนุเคราะห์ จากครู ซิว บัณฑิตอาสา ผลผลิตจากมหาลัยที่มี คำขวัญว่า
“ เสรีภาพทุกตารางนิ้ว ”
รอพบตอนต่อไป ขอบคุณ…..ครับ
ผลงานอื่นๆ ของ jaroonKhong ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ jaroonKhong
ความคิดเห็น